วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 20:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 146 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 10:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b45: ธรรมะ กับ ความรัก :b45:


เป็นการรวบรวมการตอบคำถามเรื่องความรัก ของคุณดังตฤณ รวบรวมโดย คุณกลางชล คัดลอกมาจากเวปลานธรรมค่ะ

- - = = ว่าด้วยเนื้อคู่ และบุพเพสันนิวาส = = - -

:b48: จะรู้ได้อย่างไรว่าใครคนนั้น เป็นคู่บุญ หรือคู่บาป?
"คู่บุญ" มีลักษณะอย่างไร และทำไมจึงได้ "คู่บาป"
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare064.htm

:b48: เนื้อคู่หรือเปล่า?
จะดูได้อย่างไรว่าคนที่เราคบอยู่ใช่เนื้อคู่เราหรือเปล่า
http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001500.htm

:b48: ความรักผ่านอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นได้อย่างไร?
บางคนไม่เคยเจอกันเลย แต่ทำไมแค่คบกันทางเน็ตก็รักกันได้
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare054.htm

:b48: ปิ๊งกันแล้วรู้สึกเหมือนถูกไฟดูดเพราะอะไร
ไปทำบุญร่วมกัน สบตาแล้วเหมือนถูกไฟดูด เป็นสัญญาณจากอดีตชาติหรือเปล่า
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare080.htm (ไปที่คำถามที่ ๔)

:b48: ทำไมจึงผลัดกันรัก ทำไมชายหญิงจึงผลัดกันรัก แต่ไม่เคยพร้อมกันสักที?
ทำไมคู่แต่งงานดูไม่ค่อยเข้ากัน คนสวยมักได้คนไม่หล่อ คนหล่อมักได้ภรรยาไม่สวย
http://dungtrin.com/newsletter/prepare119.htm

:b48: ระหว่างเทพธิดาในฝัน กับนางมารของจริง
ทำไมเทพธิดาในฝันของผู้ชายส่วนใหญ่จึงเหือดหายไปได้รวดเร็ว จะหาพวกเธอได้อย่างไร
http://dungtrin.com/empty2/16.htm

:b48: เนื้อคู่ที่มาจับคู่เกี่ยวพันกันในสังสารวัฏ
จากกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับนิยายเรื่อง ทางนฤพาน
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo. ... .htm?26#26

:b48: ถ้าเราทำบุญมากกว่าคู่ของเรา จะทำให้พลัดพรากจากคู่ของเราหรือไม่
ได้ยินว่าทำบุญมากไปคู่บุญก็ไปไม่ถึง ถ้าเราบุญมากกว่าคู่ จะพลัดพรากกันหรือไม่
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo. ... 52.htm?2#2
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

- - = = อกหัก ผิดหวัง ช้ำรัก = = - -

:b48: ทำไมแสวงหาคนจริงใจแต่ไม่เคยได้เจอ?
ต้องทำบุญอย่างไรถึงจะได้เจอคนจริงใจ
http://dungtrin.com/newsletter/prepare006.htm

:b48: กำลังใจสำหรับคนเพิ่งถูกทอดทิ้ง
เพิ่งถูกแฟนบอกเลิก ทรมานใจเหลือเกิน ไม่มีเขา เราจะอยู่อย่างไร
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare089.htm (ไปที่คำถามที่ ๔)

:b48: เหตุใดจึงอาลัยแฟนบางคนมาก
เลิกกับแฟนแล้วยังอาลัย จะว่าเคยร่วมบุญกัน แต่ก็ไม่เห็นบุญใหม่รักษาสัมพันธ์ไว้ได้
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare103.htm (คำถามที่ ๔)

:b48:กรรมที่ทำให้อยู่ห่างกับแฟนทุกคน
มีแฟนกี่คนก็ต้องอยู่ไกลจากเราเสมอ ไม่เคยได้อยู่ใกล้แบบคู่อื่น ๆ เป็นเพราะอะไร
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare084.htm (ไปที่คำถามที่ ๒)

:b48: คลาดจากคนที่กำลังจะได้เป็นคู่กันอยู่ร่ำไป
กำลังจะไปกันได้ดี ก็มีเหตุเกิดขึ้นก่อนทุกที ทำไมชีวิตรักจึงเจอแต่อุปสรรค
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo. ... .htm?17#17 (ความเห็นที่ ๑๙)

:b48: ผิดหวังจากความรัก จะใช้หลักธรรมอะไรช่วยดี
พอเห็นอะไรที่เคยทำร่วมกันมาก็เศร้ามาก พยายามจะมีสติ แต่ก็ทำไม่ได้
http://larntum.in.th/cgi-bin/kratoo.pl/001415.htm#2

:b48: ในชีวิตเจอแต่รักสามเส้า ทำกรรมอะไรไว้
ในชีวิตชอบเจอแต่รักสามเส้า ไม่ทราบทำกรรมอะไรไว้ และจะแก้ไขได้อย่างไร
http://dungtrin.net/newsletter/viewtopi ... 79&start=9

:b48: ไม่อยากเกี่ยวข้องกันอีกในภพหน้า
ถ้าเราอโหสิเขาแล้ว แต่เขายังไม่เลิกรา จะทำยังไงให้ไม่ต้องเจอกันอีกในภพหน้า
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo. ... .htm?81#81

:b48: จะตัดใจจากคนรักเก่าได้อย่างไร?
ทั้งอ่านหนังสือ สวดมนต์ ทำใจคิดต่าง ๆ นานา ก็วกกับมาคิดอีก จะำทำอย่างไรดี
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare033.htm (ไปที่คำถามที่ ๒)

:b48: วิธีเลิกคิดถึงแฟนเก่าให้เด็ดขาด
เวลาใครพูดถึงแฟนเก่าก็คิดมากขึ้นมาอีก ทั้งที่คล้ายตัดใจได้เด็ดขาดไปแล้ว
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare048.htm


ที่คัดลอกมาเป็นเพียงบางส่วนยังมีอีกหลายหัวข้อที่คุณกลางชล รวบรวมไว้ ไปดูได้ที่

http://larndham.net/index.php?showtopic=24789
รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


- - = = นิยมกิ๊ก นอกใจ ไปชอบแฟนคนอื่น = = - -

:b46: จีบแฟนคนอื่นบาปไหม?
จีบแฟนคนอื่นที่เขายังไม่แต่งงานกันถือว่าบาปไหม?
http://dungtrin.com/newsletter/prepare016.htm (ไปที่คำถามที่ ๓)

:b46: แอบรักแฟนเพื่อน
ฝันถึงแฟนเพื่อน ถ้าเธอเลิกกับแฟนมาหาผม จะผิดศีลข้อกาเมฯ ไหม?
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare104.htm (คำถามที่ ๒)

:b46: การมีชู้ผิดอย่างไรถึงต้องลงนรก
การมีเซ็กซ์ก็แค่การเอากายไปมีอะไรกัน ทำไมการมีชู้จึงต้องมีโทษถึงนรกด้วย?
จะเอาเกณฑ์อะไรไปตัดสินชัด ๆ ว่าเป็นชู้แล้ว ผิดประเวณีแล้ว?
http://dungtrin.com/newsletter/prepare016.htm

:b46: เป็นชู้เลวมากไหม
คบกับคนมีภรรยาแล้ว แต่รู้สึกถึงแรงดึงดูดเกินห้ามใจ
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare105.htm

:b46: เป็นเมียน้อยจะได้รับผลอย่างไร
ในทางธรรมะ การเป็นเมียน้อยถือว่าเลวร้ายขนาดไหน จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไร
http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare071.htm

:b46: แย่งแฟนคนอื่นแล้วสำนึกผิด
เคยแย่งแฟนคนอื่น แต่สำนึกแล้ว จะทำอย่างไร ต้องเจอวิบากอะไรในอนาคตอีกบ้าง
http://dungtrin.net/newsletter/viewtopi ... 70&start=6

:b46: ยุ่งเกี่ยวกับชายอื่นโดยที่สามียินยอม ผู้หญิงบาปไหม
สามีเป็นคนเจ้าชู้ ถ้าผู้หญิงจะขอมีอะไรกับชายอื่นบ้าง แล้วสามียินยอม บาปไหม
http://dungtrin.net/newsletter/viewtopi ... 60&start=2
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

- - = = วิธีรักษาความรักไว้... ให้ยั่งยืน = = - -

:b43: ทฤษฎีทำร้ายคนรัก
ตอนยังไม่รัก อาจมีแก่ใจทำดีกับเขา แต่เมื่อรู้ว่าเขารักเรา เราจะเริ่มอยากทำร้ายเขาทันที!
http://dungtrin.com/empty2/21.htm

:b43: แอร์ไม่เย็นขอหย่า
เครื่องทำความเย็นทางใจ... เรื่องที่คนมักมองไม่เห็นความสำคัญ หรือหาช่างซ่อมไม่ได้
http://dungtrin.com/prepare/mobile/P6.14.htm

:b43: อาการทางจิตของคนมีรัก
รักมีคำเดียว แต่ความหมายของรักนั้น มีได้มากเท่าวิธีเห็นแก่ตัวของแต่ละคน
http://dungtrin.com/empty2/02.htm
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

- - = = ปฏิเสธรักคนอื่น = = - -

:b53: การไม่รับรักคนที่มาติดพัน เป็นบาปหรือไม่
การไม่รับรักคนที่มาติดพัน แล้วปรากฏว่าเขาเสียใจมาก รู้สึกเศร้าใจตาม บาปไหม
http://dungtrin.com/newsletter/prepare032.htm
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

- - = = เมื่อคนปฏิบัติธรรม มีความรัก = = - -

:b44: ปฏิบัติธรรมยังมีความรักได้ไหม?
ปฏิบัติธรรมแล้วยังมีความรักได้ไหม ชีวิตคู่ของผู้ปฏิบัติธรรมควรจะเป็นไปอย่างไร
http://202.44.204.76/narupan/PantipSakajcha02.htm

:b44: อยากปฏิบัติธรรมด้วย แต่ก็ยังอยากมีคนรัก
แปลกไหม ที่ผู้หญิงจะรักการปฏิบัติธรรมด้วย แต่ก็ยังอยากมีคนรักในเวลาเดียวกัน
http://dungtrin.net/newsletter/viewtopi ... 7&start=17

:b44: นักปฏิบัติธรรมเขาจีบผู้หญิงกันอย่างไร
การปฏิบัติธรรมเป็นศัตรูของชีวิตทางโลก แต่ถ้ามาทางนี้ ความโรแมนติกก็คงไม่มี
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/003515.htm

:b44: ขอคำแนะนำเมื่อคู่ไม่ชอบปฏิบัติธรรม
คู่ไม่ชอบปฏิบัติธรรม อาจมีมิจฉาทิฏฐิเพราะเราด้วยซ้ำ จะทำอย่างไรดี
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo. ... 53.htm?2#2
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

และสุดท้าย....
:b47: วาทะดังตฤณ ฉบับความรักหลากสี
http://dungtrin.com/watha_love/

สีสันของความรักในแง่มุมต่าง ๆ รวบรวมจากงานเขียนของ ‘ดังตฤณ’
คัดสรรข้อความสำนวนอันเป็นวาทะ ที่น่าจะสามารถกระตุกความคิดผู้อ่าน
ในมุมมองต่าง ๆ ของความรักได้อย่างตรงใจโดยเฉพาะค่ะ
รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




m202009.gif
m202009.gif [ 189.27 KiB | เปิดดู 5941 ครั้ง ]
อนุโมทนาค่ะ :b8:

มาติดตามอ่านค่ะ :b17:

ชอบอ่านหนังสือของคุณดังตฤณเหมือนกันค่ะ
แต่ยังอ่านไม่ครบทุกเล่มค่ะ :b3:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 09 ก.ย. 2009, 19:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 19:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


ณ มรณา เขียน:
เรามักทำให้คนที่ใส่ใจเราต้องร้องไห้
เรามักร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เคยใส่ใจเรา
และเรามักใส่ใจกับคนที่ไม่มีวันร้องไห้ให้เรา
นี่คือความจริงของชีวิต เป็นเรื่องแปลกแต่จริง
ถ้าเห็นคุณเห็นด้วย มันก็ยังไม่สายเกินแก้.....................!!!!!


:b8: ทั้งรูปภาพและบทความโดนจริง ๆค่ะ ทุกเรื่องล้วน
มีสาระและความจริง แต่อันนี้เป็นกันบ่อย ๆ เห็นด้วยค่ะ
ขอบคุณ คุณ ณ มรณา ที่นำเอาบทความดีดี
มีสาระมาฝาก กัลยาณมิตรในลานธรรมจักร อนุโมทนาสาธุ
ในความเพียรเป็นอย่างยิ่งค่ะ :b8:

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2009, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ตั้งสติ...ชื่อบทความน่ารักดี&มีความหมายดีดีค่ะ
สตินั้น สำคัญนัก...ต้องหมั่นใช้ หมั่นฝึกฝน
มาฝึกสติกันนะคะ
เมื่อถึงเวลาจะได้นำสติที่มีมาใช้ได้ทันเวลา...อย่าพากันประมาท

ขอบคุณเรื่องราวดีดีที่มาเติมพลังมากมายให้กับชีวิตเสมอ
สาธุ สาธุ สาธุนะคะ...ในสิ่งที่คุณหมั่นทำแล้วด้วยดี

เจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งในทางธรรมและในทางโลกนะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

:b51: :b52: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2009, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

tongue ขอบคุณค่ะคุณลูกโป่งสำหรับกำลังใจจากกัลยาณมิตรน้อยผู้น่ารักน้ำใจงาม

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


:b48: ขอเพียงอย่านำดวงใจไปให้ใครเหยียบเล่น :b48:



เมื่อต้องการความสุขที่ยั่งยืน
มาเป็นรางวัลตอบแทนการเกิดมาของชีวิต
เราไม่ควรที่จะให้จิตใจไหลลู่
ตามแรงโน้มถ่วงของอารมณ์
ไม่ควรให้ความรู้สึกที่ติดลบมาเหยียบย่ำชีวิตจิตใจ
แล้วต้องทำให้เราเป็นได้แค่ผู้ยอมจำนน




การเรียกร้องเพื่อได้ครอบครองความสุขแต่ปฏิเสธที่จะอยู่กับความทุกข์
ชื่อว่าเป็นธรรมดาที่เราทุกคนล้วนมีความรู้สึกเช่นนั้น
เพราะเรามักจะคิดว่าความสุข เป็นสิ่งที่ชวนให้เข้าไปสัมผัส
แต่ความทุกข์เป็นสิ่งที่ควรผลักไสออกไปให้ ไกลตัว

แต่ผู้อ่านสังเกตไหมว่า แม้เราจะเกลียดความทุกข์
หรือต้องการหันหน้ามารักกับความสุขมากเพียงใด
แต่หากไม่เข้าใจวิธีสร้างสุขให้เกิดมีแก่ตัวเรา
และไร้วิธีปลดปล่อยความทุกข์ ให้ออกไปไกลตัว
เราก็ยังชื่อว่ามีความทุกข์ที่พร้อมจะทอดเงาไปกับเราอยู่ทุก เมื่อเช่นเคย

ผู้อ่านลองสังเกตต่อไปอีกว่า หลายครั้งที่เราชอบชี้บอกเพื่อให้คนอื่นมีความสุข
แต่หลังฉากของความสุขนั้น เรากลับต้องจมอยู่กับความทุกข์เสียเอง
เป็นประเภทหน้าชื่นแต่อกตรมอย่างน่าสงสาร

ทั้งที่บางครั้งปัญหาที่คนอื่นมองว่าใหญ่หลวงยิ่ง
เรากลับมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่น่าจะก่อให้เกิดความวุ่นวายได้แต่อย่างใด
เพราะเรามองสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยความเข้าใจ
และรู้จักวางใจที่จะทำความรู้จักกับปัญหาอย่างรู้เท่าทัน

ตรงกันข้าม เมื่อวันหนึ่งเราประสบกับปัญหา
ที่ทำให้ความทุกข์มากลุ้มรุ้มจิตใจ
เราเองกลับรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ช่างเป็นเรื่องลำบากที่จะผ่านมันไป
ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นคนอื่นกลับมองว่า มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ด้วยเหตุนี้ การจะแสวงหาความสุขให้เกิดขึ้นกับชีวิตจิตใจของเรา
จึงไม่ใช่ อยู่ที่การสัมผัสแค่ความสุขที่ได้รับเท่านั้น
แต่รวมถึงการทำความรู้จักความ ทุกข์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจอีกด้วย

รูปภาพ


พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่าธรรมชาติของชีวิตนั้น
มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิด ขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป
เมื่อใดที่เราเข้าใจกระบวนการเกิดขึ้นของสิ่ง ต่างๆอย่างรู้เท่าทัน
ไม่หลงประเด็นในเรื่องราวที่ปรากฏ
เราย่อมเกิดปัญญาจากสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นปัญหาเสมอ

แต่สำหรับคนทั่วไป เวลาประสบกับความทุกข์หรือปัญหา
เรามักปฏิเสธที่จะทำความเข้าใจในมัน
โดยอาศัยการเบี่ยงเบนไปที่อื่น เพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์ที่มีอยู่
เพราะเราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่า
ความทุกข์นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้
โดยไม่ต้องลงมือแก้ไขที่จิตใจแต่อย่างใด
เราก็สามารถที่จะผ่านมันไปได้เช่นกัน

รูปภาพ



หลายคนจึงชอบใช้วิธีเลี่ยงความทุกข์ ด้วยการไปทำอย่างอื่นแทน
อาจแสวงหา วัตถุเงินทองเพื่อมาบำบัดให้ทุกข์ทุเลา
เมื่อใช้วิธีหลบเลี่ยงอยู่นานวัน และรู้สึกว่ามันแก้ไขได้
เราจึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้แหละ คือเครื่องมือในการกำจัดทุกข์หรือปัญหาอย่างถาวร
ทำให้เราพลัดหลงจากความจริงที่ควรรับรู้อย่างน่าเสียดาย

เราจึงบ่ายหน้าไปสู่กับดักของความทุกข์
โดยที่เราเองก็ยินดีที่จะเป็นทาสรับใช้
ซึ่งเหมือนกับการนำชีวิตที่มีค่าไปฝากไว้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่า
สุดท้ายเราจึงถูกทำร้ายให้เจ็บช้ำในเวลาต่อมา

ความสุขที่ควรจะเกิดขึ้นแก่เรา จึงเป็นพียงภาพลวงตาที่เราเข้าใจว่ามันใช่เท่านั้น
แม้วันหนึ่งเราอาจต้องการหนีออกไปให้ไกลจากความทุกข์ที่มาคุมขังเรา
ภาพลวงของความร้ายก็มักทำลายคุณค่าหลายๆ อย่างให้หายไปจากเรา
เกินกว่าจะกู้กลับคืนมาได้ดังเดิม

แต่เมื่อเรารู้จักสร้างความเข้าใจให้กับตัวเอง
รู้จักดูแลจิตใจอันเป็นหัวใจหลักของการมีชีวิตอยู่
ด้วยการอาศัยสติมาคอยดูแล
เพื่อให้ทุกอย่างได้ดำเนินไปอย่างเข้าใจ
นั่นชื่อว่าเรากำลังสร้างวิธีให้ใจของเราได้ทำหน้าที่อย่างที่มันควรจะเป็น

เป็นการให้ชีวิตจิตใจของเราได้เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีคุณค่า
เพื่อให้ชีวิตได้เป็นแหล่งพักของสิ่งต่างๆอย่างที่มันควรจะเป็น
โดยให้ใจได้ทำหน้าที่รับรู้สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามา
แล้วทำการแยกแยะสิ่งดี และร้ายให้ออกจากกัน

พร้อมกันนั้น ก็ให้ใจได้เรียนรู้ทั้งด้านบวกและด้านลบของปัญหา
แล้วรู้จักที่จะสร้างปัญญา จากความยุ่งยาก
ที่เคยทำให้ผู้ที่ไร้สติครองน้ำตานองหน้ามาก่อน
ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เพราะรู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ

เมื่อทำได้เช่นนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของชีวิตจิตใจที่เราได้ครอบครอง
ก็พร้อมที่จะแปรขบวนชีวิต ให้เป็นไปในกรอบของความดีงามตามวิถี
ซึ่งช่วยฟ้องให้เรารู้ว่าชีวิตมี ค่าเสมอหากเราเข้าใจมัน


รูปภาพ


พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ
แม้จะถูกล้อมกรอบให้ลุ่มหลงในความเป็นเจ้าฟ้ามหากษัตริย์เพียงใด
แต่พระองค์ ก็ไม่ยอมที่จะให้สิ่งร้ายๆมาครอบครองพื้นที่ชีวิตทั้งหมด

พระองค์ได้เรียนรู้ที่จะฝึกใจให้เข้มแข็ง
ด้วยการหมั่นไตร่ตรองข้อบกพร่องที่มีอยู่
เพื่อให้เห็นความจริงที่ชีวิตควรจะรู้จัก
จนเมื่อการฝึกฝนที่จะออกจากปัญหาสุกงอม
พระองค์จึงเลือกที่จะสละความเป็นเจ้าชาย
แล้วมาอยู่กับเหตุผลของคนธรรมดาที่สามารถบรรลุสัจธรรมในชีวิตได้

เหตุผลหลักที่ทำให้เจ้าชายผู้เคยอยู่สุขสบายในทางโลก
ได้เลือกเปลี่ยนมาอยู่กับความสุขสงบทางธรรม
เพราะพระองค์ได้เรียนรู้ว่า...
ตราบใดที่ชีวิตยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่
แม้วันนี้อาจรู้สึกว่ายังสุขสบายดี แต่หากความสุขนั้นเป็นของปลอม
เราย่อม บ่ายหน้าไปสู่ความทุกข์ในครั้งใหม่เช่นเดิม

แต่หากยอมเหน็ดเหนื่อยในวันนี้
ด้วยการฝืนทวนกระแสความคิดที่มาบังคับเพื่อ หลอกให้เราทำตาม
แม้เบื้องต้นอาจเหนื่อยล้าเพราะถูกปัญหารุมเร้า
แต่เมื่อฝึกฝนจนก้าวผ่านได้ ทุกหยาดเหงื่อของความรู้สึกที่เคยร้อนลน
ย่อมกลายเป็นน้ำฝนที่พร่างพรมลงมาให้เรารู้สึกเย็นใจได้ในทุกครั้งที่สัมผัส

ดังนั้น เมื่อต้องการความสุขที่ยั่งยืนมาเป็นรางวัลตอบแทนการเกิดมาของชีวิต
เราไม่ควรที่จะให้จิตใจไหลลู่ตามแรงโน้มถ่วงของอารมณ์
ไม่ควรให้ความรู้สึกที่ติดลบมาเหยียบย่ำชีวิตจิตใจ
แล้วต้องทำให้เราเป็นได้แค่ผู้ยอมจำนน

แต่เราควรรู้จักเรียนรู้และทนฝืนความรู้สึกที่เป็นการตามใจ
ให้เปลี่ยนมาเป็นความต้องการที่จะฝึกฝืน
เพื่อให้ผ่านความรู้สึกที่เคยชื่นชอบ
ให้มาเป็น ความเข้าใจตามความเป็นจริง
โดยมีสติปัญญาเป็นผู้คอยกลั่นกรองให้เห็นความสงบนิ่งของใจแทน

แล้ววันหนึ่งที่ฝึกฝนจนสอบผ่านเราย่อมมีจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นของตัวเอง
ซึ่งจะเป็นเครื่องนำพาให้เราได้เดินไปสู่ชีวิตที่สงบสุข
และมีความงามของการสร้างสรรค์
ดั่งคนที่ไร้ทุกข์ทางจิตอย่างถาวร

เมื่อถึงวันนั้น ความทุกข์ที่เคยเหยียบย่ำให้เจ็บช้ำ
ก็จะกลายเป็นครูสอนให้ เราฉลาดขึ้น
และทำให้เรากล้าที่จะก้าวข้ามปัญหา
เพื่อไปสู่การเกิดปัญญาชนิดใหม่
ที่จะทำให้เราเป็นผู้ขึ้นไปยืนอยู่เหนือความทุกข์ทั้งปวงได้อย่างสง่างาม

รูปภาพ

รูปภาพ

บางบทจาก...หนังสืออย่านำดวงใจไปให้ใครเหยียบเล่น
โดย: ชุติปัญโญ สำนักพิมพ์ใยไหม

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แก้ไขล่าสุดโดย ณ มรณา เมื่อ 24 ก.ย. 2009, 11:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

คาถากันความทุกข์

เมื่อได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
ให้เสกคาถาว่า “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป”
เมื่อสิ่งเหล่านั้นเสื่อมสิ้นไปจะได้ไม่ทุกข์ใจ
เมื่อประสบกับความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์
ให้เสกคาถาว่า “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป”
จะได้ไม่ทุกข์ทรมานใจ

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 04:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว




f_Cute001m_24a6c06.gif
f_Cute001m_24a6c06.gif [ 64.46 KiB | เปิดดู 5851 ครั้ง ]
:b8: :b27: :b20: :b11:

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

มิตรภาพมีค่า...ขอบคุณค่ะคุณคนไร้สาระและกัลยาณมิตรทุกท่าน
รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สงบในความเรียบง่าย

ถึงวันนี้
ความเรียบง่าย
ปรากฏดุจอาหารที่หลายคนหิว
เพราะห่างหาย
ไม่ได้ดื่มกินมานานเต็มทน

โลกกำลังปรากฏ
ประดุจห้วงจินตนาการซับซ้อน
ของคนฟุ้งซ่านใกล้บ้า
เต็มไปด้วยเรื่องตลกที่น่าเศร้า
กับเรื่องเศร้าที่น่าตลก
ทุกหนแห่งวุ่นวาย
กระทั่งอารมณ์อยากหัวเราะ
แทบแยกไม่ออกจากสีหน้าใกล้ร้องไห้

ความเรียบง่ายตั้งอยู่ตรงหน้า
แต่ยากที่ใครจะชายตาสังเกต
ความราบคาบของแผ่นน้ำเรียบ
ความเงียบเชียบของกลุ่มเมฆขาว
ความวิเวกของเหล่ารวงดาว
ความยืนยาวของทิวไม้ใหญ่
สารพันความเรียบง่ายที่ถูกมองข้าม
จะโทษใครเมื่อไม่สำเหนียกสังเกต

เลิกสังเกต
หรือสังเกตไม่เป็น?

ใจคนถูกฉุดหาย
เข้าไปในจอแก้วและจอเงิน
ตั้งแต่ยังเดินไม่ได้
จนเดินได้
กระทั่งจะไม่ได้เดินอีก
เอาเวลาที่ไหนไปรั้งใจ
ให้กลับคืนมาอยู่กับเนื้อกับตัว
และนั่นเอง
จึงยากนักที่คนจะรู้จักความเงียบ
อันเกิดแต่ใจสงัด
เมื่อใจยากจะสงัดเงียบ
ก็ไม่มีความเรียบง่ายอันใด
เข้ามาอยู่ในใจได้

กระทั่งศรัทธาโดยศิโรราบ
หมอบกราบนิพพานด้วยใจซื่อ
เบื่ออาการพยศแห่งพายุกาม
หมดแรงตามเติมไฟพยาบาท
จึงเริ่มมีแก่ใจ
ตั้งหลักแลตาดูเงี่ยหูฟัง
เห็นสรรพสิ่งประกาศตน
ว่าไม่เคยเป็นของใคร
มีไว้ให้แลตาดูเงี่ยหูฟัง
ด้วยใจเฝ้ารู้
จนกว่าจะเห็นความจริง
จนกว่าจะยินสัจจะ

ความเรียบง่ายมีอยู่แค่นี้
ลมหายใจก็เรียบง่าย
เข้ามาแล้วออกไป
ออกไปแล้วหยุดอยู่
เพียงครู่ก็เข้าใหม่
สังเกตอยู่
ความเรียบง่ายก็ปรากฏ

ความเรียบง่ายมีอยู่แค่นี้
หัวถึงเท้าก็เรียบง่าย
อยู่ในท่าหนึ่งแล้วต้องเปลี่ยนไป
แม้ไม่มีใครอยากให้เปลี่ยน
เป็นท่อนศพค่อยเลิกเปลี่ยน

ความเรียบง่ายมีอยู่แค่นี้
สุขทุกข์ก็เรียบง่าย
วาบสุขแล้วแผ่วหาย
วูบทุกข์แล้วซาลง
จะรบกวนใจได้สักกี่น้ำ
ถ้าใจไม่แส่ไปเอาทุกข์มาอมเอง

ศิโรราบกับความเรียบง่าย
อยู่เพื่อตายอย่างไม่เกิด
ทุกสิ่งเป็นไปเองและหายไปเอง
โดยไม่มีใครเป็นไปและหายไป

รูปภาพ


:b43: คิดจากความว่าง -ดังตฤณ-

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ว่างจากวันวานและวันพรุ่ง

ความวุ่นที่บดบังความว่างอย่างมิดชิดนั้น
สะพัดไปด้วยหมอกควันแห่งจินตนาการ
เรื่องผ่านไปแล้วยังหลอกหลอนวกวน
เรื่องมาไม่ถึงยังรบกวนล่วงหน้า

เราหลุดจากวันวานไม่สำเร็จ
เพียงเพราะมองวันวานเป็นวันนี้
หรือผูกมัดวันนี้ไว้กับวันวาน
ต่อเมื่อทอดมองออกมาจากความว่าง
จึงจะเห็นวันวานล่วงลับแล้ว
ที่เหลืออยู่คือวันนี้
ที่มีจริงคือเดี๋ยวนี้

เราหยุดเห็นภาพลวงตาของวันพรุ่งไม่ได้
เพียงเพราะมองว่าวันพรุ่งคือวันนี้
หรือผูกมัดวันนี้ไว้กับวันพรุ่ง
ต่อเมื่อทอดมองออกมาจากความว่าง
จึงจะเห็นวันพรุ่งยังไม่เกิด
ที่เกิดอยู่คือวันนี้
ที่เป็นจริงคือเดี๋ยวนี้

วันวานคือวัตถุดิบเลอค่าน่าศึกษา
แต่ความฝังใจกับวันวานคือโรคร้ายที่เรื้อรัง
วันพรุ่งคือเป้าหมายจูงใจให้ก้าวเดิน
แต่การกลัดกลุ้มกับวันพรุ่งคือไข้สูงเข้าขั้นเพ้อ
เมื่อใจว่างจากวันวานและวันพรุ่ง
จึงค่อยคิดใช้อดีตให้เป็นประโยชน์
และไม่เกิดโทษเมื่อคิดวางแผนสู่อนาคต



รูปภาพ

:b43: คิดจากความว่าง -ดังตฤณ-

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ว่างจากความยึดมั่น

การมีชีวิต
ไม่อาจคิดแค่สิบแปด
ก่อนสิบแปดต้องเคยแปด
หลังสิบแปดต้องแปดสิบ

ไม่ต้องหยิบดินน้ำไฟลมใส่ชีวิต
ชีวิตก็มีดินน้ำไฟลมประกอบพร้อม
เราไม่ต้องสร้างอะไร
เรามีหน้าที่แค่อ้างว่าของเรา
เราอยากเป็นอย่างนั้น
เราไม่อยากเป็นอย่างนี้
เท่าที่ดินน้ำไฟลมจะประสมให้

มองดิน
เอาให้ได้อย่างดิน
มองน้ำ
เอาให้ได้อย่างน้ำ
มองไฟ
เอาให้ได้อย่างไฟ
มองลม
เอาให้ได้อย่างลม
ดินน้ำไฟลมต่างรวมอยู่ในเรา
ทั้งลมหายใจไออุ่นและเลือดเนื้อ
แต่ดินน้ำไฟลมไม่เคยยึดมั่นในตัวเรา
พวกมันแค่ประชุมรวมกันครู่หนึ่ง
ถึงเวลาก็ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย
มีแต่เราที่เฝ้าดูอยู่ด้วยสายตาเขลาหลง
เห็นการประชุมในปีที่สิบแปดเยี่ยมยอดนัก
เห็นภาวะใกล้สลายตัวในปีที่แปดสิบแย่นักหนา

สรรพสิ่งเหมือนไม้หลักปักขี้เลน
มือของคนโง่เท่านั้นที่กำแน่น
ทั้งรู้ว่าเสาในขี้เลนต้องเอนอ่อน
เปราะบางและอาจพังคามือที่กำเปล่า

ว่างจากความเกาะเกี่ยว
สิ่งเดียวที่เหลือคือการเป็นอิสระ


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


ว่างจากการมองโลกในแง่ร้าย

เรื่องร้ายมีจริง
แต่สิ่งที่ไม่จริง
คือความคิดว่าโลกนี้มีแต่แง่ร้าย

เรื่องร้ายมีให้ระวัง
แต่ถ้าตั้งตาระแวงไปหมด
ก็อดเป็นสุขกับใครเขา

เรื่องร้ายมีไว้ช่วยกันแก้
แย่ที่มีแต่คนบ่น
มีแต่คนนั่งวิจารณ์
มีแต่การด่าคนแก้ไม่สำเร็จ

เป็นวายร้าย
เลี้ยงคนใกล้ตัวให้ร้าย
งอมืองอเท้าเอาแต่ปากร้ายวิจารณ์โลก
แล้วโลกนี้จะมีแง่ร้ายแต่ถ่ายเดียว

เป็นคนดี
เลี้ยงคนใกล้ตัวให้ดี
อย่าปล่อยให้คนดีโดดเดี่ยว
แล้วโลกนี้จะมีแง่ดีให้มองเอง



รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ว่างจากความหลง

ถึงฉลาดขนาดไหน
ถ้างมในความมืดมิด
ก็พลาดผิดได้เสมอ

ในความมืดมิด
คนฉลาดอาจคิดว่าตนรูปงาม
ทั้งที่จริงรูปทรามอย่าบอกใคร

ในความมืดมิด
คนฉลาดอาจคิดว่ากำลังขึ้นสูง
ทั้งที่ถูกจูงไปสู่เหวลึกรำไร

ถ้าสำคัญผิด
ให้คิดเก่งแค่ไหนก็ไม่ถูก
ซ้ำจะผูกปมซับซ้อน
ซ่อนเงื่อนปัญหาเกินแก้

ถ้าสำคัญผิด
ทั้งชีวิตจะวกวน
ต้องจำทนหลงทางไม่รู้จบ
ดีแต่พบเรื่องร้ายไม่รู้เลิก

ในความสว่าง
แม้โง่บ้างอย่างน้อยก็รู้จักหน้าตาตนตามจริง
เมื่อจะต้องดิ่งสู่เหวลึกก็หยุดเสียทันก่อนสาย

เมื่อเห็นถูกเห็นชอบ
แม้ไม่เก่งมากก็ยากจะผูกปมรัดคอตนเอง
ต่อให้พลาดหลงก็คลำหาทางออกจนเจอ

เพื่อออกมาอยู่ในความสว่าง
ต้องรู้จักสละความเคยชินกลางถ้ำ
เพื่อเห็นถูกเห็นชอบ
ต้องรู้จักสละความคิดหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว

ถ้ายังหลงผิด
ไม่มีใครทำผิดได้มากกว่าใคร
เรื่องแย่แค่ไหนก็เกิดขึ้นได้

โมหะคือรากแห่งบาปข้อที่สาม
บุคคลละความหลงได้แล้ว
ย่อมชื่อว่าเป็นผู้กำจัดความมืดจากชีวิต
ไม่ทำผิดซ้ำซากได้มากเท่าเดิม
แยกแยะออกว่าอะไรเป็นคุณอะไรเป็นโทษ
จึงเลือกแต่คุณแล้วละโทษไว้เบื้องหลัง

รู้ว่ากำลังหลง
ดีกว่าหลงว่ากำลังรู้


หลงน้อย
คือเห็นความจริงมาก
และเห็นความว่างมาก

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 146 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร