วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2009, 00:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2004, 20:31
โพสต์: 1491

อายุ: 0
ที่อยู่: ธนบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว www


“เวลาที่พ่อแม่แก่ตัวลง จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลว่าจะมีวิธีปฏิบัติและปรนนิบัติดูแลท่านอย่างไร เพราะพ่อแม่ของแต่ละคนก็มีนิสัยที่ต่างกันออกไป แต่ไม่ว่ายังไง ในฐานะที่เราเป็น “ลูก” เราก็ต้องทำหน้าที่ในแต่ละวันให้ดีที่สุด อย่าให้เป็นเหมือนคำโบราณที่มักกล่าวว่า แม่หนึ่งคนเลี้ยงลูกสิบคนได้ แต่ลูกทั้งสิบคนไม่สามารถเลี้ยงแม่เพียงคนเดียวได้” คำบอกเล่าของครูอัญชลี อมรสิน อดีตครูโรงเรียนสตรีบำรุงวิทยา โรงเรียนการบินกำแพงแสน จ.นครปฐม และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ผู้เป็นครูต้นแบบในเรื่องของ “ความกตัญญู” ในฐานะลูกผู้คอยดูแลแม่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาตลอดทั้งชีวิต

เมื่อพ่อแม่แก่ตัวลง ความชราอาจทำให้ร่างกายที่ถดถอยไม่สามารถทำอะไรได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวเหมือนเมื่อก่อน แม่ที่เคยดูแลลูก อาจต้องให้ลูกคอยดูแลไม่ว่าจะเป็นป้อนข้าว ค่อยๆ พยุงเมื่อท่านก้าวเดิน รวมไปถึงอาบน้ำ (ในบางกรณี)

ครูอัญชลี-คุณยายแฉล้ม อมรสิน

“ตามวัฏจักรของชีวิตที่เด็กก็จะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น วัยกลางคน ผู้ใหญ่ วัยชรา และจะกลับมามีพฤติกรรมคล้ายเด็กอีกครั้งในบั้นปลายชีวิต ซึ่งคุณยายก็เป็นเช่นนั้น เพราะตอนนี้คุณยายอายุ 92 ปีแล้ว เหมือนเด็กแทบทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเด็กคือ “อาการหลงลืม” เพราะฉะนั้นเราต้องคอยดูแล ใส่ใจรายละเอียดและเอาใจใส่ท่านเสมอ และเชื่อว่าคนแก่ทุกคนก็จะมีลักษณะที่คล้ายๆกันในเรื่องของความต้องการความรัก คนที่คอยดูแล แต่สิ่งที่ต้องคำนึงอยู่ตลอดเวลาคือแม่สามารถดุลูกได้ แต่ลูกไม่สามารถดุแม่ได้” ครูอัญชลีกล่าว

ถ้ารักแม่ควรให้แม่ทำงาน

หากพูดถึง “แม่” แน่นอนว่าบุคคลท่านนี้ย่อมเป็นบุคคลที่มาก่อนเป็นอันดับแรกของลูก ซึ่งโดยธรรมชาติของลูกทุกคนแล้ว เมื่อแม่แก่ตัวลงในขณะที่ลูกสามารถทำงานหาเลี้ยงชีพและมีความพร้อมที่จะเลี้ยงแม่ได้แล้ว หลายคนมักอยากให้แม่อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำงานอะไร อาจเป็นความคิดที่คนเป็นลูกต้องกลับมาพิจารณากันใหม่ว่า ความรักที่มีให้แม่ การปรนนิบัติแม่ในลักษณะนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่

ในเรื่องนี้ครูอัญชลีเล่าว่า “เมื่อก่อนแม่เป็นแม่ค้าขายของ เลี้ยงลูก และทำงานเยอะมาก แต่พอเริ่มแก่ตัวลง เราก็ไม่อยากให้ทำ อยากให้อยู่เฉยๆ เขาเลยไม่ได้ทำงานตั้งแต่นั้นมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ แม่เป็นอัลไซเมอร์ เราก็มานั่งนึกว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งตรงนี้ยอมรับว่า พลาดจริงๆ ดังนั้นใครที่มีพ่อแม่อยู่ ควรให้ท่านทำงานน้อยลง ไม่ใช่ให้หยุดทำงานเพื่อการมีส่วนร่วมและสุขภาพที่แข็งแรง และที่สำคัญท่านจะรู้สึกภูมิใจและรู้สึกว่าท่านไม่เป็นภาระของลูกหลาน”

สิ่งที่ลูกควรทำ

ด้วยความที่ครูอัญชลีเป็นครูที่ต้องสอนนักเรียนทั้งด้านวิชาการและจิตวิญญาณ ดังนั้นความกตัญญูก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ครูให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่ครูเชื่อมาตลอดในวิชาชีพครูคือ คนเป็นครูนั้น หากต้องการสอนเด็กให้เป็นคนดี สอนให้เป็นอย่างนั้น ทำอย่างนี้ แต่หากครูไม่ทำเอง แล้วจะสอนเด็กได้อย่างไร

“หากถามเรื่องหลักการในการดูแลแม่ที่ชราแล้ว คงต้องบอกว่าไม่มีหลักการอะไรที่ตายตัวเลย เพราะเชื่อว่า คนเราทุกคน ไม่ว่าวัยไหน ชาติไหน หรือศาสนาอะไร ไม่มีใครไม่ต้องการ “ความรัก” แต่ก่อนที่เราทุกคนจะได้ความรักมานั้น เราก็ต้องรู้จักเป็นผู้ให้เสียก่อน ซึ่งสำหรับพ่อแม่ของเราเองนั้น ท่านเป็นผู้ให้เรามาตลอดทั้งชีวิตอยู่แล้ว และสิ่งที่ท่านให้เรานั้น ลูกย่อมรู้ดีว่า พ่อแม่ให้ลูกได้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ลูกเองอาจให้ท่านได้ไม่เหมือนที่ท่านให้เรา แต่เราต้องดูแลท่านให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะทำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องสอน แต่ลูกต้องมี “จิตสำนึกที่ดี” หากท่านหงุดหงิดบ้าง ไม่ว่าจะสาเหตุอะไร ลูกต้องมี “ความเข้าใจ” และสิ่งที่ลูกควรทำที่สุดคือเข้าไปกอด หอม หรือแสดงความรักในรูปแบบของตัวเอง เชื่อเถอะว่าเสียงหัวเราะของท่านจะทำให้ความสุขของเราเพิ่มขึ้นทวีคูณ และตัวของท่านเองก็มีสุขภาพจิตที่ดีด้วย” ครูอัญชลีเล่า

มงคลชีวิต

การที่ลูกคนหนึ่งได้ดูแลพ่อแม่ในบั้นปลายชีวิตนั้น หลายคนอาจมองว่าเป็นภาระ แต่หากคิดดีๆแล้วสิ่งเหล่านี้กลับเป็นโอกาสที่ดีที่ลูกจะได้ตอบแทนคุณบุพการีต่างหาก

“เราไม่ต้องไปทำบุญที่วัดหรอก เพราะพ่อแม่คือพระในบ้าน การที่เราได้ดูแลท่านนั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าที่สุดแล้ว ซึ่งลูกทุกคนต้องเข้าใจ ใส่ใจและรู้จักสังเกตแม่ว่ามีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ สำหรับครูเอง ครูได้รับพรจากแม่ทุกวัน เวลาเราปรนนิบัติ แม่ก็มักอวยพรเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น “ขอให้เจริญๆ ขอให้ร่ำให้รวย ฯลฯ” เท่านี้เราก็ได้พรที่ประเสริฐที่สุดแล้ว” ครูอัญชลีกล่าวทิ้งท้าย


......................
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2552

:b44:

.....................................................
รูปภาพ
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2009, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ธรรมใดๆก็ไร้ค่า...ถ้าไม่ทำ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

:b1: :b16: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2009, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ม.ค. 2009, 18:00
โพสต์: 64


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2016, 05:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b20: :b8:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร