วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 38, 39, 40, 41, 42, 43, 44, 45  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2011, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ทานอาหารล้างพิษ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2011, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว














โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2011, 18:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


หุงข้าวเหนียวด้วยไมโครเวฟ


สัดส่วนในการหุงด้วยไมโครเวฟ ข้าวเหนียว ๑ ถ้วยตวง ที่มากับหม้อหุงข้าว ต่อน้ำ ๑ ถ้วยตวง คือ ข้าวหนึ่ง น้ำหนึ่ง เท่าๆกัน



วิธีทำ

นำข้าวเหนียว ๑ ถ้วย ซาวน้ำ แล้วใช้กระชอนรองข้าวเหนียว

เสร็จแล้ว นำน้ำใส่ลงในข้าวเหนียว แช่ทิ้งไว้ประมาณ ๑๐ นาที หรือยิ่งแช่ถึงครึ่งชม.ยิ่งดี

นำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ ใส่ในไมโครเวฟ

กดไฟครั้งแรก ๒ นาที ๓๐ วินาที พอครบเวลา นำข้าวออกมาพลิก จากด้านบน ลงด้านล่าง สลับกัน นำใส่ไมโครเวฟอีกครั้งใช้เวลา ๒ นาที ๓๐ วินาที

ครบเวลา นำออกมาพลิกอีกครั้ง เสร็จแล้วใส่ไมโครเวฟ ใช้เวลา ๑ นาที พอครบเวลา นำข้าวมากลับอีกครั้ง ใส่ไมโครเวฟอีก ใช้เวลา ๑ นาที

เท่านี้ก็จะใช้ข้าวเหนียวที่สุกพอดี ใช้เวลาทั้งหมด ๗ นาที

ถ้าถามว่า ทำไมต้องนำข้าวออกมากลับ ก็เพื่อให้ข้าวสุกทั่วเม็ดค่ะ

ถ้าแช่ครึ่งชม. เทน้ำเก่าที่แช่ข้าวเหนียวทิ้งไปก่อน แล้วใส่น้ำใหม่ลงไปครึ่งถ้วย กดไฟครั้งแรก ใช้เวลา ๒.๓๐ นาที

นำข้าวเหนียวออกมาพลิกด้าน แล้วนำไปใส่ไมโครเวฟใหม่ กดตั้งเวลา ๒.๓๐ นาที ครบเวลา

นำมาพลิกด้านใหม่อีกครั้ง นำไปใส่ไมดครเวฟใหม่ ใช้เวลา ๓๐ วินาที ครบเวลา กลับข้าวเหนียวอีกครั้ง

นำไปใส่ไมโครเวฟใหม่ ตั้งเวลา ๓๐ วินาที สรุปใช้เวลาทั้งหมด ๖ นาที



สำหรับข้าวเหนียว ๒ ถ้วย


แช่ข้าวทิ้งไว้ นานเท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งค้างคืนยิ่งดี

ก่อนจะนำข้าวเหนียวไปหุงด้วยไมโครเวฟ ให้เทน้ำแข่ข้าวทิ้งไปก่อน นำน้ำสะอาดใส่ลงไปใหม่ ซาวน้ำทิ้งอีกครั้ง

เทน้ำทิ้งให้หมด ถ้ามีตะแกรง ให้ใช้ตะแกรงรองข้าว กันข้าวร่วงลงพื้น

ตวงน้ำด้วยถ้วยตวงข้าว ให้ดูเลขข้างๆถ้วยตวงข้าว จะมีเลข ๑๒๐ ใส่น้ำให้ถึงระดับนั้น

นำข้าวใส่ไมโครเวฟ ไม่ต้องปิดฝาภาชนะที่ใส่ข้าวเหนียว กดไฟใช้เวลาครั้งแรก ๕ นาที พอครบเวลา นำข้าวออกมากลับด้านบน ลงด้านล่าง แล้วนำไปใส่ไมโครเวฟใหม่

รอบใหม่ใช้เวลา ๓ นาที นำข้าวเหนียวที่สุกแล้ว ออกมาใส่ถาด แผ่ข้าวให้ทั่ว ผึ่งลมทิ้งไว้แป๊บนึง แล้วนำไปใส่ภาชนะที่จะเก็บ เท่านี้ก็จะได้ข้าวเหนียวที่จับแล้ว ไม่ติดนิ้วมือ



หมายเหตุ:-

ต้องการจะแนบรูปภาพ แต่ไม่สามารถกดเลือกไฟล์ได้ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2011, 20:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
มันห้ามจายย..ม่ายย..อยู่

ยิ่ง..มีส้มตำด้วยนะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2011, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
หมายเหตุ:-

ต้องการจะแนบรูปภาพ แต่ไม่สามารถกดเลือกไฟล์ได้ค่ะ


นั่นซิค่ะ....ทำอย่างไร?...ใครทราบ...กรุณาบอกหน่อย... :b8:

อ้างคำพูด:
มันห้ามจายย..ม่ายย..อยู่

ยิ่ง..มีส้มตำด้วยนะ...


หลังสงกรานต์อย่างนี้ต้องแถมแกงโฮ๊ะ...
ใส่อั่ว...น้ำพริกหนุ่มอีกสักชุดนะค่ะคุณน้อง :b22:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2011, 21:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


..อึ้..ฮืออ.. :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2011, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 1









เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 2








เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 3



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2011, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เทศกาลกินเจ-อุบายพระโพธิสัตว์1 4



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2011, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ก๋วยเตี๋ยวแขกมังสวิรัติ

รูปภาพ

ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 2 ถ้วยตวง
เต้าหู้แข็งหั่น 1 ชิ้น
เห็ดหูหนูหั่น 1/2 ถ้วยตวง
เห็ดฟางหั่น 1/4 ถ้วยตวง
ไชโป๊วสับหยาบ 4 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ 4 ช้อนโต๊ะ
ขึ้นฉ่ายหั่นฝอย 3 ต้น
ถั่วงอก 2 ถ้วยตวง
น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
1. ตักกะทิ 1/2 ถ้วยตวง เคี่ยวให้แตกมัน ผัดน้ำพริกแกงให้หอม ใส่เห็ดฟาง เห็ดหูหนูปรุงรส ด้วยน้ำตาล ซีอิ๊วขาว เติมกะทิที่เหลือ พอเดือดยกลง

2. เวลาจัดเสิร์ฟ ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอกใส่ชาม ตักน้ำแกงราด ใส่เต้าหู้ หัวไชโป๊ว ถั่วลิสง โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย



ข้อมูล...อาจารย์อมราภรณ์ วงษ์ฟัก (นิตยสาร"แม่บ้าน" ปีที่ 26 ฉบับที่ 395 เดือน เมษายน 2545)



คุณน้ำค่ะเปลี่ยเป็นอาหารเจภาค3ดีมั๊ยค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2011, 13:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ลาซันย่า มังสวิรัติ

รูปภาพ



ส่วนผสม

แผ่นก๋วยเตี๋ยว (แผ่นใหญ่) 300 กรัม
มะเขือเทศสับ 1/4 ถ้วยตวง
เห็ดฟางสับ 1/4 ถ้วยตวง
พริกหวานสับ 1/4 ถ้วยตวง
มาร์การีน 3 ช้อนตวง
น้ำมะเขือเทศกระป๋อง 1 ถ้วยตวง
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำซุปผัก 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด 1/4 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ถ้วยตวง


วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่มาร์การีนพอละลาย ใส่เห็ดฟางผัดให้นุ่ม ใส่มะเขือเทศ พริกหวานและน้ำเขือเทศ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ผัดให้ข้นเล็กน้อยตักขึ้นพักไว้

2. ผสมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำซุป เกลือ ปั่นให้ละเอียดเข้ากันตั้งไฟ นำแป้งผสมน้ำใส่ คนพอข้น ยกลง

3. วางแผ่นก๋วยเตี๋ยวในถาด ตักส่วนผสมข้อ 1 ใส่แล้วราดด้วย ส่วนผสมข้อ 2 ทำสลับเช่นนี้จนหมด ชิ้นสุดท้ายราดด้วยส่วนผสมข้อ 2 นำเข้าอบไฟ 350 ํ F นาน 20 นาที


ข้อมูล...อาจารย์อมราภรณ์ วงษ์ฟัก (นิตยสาร"แม่บ้าน" ปีที่ 26 ฉบับที่ 388 เดือนกันยายน 2544)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2011, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ฟองเต้าหู้ห่อผัก



รูปภาพ







ส่วนผสม

ฟองเต้าหู้2 แผ่น

เห็ดหูหนูซอย1 ถ้วย

ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย

แครอทหั่นฝอย1 ถ้วย

ถั่วแขกหั่นเฉียง1/2 ถ้วย

ซีอิ๊วขาว1 1/2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืชสำหรับผัด2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืชสำหรับทอด4 ถ้วย

ต้นหอม ใบผักชี ผักสำหรับตกแต่ง


วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพอร้อน ใส่แครอท ใส่ถั่วแขก เห็ดหูหนู ผัดพอสุก ใส่ถั่วงอก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผัดพอผักสุกทั่ว ตักใส่ถ้วยสำหรับเป็นไส้
2. ฟองเต้าหู้พรมน้ำพอนิ่ม ตัดเป็นแผ่นขนาด 5x5 นิ้ว จำนวน 4 แผ่น ใส่ไส้ที่ทำไว้ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ทาแป้งเปียกพับด้านซ้ายขวา ม้วนให้แน่น ทำจนหมด
3. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมันพอร้อน ใส่ฟองเต้าหู้ที่ห่อไว้ ทอดจนสุกเหลือง ตักวางบนกระดาษซับมัน
4. หั่นเป็นชิ้นพอคำ จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยต้นหอมและใบผักชี เสิร์ฟพร้อมซอสพริก

หมายเหตุ
ทำแป้งเปียกโดยผสมแป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟคนจนสุกเหนียว

สรรพคุณ
- เต้าหู้ เป็นอาหารที่มีโปรตีนในปริมาณและคุณ ภาพไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ จนมีผู้ให้ สมญา นามว่า เนื้อไม่มีกระดูก หรือ โปรตีนแห่งท้องทุ่ง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย นอกจากนี้ยังมีไขมันที่มี ความจำเป็นกับร่างกายอีกด้วย และไม่มีคอเลส เตอรอล และมีวิตามิน เกลือแร่ต่างๆ เช่นแคล เซียม ฟอสฟอรัส และเลซิติน ที่ช่วยลด ระดับ คอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันเกล็ด เลือด แข็งตัว ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
- เห็ดหูหนู คุณค่าทางสมุนไพร ช่วยลดความดันโลหิต มีสารต้านมะเร็ง มีวิตามินช่วยในการดูดซึม
- แครอท สีส้มสดใสสว่างของแครอทช่วยดับความกลัวโรคมะเร็งได้ ใน แครอทมีเบต้า-แคโรทีนที่กำจัดสารก่อนมะเร็งที่อาจมากับควันบุหรี่ หรือแสงแดดแผดจัด สารนี้ป้องกันมะเร็งได้โดยเฉพาะมะเร็ง ในปอด ใครกินผักสด และผลไม้มากสม่ำเสมอ มีสารนี้ใน เลือดมากและใครมีมากก็ไม่ต้องเสี่ยงกับมะเร็งในปอด ลบ ความกลัวด้วยการกินแครอท ผักสดและผลไม้อื่นๆ
- ผักชี แก้เจ็บคอ ริดสีดวงทวาร
- ถั่วแขก บำรุงร่างกาย ดับร้อน ขับปัสสาวะ รักษาอาการบวมน้ำได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2011, 08:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 23:50
โพสต์: 143


 ข้อมูลส่วนตัว


รสของอาหารเจ ต่างกับรสของเนื้อสัตว์ตรงไหนครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2011, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องถามก่อนว่าคุณเข้าใจความหมายของการกินเจว่าอย่างไร? เข้าใจแค่ไหน?

คุณไม่ต้องตอบก็ได้นะ แค่อยากให้ลองกลับไปคิดดูว่าจุดประสงค์ของการกินเจ กินเพื่ออะไร?
คุณอาจจะคิดไม่เหมือนผมก็ได้นะ คุณจะคิดอย่างไรผมไม่รู้หรอกครับ แต่สำหรับผมแล้ว การ
กินเจไม่ใช่การรักษาศีลหรือการทำจิตใจให้บริสุทธ์ ไม่ได้หมายความว่ากินเจแล้วเป็นคนดีพอ
ตายไปจะได้ไปจุติเป็นเทพ การกินเจไม่ใช่การชดใช้เวรกรรม การกินเจไม่ได้ทำให้คนกินมี
ศักดิ์ศรีเหนือคนอื่นๆหรือเป็นคนดีกว่าผู้ทานเนื้อสัตว์ การกินเจไม่ใช่การทำจิตใจให้บริสุทธิ์

จุดประสงค์ที่ผมกินเจก็เพราะว่าอยากกิน ละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เท่านั้นเอง ไม่มากกว่านี้

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก ทำไมต้องทำกลิ่น ทำสี ปรุงแต่งรูป รส กลิ่น สี ให้เหมือนเนื้อ
สัตว์มันไม่สำคัญสำหรับผม จุดประสงค์ของผมคือกินเจเพื่อละเว้นจากการเบียดเบียนชีวิตเท่านั้นเอง
ส่วนคุณจะทำกลิ่น ทำสี ปรุงแต่งรูป รส กลิ่น สี ให้เหมือนเนื้อสัตว์อย่างไรมันก็ไม่ใช่เนื้อสัตว์จริงๆ
อยู่วันยันค่ำ เพราะฉนั้นแค่ขอให้มันไม่ใช่เนื้อสัตว์เป็นใช้ได้ ส่วนอย่างอื่นมันไม่สำคัญ แค่รู้ว่าไม่ได้กิน
เนื้อสัตว์ก็สบายใจแล้ว

เพราะผมบอกแล้วว่าคุณจะกินเจอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีศักดิ์ศรีมากกว่าคนอื่น เป็นคน
บริสุทธฺ์ผุดผ่อง หรือเป็นคนดีกว่าคนอื่น เพียงมีจุดดีข้อเดียวคือสงสารและไม่อยากเบียดเบียนผู้อื่น
เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เท่านั้นเอง

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2011, 12:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเสียงธรรมเขียน


อ้างคำพูด:
จุดประสงค์ที่ผมกินเจก็เพราะว่าอยากกิน ละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เท่านั้นเอง ไม่มากกว่านี้




คุณคิดเหมือนเราเลยค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณเสียงธรรมเขียน
...
อ้างคำพูด:
จุดประสงค์ที่ผมกินเจก็เพราะว่าอยากกิน ละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เท่านั้นเอง ไม่มากกว่านี้

...
คุณคิดเหมือนเราเลยค่ะ :b8:


ต้นเหตุผมว่าอยู่ที่ศีล ถ้าทุกคนมีศีลก็ย่อมไม่เบียดเบียนกัน
เป็นการยากที่จะทำให้ทุกคนมีศีล

จิตที่คุณเมตตาต่อสรรพสัตว์ นั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว
ส่วนเรื่องที่ต้องระวังคือเกินจากเมตตาเป็นผูกพัน
เมื่อผูกผันฝ่ายหนึ่งก็ย่อมชิงชังฝ่ายหนึ่ง
เมตตาโดยไร้ประมาณจึงย่อมไม่เหลือที่ให้ความชัง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 38, 39, 40, 41, 42, 43, 44, 45  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร