ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

รากประสาทถูกกดทับ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=31853
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 20 พ.ค. 2010, 11:30 ]
หัวข้อกระทู้:  รากประสาทถูกกดทับ

รูปภาพ


รากประสาทถูกกดทับ

ผู้ทำงานหนัก แบกของเป็นประจำระวัง



สันหลังคนเราประกอบด้วยกระดูกสันหลังชิ้นย่อย ๆ กว่า 30 ชิ้น
เรียงต่อกันเป็นแนวจากต้นคอจรดก้นกบ
ระหว่างกระดูกแต่ละข้อมีแผ่นกระดูกอ่อน
หรือที่เรียกว่า หมอนรองกระดูกสันหลัง
คั่นกลางทำหน้าที่ป้องกันการเสียดสีและเป็นเสมือนโช้คอัพ
เพื่อดูดซับและ กระจายแรงอัด
ภายในโพรงกระดูกสันหลังประกอบไปด้วยไขสันหลัง
และมีเส้นประสาทแยกแขนงจากไขสันหลังไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
เส้นประสาทส่วนต้นสุดที่แยกแขนงออกมาจากไขสันหลังเรียกว่า รากประสาท
ซึ่งจะอยู่ชิดกับหมอนรองกระดูก


เมื่อหมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวก็จะกดทับรากประสาทที่ไปเลี้ยงแขนหรือขา
ทำให้มีอาการปวดเสียวแชะชาของแขนหรือขา
ส่วนรากประสาทที่ถูกกดทับ
มักจะพบบ่อยจากการเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกสันหลัง
บริเวณกระเบนเหน็บหรือบั้นเอว
ทำให้มีการกดทับรากประสาทไซอาติก (Sciatic Narve) ที่ไปเลี้ยงขา
ซึ่งจะพบบ่อยในกลุ่มคนดังนี้:


- ผู้ที่ทำงานหนักโดยเฉพาะผู้ที่แบกของหนักเป็นประจำ

- ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือมีแรงกระแทกบริเวณเอว

- ผู้ที่มีอิริยาบถที่ไม่เหมาะสมในชีวิตประจำวัน

- ผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกเสื่อม


:b48: รากประสาทขาถูกกดทับมีอาการอย่างไร...

- มีอาการปวดหลังบริเวณบั้นเอวหรือกระเบนเหน็บ
ร่วมกับอาการปวดร้าวที่ขา ซึ่งจะปวดจากแก้มก้นลงไปที่ต้นขา
น่องและปลายเท้า

- อาการปวดร้าวที่ขามักจะเป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น
นอกจากในรายที่เป็นมากอาจมีอาการทั้งสองข้าง

- อาการปวดจะเป็นมากขึ้นหลังจากการเดินมาก ๆ
และอาจปวดมากขึ้นเวลาก้ม นั่ง ไอ จาม หรือเบ่งถ่าย

- ในกรณีเป็นมาก เท้าจะไม่มีแรงและชา
อาจปัสสาวะไม่ได้หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
หากปล่อยไว้นานอาจทำให้กล้ามเนื้อขาอ่อนแรงและลีบลง

- ผู้ป่วยไม่สามารถยกเท้าเหยียดตรงได้ 90 องศา
เช่นคนปกติหรือได้น้อยกว่าเท้าอีกข้างหนึ่ง
เนื่องจากรู้สึกปวดเสียวตามหลังเท้าจนทนไม่ได้



:b48: สาเหตุของโรคในทัศนะการแพทย์จีน...

การแพทย์จีนได้จัดโรครากประสาทขาถูกกดทับ
ให้อยู่ในกลุ่มโรคชาและปวดเมื่อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก
ความเสื่อมตามวัยหรือพิษเย็น-ชื้นที่สะสมบริเวณเอว
ทำให้หลอดเลือดและเส้นลมปราณติดขัด
กีดขวางการไหลเวียนของโลหิตและพลังลมปราณจนเกิดอาการปวดขึ้นมา
ซึ่งสอดคล้องกับหลักการวินิจฉัยและรักษาอันสำคัญของการแพทย์จีน
คือ ปวดแสดงว่าไม่โล่ง โล่งแล้วก็จะไม่ปวด
นอกจากนี้ การไหลเวียนของโลหิตและพลังลมปราณบริเวณเอว
ที่ติดขัดจะทำให้เส้นเอ็นกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลัง
ได้รับการหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ พร้อมทั้งไม่สามารถขับพิษเย็น-ชื้น
ที่สะสมและสารพิษต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
จากกระบวนการเมตาบอลิซึมออกไปได้หมดสิ้น
จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่าง ๆ บริเวณกระดูกสันหลังขึ้น



:b48: การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร...

- กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
สลายเลือดคั่งทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตขนาดเล็ก (Microcirculation)
บริเวณกระดูกสันหลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อกระตุ้นการขับสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายข้อ
สารที่ก่อให้เกิดอาการปวด (เช่น สารเบต้าโปรตีน
ไกลโคโปรตีนและฮิสตามีน เป็นต้น)
รวมทั้งกรดแล็กติกที่สะสมอยู่บริเวณรากประสาทออกไปให้มากขึ้น
จึงสามารถลดการระคายเคืองต่อรากประสาท
และบรรเทาอาการปวดบวมได้อย่างเด่นชัด


- การไหลเวียนโลหิตขนาดเล็กบริเวณกระดูกสันหลังที่ดีขึ้น
จะทำให้เส้นเอ็นประสาท กล้ามเนื้อและกระดูกสันหลัง
ได้รับการหล่อเลี้ยงได้มากขึ้นบริเวณที่บาดเจ็บ
จึงได้รับการฟื้นฟูและซ่อมแซมได้เร็วขึ้น


- ปรับลดระดับความรุนแรงของปฏิกิริยาการตอบโต้
จากระบบต่อมไร้ท่อเมื่อรากประสาทขาถูกกดทับ

จึงลดการสร้างและการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายข้อ
พร้อมทั้งลดการหดเกร็งของหลอดเลือดบริเวณที่บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ


- ลดอาการบวมของรากประสาทและบริเวณที่บาดเจ็บ
เพื่อลดแรงดึงภายในเส้นประสาทและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
บริเวณกระเบนเหน็บและบั้นเอว จึงบรรเทาอาการปวดบวม
และฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของเส้นประสาทได้ อย่างเด่นชัด


อาการปวดหลัง อาการปวดร้าวที่ขาและอาการอื่น ๆ
ที่เกิดจากรากประสาทขาถูกกดทับจึงค่อย ๆ ทุเลาลงหรืออาจหายไปในที่สุด


ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
สสส.


:b48: :b8: :b48:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 20 พ.ค. 2010, 17:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รากประสาทถูกกดทับ

รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 20 พ.ค. 2010, 21:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รากประสาทถูกกดทับ

:b8: อนุโมทนาสาธุด้วยครับ :b8:

smiley smiley

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/