วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 317 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 18, 19, 20, 21, 22  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

หวัดดีนู๋ฟ้า...หนาวมากมั้ย...หายป่วยหรือยัง....

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2009, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




E0B8ABE0B8A5E0B8A7E0B887E0B89BE0-4.jpg
E0B8ABE0B8A5E0B8A7E0B887E0B89BE0-4.jpg [ 35.05 KiB | เปิดดู 7323 ครั้ง ]
คนเรารู้จักแต่ผูกแต่ไม่รู้จักแก้ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)

พระ พุทธเจ้าผู้เลิศด้วยพระปัญญาพิจารณาเห็นแจ้งชัดด้วยความจริงว่า
โลกทั้งโลกเป็นเครื่องห่อหุ้มด้วยอวิชชา โมหะ มีภูมิทั้งสามเป็นเสมือนเรือนจำ
เป็นเครื่องอยู่ มีตัณหา อุปทานเป็นเครื่องสัญจรไปมา มีกามารมณ์ รูปารมณ์
และอรูปารมณ์เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง

พระองค์ทรงรู้อย่างนี้แล้ว จึงทรงเบื่อหน่ายคลายความใคร่ความยินดีในภูมิทั้งสามนั้น
ด้วยวิปัสนาญาณ เห็นภูมิทั้งสามนั้นเป็นเรื่องส่งนอกด้วยจิตของพระองค์เอง
ส่งนอกในที่นี้หมายถึงส่งนอกด้วยกามารมณ์ รูปารมณ์ และอรูปารมณ์
มีแต่ไหลไปในอนาคตไม่เข้าถึงปัจจุบันสักที

พระพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งชัดอย่างนี้แล้ว
จึงทรงสละปล่อยวางจิตที่เป็นอดีตและอนาคตที่ปรุงแต่งภพทั้งสาม
เข้ามาอยู่ เป็นกลาง ๆ คือตัวใจ และรู้อยู่ว่าเป็นกลางๆ ภพชาติก็หมดไป

การประพฤติกิจในพระพุทธศาสนานี้ทั้งหมด
มีการรักษาศีล ฝึกหัดทำสมาธิและวิปัสสนา เป็นต้น

ก็คือต้องการค้นคว้าหาเหตุและผล
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ดีและชั่ว
สิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมในสิ่งนั้นๆ ให้เห็นรู้เห็นตามเป็นจริงของสิ่งนั้นๆ เท่านั้น
แต่สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดมันก็ไม่เป็นจริงสักที
เพราะเราพิจารณาส่งออกไปข้างนอก เห็นของไม่จริงจังแปรปรวนอยู่ร่ำไป

การค้นคว้าส่งออกไปภายนอกพิจารณาของไม่เที่ยงแปรปรวนนี้แล
จึงต้องเป็นทุกข์ไม่รู้จักจบจักสิ้นสักที การพิจารณาของภายนอกนอกจากตัวของเรา
จึงไม่ใช่ตัวของเราและไม่เห็นตัวของเรา จึงรักษาตัวของเราให้อยู่ในอำนาจไม่ได้

ปราชญ์ผู้ฉลาดจึงปล่อยวางทิ้งสิ่งที่มิใช่ของตัวไม่มีแก่นสาร
วางสิ่งที่เป็นอดีตและอนาคตเสีย แล้วเข้าอยู่ตรงกลาง วางเฉย แล้วรู้ตัวอยู่ว่าเราวางเฉย
เมื่อใจเข้ามาอยู่ตรงกลาง วางเฉยและรู้ตัวว่าวางเฉยแล้ว มันจะมีอะไรเหลือหลอ
ภารกิจในพระพุทธศาสนาที่กระทำมาแต่ต้นก็เห็นจะสิ้นสุดลงเท่านี้

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2009, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 124

อายุ: 44
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว




spd_20090915192528_b.jpg
spd_20090915192528_b.jpg [ 58.6 KiB | เปิดดู 7300 ครั้ง ]
จิตตน...ผู้กำหนด

สมอง...มีไว้คิดวินิจฉัย
จิตใจ...มีไว้ผูกความถูกต้อง
จิตใจ...หากเหหันผิดครรลอง
สมอง...ฤๅใคร่ครวญครบถ้วนความ

โทษเขา...ที่เห็นอยู่เทียมภูผา
ประดา...ด้วยเสนียดน่าเหยียดหยาม
เลวร้าย...ทุกกระบวนล้วนต่ำทราม
เหิมห่าม...การกระทำก่อลำเค็ญ

โทษเรา...กลับเห็นมีเท่าขี้หมา
ดวงตา...ฤๅเหมาะสมดมกลิ่นเหม็น
เพียงพิศ...แสงเฉิดฉันจากจันทร์เพ็ญ
มิเห็น...หลุมขรุขระผิวพระจันทร์

ขนตา...มากมายชิดอยู่ติดตา
เกินกว่า...เราจะเห็นอยู่เช่นนั้น
จะนับ...จำนวนเส้นยากเช่นกัน
ยาวสั้น...ยากรู้เห็นเช่นโทษตน

โทษเขา...ยากหลบเร้นมองเห็นง่าย
โทษเรา...ที่หลากหลายกลายล่องหน
สมอง...คิดดีร้ายคล้ายวกวน
จิตตน...ผู้กำหนดทั้งหมดแล

.....................................................
"อักษรพาใจให้สดชื่น..มิต้องการคำตอบหรือวิจารย์..ดอกหนาเยาว์มาลย์"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1_210.jpg
1_210.jpg [ 39.82 KiB | เปิดดู 7256 ครั้ง ]
ดอกไม้ในใจ..พร้อมใจผลิบานเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา tongue

ลมหนาวที่พัดโชยผ่านหน้าต่างในห้องนอน
ทำให้ม่านสีขาวบางเบานั้น..โบกสะบัดไปมา
สายลมเย็นๆ...ที่พัดมาแต่เพียงบางเบา..
ทำให้หัวใจของฉันเยือกเย็นลง....
มองไปทางไหนก็พบแต่ความสุขใจ..มีรอยยิ้มและความชื่นบาน

สัญญาณของฤดูหนาวได้เริ่มเข้ามาเยือนอีกคราแล้ว..
ฤดูหนาวก้าวเข้ามาพร้อมกับความงดงามของดอกไม้ผลิบานในใจ..
ที่กลับมาพบกันใหม่เปรียบดั่งคำมั่นสัญญาที่มีให้แก่กันและกันมาเนิ่นนาน
ดอกไม้ในใจก็พร้อมจะผลิบาน..งอกงามและเติบโตเรื่อยไปไม่มีสิ้นสุด..

ฉันชอบฤดูหนาว..เพราะความหนาวเย็นของฤดูกาลทำให้ฉันค้นพบว่า..
แท้ จริงแล้ว..ร่างกายและหัวใจของคนเราล้วนต้องการความอบอุ่น..
เสื้อกันหนาวผืน หนา ผ้าห่มผืนโตที่แสนอบอุ่น หรือแม้แต่อุ่นไอรักจากมิตรภาพ..
ไออุ่นเหล่านี้ทำให้ร่างกายและหัวใจของเราอบอุ่นและเป็นสุข..
ฉันมองว่าไอ อุ่นแห่งมิตรภาพ แท้ที่จริงแล้ว..ค้นหาได้ง่าย..ใกล้ตัวเรานี่เอง

ปีเก่า..ได้เดินทางผ่านกาลเวลา..ไปอย่างช้าๆ..เมื่อฉันมองย้อนไปก็พบว่า..
แต่ละวัน..เดือน..ปี..ที่ผันผ่าน..ล้วนแต่มีเรื่องราวเข้ามากระทบมากมาย..
บางเรื่องราวก็ดี..บางเรื่องราวอาจจะร้าย..บางสิ่งหายไป..
แต่...บางสิ่งอาจได้ทดแทนเข้ามา การแสวงหาอาจเริ่มต้นขึ้น
เพื่อรอคอยการเติมเต็มให้กับชีวิตส่วนที่ขาดหายไป..
สิ่งที่เติมเต็มความคาดหวังอาจทดแทนได้ไม่พอกับส่วนที่ขาด...

เริ่มต้นและจบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ดำเนินเช่นนี้เรื่อยไป..จนกว่าจะเกิดความพอดี..ตามที่เราหวังไว้..
แต่..ไม่ว่าปีต่อไปจะเป็นเช่นไร...
ฉันได้หวังใจไว้ว่า..
จะเริ่มปีใหม่ให้ดีที่สุด..และมีความสุขที่สุด

สิ่งแรกที่ฉันจะทำในปีใหม่ที่จะถึงนี้..
คงเป็นการส่งความสุขถึงใครสักคน..
ไม่ใช่ สิ..น่าจะเป็นใครๆ หลายๆ คน
กัลยาณมิตร ผู้มอบมิตรภาพอันงดงามที่อยู่ในใจของฉันเสมอมา..
มิตรภาพที่สื่อถึงกันได้อย่างง่ายๆ ราคาอาจไม่ได้มากมาย
แต่มากความหมายที่จะทำให้ผู้รับเป็นสุขใจได้เช่นกัน...

ส.ค.ส.เป็นสื่อแทนมิตรภาพดีๆ ที่มีอยู่ในใจจริง.....
จะขอมอบ พร้อมส่งความรู้สึกดีๆ ไปให้กัลยาณมิตร..ได้รับรู้..
ถึงความรักและห่วงใยจากความรู้สึกภายในดวงจิต...ที่มีให้เสมอมา
ขอให้กัลยาณมิตร..แห่งลานธรรมจักร...ทุกๆ ท่าน
สุขเกษมสำราญ...ตลอดศก...2553 ทุกท่านเทอญ./

รูปภาพ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 13 ธ.ค. 2009, 11:52, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




003.gif
003.gif [ 232.06 KiB | เปิดดู 7241 ครั้ง ]
...คิดถึง..พี่..ปลายฟ้า...

เขียนกลอนกานท์ผ่านม่านฟ้าส่งไปถึง
ครองวันวัยสงบเย็นเร้นจุดหมาย
ยิ้มสดชื่นรื่นรมย์บ่มสบาย
อุ่นไอสายเสน่หาเฝ้ามาเยือน

โอบกอดรอยคอยรอพ้อคิดถึง
เคยซับซึ้งหนึ่งใครหาใดเหมือน
ย่ำรุ่งสางพร่างรพีมีมาเยือน
ค่ำคืนเดือนเกลื่อนดาวเดินก้าวมา

คิดถึง....ชื่อ...ปลายฟ้า...
ใครคนหนึ่งเคยผูกพันเคยฝันหา
ใครคนที่สายลมเทเห่ให้มา
คนที่ฟ้าพามาสบให้พบกัน

ลิขิตฟ้ามาใช่ไหมให้รู้จัก
ให้มารักให้มารอต่อความฝัน
ให้มาเป็นคนนี้ที่สำคัญ
ให้มาปันเยื่อใยมอบไมตรี

ไม่ได้มาเรียกร้องกู่ก้องโลก
ไม่ได้โบกมือให้ใจเต้นถี่
แค่ยิ้มใสให้รู้อยู่ตรงนี้
ที่เดิมที่เคยเห็นเช่นก่อนมา

เขียนกลอนกานท์ผ่านฟ้าส่งมาให้
วันผ่านไปยังคิดถึงคะนึงหา
วันว่างเปล่าเงาใครเนานัยน์ตา
คงคุณค่า..คงความดี..ตราบสิ้นฟ้ามลาย.

พักผ่อนมากๆ นะค่ะ

(ไออุ่นพฤษภา)

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 11:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2007-06-104650501.jpg
2007-06-104650501.jpg [ 24.71 KiB | เปิดดู 7224 ครั้ง ]
แล้วก็เลยลับ...

ลมหนาวพลิ้วแผ่วแผ่วแล้วห่างหาย
แตะผิวกายพอรู้สึกย้ำนึกถึง
วันผ่านพ้นคนผันผ้ายคลายคะนึง
เพลงซึ้งชึ้งก็สิ้นซึ้งเพียงครึ่งทาง

ฟ้าเคยใสใยกลับโศกโลกเหงาเหงา
ดอกไม้เฉาผีเสื้อโบยโรยทิ้งร่าง
วะวับหายคลายกลิ้งกลอกดอกน้ำค้าง
หรีดหริ่งร้างร้องบรรเลงเพลงพฤกษ์ไพร

ใบไม้ไม่ระบัดสงัดสงบ
ดอกหญ้าซบพื้นดินสิ้นพลิ้วไหว
นกยางขาวบินถลาสู่ฟ้าไกล
บัวลอยใบในคันนา....ล้า..ร้าวรอน

ข้าวแตกกอชูช่อรวงเคยทวงถาม
ความงดงามความอบอุ่นกรุ่นกาลก่อน
ในโลกนี้มีอะไรไหนแน่นอน
เต็มกลับกร่อน..ร้อนกลับเย็น..เห็นและรู้

ธรรมชาติวาดงดงามความลึกซึ้ง
ให้รู้ถึงแก่นราก.. พราก.. ฤา .. อยู่
วาดเส้นลายหมายเตือนเหมือนดั่งครู
นิ่งมองดูเหงาเหงาอย่างเข้าใจ

ลมหนาวพลิ้วผะแผ่วแล้วห่างหาย
แตะผิวกายโอนอ่อนซอนหวั่นไหว
วันนี้ไร้...คนเคียงข้าง...ช่างปะไร
น้ำตาไหล..ช่างน้ำตา....นะปลายฟ้า.

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




4844.jpg
4844.jpg [ 53.33 KiB | เปิดดู 7203 ครั้ง ]
พญาโศกคร่ำครวญ
ไห้หวลโหยหา
จากมิทันลา
น้ำตาร่วงริน

นักเอยนักรบ
มิจบมิสิ้น
อีกกี่ชีวิน
โรคทมิฬฆ่าฟัน

หม่นไหม้ใจแห้ง
ล้าแรงเสียขวัญ
อยุติธรรม์
ทุกวันเรื่อยมา

พญาโศกหวลโหย
โอดโอยซึ้งค่า
นิทราเถอะน้องรัก
ชีพสิ้นสูญความดีคง

สู่ทิพยสถาน
ร้าวรานเหือดหาย
เกียรติจงกำจาย
วางกายสงบเทอญ.

ด้วยอาลัยรัก....
หลับให้สบายนะหนูฟ้า.....

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ลุงมะตูม เมื่อ 14 ธ.ค. 2009, 16:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ย. 2009, 22:11
โพสต์: 111

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0ff1e1e016_web.jpg
0ff1e1e016_web.jpg [ 38.38 KiB | เปิดดู 7199 ครั้ง ]
วันนี้......สายลมพรมพรูพราว
แต่กลับไม่เหน็บหนาวฤาร้าวฉาน
เหมือนตาย...กายสิ้นเหลือวิญญาณ
ไม่รู้สะทกสะท้านกาลใดใด

กองไฟฟอนร้อนฤาไม่ไร้รู้สึก
หัวใจเคยไหวระทึกสิ้นนึกไหว
เย็นน้ำค้างพร่างเย็นเคยเช่นไร
ก็กลับไม่รู้เย็นเหมือนเช่นเคย

ผ้าห่มอุ่นไม่รู้อุ่นละมุนขวัญ
ดาวร้อยพันเคยสวยใสหมองไปเฉย
จันทร์เคยแจ่มแอร่มวามสิ้นงามเอย
วันผ่านเลยเดือนผ่านลาเลือนค่าวัน

วินาทีระทึกเฝ้าโหยหาไห้
อยากให้เป็นแค่ฝันร้าย
ดับรวีดับวันล่วงดับดวงจันทร์
วิญญาณฉันปานประหนึ่งถูกตรึงแล้ว.

หลับให้สบายนะ..ปลายฟ้า..

.....................................................
"ขอมีสติเข้มแข็งดั่งขุนเขา..แต่ขอมีจิตใจอ่อนโอนดั่งขนนก"รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย เพลิง. เมื่อ 14 ธ.ค. 2009, 16:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 124

อายุ: 44
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว




0ff1e1e017_web.jpg
0ff1e1e017_web.jpg [ 101.99 KiB | เปิดดู 7186 ครั้ง ]
จะได้ไหม......
จูงมือเธอไป....ให้ลิบหล้า
ไปไกลสุดปลายฟ้า
ที่ที่ไร้ปรารถนาในอารมณ์

จูงมือเธอ..ไปซิ……
ไปในที่ไร้โรคา
สีขาวพร่างพราวพรม
มีสายลมบอกเรื่องราว

จูงมือเธอ..ไปซิ
ให้ใจนี้เป็นสีขาว
วิบวับระยับพราว
สิ้นรานร้าวสิ้นหนาวใด

ปล่อยไว้คนดี......
ในถิ่นที่โล่งกว้างใหญ่
ฟังเพียงเสียงหัวใจ
มองเนื้อในให้เนิ่นนาน

ปล่อยไว้นะคนดี.......
ในถิ่นที่รโหฐาน
ล่องเลื่อนเคลื่อนคืบคลาน
ดับทุกข์ผ่าน - กาลเวลา

เธออย่าไป............
ทิ้งหัวใจการไขว่คว้า
ระงับดับอัตตา
สิ้นเหว่ว้า - นิรทุกข์

สู่สุคติ...หลับให้สบายนะ...ปลายฟ้า
จากเพื่อนรัก...ทุกๆ คน

.....................................................
"อักษรพาใจให้สดชื่น..มิต้องการคำตอบหรือวิจารย์..ดอกหนาเยาว์มาลย์"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 17:51
โพสต์: 189

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
สิ่งที่ชื่นชอบ: วรรณกรรม
ชื่อเล่น: ป้าโคม่า
อายุ: 54

 ข้อมูลส่วนตัว




1895.jpg
1895.jpg [ 53.67 KiB | เปิดดู 7175 ครั้ง ]
หลับให้สบายนะ"ปลายฟ้า...."

ยังไม่ทันชื่นชม ในรอยยิ้ม
กำซาบหวานผ่านพริ้ม นัยน์ตาสวย
ดังสายลมแผ่วโผย ระโชยชวย
โลกกลับไม่อำนวย ให้ชีวิต

ยังไม่ทันอำลา สารภาพ
บางคำใจที่ไหววาบ ถ้อยลิขิต
ก็แรมร้างห่างลา สารทิศ
เร็วเกินกว่าความคิด จะแต่งปรุง

เหมือนว่าเรายังไม่ทัน ได้รู้จัก
คิดว่ารักจะเบ่งบาน เมื่อวันพรุ่ง
หนึ่งความหวังตั้งไว้ ให้จรุง
กลับกลายพรากยากพยุง พยายาม

คล้ายคล้ายโลกล้อเล่น อยู่เช่นนั้น
หลอกหลอนใจไม่เท่าทัน ครุ่นค้นถาม
หลากอารมณ์ดำริ นิรนาม
คอยเชื่อมโยงเป็นความ ห่วงอาลัย

จากเลือนรางพรางเห็น เป็นความเศร้า
ค่อยค่อยชัดทีละเงา ความอ่อนไหว
กว่ากระจ่างแจ่มแจ้ง ทุกแห่งนัย
ก็กล้ำกลืนลงไป แล้วน้ำตา

ไม่ทันได้ตั้งตัว ในพลัดพราก
จึงไม่เคยสิ้นซาก ความห่วงหา
แม้สรรพสิ่งสอนพร่ำ ธรรมดา
แต่ทุกคราก็เจ็บช้ำ เกินทำใจ

.....................................................
รูปภาพ
"จิตที่ให้ย่อมเป็นจิตที่ดี ... จิตที่มีแต่ประชดประชันนั้น ... หาควรแก่การอบอรมสั่งสอนธรรมผู้ใดไม่"


แก้ไขล่าสุดโดย COMA! เมื่อ 16 ธ.ค. 2009, 13:24, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2009, 22:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0ff1e1e016_web.jpg
0ff1e1e016_web.jpg [ 67.05 KiB | เปิดดู 7024 ครั้ง ]
ปลายฟ้า...ค่ะ เขียน:
ก่อนจะ..ดับสูญ....

เราขอมีสมาธิตั้งมั่นอย่างแรงกล้า
อยู่ในปัญญาณแห่งปีติสุขเดิมแท้ที่หลอมรวมเข้ากับสุญญตา
ระหว่างความว่างทั้งสี่ที่เกิดขึ้น หลังจากองค์ประกอบสีขาว
ซึ่งมีลักษณะคล้ายจันทราหลอมละลาย
ด้วยอัคคีแห่งอิตถีเพศอันทรงอานุภาพดุจดั่งอสนีบาต

ขอให้แสงกระจ่างได้มาบรรจบกัน
เมื่อสภาวะไกล้บรรลุได้หลอมละลายเข้าสู่ความว่างเปล่าอย่างที่สุด
เมื่อความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายดับลง
และปรากฎประสบการณ์คล้ายท้องฟ้าในยามฤดูใบไม้ร่วงที่ไร้มลทินบดบัง

เราขอมีศรัทธาในปีติสุข
เมื่อต้องละทิ้งอาหารและความมั่งคั่งที่สั่งสมมาด้วยความตระหนี่
และต้องพลัดพรากจากเพื่อนรักที่ห่วงหาอาทรตลอดชั่วนิจนิรันดร์
โดยลำพัง

เราขอพัฒนากุศลจิตอันทรงพลัง
ในยามที่ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ค่อย ๆ แตกดับ
กำลังวังชาถดถอย จมูกและปากเหี่ยวแห้งลง
ไออุ่นหมดไป ลมหายใจระรวย ตามมาด้วยเสียงในลำคอ
ก่อนสิ้นลม

เราตระหนักถึงวิถีแห่งความเป็นไปที่ไม่อาจหลีกพ้น
เมื่อเกิดปรากฎการณ์มายาอันน่าสะพรึงกลัวนานา
โดยเฉพาะภาพลวงตา หมอกควัน และหิ่งห้อย
รวมทั้งสภาพความนึกคิดทั้ง ๘o อย่างดับไป

เราจะมีสติและความสามารถในการใคร่ครวญอย่างแจ่มชัด
เมื่อธาตุลมเริ่มดับสลายกลายเป็นวิญญาณธาตุ
กระแสของลมหายใจภายนอกก่อนสิ้นสูญ
ปรากฎการณ์อันเป็นทวิลักษณ์อย่างหยาบ ๆ มลายหายไป
จนกระทั่งเกิดภาพนิมิตคล้ายกับตะเกียงเนยที่ส่องแสง

เราได้รู้จักธรรมชาติของตนเอง
จากโยคสาธนา อันทำให้ตระหนักรู้ว่าการเวียนว่ายและนิพพานนั้นว่างเปล่า
เมื่อรูปปรากฎ การเพิ่มพูน และสภาวะที่เข้าใกล้รู้
มลายไป - จากอย่างแรกสู่อย่างหลัง -
และปรากฎสิ่งที่คล้ายแสงจันทร์ แสงตะวัน และความมืดมิดแผ่คลุมไปทั่ว

สภาวะรอยต่อแห่งชีวิตปรากฎขึ้นเนื่องจากกรรม
ให้เพ่งพิจารณาอย่างเท่าทัน
จนตระหนักรู้ถึงความว่างเปล่าของสรรพสิ่ง
ความทุกข์จากการเกิด การตาย และการอยู่ในสภาวะรอยต่อแห่งชีวิต
จงช่วยชำระปรากฎการณ์อันเป็นมายา

ขอโยคสาธนาช่วยแปรเปลี่ยนทั้งสิ่งภายนอก สิ่งภายใน และสิ่งเร้นลับ
ในยามที่นิมิตต่าง ๆ คือ เสียงทั้งสี่แห่งการทวนกลับของธาตุทั้งหลาย
ภาพน่ากลัวทั้งสาม และความแปรปรวนบังเกิด
จงช่วยให้เราได้ไปเกิดในภพภูมิอันบริสุทธิ์ด้วยเทอญ

มุ่งแทนที่จะเข้าสู่สภาวะรอยต่อแห่งชีวิต
ขอให้เราน้อมนึกถึงภาพมายา เพื่อทันทีที่ละจากแสงกระจ่าง
เราจะได้ปรากฎอยู่ในรูปของสัมโภคกาย
ที่สว่างสไวไปด้วยรัศมีแห่งองค์คุณและความงามของพุทธะ
อันเกิดแต่ลมและจิตแห่งแสงกระจ่างของความตาย

หากต้องได้ไปเกิดใหม่ ขอมีชีวิตที่สูงส่ง
สามารถฝึกปฏิบัติตันตระ โดยอาศัยท้องนภา
แห่งร่างของนักบวช หรือฆราวาสผู้บำเพ็ญไตรสิกขา
ขอให้ได้รู้แจ้งในมรรคาทั้งสองขั้นของการบ่มเพาะ
และถึงพร้อม จนบรรลุถึงซึ่งธรรมกาย สัมโภคกาย
และนิรมาณกายของพระพุทธองค์โดยเร็วด้วยเถิด


ด้วยรักและอาลัยพี่ฟ้า
หลับให้สบายนะพี่...
คิดถึงพี่เสมอ....ตลอดไป....

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 15 ธ.ค. 2009, 21:04, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




rak1.jpg
rak1.jpg [ 56.83 KiB | เปิดดู 7082 ครั้ง ]
ปลายฟ้า...ค่ะ เขียน:
แล้วก็เลยลับ...

ลมหนาวพลิ้วแผ่วแผ่วแล้วห่างหาย
แตะผิวกายพอรู้สึกย้ำนึกถึง
วันผ่านพ้นคนผันผ้ายคลายคะนึง
เพลงซึ้งชึ้งก็สิ้นซึ้งเพียงครึ่งทาง

ฟ้าเคยใสใยกลับโศกโลกเหงาเหงา
ดอกไม้เฉาผีเสื้อโบยโรยทิ้งร่าง
วะวับหายคลายกลิ้งกลอกดอกน้ำค้าง
หรีดหริ่งร้างร้องบรรเลงเพลงพฤกษ์ไพร

ใบไม้ไม่ระบัดสงัดสงบ
ดอกหญ้าซบพื้นดินสิ้นพลิ้วไหว
นกยางขาวบินถลาสู่ฟ้าไกล
บัวลอยใบในคันนา....ล้า..ร้าวรอน

ข้าวแตกกอชูช่อรวงเคยทวงถาม
ความงดงามความอบอุ่นกรุ่นกาลก่อน
ในโลกนี้มีอะไรไหนแน่นอน
เต็มกลับกร่อน..ร้อนกลับเย็น..เห็นและรู้

ธรรมชาติวาดงดงามความลึกซึ้ง
ให้รู้ถึงแก่นราก.. พราก.. ฤา .. อยู่
วาดเส้นลายหมายเตือนเหมือนดั่งครู
นิ่งมองดูเหงาเหงาอย่างเข้าใจ

ลมหนาวพลิ้วผะแผ่วแล้วห่างหาย
แตะผิวกายโอนอ่อนซอนหวั่นไหว
วันนี้ไร้...คนเคียงข้าง...ช่างปะไร
น้ำตาไหล..ช่างน้ำตา....นะปลายฟ้า.


อาลัยรักพี่เสมอ.....

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 17 ธ.ค. 2009, 20:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 18:16
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว




54259[1].jpg
54259[1].jpg [ 46.63 KiB | เปิดดู 7067 ครั้ง ]
ลมหนาวที่พัดโชยผ่านหน้าต่างในห้องนอน
ทำให้ม่านสีขาวบางเบานั้น..โบกสะบัดไปมา
สายลมเย็นๆ...ที่พัดมาแต่เพียงบางเบา..
ทำให้หัวใจของคนเยือกเย็นลง....ได้
มองไปทางไหนก็พบแต่ความสุขใจ..มีรอยยิ้มและความชื่นบาน

สัญญาณของฤดูหนาวได้เริ่มเข้ามาเยือนอีกคราแล้ว..
ฤดูหนาวก้าวเข้ามาพร้อมกับความงดงามของดอกไม้ผลิบานในใจ..
ที่กลับมาพบกันใหม่เปรียบดั่งคำมั่นสัญญาที่มีให้แก่กันมาเนิ่นนาน
ดอกไม้ในใจก็พร้อมจะผลิบาน..งอกงามและเติบโตเรื่อยไปไม่มีสิ้นสุด..

เพราะความหนาวเย็นของฤดูกาลทำให้ค้นพบว่า..
แท้ จริงแล้ว..ร่างกายและหัวใจของคนเราล้วนต้องการความอบอุ่น..
เสื้อกันหนาวผืน หนา ผ้าห่มผืนโตที่แสนอบอุ่น หรือแม้แต่อุ่นไอรักจากมิตรภาพ..
ไออุ่นเหล่านี้ทำให้ร่างกายและหัวใจของเราอบอุ่นและเป็นสุข..
ไออุ่นแห่งมิตรภาพ แท้ที่จริงแล้ว..ค้นหาได้ง่าย..ใกล้ๆตัวเรานี่เอง

ชีวิต..ได้เดินทางผ่านกาลเวลา..ไปอย่างช้าๆ..เมื่อมองย้อนไปก็พบว่า..
แต่ละวัน..เดือน..ปี..ที่ผันผ่าน..ล้วนแต่มีเรื่องราวเข้ามากระทบมากมาย..
บางเรื่องราวก็ดี..บางเรื่องราวอาจจะร้าย..บางสิ่งหายไป..
แต่...บางสิ่งอาจได้ทดแทนเข้ามา การแสวงหาอาจเริ่มต้นขึ้น
เพื่อรอคอยการเติมเต็มให้กับชีวิตส่วนที่ขาดหายไป..
สิ่งที่เติมเต็มความคาดหวังอาจทดแทนได้ไม่พอกับส่วนที่ขาด...

เริ่มต้นและจบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ดำเนินเช่นนี้เรื่อยไป..จนกว่าจะเกิดความพอดี..ตามที่เราหวังไว้..
แต่..ไม่ว่าปีต่อไปจะเป็นเช่นไร...
เพียงได้หวังใจไว้ว่า..
ทำวันใหม่ให้ดีที่สุด..และมีความสุขที่สุด

สิ่งแรกที่จะทำในวันใหม่ที่จะถึงนี้..
คงเป็นการส่งความสุขถึงใครสักคน..
ไม่ใช่ สิ..น่าจะเป็นใครๆ หลายๆ คน
กัลยาณมิตร ผู้มอบมิตรภาพอันงดงามที่อยู่ในใจเสมอมา..
มิตรภาพที่สื่อถึงกันได้อย่างง่ายๆ ราคาอาจไม่ได้มากมาย
แต่มากความหมายที่จะทำให้ผู้รับเป็นสุขใจได้เช่นกัน...

คัดลอกจากปลายฟ้า...ค่ะ

หลับให้สบาย..ณ.ปลายฟ้า....

.....................................................
วันนี้..เวลานี้..ขอแค่ได้อโหสิกรรม..ต่อกันเท่านั้น...พอ.
รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ทริป เมื่อ 17 ธ.ค. 2009, 10:05, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่น่าจะมองย้อน

ในขณะที่ผู้ตายยังอยู่...เธอไม่เึคยโพสต์กล่าวร้าย....หรือให้ร้ายใคร

เธอจะโพสต์แต่สิ่งที่น่าอ่าน...เพื่อนๆลองเปิดย้อนหลังไปดูนะครับ...

ลานธรรมจักร ณ.ที่แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร
อโหสิกรรมกันเถอะ

ในฐานผู้รับข้อความจากผู้ประสงค์ดี
ผมขอขอบคุณให้ความหวังดีของคุณนะครับ

ลุงมะตูม

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ลุงมะตูม เมื่อ 17 ธ.ค. 2009, 19:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 317 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 18, 19, 20, 21, 22  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร