วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 02:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 60 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2009, 18:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2009, 05:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว




65307f12pg.JPG
65307f12pg.JPG [ 65.42 KiB | เปิดดู 5277 ครั้ง ]
cool สวัสดีค่ะ คุณบุหลัน..เลื่อนลอย

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2009, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 17:51
โพสต์: 189

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
สิ่งที่ชื่นชอบ: วรรณกรรม
ชื่อเล่น: ป้าโคม่า
อายุ: 54

 ข้อมูลส่วนตัว




01-aa-5403.jpg
01-aa-5403.jpg [ 178.28 KiB | เปิดดู 5238 ครั้ง ]
ปรับตัว ปรับใจ สู้โลกร้อนด้วยวิถีไทย

วิถีไทย เป็นวิถีที่อยู่กับธรรมชาติต้องการชี้ให้เราเห็นถึงที่มาของปัญหาโลกร้อน
และวิธีรับมือกับปัญหานี้ แบบง่ายๆ ด้วยวิถีไทย

เราทุกคนรู้ว่าโลกร้อน แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมโลกร้อน สิ่งที่เราไม่เคยคิดและมองข้ามคือ ใจของเราร้อนกว่าโลก โลกร้อนเพราะเราใจร้อน อยากให้อะไรๆ เป็นอย่างที่ใจฉันต้องการ พอไม่ทันใจ เราก็เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราพยายามที่จะปรับสิ่งรอบตัว ปรับธรรมชาติเข้าหาเรา นี่แหละสาเหตุใหญ่ที่ทำให้โลกร้อน แล้วจะรับมือกับโลกร้อน ด้วยวิถีไทย ได้ยังไง อาจารย์พาไปให้เห็น ให้ดูและฟังเรื่องวิถีไทย บางเรื่องพอรู้ความเป็นมา เป็นไป

Amazing Thailand บรรพบุรุษ คิดได้ยังไงกันนี่...
ยกตัวอย่าง...

ทำไมวันของไทยเป็นวันข้างขึ้น ข้างแรม : เพราะวิถีไทยสัมพันธ์กับน้ำ จากวันข้างขึ้น ข้างแรม เราสามารถคำนวณเวลาน้ำขึ้น น้ำลงได้ รู้เป็นเวลา เป็นนาทีเลย ....เจ๋งใช่ไม๊ล่ะ ^^

ทำไมต้องรู้เวลาน้ำขึ้น น้ำลง : เพราะน้ำขึ้นต้องรีบตัก ไม่ใช่เพราะน้ำลดเดี๋ยวมดจะกินปลานะ ^^’’ แต่เพราะช่วงน้ำขึ้น เป็นช่วงที่น้ำตกตะกอน เราจะได้น้ำที่ใส สะอาดในช่วงนั้น ^^

ทำไมวันพระของไทยถึงเป็น 8 ค่ำ 15 ค่ำ : เพราะช่วง 8 ค่ำ 15 ค่ำ เป็นช่วงเปลี่ยนน้ำ เป็นช่วงที่สัตว์น้ำต่างๆ แพร่พันธุ์ วิถีไทยเราจะไม่หาปลาในวันพระ ทำให้สัตว์น้ำ มีโอกาสได้แพร่พันธุ์...โห ลึกซึ้ง

ทำไมโบสถ์ หอไตร แต่ละที่ แต่ละภาค สร้างไม่เหมือนกัน : เพราะการสร้างต้องดูทิศทางแสง ลม น้ำ เราจะได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มี ...เป็นตัวอย่างที่น่ารักของการปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ

ตลาดนัดเกิดมาได้อย่างไร : เมื่อ ก่อนเราทำไร่ ทำสวน มีกิน ไม่มีอด กินแล้วก็ยังไม่หมด คนไทยเราเลย “นัด” มาเจอกัน เพื่อเอาของเหลือของเรา มาแลกกับของเหลือของเพื่อน แค่นี้เราก็มีของกิน ของใช้ หลากหลาย ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอย่างคุ้มค่า ไม่มีของเหลือทิ้ง

จะ เห็นว่าวิถีไทย เป็นวิถีที่อยู่กับธรรมชาติ ฟังเสียงธรรมชาติ ปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ อยู่แบบพอเพียง หาเท่าที่จะใช้ กินเท่าที่มี แต่เราทุกวันนี้กินทิ้งกินขว้าง หมูกะทะบุฟเฟต์งี้ จ่ายทั้งที ต้องใช้สิทธิ์ให้คุ้ม ตักมา กินไม่หมด เหลือก็ทิ้ง เมื่อ ก่อนเรากินอาหาร พืช ผัก ตามฤดูกาล หน้าฝนกินมะนาว หน้าหนาวกินมะขาม แต่ตอนนี้อยากกินอะไร ตอนไหนก็ต้องได้กิน ลำบากเกษตรกรต้องไปทำ GMO ใช้ปุ๋ย เร่งผล ยาฆ่าแมลง ดินก็เสีย น้ำก็เน่า โลกก็ร้อน..ร้อนๆๆ วัฒนธรรมอาหาร Fast Food เข้ามา เราก็ตามกระแสเค้าไป คอเลสเตอรอลทั้งนั้น ไม่เหมาะกับคนไทย กินมากๆ เจ็บไข้ ต้องไปหาหมอ เสียตังค์อีก บ้านเราเป็นเมืองร้อน เมื่อก่อนเราสร้างบ้านทำใต้ถุนสูง หน้าต่าง ประตูบานใหญ่ ดูทิศทางลม แต่ทุกวันนี้ Victorian Style ตามฝรั่ง เป็นตึก ทึบๆ หายใจไม่ออก ลำบากต้องติดแอร์ หาปอดเทียมให้บ้าน ....แต่ ไม่ได้บอกให้รื้อบ้านสร้างใหม่นะคะ ถ้าบ้านหายใจไม่ออก เราสร้างปอดจริงให้บ้านได้ โดยการปลูกต้นไม้ รอบๆ สร้างร่ม สร้างลมหายใจ

วิถีไทย เป็นวิถีที่รักโลกอย่างที่สุด เพราะ เป็นวิถีแห่งการพึ่งพาอาศัยกัน เน้นปัญญา เน้นความรู้ที่เป็นความรู้ในตัวคน เป็นภูมิปัญญาของเรา สะสมกันมาจากประสบการณ์ ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราใช้ภูมิปัญญาปรับเปลี่ยน ดัดแปลงตามสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ เรารู้จักที่จะฟังเสียงธรรมชาติ เสียงของสิ่งแวดล้อม แล้วปรับตัวเราเองเข้าหา เพื่อที่จะอยู่ในธรรมชาตินั้นๆ อย่างมีความสุขที่สุด

เพราะฉะนั้นอยากมีความสุขในภาวะโลกร้อน (..ขึ้นและร้อนขึ้น) แบบนี้ เราทำได้ง่ายมากๆ คืออยู่แบบพอเพียง ฟังเสียงธรรมชาติ และปรับตัวเราเข้าหา ไม่ได้หมายความว่าให้ไปอยู่ป่า เปลี่ยนจากนุ่งผ้า ไปนุ่งใบตอง แต่หมายถึง ให้อยู่แบบธรรมดา รับมาเท่าที่จะใช้ ใช้สิ่งที่มีให้คุ้มค่า ไม่เหลือทิ้ง

ทำตัวให้เหมือนต้นไม้ ต้นไม้ทำงานด้วยความรัก ทุกส่วนได้อะไรมา จะส่งต่อให้ส่วนอื่นๆ เสมอ ต้นไม้ให้ร่มเงา ให้ลมหายใจ เป็นวิถีแห่งความรัก

ที่สำคัญคือ โลก ไม่ใช่ของเรา เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก เราต้องหัดฟังเสียงของโลก เสียงของธรรมชาติ
เมื่อเราฟัง เราจะเข้าใจ เมื่อเข้าใจจะเกิดความรัก และเราจะรู้จักวิธีที่จะอยู่กับธรรมชาติ กับโลกของเราอย่างมีความสุข

ดังนั้น ใช้ชีวิตให้เป็นใบพฤกษา ไม่ใช่กาฝาก ทำได้แค่นี้ เราก็ช่วยโลกได้บ้างแล้ว
เริ่มที่ตัวเราก่อน ไม่ใช่เพื่อใคร ผลที่ได้จะกลับมาที่พวกเราเอง

.....................................................
รูปภาพ
"จิตที่ให้ย่อมเป็นจิตที่ดี ... จิตที่มีแต่ประชดประชันนั้น ... หาควรแก่การอบอรมสั่งสอนธรรมผู้ใดไม่"


แก้ไขล่าสุดโดย COMA! เมื่อ 26 ก.ย. 2009, 18:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 124

อายุ: 44
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว




5-2006080804.jpg
5-2006080804.jpg [ 192.44 KiB | เปิดดู 5210 ครั้ง ]
"ความลับ" มีจริงหรือ?

ขึ้นชื่อว่า "ค ว า ม ลั บ" ใครเล่าจะไม่เคยมี
คุณมี ผมมี เขามี เธอมี ไม่เชื่อหรอกเหรอ แน่ะ ... ผมพูดจริงๆ นะ

ความลับ ... มันช่างเหมาะกับความอยากรู้อยากเห็นซะจริง
เพราะยิ่งเป็นสิ่งใด เหตุใด เรื่องใด ที่ดูจะเป็นความลับสำหรับคนๆ หนึ่ง
เรื่องใดเรื่องหนึ่ง มันมักจะมีความน่าสนใจในตัวเองแอบแฝงเสมอ
แม้เราจะบอกว่าไม่มีอะไรหรอก แต่ใครเล่าจะเชื่อกันง่ายๆ
ไม่เว้นแม้แต่ผมนี่ล่ะครับ

ท้ อ ง ฟ้ า ก็ไม่เว้นสำหรับการมีความลับเป็นของตัวเอง
ขนาดอยู่ของมันดีๆ ขึ้นตอนเช้า ตกตอนเย็น .. ทำหน้าที่ของตัวเองไป
ไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับตัวมันเองเลย แต่ทำไมก็ยังมีแต่คนคอยเฝ้ามองไม่เว้นวาย
จ้องมันเข้าไป ดูกันเข้าไป และแต่ละคนก็จะบอกว่า สวยงามเหลือเกิน
ใครจะรู้ล่ะ ว่าความสวยงามที่แต่ละคนเอื้อนเอ่ยออกมานั้น มันมาจากพลัง
แห่งความลับของ ภ า พ ที เ ห็ น ต ร ง ห น้ า
มันมีความลับอะไรซ่อนอยู่ และเกี่ยวข้องกับท้องฟ้าอย่างไร ????

หลากผู้คนที่รอคอยยามเย็นมาถึง ... ท้องฟ้า ... พระอาทิตย์ลาลับ
มันช่างเป็นเวลาดีสำหรับการปล่อยความคิดของใครๆ ให้อยู่กับ ที่ ว่ า ง ของมันเหลือเกิน

ค ว า ม ลั บ ... ของการได้เก็บความคิด เรื่องราวดี-ร้ายในที่ของมัน
ค ว า ม ลั บ ... ของการได้นั่งมองโดยไม่ต้องบอกเหตุผล ที่ต่างเก็บไว้เพื่อค้นหา
ค ว า ม ลั บ ... ที่บางครั้งมันอาจจะไม่มี แต่เราก็อยากให้มันมีเหลือเกิน

ท้องฟ้าล่ะ ... คุณมีความลับอะไร ???

ผมตั้งคำถามอีกครั้ง .. แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอยู่ดี
ท้องฟ้าบอกเราไม่ได้ว่าเธอมีความลับอะไร เพราะท้องฟ้าก็ยังทำงานของมัน
อยู่อย่างนั้นเรื่อยไป ไม่แน่ ... เธออาจจะไม่มีความลับอะไรก็ได้
เพราะความลับที่ว่าอาจจะมาจากความคิด ความรู้สึก ของเราคนมองเองก็ได้จริงไม๊ ??

แค่สวยงาม .... ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
แค่โรแมนติก ... ก็ไม่มีอะไรพิเศษอีกเช่นกัน
แค่สงบนิ่ง .... ก็แค่ภาพตรงหน้า ... แค่นั้น

กับภาพตรงหน้า ... คำถามเรื่องความลับยังไม่จบสิ้น ... มันยังมีอยู่เรื่อยไป
แต่ท้องฟ้า มันคงไม่ได้บอกกล่าวเล่าเรื่องให้ใครฟัง เพราะมันก็ยังทำหน้าที่ของมัน
ทุกวันเรื่อยไป สีสัน คงจะเป็นแค่เพียงสิ่งเดียว ที่ทำให้เรารู้ถึงความแตกต่าง
แต่ก็นั่นล่ะ มันจะเป็นการบอกอะไร? ...

ความลับ ที่ไม่ลับ ความลับ ที่ไม่เคยมี ความลับ ที่ใครๆ ต่างก็อยากรู้

มันจะมีจริงไม๊ .... ท้องฟ้า พระทิตย์ บรรยาศยามเย็น บอกเราไม่ได้
เพราะถ้าเพียงแต่เอ่ยเอื้อนออกมาเมื่อใดก็ตาม ... ความลับ มันก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป ...

ปล่อยให้มันเป็นอย่างเดิมดีกว่ามั้ย เพราะมันคงทำให้เราอยากค้นหากันต่อไป ..
เพราะความอยากรู้อยากเห็นในตัวเรา .. ไม่มีวันตาย

ที่มาของเรื่องราวของความลับ ท้องฟ้า อารมณ์ บรรยากาศ พระอาทิตย์
เป็นการเขียนแบบที่เขียนดูแบบตั้งใจกับตัวเองว่าลงมือเขียนแบบไปมันเรื่อยๆ
คือ แบบเริ่มต้นและต้องหาที่จบให้ได้ เขียนไปแล้วไมมีการลบแต่อย่างใด
อารมณ์ของเรื่องเลยอาจจะทำให้สับสนเล็กน้อยว่า เอ แล้วของมันคืออะไร ...

ถ้าหากว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจ งง ... ก็ไม่แปลกหรอกครับ
เพราะมันก็คงถือว่า เป็นความลับของเรื่องที่จะเขียนเช่นกันที่ไม่มีการเฉลยท้าย
แต่ให้คิดต่อเอาเองล่ะครับว่า มันจะยังไง ... เออ เขียนไป อ่านไป ตัวเองก็เริ่มงง
แต่ก็สนุกดี เพราะว่าได้ลองเขียน อะไรที่มันไม่ใช่เรื่องจากตัวเองสักเท่าไหร่เชียว

ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางเส้นทางสายมิตรภาพเส้นนี้ด้วยกันทุกท่าน..ครับ

.....................................................
"อักษรพาใจให้สดชื่น..มิต้องการคำตอบหรือวิจารย์..ดอกหนาเยาว์มาลย์"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1855

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: THAILAND

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley แหมโชคดีจริง ที่ได้เข้ามาอ่าน :b4:
บทกลอนก็ไพเราะ ภาพประกอบก็สวยน่ารักหนักหนา
ขอบคุณสำหรับ สิ่งดีๆ ที่นำมาแบ่งปันให้เพื่อนสมาชิกนะจ๊ะ
เจริญในธรรม สาธุ
แนบไฟล์:
000d000ad4qai0.gif
000d000ad4qai0.gif [ 45.02 KiB | เปิดดู 5215 ครั้ง ]

ให้หมดทั้งใจเลยจ้า....
แนบรูปนี้แล้วนึกถึงเพลงหนึ่งขึ้นมา ตั้งแต่สมัยเป็นละอ่อนน่ะ
ทันไหมจ๊ะ ที่มีคำว่า...เอาไปเลย..เอาไปเล้ย...ใจเราเอาไปได้..เลย

.....................................................
[สวดมนต์วันละนิด-นั่งสมาธิวันละหน่อย]
[ปล่อยจิตให้ว่าง-ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 124

อายุ: 44
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ไพรเพลงพิณรินไหลสายน้ำแก้ว
กังวานแว่วแผ่วพริ้วทิวไม้ไหว
เมโลดี้คีตการธารพฤกษ์ไพร
มวลแมกไม้ไสวช่อล้อลมครวญ

เสียงสายลมพรมสายน้ำร่ำลาเมฆ
สวรรค์เสกวิเวกขับสดับหวล
เพลงสายธารผ่านภูผาฟ้ารัญจวน
เหมือนเสียงสรวลชวนเชิญดำเนินไพร

เหล่าวิหคนกร้องก้องป่ากว้าง
ทั้งลิงค่างบ่างชะนีกวางหมีไก่
ร่วมบรรเลงเพลงธรรมชาติวาดฝันไกล
ทุ้มละไมไพเราะเสนาะทรวง

เพลงใบไม้สายธารลานเขาโขด
เหมือนตัวโน้ตโลดเล่นเส้นสายสรวง
ดุจคนธรรพ์บรรเลงเพลงดาวดวง
เลยลับล่วงหวงแหนแดนพนา

ย้อนอดีตสายน้ำย้ำรำลึก
ในไพรพฤกษ์สายธารผ่านภูผา
เหลือเพียงคำเล่าขานตำนานมา
นับวันป่าร่อยหรอรอพลิกฟื้น

ฤาหมดแล้วสายน้ำแก้วแพรวพิลาส
วิประวาสป่าจ่อมจมข่มใจขืน
ทุกคราวเยือนเตือนย้ำสุดกล้ำกลืน
ใยหน้าชื่นอกตรมชมป่าไทย

เมื่อ 20-30 ปีก่อน
ความเงียบสงัดในป่าดงพงไพร
ได้ไปสัมผัสเมื่อครั้งเดินขึ้นดอย
จึงได้ยลยินเสียงดนตรีธรรมชาติจากป่าเขา
ได้ยินเสียงสายลมพรมสายน้ำ
ไหลรินคล้ายเสียงพิณบรรเลง
กังวานแว่วแผ่วพริ้วกระทบทิวแมกไม้
ไหวระริก ดั่งเพลงใบไม้ทักทายสายลม
ประโลมลูบไล้สายธารที่กำลังร่ำลาก้อนเมฆ
เสียงสายน้ำไหลผ่านลานหิน โขดเขา
ผสมผสานกับเสียงสิงสาลาสัตว์ นกร้อง
กู่ก้องป่า จึงคล้ายกับบทเพลงแห่งธรรมชาติ
เหมือนมีคนธรรพ์มาบรรเลงตามเส้นเสียงตัวโน้ต
เพื่อขับกล่อมป่าเขาให้มีชีวิตชีวา
น้ำตกห้วยแก้ว กลายเป็น อดีตสายน้ำแห่งความทรงจำ
เนื่องจากน้ำตกที่มีอยู่ แห้งสนิทไม่มีน้ำแม้แต่น้อย
พอช่วงฤดูฝนก็มีเฉพาะน้ำที่ไหลเอื่อยๆเท่านั้น
ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
จึงได้ทำน้ำตกเทียม และปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่ม

ขอบคุณไหมแก้วสีฟ้าคราม/ไทยโพสต์

.....................................................
"อักษรพาใจให้สดชื่น..มิต้องการคำตอบหรือวิจารย์..ดอกหนาเยาว์มาลย์"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2009, 02:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




971852068_699b07c0a8.jpg
971852068_699b07c0a8.jpg [ 136.88 KiB | เปิดดู 5208 ครั้ง ]
ไกล.. โพ้นบนเมฆนั้น หลบแสงตะวันขึ้น
เหยี่ยวบนถลาเพียงลำพังกลางสายลม
ข้าได้ยินเสียงร่ำไห้แสนเหงา มันคงเศร้ามากสินะ
บินถลากลางสายลมสงบ เหยี่ยวนั้นบินเพียงลำพัง
กางปีกกว้าง ราวกับโอบฟ้าว่างเปล่า
บินถลากลางสายลมสงบ มิเคยพักผ่อน

สิ่งที่อยู่ในใจข้า มิเคยมีใครล่วงรู้
หัวใจดุจดังเหยี่ยว คือหัวใจที่แสนกล้าแกร่ง
สิ่งที่อยู่ในใจข้า มิเคยมีใครล่วงรู้
เหยี่ยวเหงากลางเวิ้งฟ้าว่าง
ข้าเดินเพียวลำพังตามทางสายเปลี่ยว
มีเพียงตัวข้าเดินเคียงข้างเจ้าอยู่ที่นั้นเสมอ
ข้ารู้สึกได้ถึงความเหงา เจ้าคงเหงามากสินะ
จิ้งหรีดกระซิบกลางทุ่งหญ้ากว้าง
เจ้าเดินอยู่เคียงข้างข้า เดินร่วมทางกับข้า
แต่เจ้ามิเอ่ยสักคำ มิเคยพูดเลย

สิ่งที่อยู่ในใจข้า มิเคยมีใครล่วงรู้
ข้างในดวงใจนี้ มันเดินอยู่เพียงลำพัง
สิ่งที่อยู่ในใจข้า มิเคยมีใครล่วงรู้
ความเศร้าของคนที่ต้องอยู่เพียงลำพัง

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 01:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0a10d09b002.jpg
0a10d09b002.jpg [ 118.86 KiB | เปิดดู 5198 ครั้ง ]
:: หนึ่งท้องฟ้า หนึ่งยามเย็น ::

วันหนึ่ง ... ที่มีความสุขกับการนั่งมองธรรมชาติ
ที่เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนเองก็หลงใหลไม่น้อยเลยกับท้องฟ้ายามเย็น

แม้ว่าจะไม่ได้ลงไปเหยียบ ไปเยือนกับผืนทรายตรงชายหาด
แต่อารมณ์นั้นก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เพราะการได้นั่งมองสีสันบนท้องฟ้า
แดง ดำ ม่วง คราม สลับกันไปมา เหมือนมีคน
กำลังเล่นกลให้เราได้ดูการเปลี่ยนแปลง

ฟ้ายามนี้จะรู้ไม๊ว่า .. ฉั น ห ล ง ใ ห ล เ ธ อ จั ง

If You Leave Me Now - Chicago

If you leave me now, you'll take away the biggest part of me
Uh uh uh uh no baby please don't go
And if you leave me now, you'll take away the very heart of me
Uh uh uh uh no baby please don't go
Uh uh uh uh girl I just want you to stay

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2009, 05:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว




med_2.jpg
med_2.jpg [ 18.76 KiB | เปิดดู 5207 ครั้ง ]
:b47: มองด้วยใจ..เห็นด้วยกรุณา
เมื่อพร้อมที่จะร่วมทุกข์...คือพร้อมจะมองเห็น
ด้วยดวงตาแห่งความกรุณา

:b47: ในโลกแห่งความวิปลาส
เราต่างมองเห็นเพียงเสี้ยวส่วน
ของความจริง “ทั้งหมด”
เราจึงหันหน้าเข้าหากัน
รับฟังความจริงทุกส่วนเสี้ยวที่แตกต่าง
เชื่อมโยงความรู้สึกระหว่างกัน
มากไปกว่าความคิดที่แยกส่วน

:b47: กัลยาณมิตรก่อเกิด
เมื่อความเปลือยเปล่าของดวงใจเผยปรากฎ
ไร้อาภรณ์หรือเกราะกำบังใดๆ
เปราะบางราวแก้วมณีใสกระจ่าง พร้อมจะแหลกสลาย
ร่วมรับรู้ทุกข์ คือร่วมทุกข์
ให้ทุกเสียงความรู้สึกได้แสดงออกอย่างปลอดภัย
ไร้ตัดสินพิพากษา

:b47: ความสิ้นหวัง คือพื้นดินอันปราศจากความคิด
เมื่อสิ้นคิด จึงมองเห็น
ศิโรราบแก่ความไม่รู้
ในความมืดมน อนธการ
เมื่อนั้น
แสงกระจ่างแผ่คลุมเงามืด

:b47: สวรรค์บนดินมีทั่วทุกหย่อมหญ้า
จะสรรหาที่ใดมีทุกสิ่ง
เป็นสวรรค์ของเราชาวดงดิน
ระบือยิ่งสวรรค์อยู่ที่ใจ

ขอใจมั่นกระทำการสิ่งใดคิด
เฝ้าเตือนจิตยึดพระธรรมคำสอนให้
ความสงบคือแก่นอยู่ที่ใจ
ก่อสิ่งใดใฝ่ในรสพระธรรม

:b47: ความสวยงามจากใจมีรอบรอบ
ความสุขชอบมีทุกถิ่นที่สร้างสรรค์
ทุกทุกอย่างสงบสุขเมื่อกระทำ
ความดีนั้นคือธรรมประจำตัว

ในอ้อมกอดของธรรมที่พึงได้
คืออ้อมใจล้อมรักมีทั่วทั่ว
มองทุกอย่างสวยงามไม่หวาดกลัว
ไม่ทำชั่วทำดีมีให้กัน.......

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ARM748~Vietnam-Cantho-on-the-Mekong-River-Posters.jpg
ARM748~Vietnam-Cantho-on-the-Mekong-River-Posters.jpg [ 54.25 KiB | เปิดดู 5175 ครั้ง ]
๏ เลื่อนลอยผ่านม่านฟ้าเวหาหาว
หากครั้งคราวยังกระจายแยกซ้ายขวา
ครั้นเริงลมสมใจครรไลลา
เรียงรายล่องผองนภามาพร้อมเพรียง

ผองแมกไม้ใหญ่น้อยที่คล้อยผ่าน
พลางพบพานครั้งคราวราวส่งเสียง
ซึ่งไพเราะเสนาะล้ำในสำเนียง
เนิ่นนานเพียงดนตรีที่ตรึงใจ

จากดอกไม้พิไลล้ำคราคร่ำต้น
ต่างแยกตนตามฝันอันยิ่งใหญ่
ยลโลกหล้านภาพรหมชมพฤกษ์ไพร
พลัดพรากไกลต้นแม่แม้อาวรณ์

แว่วเพลงหวานผ่านลมแล้วชมชื่น
ช่างดาษดื่นเคว้งคว้างบ้างว้าว่อน
เวิ้งว้างหวิวพลิ้วไหวในอัมพร
พร้อมกลิ่นล้ำกำจรตอนพบพาน

ผองมาลาถลาลมภิรมย์แล้ว
ระเริงลิ่วทิวแถวเนื่องแนวผ่าน
พลางสูดกลิ่นหอมเพลินอย่างเนิ่นนาน
นำเบิกบานสราญใจยามได้ยล

ยิ่งดอกใดใกล้นักจักไขว่คว้า
คงสมค่าสุขใจในอิฐผล
เพื่อดมดอมหอมหวงดั่งดวงกมล
มาดแม้นตนจากไกลใคร่จดจำ

เจ้าคลาดคว้างพลางเคลื่อนเหมือนลาแล้ว
ฤๅแน่แน่วมุ่งนภาฟ้าเลิศล้ำ
ลมนำลิ่วปลิวประหนึ่งซึ่งนาฏกรรม
กรีดกรายนำชื่นชมแสนสมใจ

จนพลัดพรากจากพลันจึงหวั่นจิต
จวบวันคืนฝืนคิดจิตฝันใฝ่
เฝ้ามองหาบุปผชาติเคลื่อนคลาดไกล
ก่อนจากไปยังคะนึงถึงมาลา

ขอบคุณอัลมิตรา/ไทยโพสต์

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2009, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

:b48: สวัสดีวันศุกร์ค่ะ...กัลยาณิตรทุกท่าน :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 01:54
โพสต์: 124

อายุ: 44
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

............"ประสาดิน"............

ใบข้าวพลิ้วเริ่มบรรเลงเพลงชีวิต
พรหมลิขิตกำพืดมาจากนาไร่
ทั้งกองฟางข้าวลอมหลอมดวงใจ
ชีวิตใหม่ฉันคนนี้ที่ปลายนา

ทั้งกลิ่นโคลนสาบควายไม่วายคิด
สาบตมติดตัวตามเต็มมังสา
ไม่ตกแต่งแต้มหัวใจใส่มารยา
จากผืนนานั้นแน่อย่างแท้จริง

แมลงปอล้อลมเล่นก็เห็นสวย
แม้นแพงพวยในผืนนาน่าดูยิ่ง
บัวดอกเล็กเด็กตัวดำน่าขำจริง
รวมทุกสิ่งมีความหมายที่ปลายนา

ของเล่นฉันเมื่อวันก่อนตอนเป็นเด็ก
ม้าก้านกล้วยตัวเล็กและด้อยค่า
เดี๋ยวย่องแย่งแข่งกันเพลินเดินกะลา
เก็บลูกหว้าแบ่งเพื่อนบ้างช่างงดงาม

รถของเล่นเข็นของจำลองจาก
รถกาบหมากรถไม้นุ่นไม้มะขาม
มีดกะเทาะเกาะแกะให้งดงาม
นั่นคือความเป็นฉันนี้ที่ท้องนา

งมหอยโข่งหอยขมตมคละคลุ้ง
เก็บผักบุ้งทอดยอดยาวขาวนักหนา
มีเพื่อนเล่นวิ่งไล่จับตามคันนา
บริสุทธิ์ไร้เดียงสาประสาดิน

.....................................................
"อักษรพาใจให้สดชื่น..มิต้องการคำตอบหรือวิจารย์..ดอกหนาเยาว์มาลย์"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 22:31
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




01oct0812123.jpg
01oct0812123.jpg [ 44.18 KiB | เปิดดู 5125 ครั้ง ]
ในสวนผีเสื้อ

กลางดงดอกไม้นานาพันธุ์

มีผีเสื้อทุกเพศในวัยปีกกระพือล้อสายลม

ผีเสื้อหนุ่มและผีเสื้อสาวต่างสดใสเริงร่า

ขณะล่าน้ำหวาน ณ เกสรแห่งรักจากมวลดอกไม้

ดื่มกินความหวานหอมจากดอกไม้นั้นวนไปยังดอกไม้นี้

ผีเสื้อทุกเพศและทุกสีสร้างคุณอนันต์ผสมพันธุ์ดอกไม้ให้หลากสี

ในสวนผีเสื้อ...ผีเสื้อทุกตัวจึงล้วนมีที่ให้โบกปีกโบยบิน

มนุษย์ใยบังอาจเอาตนไปเปรียบปานผีเสื้อ

ที่ทางเหลือเฟือกลับกีดกันมิให้บางชีวิตมีที่เหยียบยืน

มิอาจหยัดยืนในโลกได้เท่าเทียมกัน

ด้วยอัตตานั้นร้ายกาจทำลายทุกที่ที่ย่างเหยียบ

ผีเสื้อมิได้มีแต่เพศผู้นะเออ

และผีเสื้อทุกเพศต่างต้องอาศัยน้ำหวานจากดอกไม้ดำรงชีวิต

มองดูดี ๆ ผีเสื้อรู้จักการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน

บางที...ผีเสื้อจึงดีกว่าคนมากมายนัก

รึมีใครเถียงว่าไม่จริง ?

.....................................................
รูปภาพ"..ทุกๆ วันเป็นการเริ่มต้นใหม่..และเป็นโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งผิดพลาดในวันวาน..เสมอ.."
"Every day is a new start and a chance to make right what went wrong yesterday."


แก้ไขล่าสุดโดย ผักบุ้ง เมื่อ 13 ต.ค. 2009, 14:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หวัดดีจ๊ะ..ผักบุ้ง...
ฝากรันกระทู้ด้วยนะ...เดี๋ยวก็เก่งจ๊ะ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2009, 14:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 22:31
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




191d.gif
191d.gif [ 55.58 KiB | เปิดดู 5137 ครั้ง ]
หวัดดีค่ะพี่...ดีใจจัง...
บุ้งว่าแนวพี่มันยากจัง... :b2: :b2:

.....................................................
รูปภาพ"..ทุกๆ วันเป็นการเริ่มต้นใหม่..และเป็นโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งผิดพลาดในวันวาน..เสมอ.."
"Every day is a new start and a chance to make right what went wrong yesterday."
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 60 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร