วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 16:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 10:34
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกคนมีเวลาใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่นานนัก มีเวลาจำกัด
หลายคนโชคดีที่ไม่ทราบแน่ชัดว่า หมดเวลาเมื่อไหร่
ซึ่งไม่ต้องกังวลใจและทุกข์ใจ จนไม่มีเวลาคิดสร้างสรรค์
จึงควรใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์อย่างจริงจังกับตนเองและสังคมด้วย
การสร้างความรู้สึกนึกคิดที่ดี ที่ถูกต้อง สร้างความรู้สึกนึกคิดในทางบวก
เพื่อกระตุ้นพลังสร้างสรรค์ เพราะจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เบิกบานใจ กระตือรือร้น มีกำลังใจ
มีความหวัง เพิ่มพูนพลังกายและจิตที่จะคิดทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อก้าวไปข้างหน้า
และสร้างสรรค์ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ จากพลังสร้างสรรค์และความสุขที่เกิดขึ้น

พลังความคิดสร้างสรรค์ พลังความคิดเชิงบวกหรือพลังความคิดที่ดี
และให้ความสำคัญกับสิ่งดี ๆ มากกว่า ซึ่งส่งผลให้ความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นตามมา
และมีแนวโน้มที่จะทำต่อไป จึงมักมีคำสอนว่า "ควรคิดดี รู้สึกดี และทำดี" แล้วจะเป็นสุข

การสร้างความรู้สึกนึกคิดดี หรือพลังสร้างสรรค์สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ดังนี้;

1. ประสบการณ์ของชีวิต ด้วยการหัดคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าของชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว เหตุการณ์ที่ดี สมหวัง ผิดหวัง สำเร็จ ล้มเหลว เสียใจ เศร้าใจ ล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิตทั้งสิ้น

2. ไม่มีใครในโลกนี้จะได้ทุกอย่างและตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ เศร้า เสียใจ ผิดหวัง สมหวัง ระคนกัน หากมีได้...ก็มีเสีย มีชนะ...ก็มีแพ้ มีสุข...ก็มีทุกข์ และไม่มีสิ่งใดที่ยั่งยืนตลอดไป หรือ ไม่มีสุข...ทุกข์ไหนนิรันดร แต่คนที่มีความรู้สึกนึกคิดเชิงบวกก็จะมองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ไม่ให้ความสำคัญมากนัก และมีความหวังว่าเมื่อเรื่องร้ายผ่านไป เรื่องดีก็จะเข้ามา หรือ "หลังจากฝนตกแล้ว ฟ้าก็จะสว่าง" หรือกำลังใช้กรรม กรรมก็จะเหลือน้อยลง หรือหมดไป แล้วบุญก็จะเข้ามาในชีวิต ชีวิตจะมีความหวังต่อสิ่งดี ๆ ก็จะไม่ท้อแท้ แต่ยังมีความหวังและกำลังใจเพื่อก้าวเดินต่อไป

3. หัดคิดแต่สิ่งดี ทั้งจากตัวเองและผู้อื่น เน้นสิ่งดี สวยงาม และประโยชน์ ควรหลีกเลี่ยง ลด ละ เลิก คิดในทางลบและเลือกคิดแต่สิ่งดี ๆ หรือมุมมองดี ๆ เหมือนการถ่ายถาพ เราจะเลือกแต่มุมดี สวยงาม เพื่อภาพจะได้ออกมาดี ดังที่ท่านพุทธทาสกล่าวว่า

"เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา
จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู
ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
จะหาคนมีดีแต่ส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง"

+++ไปกินข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อให้อีก+++

.....................................................
บริหารกายเจริญวัย บริหารใจเจริญจิต เจริญธรรมเป็นนิจจิตผ่องใส

บำเพ็ญอยู่เสมอไม่เผลอใจ อะไร ๆ ก็จะโปร่งเบาเท่านั้นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ย. 2009, 10:34
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวอย่างที่ 1
เกิดเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
คิดดี ก็ให้คิดว่า ความเจ็บป่วยครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนภัย และได้รักษาก่อนที่จะร้ายแรงกว่านี้ จะได้เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพและใส่ใจ
ให้เวลากับตนเองให้มากขึ้น และมีเวลาพักผ่อนหลังจากที่ตรากตรำมานานจนไม่มีเวลาพัก
เป็นเวลาของการ "ซ่อมแซมสุขภาพ" ที่ใช้มานาน
แม้แต่เครื่องจักรยังต้องเข้าอู่โรงซ่อมเพื่อจะได้แข็งแรงเหมือนเดิม ไว้ใช้งานได้นานต่อไป
หรือมีเวลาชมโลกต่อไปอีกนาน

ตัวอย่างที่ 2
อาหารที่รับประทาน ไม่อร่อย ไม่ถูกปาก
คิดดี จะได้รับประทานไม่มาก ไม่ทำให้ร่างการต้องทำงานหนัก และจะไม่ทำให้อ้วน สุขภาพไม่ดี
ไม่สวยงาม และยังดีที่มีอาหารรับประทาน เพราะยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่อดอยาก หิวโหย
อยู่ทั่วโลก

4. หัดชม ชื่นชม คน สิ่งรอบข้าง ซึ่งมีทั้งบุคคล บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม
หัดเป็นคนมองโลกสวยงาม ชื่นชมธรรมชาติ บุคคล
รวมทั้งขอบคุณตนเองที่คิด รู้สึกและกระทำดี ชื่นชมความสำเร็จ ความงาม ความดีงามของเพื่อน
เจ้านาย ลูกน้อง สมาชิกในครอบครัว หัดชมคนอื่นและตัวเองบ้าง เพราะชมวันละนิดจิตแจ่มใส
หรือเตือนตนว่า วันนี้คุณชมใครแล้วหรือยัง จากการศึกษาพบว่า คนทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มชอบคำชม
หรือกล่าวถึงตนในทางที่ดี และฝึกบอกกับตนเองว่าคิด รู้สึก และทำแต่สิ่งดีเท่านั้น หรือชม ไม่ติติง
ต่อเตียน หรือตำหนิ คำชมทำให้คนพอใจเป็นสุข และเกิดกำลังใจ สร้างความภาคภูมิใจ
เชื่อมั่นในตนเอง และกระตือรือร้น

5. เชื่อมั่นในคุณความดี การทำความดีซึ่งเป็นผลมาจากความคิดดี ไม่คิดชั่วร้าย ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
เป็นเหมือนเกราะกำบังกาย ดังที่ว่า ความดีคือ เกราะคุ้มกันตน หรือ "ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้"
และเหมือนกับเชื่อในกรรมดี คือ "ทำดีได้ดี" กฎแห่งกรรมนั่นเอง หรือ บางครั้งการคิดดีทำให้เราไม่มีศัตรู
คนอื่น ก็จะคิดดีกับเรา หรือเราทำความดีกับใคร อาจไม่ได้เห็นผลกับคนนั้น แต่อาจจะได้รับจากคนอื่นก็เป็นได้ และข้อสำคัญการคิดดีก็ทำให้สบายใจ สมองปลอดโปร่ง เห็นแต่สิ่งสวยงาม เกิดกำลังใจ
กระตือรือร้น ไม่ห่อเหี่ยว หดหู่ หรือการทำให้ "จิตใจผ่องใส" นั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
"หัวใจพระพุทธศาสนา" ที่ว่า ละเว้นชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส และโอกาสที่จะเป็นไปตามความคิดมีมาก ดังที่ว่า

"เราคิดอย่างไร เราก็เป็นอย่างนั้น We are what we think. As we think so we become"
ถ้าเราคิดว่า "เราชนะ" "โอกาสที่จะชนะก็เป็นไปได้"
แต่หากเราคิดว่า "เราพ่ายแพ้" แน่นอน! เราจะพ่ายแพ้"

"จงเพิ่มพลังในตน ด้วยพลังการคิดสร้างสรรค์"

.....................................................
บริหารกายเจริญวัย บริหารใจเจริญจิต เจริญธรรมเป็นนิจจิตผ่องใส

บำเพ็ญอยู่เสมอไม่เผลอใจ อะไร ๆ ก็จะโปร่งเบาเท่านั้นเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร