ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=23050
หน้า 45 จากทั้งหมด 45

เจ้าของ:  walaiporn [ 16 ต.ค. 2012, 17:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2

การกินเจ โดยแท้จริงแล้ว เป็นการฝึกใช้ชีวิต บนวิถีของความเรียบง่าย

แต่ปัจจุบันที่ได้พบเห็น การกินเจ มีสถานะเปลี่ยนไป มีการปรุงแต่งมากมาย ทั้งรูปลักษณภายนอก แม้กระทั่ง กลิ่น รส เหมือนเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นการหลอกตัวเอง

วลัยพร เคยไปถือศิล กินเจ อยู่โรงเจ ประมาณ ๗ วัน ที่นั่น มีเต้าหู้กับผัก เป็นองค์ประกอบหลัก หลังจากนั้นมา กินเจ อย่างต่อเนื่อง ประมาณปีกว่าๆ

มีเหตุให้เลิกกินเจ ยิ่งกิน ยิ่งเหม็นสาบคน อยู่ใกล้ใคร ไม่ได้ โดยเฉพาะ ผู้ที่เพิ่งทำกับข้าวเสร็จใหม่ๆ หรือเดินผ่านร้านอาหาร ผ่านตลาด กลิ่นสาบจะแรงมาก

จะเกิดจากอุปทาน หรือเกิดจากอะไร ไม่หาสาเหตุ แค่รู้ว่า กินแล้ว ทำให้ตัวเองเดือดร้อน เข้าใกล้คนอื่นไม่ได้ เหม็นไปหมด ก็เลยเลิกกิน เท่านั้นเอง

วลัยพร เป็นคนชอบทำกับข้าวกินเอง เป็นส่วนใหญ่ การทำอาหารเจ ด้วยเต้าหู้ หรือผัก จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแค่ เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์ มาเป็นเต้าหู้หรือผักเท่านั้นเอง วิธีการทำ เหมือนๆกัน

เต้าหู้ ส่วนมาก ใช้เต้าหู้อ่อน ถ้าจะแกงหรือผัด นำไปหั่นเป็นชิ้น แล้วทอด เสร็จแล้ว จึงทำเป็นผัด แกง ปิ้งย่าง ตามสะดวก ไม่ได้ใช้โปรตีนเกษตร แบบที่เห็น เป็นส่วนมาก

ถ้าจะทำลาบ หรือน้ำพริกอ่อง เพียงนำเต้าหู้อ่อนมายีๆๆๆ ให้ละเอียด นำไปคั่วไฟอ่อนๆ ใช้กระทะเทปล่อน ล่อนสมชื่อ ไม่ติดกระทะ ผัดไปเรื่อยๆ จนเหลือแต่เนื้อเต้าหูล้วนๆ ไม่มีน้ำ สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน เวลาจะนำมาทำลาบ หรืออื่นๆ ก็อุ่นให้ร้อน โดยผัดๆนี่แหละ

พริกแกง หาง่าย ตามร้านขายเครื่องประกอบอาหารเจ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งโขลกเอง

ผัก เลือกตามสะดวก อันไหนแพง ไม่ซื้อ สามารถพลิกแพลงได้ตลอด เช่น คะน้า ถ้าแพง จะใช้กวางตุ้งแทน กวางตุ้ง สามารถนำมาทำเป็นอาหาร ได้หลากหลาย

เรื่องผักแพง หรือของแพง แม้กระทั่ง ที่บอกว่า หากินได้ยาก เป็นเพียงเหตุของแต่ละคน เท่านั้นเอง

วลัยพร ไม่ใช้ชูรส ในการปรุงรส แต่ใช้ซอสที่ทำจาก ถั่วเหลืองอย่างดี ราคาอาจจะดูแพงมาก แต่คุ้มค่า

ซอสที่ใช้อยู่ เป็นซอสถั่วเหลืองนำเข้า จากมาเลย์ ยี่ห้อ kicap soya cair มีสัญญลักษณ์ อูฐ ๒ ตัว ขนาด ๔๒๐ ซีซี ราคา ๘๕ บาท ใช้ทั้งปรุงอาหาร และใช้จิ้มติ่มซำ

ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ใช้ยี่ห้อ ง่วนเชียง ฉลากสีทอง

เห็ดหอม ใช้ทั้งชนิดแห้ง ชนิดสด และสารพัดเห็ด ตามสะดวก ไม่เน้นชนิดใด เป็นพิเศษ ส่วนมาก ไม่ใส่ซะมากกว่า ชอบเต้าหู้ขาวมากกว่า

ทำต้มจืดเจแบบง่ายๆ

น้ำซุป

ใส่ซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม เกลือป่นเล็กน้อย รากผักชีทุบๆ มากน้อย ตามชอบ พริกไทยบุบ ไม่ต้องละเอียด เท่านี้ก็ได้น้ำซุป ที่ไม่ต้องใส่ชูรส

ทำแกงต่างๆก็เช่นเดียวกัน หรือ แม้กระทั่งผัดผัก ผัดหมี่ ใช้ซอส ๒ ยี่ห้อนี้ และเกลือ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว นี่แหละ วิธีการกินเจ แบบเรียบง่าย

เจ้าของ:  หญิงไทย [ 16 ต.ค. 2012, 17:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2

walaiporn เขียน:
การกินเจ โดยแท้จริงแล้ว เป็นการฝึกใช้ชีวิต บนวิถีของความเรียบง่าย

แต่ปัจจุบันที่ได้พบเห็น การกินเจ มีสถานะเปลี่ยนไป มีการปรุงแต่งมากมาย ทั้งรูปลักษณภายนอก แม้กระทั่ง กลิ่น รส เหมือนเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นการหลอกตัวเอง

วลัยพร เคยไปถือศิล กินเจ อยู่โรงเจ ประมาณ ๗ วัน ที่นั่น มีเต้าหู้กับผัก เป็นองค์ประกอบหลัก หลังจากนั้นมา กินเจ อย่างต่อเนื่อง ประมาณปีกว่าๆ

มีเหตุให้เลิกกินเจ ยิ่งกิน ยิ่งเหม็นสาบคน อยู่ใกล้ใคร ไม่ได้ โดยเฉพาะ ผู้ที่เพิ่งทำกับข้าวเสร็จใหม่ๆ หรือเดินผ่านร้านอาหาร ผ่านตลาด กลิ่นสาบจะแรงมาก

จะเกิดจากอุปทาน หรือเกิดจากอะไร ไม่หาสาเหตุ แค่รู้ว่า กินแล้ว ทำให้ตัวเองเดือดร้อน เข้าใกล้คนอื่นไม่ได้ เหม็นไปหมด ก็เลยเลิกกิน เท่านั้นเอง

วลัยพร เป็นคนชอบทำกับข้าวกินเอง เป็นส่วนใหญ่ การทำอาหารเจ ด้วยเต้าหู้ หรือผัก จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแค่ เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์ มาเป็นเต้าหู้หรือผักเท่านั้นเอง วิธีการทำ เหมือนๆกัน

เต้าหู้ ส่วนมาก ใช้เต้าหู้อ่อน ถ้าจะแกงหรือผัด นำไปหั่นเป็นชิ้น แล้วทอด เสร็จแล้ว จึงทำเป็นผัด แกง ปิ้งย่าง ตามสะดวก ไม่ได้ใช้โปรตีนเกษตร แบบที่เห็น เป็นส่วนมาก

ถ้าจะทำลาบ หรือน้ำพริกอ่อง เพียงนำเต้าหู้อ่อนมายีๆๆๆ ให้ละเอียด นำไปคั่วไฟอ่อนๆ ใช้กระทะเทปล่อน ล่อนสมชื่อ ไม่ติดกระทะ ผัดไปเรื่อยๆ จนเหลือแต่เนื้อเต้าหูล้วนๆ ไม่มีน้ำ สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน เวลาจะนำมาทำลาบ หรืออื่นๆ ก็อุ่นให้ร้อน โดยผัดๆนี่แหละ

พริกแกง หาง่าย ตามร้านขายเครื่องประกอบอาหารเจ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งโขลกเอง

ผัก เลือกตามสะดวก อันไหนแพง ไม่ซื้อ สามารถพลิกแพลงได้ตลอด เช่น คะน้า ถ้าแพง จะใช้กวางตุ้งแทน กวางตุ้ง สามารถนำมาทำเป็นอาหาร ได้หลากหลาย

เรื่องผักแพง หรือของแพง แม้กระทั่ง ที่บอกว่า หากินได้ยาก เป็นเพียงเหตุของแต่ละคน เท่านั้นเอง

วลัยพร ไม่ใช้ชูรส ในการปรุงรส แต่ใช้ซอสที่ทำจาก ถั่วเหลืองอย่างดี ราคาอาจจะดูแพงมาก แต่คุ้มค่า

ซอสที่ใช้อยู่ เป็นซอสถั่วเหลืองนำเข้า จากมาเลย์ ยี่ห้อ kicap soya cair มีสัญญลักษณ์ อูฐ ๒ ตัว ขนาด ๔๒๐ ซีซี ราคา ๘๕ บาท ใช้ทั้งปรุงอาหาร และใช้จิ้มติ่มซำ

ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ใช้ยี่ห้อ ง่วนเชียง ฉลากสีทอง

เห็ดหอม ใช้ทั้งชนิดแห้ง ชนิดสด และสารพัดเห็ด ตามสะดวก ไม่เน้นชนิดใด เป็นพิเศษ ส่วนมาก ไม่ใส่ซะมากกว่า ชอบเต้าหู้ขาวมากกว่า

ทำต้มจืดเจแบบง่ายๆ

น้ำซุป

ใส่ซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม เกลือป่นเล็กน้อย รากผักชีทุบๆ มากน้อย ตามชอบ พริกไทยบุบ ไม่ต้องละเอียด เท่านี้ก็ได้น้ำซุป ที่ไม่ต้องใส่ชูรส

ทำแกงต่างๆก็เช่นเดียวกัน หรือ แม้กระทั่งผัดผัก ผัดหมี่ ใช้ซอส ๒ ยี่ห้อนี้ และเกลือ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว นี่แหละ วิธีการกินเจ แบบเรียบง่าย


เรื่องการปรุงแต่งในรูปลักษณ์ของอาหาร ดิฉันอยากให้ทำความเข้าใจและใจให้กว้างนิดนึงนะคะ
จริงๆแล้วเรื่องของการกินเจ เราไม่จำเป็นต้องดัดแปลงในรูปลักษ์ของอาหารให้คล้ายเนื้อสัตว์
การกินเจเน้นที่ความเรียบง่าย มายังไงก็กินอย่างนั้น ไม่ต้องดัดแปลงให้เหมือนเนื้อสัตว์ ที่ทั้งวุ่นวาย
และมีราคาแพง

แต่อีกมุมหนึ่งก็ต้อง เข้าใจด้วยนะคะว่าคนที่ไม่ชอบอาหารเจ ไม่เคยกินเจ บางคนอยากเข้ามาทานเจ
แต่ก็ทำใจยอมรับไม่ได้ ในเรื่องรสชาติ วัตถุดิบ รู้สึกว่ากินแต่ผักจืดชืด รู้สึกกินแล้วไม่อิ่ม เราะไม่มีเนื้อ
สัตว์ เพราะยึดติดกับรสชาติของเนื้อสัตว์ บางคนทนกินได้ไม่กี่วันก็เลิก เพราะทนไม่ไหว

เพราะฉนั้น การนำวัตถุดิบมาดัดแปลงให้เหมือนเนื้อสัตว์ก็ถือเป็นก้าวแรกของบุญนะคะ ที่จะทำให้คนที่ไม่
ทานเจรู้สึกยอมรับได้ และหันมารับประทานอาหารเจมากขึ้น การดัดแปลงวัตถุดิบจะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องเสีย
หายอะไรนะคะ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ผู้ที่ไม่ทานเจหันมาทานเจ และพอยอมรับอาหารเจได้ ถึงจะดัด
แปลงแต่อย่างน้อยก็ลดละจากการฆ่าเหมือนกันนะคะ ถือว่าเป็นก้าวแรกของบุญนะคะ

เปรียบเทียบเหมือนทารกแรกเกิดที่ยังทานของแข็งไม่ได้จึงต้องทานของอ่อนก่อน ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ
ดิฉันอยากให้เปิดใจกว้างนิดนึงในเรื่องนี้ค่ะ ใจกว้างนะคะ

เจ้าของ:  walaiporn [ 16 ต.ค. 2012, 19:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2

walaiporn เขียน:
เป็นเพียงเหตุของแต่ละคน เท่านั้นเอง


ถ้าคุย เรื่องคงจะยาว อย่างที่บอกไว้ แล้วแต่เหตุของแต่ละคนเท่านั้นเอง

เจ้าของ:  bigtoo [ 25 มิ.ย. 2015, 18:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คุยเรื่องอาหารเจ ภาค 2

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ประเดิมห้องครัวใหม่ .. ด้วยยำก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้กระ
ดูจากรูปภาพแล้ว .. ท่าทางจะรสชาติจัดจ้าน ..
ใครลองทำทานแล้ว .. มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ..

หรับน้ำเอง .. ต่อมรับรู้รสของลิ้นยังไม่กลับคืนเลยค่ะ


คุณวลัยพร เพิ่งฟื้นไข้ :b22: ลิ้นยังชาๆอยู่ใช่ไหมครับ กรัชกายขอแนะให้กินของขมๆ เช่น สะเดา มะระ หรือเคี้ยวบรเพ็ดสิครับ รับรอง...สนิทเลยครับ
กรัชกายไปไหนนะ

หน้า 45 จากทั้งหมด 45 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/