ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=22832
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  น้ำใส [ 05 มิ.ย. 2009, 11:13 ]
หัวข้อกระทู้:  พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

รูปภาพ

พระสี่หน้า พระผู้อนุเคราะห์มวลมนุษย์ ที่มีสี่หน้าหมายถึง ความรัก การงาน สุขภาพ และโชคลาภ
เพราะเกี่ยวพันธ์กับเรื่องราวในชีวิตของมวลมนุษย์ เป็นที่ๆ หนาแน่นไปด้วยผู้มาสักการะแห่งหนึ่ง
ในเมืองไทย อาจกล่าวได้ว่า หากมากรุงเทพมหานครแล้วไม่ได้มาไหว้พระสี่หน้า ก็เปรียบเสมือน
เข้าวัดแล้วไม่ได้กราบไหว้พระ พระสี่หน้าประทานความสำเร็จให้อย่างคาดไม่ถึง
มีนักท่องเที่ยวมาบนบานไว้ก่อนแล้วกลับมาแก้บนเป็นจำนวนไม่น้อย ที่เป็นดาราฮ่องกง
และไต้หวันก็มีหลายรายที่ทุกๆ ปี ต้องบินมาเมืองไทยเพื่อสักการะพระสี่หน้า
เพราะได้ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์

พระสี่หน้า ที่จริงคือ เทพเจ้าแห่งความเมตตา เป็นหนึ่งในสามเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่สูงสุด
ของชาวอินเดีย เป็นปรธานของเทพทั้งหลาย เป็นผู้สร้างโลก และกำหนดโชคชะตา
ความร่ำรวยสูงต่ำ เป็นเทพเจ้าที่มีสี่หน้า แปดหู แปดมือ ......(บรรยายลักษณะ)

การสักการะพระสี่หน้าใช้ดอกไม้ ธูปหอม ช้างไม้ มีการรำถวายด้วยชุดทรงโบราณของไทย
เพื่อแสดงความขอบคุณ และแก้บน

พระสี่หน้า ตั้งอยู่หัวมุมโรงแรมเอราวัณ ตรงหน้าห้างเกสรพลาซ่า ..................


**********************************************************

宣宣拜四面佛求新年财源广进

ซวนซวน ดาราจีนมาไหว้พระพรหมเอราวัณประจำปี

เพื่อขอให้ร่ำรวยและโชคดี

陶晶莹一家到泰国参拜四面佛

陶子与丈夫李李仁已经有了一个女儿,两夫妻非常想再生个儿子,今年7月中旬媒体爆料,造人成功的陶晶莹,决定8月全家去泰国一趟,到求子、求财圣地四面佛参拜。

เถาจิงหยิงและสามี มาไหว้พระพรหมเอราวัณ เพื่อขอให้ได้ลูกชาย

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 05 มิ.ย. 2009, 11:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

คุณน้ำใส ไม่ได้คุยทักทายกันตั้งนานนนน...แล้ว สบายดีนะคะ :b12: :b13:

รูปภาพ
ศาลท่านท้าวมหาพรหม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงแรมเอราวัณ


:b8: :b8: :b8: เนื้อหาต่อไปนี้...เป็นบทสนทนาระหว่าง
ท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
กับคุณพนิตา อังจันทรเพ็ญ และหมู่มิตรสหาย
ข้อ 5. ผู้มีปัญญาเชิญเทพพรหมมาช่วยพัฒนาบ้านเมือง

คัดบางตอนมาจาก...หนังสือ “คติจตุคามรามเทพ”


5. ผู้มีปัญญาเชิญเทพพรหมมาช่วยพัฒนาบ้านเมือง

• ถาม

ฟังตอนนี้ ทำให้นึกถึงเรื่องท่านท้าวมหาพรหมที่เอราวัณ คราวนั้นท่านก็พูดอย่างนี้...

• ตอบ

ตอนที่ท้าวมหาพรหมถูกทุบ ก็เป็นเหตุการณ์ร้ายครั้งใหญ่ เป็นโอกาสที่จะมีช่องให้การศึกษาเข้าไป อย่างน้อยจะได้พัฒนาคนในด้านความรู้เข้าใจ ที่จะส่งผลต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาคนนั้นต่อไป

โอกาสที่จะเป็นช่องให้การศึกษาเข้าไปอย่างไร? อ๋อ..ก็ตั้งแต่สร้างศาลเมื่อ 51 ปีก่อนโน้นแล้ว ผู้วางกำหนดในการสร้างศาลเขาก็เขียนบอกกำกับไว้แล้วว่า พระพรหมองค์นี้ คือ ท้าวมหาพรหม จะมาประทับที่ศาลพระพรหมเอราวัณทุกวัน เว้นวันพระ เพราะในวันพระนั้นพระพรหมจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

นี่ทางเชื่อมโยงสู่การก้าวไปในการพัฒนาคนนั้น เขาว่าไว้ให้เสร็จแล้ว ตามกระบวนการของการศึกษาเลยทีเดียว

เราต้องยอมรับความจริงว่า ในการพัฒนามนุษย์ส่วนใหญ่ในระบบที่ไม่ใช้การบังคับนั้น เราจำเป็นต้องเริ่มด้วยยอมรับคนตามที่เขาเป็น แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยเรื่อยเปื่อยไป

เอ้า..พวกคุณจะไปขอพระพรหม ก็ขอไป ฉันไม่ขัดขวางละ (ถึงคิดจะขวาง ก็ขวางไม่ไหว) แต่ทำอย่างไรจะพัฒนาเขาขึ้นมาได้บ้าง ก็เอากิจวัตรของพระพรหมที่บอกไว้แล้วนั่นแหละมาเตือนเขา

ก็เผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชนไปเลยว่า ท้าวมหาพรหมองค์นี้ท่านคือใคร มาอย่างไร ไปอย่างไร เรื่องเกี่ยวกับพระพรหมมีอะไรที่ควรรู้บ้าง ก็ว่าไป

เสร็จแล้ว ปิดท้ายก็บอกชาวบ้าน เขียนติดไว้ก็ได้ว่า เออ..วันที่เท่านั้นๆ เป็นวันพระนะ พระพรหมท่านจะไม่มา เพราะท่านไปวัด ท่านจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

แล้วก็แนะนำต่อไปเลยว่า พวกเรานี่ก็มาทำตามพระพรหมกันเถอะนะ ถึงวันพระเราก็ไปวัด ไปฟังธรรมกัน ก็สอนไปสิ ให้ได้ประโยชน์เป็นจุดเชื่อมที่จะพัฒนาคน

ในเมื่อเราไม่สามารถหักด้ามพร้าด้วยเข่า เขานับถือลุ่มหลงอยู่ เราก็เอาเป็นจุดบรรจบประสานให้เป็นแนวทางที่เขาจะเดินก้าวหน้าในการพัฒนาตัวต่อไป แต่คนไทย ท่านผู้ปกครอง ไม่เอาเรื่องเลย ไม่มองช่องทางที่จะพัฒนามนุษย์อันนี้ ก็เลยไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรทั้งนั้น

ตรงข้าม ตอนที่ศาลพระพรหมถูกทุบนั้น ท่านผู้บริหารบ้านเมืองมัวแต่กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นแก่ตัวเอง นึกไปแต่ว่าจะเป็นลางร้าย ต้องไปแก้เคล็ด แทนที่จะมองไปถึงบ้านเมือง และประโยชน์ของประชาชน ก็ตันอยู่แค่ตัวเอง เลยไม่ได้อะไร

เห็นชัดๆ ว่า พระพรหมองค์นี้ไม่ใช่พรหมในศาสนาพราหมณ์ แต่เป็นพรหมในพระพุทธศาสนา เป็นพรหมในชั้นมหาพรหม

มหาพรหมเป็นหนึ่งในรูปพรหม 16 ชั้น ซึ่งแบ่งตามฌาน 4 ระดับ เริ่มด้วยระดับปฐมฌานภูมิ คือ ฌานที่ 1 มีพรหมอยู่ 3 ชั้น ได้แก่ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา และ มหาพรหม

ชั้นต่อไป คือ ทุติยฌานภูมิ ประกอบด้วย ปริตตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา จากนั้นเป็นตติยฌานภูมิ ประกอบด้วย ปริตตสุภา อัปปมาณสุภา สุภกิณหา แล้วจึงถึงชั้นสูงสุด คือ จตุตถฌานภูมิ ประกอบด้วย เวหัปผลา อสัญญี อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิษฐา รวมเป็น 16 ชั้น

มหาพรหม คือ พรหมชั้นที่ 3 ในระดับปฐมฌานภูมิ ของพรหม 16 ชั้น ท่านกำลังบำเพ็ญธรรมให้สูงขึ้นไป จึงต้องไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ไปเฝ้าก็คือไปฟังธรรม

เรื่องอย่างนี้มันเป็นทางที่จะประสานคนเข้ามาสู่ระบบการพัฒนามนุษย์ไม่ใช่ว่า หนึ่ง พระก็ถือโอกาสหาลาภ เห็นว่าคนนิยมกันนัก ก็เลยปลุกเสกเอามาให้เช่ากันใหญ่

สอง เลยกลายเป็นการทำให้คนลุ่มหลงหนักขึ้น ผิดหลักผิดทาง แถมเอามาปลุกเสกในวัด ถ้าทำไม่ระวังให้ดี จะกลายเป็นเอามาชูเหนือพระรัตนตรัย

ไปๆ มาๆ เพลินอยู่กับเรื่องนี้ คนเลยเข้าใจผิดเฉออกจากพระศาสนาไป แทนที่จะเชื่อมโยงเข้ามาหาหลักว่า ที่จริงมันเป็นอย่างนี้นะ มันสัมพันธ์กันอย่างนี้ ต้องก้าวต่อขึ้นมาให้ถึงพระพุทธเจ้าอย่างนี้ๆ

เป็นอันว่า “จตุคามรามเทพ” ไม่ใช่ใคร ก็โยงกับเรื่องศรีวิชัยหรือเป็นกษัตริย์ศรีวิชัย แล้วตำนานโน้นตำนานนี้ ก็ไม่หนีเมืองนครศรีธรรมราช เวียนอยู่ที่พระบรมธาตุ

ทีนี้ พอโยงมาถึงศรีวิชัย ก็โยงต่อไปอีกว่า ศรีวิชัยอยู่สุมาตรา หรือถ้าตกลงว่าศรีวิชัยอยู่นครศรีธรรมราช ก็ไปถึงสุมาตรานั่นแหละ แล้วสุมาตรานั้นก็มลายูนี่เอง ชาวมลายูก็เป็นลูกหลานกษัตริย์ศรีวิชัยองค์นี้ เพราะฉะนั้น ชาวใต้ 3-4 จังหวัด ที่ว่าเป็นมลายู ก็เป็นลูกหลานของกษัตริย์ศรีวิชัยนี้ด้วย

อย่างที่เคยเล่าแล้วว่า เจ้าชายปรเมศวรออกจากสุมาตรามาขึ้นที่สิงคโปร์ แล้วหนีจากสิงคโปร์มาขึ้นที่มะละกา ตั้งอาณาจักรมะละกาขึ้นมา ศูนย์กลางความเป็นมลายูอยู่ที่มะละกา ก็โยงไปที่ศรีวิชัย

เราก็เอาความรู้อย่างนี้เผยแพร่กันไป จะแยกตัวกันไปทำไมว่า ฉันเป็นมลายู ไม่ใช่คนไทย ไม่ใช่ชาวพุทธ อย่างน้อยสืบอดีตกัน มลายูก็เป็นชาวพุทธมาแล้ว เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในบ้านเมืองนี้ วิทยุก็มี ทีวีก็มี ก็ให้ความรู้แก่ประชาชนกันไป

ถ้ารู้เรื่อง “จตุคามรามเทพ” ก็นำมาทำประโยชน์ได้ ทั้งในทางสามัคคีและในทางพัฒนาคน ยิ่งนิยมกันมาก ก็ยิ่งต้องเผยแพร่ความรู้ให้มาก

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  น้ำใส [ 05 มิ.ย. 2009, 13:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

รูปภาพ

รูปภาพ

เจ้าของ:  น้ำใส [ 05 มิ.ย. 2009, 13:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

สาวิกาน้อย เขียน:
:b8: คุณน้ำใส ไม่ได้คุยทักทายกันตั้งนานนนน...แล้ว สบายดีนะคะ :b12: :b13:


สวัสดีครับ คุณสาวิกาน้อย ผมก็เรื่อยๆ สบายบ้างไม่ค่อยสบายบ้างอ่ะครับ :b32:

คุณสาวิกาน้อยคงยังสบายดี และก้าวหน้าในธรรมเช่นเดิมนะครับ :b8:

พอดีไปเซิร์ทเจอข้อมูลนี้ในเว็บของจีนเข้า ดูน่าสนใจ จึงนำมาฝากให้คนไทยรับรู้

แหม! พระพรหมเอราวัณของเรา ดังไปถึงต่างแดน แบบว่า โกอินเตอร์เลยครับ

เมืองไทยเราจะมีเรื่องๆ ราวๆ เกี่ยวพันกับดาราอยู่เสมอ ลองสังเกตดูสิครับ :b1:

**********************
อันนี้ ก็ไปเจอข้อมูลจากเว็บจีนอีกอันหนึ่งครับ

ทุกข์ทั้ง ๘ ลองอ่านดูครับ ตรงกับของเราหรือไม่เอ่ย ?

เจ้าของ:  น้ำใส [ 05 มิ.ย. 2009, 13:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

รูปภาพ

รูปภาพ

苦的人生

佛告訴世人,人生有八苦,這是佛陀所親證的最現實的人生實相。一般來講,

人生有生、老、病、死四苦,這是自然形成的,是人人都無法逃避的痛苦。

擴充來講,還是愛別離苦、怨憎會苦、求不得苦和五陰熾盛苦( 色、受、想、行、識 )。

*****************************************


พระบรมศาสดาสอนว่า มนุษย์ที่เกิดมาล้วนมีทุกข์อยู่ 8 อย่าง คือ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้ง 4 เป็นทุกข์ที่ทุกคนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทุกข์ต่อไปคือ การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก การประสบกับสิ่งอันเป็นที่ไม่รัก การปรารถนาสิ่งใดไว้ไม่ได้สิ่งนั้น

สุดท้ายคือ ทุกข์จากขันธ์ทั้งห้า ( รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ )


----------------

รูปภาพ

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 05 มิ.ย. 2009, 16:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ :b8:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 05 มิ.ย. 2009, 16:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับคุณน้ำใสด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Duangtip [ 29 ก.ค. 2016, 09:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พระพรหมเอราวัณ ในความศรัทธาของชาวจีน

rolleyes tongue

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/