ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=24384
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  นัน555 [ 27 ก.ค. 2009, 05:56 ]
หัวข้อกระทู้:  ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

ที่มา
http://www.doctor.or.th/node/1556

ผักตำลึง : อาหารสมุนไพรริมรั้ว


น้ำมันแพง! เอ แล้วมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพตรงไหนเล่า สิ่งแรกที่เกิดขึ้นเมื่อน้ำมันแพงคือความเครียด รายได้ของคุณหมดไปกับค่าน้ำมัน ค่ารถเมล์ และรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้นมากกว่าเดิม แต่รายรับยังเท่าเดิมหรือลดลง

เรามาลองลดรายจ่ายและสร้างสุขภาพกันดีกว่า หันกลับไปหาเศรษฐกิจพอเพียงใกล้ตัวกันดีไหม ถ้าคุณมีบริเวณที่ดินว่างเปล่าใกล้บ้านลองสังเกตดูอาจพบผักตำลึงเลื้อยพันอยู่โดยไม่ต้องปลูก

ตำลึงมีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Coccinia grandis (L.) Voigt.
ภาคเหนือ เรียก "ผักแคบ" กะเหรี่ยงเรียก "แคเด๊าะ"
ตำลึงอยู่ในวงศ์เดียวกับแตงกวา คือวงศ์ Cucurbitaceae
ตำลึงเป็นไม้เถาสีเขียว ใบคล้ายรูปหัวใจ ๕ เหลี่ยม มีเว้าลึกเป็น ๕ แฉก มีมือเกาะ ซึ่งเป็นใบที่เปลี่ยนรูปเพื่อประโยชน์ใช้สอย ดอกสีขาว ทรงกระบอก ๕ แฉก ลูกตำลึงเป็นผลเบอร์รี่ทรงยาวรี ลูกอ่อนสีเขียวๆ มีลายขาว เมื่อแก่จะเป็นสีแดงอมส้ม หรือแดงสด ขยายพันธุ์โดยเพาะเมล็ดหรือโดยการเพาะชำเถาแก่

ตำลึงเป็นอาหาร
คนไทยใช้ยอดและใบตำลึงกินเป็นผักสด อาจนำไปต้มหรือลวกจิ้มกับน้ำพริก ใช้ปรุงในแกงต่างๆ เช่น แกงจืด แกงเลียง ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง นำไปผัดตำลึงไฟแดง หรือใส่ในไข่เจียว ผลอ่อนของตำลึงกินกับน้ำพริกคล้ายแตงกวา หรือดองกินคล้ายแตงดองได้ เนื้อในผลสุกของตำลึงมีรสอมหวาน กินได้ อุดมด้วยสารกลุ่มแอนโทไซยานินที่ต้านอนุมูลอิสระและดูแลผนังหลอดเลือดให้อ่อนนิ่มใช้งานได้ยืนยาว ใบตำลึงเป็นอาหารที่มีบีตาแคโรทีนสูงมาก องค์การอาหารและสิ่งแวดล้อมเพื่อชนกลุ่มน้อยระบุว่า ตำลึงเป็นพืชที่มีบีตาแคโรทีนที่ดีที่สุดสำหรับชาวไทยภูเขา บีตาแคโรทีนเป็นสารกลุ่มคาโรทีนอยด์ทำหน้าที่กรองแสงให้กับดวงตา ป้องกันไฟเบอร์ของเลนส์ตาจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกออกซิไดซ์ด้วยแสง ป้องกันการเกิดต้อ บีตาแคโรทีนเป็นสารที่เปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ จัดเป็นสารกลุ่มคาโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานดีที่สุด ดังนั้น ที่กล่าวกันว่า "ตำลึงบำรุงสายตา" ก็เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ บีตาแคโรทีนเป็นสารต้านออกซิเดชันลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย ยับยั้งการทำลายของออกซิเจนเดี่ยวและอนุมูลเปอรอกซิลอิสระ เชื่อว่าเป็นสารต้านมะเร็ง โดยเสริมประสิทธิภาพของเซลล์นักฆ่า (natural killer cell) ในการกำจัดเซลล์มะเร็ง กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ซ่อมแซมสารพันธุกรรมได้
ใยอาหารจากตำลึงสามารถดูดจับสารพิษในระบบทางเดินอาหารได้ดีกว่าผักที่มีในท้องตลาดทั่วไป พบว่าการกินตำลึงจะสามารถลดอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้


ตำลึงกับการดูแลโรคเบาหวาน
อินซูลินเป็นสารสร้างโดยเซลล์พิเศษในตับอ่อน ที่เรียก บีตาเซลล์ อินซูลินมีหน้าที่รักษาระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด บทบาทหลักของอินซูลินคือ การควบคุมความคงที่และความสมดุลของพลังงานในเลือด เพื่อควบคุมเมตาบอลิสมของร่างกาย โรคเบาหวานแสดงออกโดยการมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงขึ้น เกิดจากการที่ร่างกายสร้างอินซูลิน ไม่เพียงพอ หรือการดื้อต่ออินซูลิน เบาหวานชนิดที่ ๑ เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เนื่องจากบีตาเซลล์ถูกทำลาย ส่วนเบาหวานชนิดที่ ๒ เกิดจากความไวของผนังเซลล์ต่ออินซูลินลดลง ทำให้เกิดการผิดปกติของการลำเลียงน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ ส่วนใหญ่พบในผู้มีอายุสูงกว่า ๔๐ ปี และเกินกว่าร้อยละ ๙๐ ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นโรคอ้วน โรคอ้วนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดการดื้อต่ออินซูลิน การที่ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงถึงระดับที่เป็นโรคเบาหวานจะมีผลกระทบต่อการรักษาระดับไขมันในเลือด

ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ ๑ เกิดภาวะเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีและโครงสร้างของหลอดเลือดเล็ก มีผลต่อดวงตา ไต และระบบประสาท

ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ ๒ มักพบการเพิ่มปริมาณกรดไขมันอิสระ ทำให้มีไตรกลีเซอไรด์ชนิด LDL ในเลือด เพิ่มขึ้น และมีไขมันชนิด HDL ลดลง มีผลต่อหลอดเลือดขนาดใหญ่ นำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย และหลอดเลือดสมองแตกได้

การดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้านของไทยเชื่อว่า การกินตำลึงจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยให้เอายอดตำลึงประมาณครึ่งกำมือ โรยเกลือพอให้มีรส ห่อใบตอง นำไปเผาไฟให้สุก กินก่อนนอนติดต่อกัน ๓ เดือน กล่าวว่าน้ำตาลในเลือดก็จะลดลง

ถามว่า มีข้อมูลในเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์สนับสนุนคำแนะนำนี้บ้างไหม
คำตอบ คือ มีการทดลองในต่างประเทศ

ตำลึงกับโรคเบาหวานในสัตว์ทดลอง
งานวิจัยในสัตว์ทดลองที่ประเทศอินเดีย พบว่า สารสกัดน้ำ สารสกัดแอลกอฮอล์ และผงแห้งบดของใบและเถาตำลึง แสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของหนูปกติ หนูที่อดอาหาร และหนูที่เป็นเบาหวานเนื่องจากได้รับสาร streptozotocin (STZ) เมื่อหนูที่เป็นเบาหวานดังกล่าวได้รับสารสกัดเอทานอลใบตำลึง ๒๐๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม ติดต่อกัน ๔๕ วัน พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลงระดับอินซูลินเพิ่มขึ้น เพิ่มการออกซิเดชันของกลูโคสในตับและเม็ดเลือดแดง ลดกลูโคนีโอเจเนซิสระดับไขมันและกรดไขมันในเลือดลดลง มีปริมาณวิตามินซีในพลาสมาเพิ่มขึ้น มีปริมาณเอนไซม์กำจัดสารพิษเพิ่มขึ้นทั้งกลูตาไทโอนเปอร์ออกซิเดส และกลูตาไทโอน เอส ทรานสเฟอเรส งานวิจัยชิ้นอื่น พบว่า ผงแห้งบดของใบและเถาตำลึงแสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ทั้งในสุนัขปกติและสุนัขเบาหวาน สารสกัดน้ำและแอลกอฮอล์ของรากตำลึง แสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในกระต่ายปกติ สารสกัดแอลกอฮอล์ที่ ๒๕๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม แสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูที่อดอาหาร นอกจากนี้ สารเพ็กทิน จากผลตำลึงที่ ๒๐๐ มิลลิกรัมต่อ ๑๐๐ กรัมในหนู ปกติแสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ ไกลโคเจนซินทีเตส และเพิ่มปริมาณไกลโคเจนในตับ

ตำลึงกับโรคเบาหวานในมนุษย์
ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ทีมผู้วิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับพืชอาหารและสมุนไพรที่ใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือด พบว่าตำลึง และโสมอเมริกันเป็นพืชที่มีข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพด้านนี้ดีที่สุด การทดลองทางคลินิก (แบบ double-blind ขนานกัน ๒ กลุ่ม) ในประเทศบังกลาเทศพบว่า เมื่อให้ผงแช่แข็งแห้งของใบตำลึงวันละ ๑.๘ กรัมกับผู้ป่วยเบาหวาน ชนิด ๒ นาน ๖ เดือนประกอบกับการควบคุมอาหาร พบว่า ค่าน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (fasting plasma glucose) ของกลุ่มผู้ป่วยลดลง จาก ๑๗๘.๘ เป็น ๑๒๒.๑ และค่าน้ำตาลในเลือดแบบสุ่ม (random plasma glucose) จาก ๒๔๕.๔ เป็น ๑๘๖.๙ โดยกลุ่มควบคุมไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเช่นนี้ ส่วนการศึกษาในอินเดียจากสารสกัดน้ำของใบตำลึงให้ผลในทิศทางเดียวกันกับผลจากบังกลาเทศ และพบว่าปริมาณโคเลสเตอรอล ฟอสโฟไลปิด ไตรกลีเซอไรด์ และกรดไขมันอิสระในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ ดูข้อมูลวิจัยแล้วก็น่าจะเริ่มเมนูตำลึงให้กับคุณป้า ข้างบ้านที่เป็นโรคเบาหวานได้ทันทีเลยดีไหม ต้มเลือดหมูตำลึงร้อนๆ สักถ้วย... เสริมธาตุเหล็กทั้งจากเลือดหมูและตำลึงให้คุณป้า พร้อมเสิร์ฟด้วยรอยยิ้ม...

อื่นๆ อีกมากมายเกี่ยวกับตำลึง

ตำลึงเป็นยาเย็น ดับพิษร้อน
แก้พิษคันจากใบไม้คันหรือหนอนคัน โดยนำใบตำลึงสดสัก ๔-๕ ใบ มาขยี้ เอาน้ำชโลมหรือทาบริเวณที่คัน
เป็นเริม งูสวัด ให้ใช้ใบตำลึงล้างน้ำต้มสุกให้สะอาด ตำให้ละเอียด คั้นแล้วกรองเอาแต่น้ำผสมดินสอพอง สะตุ (เผาจนสุก) ทาผิวบริเวณที่เป็นให้เปียกชื้นอยู่เสมอ อาการแสบร้อนจะทุเลาลง ถ้าทาแล้วไม่รู้สึกเย็น ก็แปลว่ายาไม่ถูกโรคให้เลิกใช้
ใบและน้ำคั้นใบมีเอนไซม์อะไมเลส ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งและกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้
ยอด เถา ใบ และราก ตำคั้นน้ำดื่มแก้หลอดลมอักเสบ
ลิ้นเจ็บ ลิ้นเป็นแผล ให้เคี้ยวผลตำลึงอ่อน
จะขอจบดื้อๆ แค่นี้แล้วค่ะ จะรีบไปเก็บตำลึง ข้างรั้วมาทำแกงจืดตำลึงหมูบะช่อมื้อเย็นวันนี้

เจ้าของ:  นัน555 [ 27 ก.ค. 2009, 06:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

แนบไฟล์:
food11.jpg
food11.jpg [ 68.36 KiB | เปิดดู 4926 ครั้ง ]



เสน่ห์ของตำลึง Ivy Gourd
ที่มา
http://www.oknation.net/blog/tarot/2007/11/19/entry-1

เจ้าของ:  นัน555 [ 27 ก.ค. 2009, 06:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

wiki
ฝรั่งเขา ยังไม่รู้จัก ตำลึง เท่าไร
http://en.wikipedia.org/wiki/Coccinia_grandis

เจ้าของ:  นัน555 [ 27 ก.ค. 2009, 06:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

http://www.diabeteshealth.com/read/2005 ... ivy-gourd/


พูดถึง ตำลึง กับ เบาหวาน อีก แล้ว

เจ้าของ:  นัน555 [ 27 ก.ค. 2009, 06:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

การทำชาสมุนไพรจากใบตำลึง

http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=8225.0

โอกาส
1. ทำชาซอง ขายฝรั่ง สำหรับ ผู้มีทุน หนา
2. ชาวบ้าน พวก ร้าน อาหาร รายการ เสริม หรือ น้ำแช่เย็น พร้อม ดื่ม แบบ เก็กฮวย
ตามหน้าร้าน โชวห่วย ป๊อบแอบมอม


----
http://202.129.59.73/nana/frwater/cucurbitaceae.htm

ไฟล์แนป:
cucurbitaceae2.jpg
cucurbitaceae2.jpg [ 10.76 KiB | เปิดดู 4900 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 27 ก.ค. 2009, 07:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ

เจ้าของ:  ตักบาตรถามพระ [ 28 ก.ค. 2009, 22:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

อ่านแล้วอยากทานต้มจืดตำลึง :b13: :b13:

อนุโมทนาบุญด้วยรับ ขอให้สุขภาพแข็งแรงกันทุกท่าน

จะได้สร้างบารมีกันได้นานๆ และเต็มที่ ครับ

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 28 ก.ค. 2009, 23:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับคุณนัน555 ด้วยครับ

ตักบาตรถามพระ เขียน:
อ่านแล้วอยากทานต้มจืดตำลึง


ผมว่าดึก ๆ อย่างนี้ บะช่อตำลึงใส่หมูสับ คงจะดี

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  damjao [ 31 ก.ค. 2009, 07:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

อโรคยา ปรมา ลาภา
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ......... :b8:

เจ้าของ:  sirinpho [ 28 ก.ย. 2022, 10:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผักตำลึง กับ เบาหวาน ลองอ่านดู

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/