วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 15:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 74 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2010, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


orangez เขียน:
วันนี้ก็มีลูกนกเอี้ยงมาตกอยู่หน้าบ้านเหมือนกันเลยค่ะ :b20: คงต้องเลี้ยงเค้าไว้จนกว่าเค้าจะบินเองได้
กระทู้นี้มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ แต่ติดตรงที่เราต้องไปทำงาน คงเอานกไปด้วยไม่ได้ อยากถามคุณเอกอนว่า ถ้าป้อนอาหารเค้าก่อนออกจากบ้าน แล้วกลับมาค่อยให้จะได้ไม๊คะเพราะเราอยู่บ้านคนเดียวไม่มีใครเลี้ยง ขนาดลูกนกเท่ากับเจ้าของกระทู้พอดีเลยค่ะ บังเอิญมากๆเลยนะเนี่ย :b24:


แล้วตอนนี้คุณให้มันกินอะไรคะ ซึ่งคงไม่มีปัญหา
อาหารปลาคราฟเป็น ทางเลือกที่ใช้ได้เลย
คือ ลูกนกมันต้องได้กินเรื่อย ๆ ทั้งวันค่ะ

ที่เคยต้องจำใจเลี้ยง คือเล็กประนี้ พอดีไปค้นหาภาพตัวอย่างมาได้

รูปภาพ

ซึ่งต้องป้อนมันทุก ๆ สองชั่วโมง ไม่เคยเกินกว่านี้
ถ้าวันไหนป้อนช้า เขามีน้ำเสียงโวยวาย
และเขาจะจิกนิ้วเหมือนจะเร่งเราให้ป้อนเร็ว ๆ หน่อย (น่าจับกินซะให้รู้แล้วรู้รอด)

ตอนมื้อเย็นก็ให้ป้อนให้ตุงหน่อย และมีแถมมื้อก่อนนอนด้วย(หนึ่งทุ่ม-สองทุ่ม)

และถ้าต้องท้องกิ่วรอทั้งวัน โหยยยย... ใจจะขาดรอน ๆ

เขาจะร้อง และ จะร้องจนเหนื่อย และเขาจะตะกุยตะกาย
และนี่คือสิ่งที่น่ากลัว เพราะเขาจะหมดแรง และจะกู้คืนยากมาก

นกที่ตกจากรัง ถ้าคนไม่เห็นภายในสี่ชั่วโมง โอกาสรอดก็น้อยแล้ว

ก็คือ พาใส่กล่องใส่รองเท้าไปทำงานด้วยกันเลย

หรือต้องดูว่าเขาสามารถจิกกินเองได้รึเปล่า ถ้าได้จึงจะทิ้งเขาไว้ได้


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 20 มิ.ย. 2010, 21:01, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2010, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีไปคุ้ยได้เรื่องของขี้นกมาฝาก เป็นประโยชน์

ส่วนสีขาวเราเรียกว่า ยูเรต (urate) ซึ่งมีผลึก (crystal) ของกรดยูริกเป็นส่วนประกอบและเป็นผลพลอยได้จากไตของนกนั่นเอง
นอกจากผลึกแล้ว ภายในยูเรตยังมีก้อนอุจจาระ (feces; ของเสียในรูปของแข็ง) ก้อนอุจจาระนี้มักจะแข็งและมีรูปร่างคล้ายหนอนและสีของมันได้มาจากอาหารที่นกกิน สีของอุจจาระอาจจมีสีเขียว (จากเมล็ดพืชและผักสีเขียว) ไปจนถึงสีน้ำตาล (จากข้าวนก (birdseed) สีน้ำตาล)

ถ้านกถ่าย มี Urine ในปริมาณที่มาก นกอาจท้องเสีย นกกินอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำในจำนวนมาก หรือนกอาจดื่มน้ำมาก

ส่วน Feces สีของ Feces จะขึ้นอยู่กับอาหารที่นกปริโภค เช่นหากนกกินอาหารสำเร็จรูปมูลนกจะ มีสีน้ำตาล เมล็ดพืชต่างๆกับผักใบเขียวทำให้มูลมีสีเขียวถึงเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีสีต่างๆก็อาจทำ ให้มูลนกมีสีไปตามผลไม้นั้นได้เช่นกัน

Feces จะมีรูปร่างเป็นหลอดหรือคล้ายตัวหนอนมีความเข้มข้น อาจขดเป็นวงกลมหรือจะแตก เป็นท่อนๆก็ถือว่าปกติครับ

และถ้านกที่อยู่ในระหว่างการกกไข่มักจะกลั้นการถ่ายเป็นระยะเวลานานๆ เมื่อนกถ่ายจะพบว่ามูลนั้น จะมีปริมาณมากและมีกลิ่นแรง ในช่วงเวลาอย่างนี้ถือว่าปกติครับ

ส่วนนกที่อยู่ในอาการเครียด สาเหตุจากการเดินทางหรือตกใจกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ จะถ่ายเหลวมีปริมาณน้ำในมูลมากหรืออาจจะถ่ายเป็นน้ำอย่างเดียว ในช่วงเวลาอย่างนี้ถือว่า เป็นปกติเช่นกันครับ

และที่สำคัญหากพบเมล็ดพืชที่ไม่ย่อยปะปนอยู่ในมูลนก อาจสันนิฐานได้ว่าการทำงานของตับมีปัญหาซึ่งอาจ นำไปถึงเหตุแห่งการเป็นโรคตับ โรคนี้รักษาให้หายได้หากรีบปรึกษาแพทย์ทันทีครับ 5555555555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 11:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รายงาน ...(3)

....ทามะ.....ตาย(อีก)แล้ว
เมื่อประมาณ 9 น. วันนี้

ตอนเช้าจะไปทำงาน ก็ปฏิบัติแบบเดิม คือ เปิดดู

ก็พบทามะ อ้าปา ขอกินจึงป้อนอาหาร 1 เม็ด
เจ้าทามะ กินเม็ดเดียวก็ไม่ขอแล้ว ทำท่าทางเหมือนเคย คือ กลืนอาหารแบบตัวโก่งตัวงอ
จึงเลิกป้อน แต่ก็ดูอีกหลายครั้ง ก็ไม่ขอกิน จึงนำขึ้นรถไปด้วย

ดูอีกหลายครั้ง ทามะ หายใจแบบ อ้าปากหายใจแรง
ครั้งสุดท้ายดูตอนประมาณ 8.30 น. แล้วต้องไปทำงาน

อาการหายใจแบบที่ทามะเป็น ผมเคยเห็นลูกเจี๊ยบก่อนที่มันจะตาย , เรารู้ทันทีว่า ไม่รอดแน่
อาการลักษณะนี้ ส่วนใหญ่ลูกเจี๊ยบจะเป็นหวัดตาย (ซึ่งส่วนใหญ่ลูกเจี๊ยบจะตายเพราะไข้หวัดนี่แหละ)

แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ก็คงต้องปล่อยเป็นไปตามวิบากของแต่ละชีวิต
จึงได้แต่เอากระดาษ และผ้าห่มให้ความอบอุ่น
ก่อนจากกันครั้งสุดท้ายเอานิ้วเกาหัวเบา 3-4 ครั้ง ใจไม่คาดหวังแล้ว

ทำงานเสร็จจึงกลับมาดูอีกครั้ง 9.00 น. , ทามะไม่หายใจแล้ว
ไปดีเถอะนะเจ้าลูกชาย(บังเอิญ)

----------------------------------------------------------------

ทามะ ความจริงเป็นเพียงชื่อ หรือ บัญญัติ ซึ่งผู้อื่นตั้งให้

ส่วนตัวผม ทามะ คือ ทมะ

ทมะ แปลว่า การรู้จักข่มจิตข่มใจตนเอง
ทมะ หมายถึง ความรักในการฝึกฝนตนเอง ความกระตือรือร้นในการเคี่ยวเข็ญฝึกฝนตนเอง อย่างไม่มีข้อแม้เงื่อนไข

ทามะ ทั้ง 2 ได้มีโอกาสเข้ามาแทรกเวลาส่วนหนึ่งอันน้อยนิดของผม แล้วก็ผ่านไป
.......แต่การจากไปของทั้ง 2 หาได้เปล่าประโยชน์แต่อย่างใดไม่

สิ่งหนึ่งที่ชาว "พุทธแท้" ต้องระลึกอยู่เสมอ คือ
การเกิดที่สมบูรณ์ จะต้องมีการตาย ........ นี่เป็นกฎแห่งสามัญลักษณะ
ทำนองเดียวกัน ....... การพบที่สมบูรณ์ จะต้องมีการพลัดพราก

ทามะทั้ง 2 กลายเป็นผู้มีพระคุณของผม
เพราะสอนให้ผมได้เรียนรู้สภาวธรรมที่แท้จริงในเบื้องต้น
ระหว่าง เมตตาแท้ , กรุณาแท้ กับ ตัณหาเปมะ และ อุเบกขา

เมื่อใดก็ตามเรามีจิตเมตตา/กรุณา ขอให้จงดูจิตของตนเองให้ละเอียดว่า
มีตัณหา หรือ ความอยากเจือปนอยู่หรือไม่ , เพราะนั่นคือ "ตัณหาเปมะ"
อย่างไรก็ตาม เมตตาจิต กรุณาจิต เป็นสิ่งที่ควรเจริญให้ยิ่งขึ้นไป , อุเบกขาเป็นตัวปัญญา

ขอบพระคุณ "คุณเอรากอน" อย่างสูง ที่คอยให้คำแนะนำมาโดยตลอด

และขออนุโมทนาในมหากุศลครั้งนี้ด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มิ.ย. 2010, 18:51
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
orangez เขียน:
วันนี้ก็มีลูกนกเอี้ยงมาตกอยู่หน้าบ้านเหมือนกันเลยค่ะ :b20: คงต้องเลี้ยงเค้าไว้จนกว่าเค้าจะบินเองได้
กระทู้นี้มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ แต่ติดตรงที่เราต้องไปทำงาน คงเอานกไปด้วยไม่ได้ อยากถามคุณเอกอนว่า ถ้าป้อนอาหารเค้าก่อนออกจากบ้าน แล้วกลับมาค่อยให้จะได้ไม๊คะเพราะเราอยู่บ้านคนเดียวไม่มีใครเลี้ยง ขนาดลูกนกเท่ากับเจ้าของกระทู้พอดีเลยค่ะ บังเอิญมากๆเลยนะเนี่ย :b24:


แล้วตอนนี้คุณให้มันกินอะไรคะ ซึ่งคงไม่มีปัญหา
อาหารปลาคราฟเป็น ทางเลือกที่ใช้ได้เลย
คือ ลูกนกมันต้องได้กินเรื่อย ๆ ทั้งวันค่ะ

ที่เคยต้องจำใจเลี้ยง คือเล็กประนี้ พอดีไปค้นหาภาพตัวอย่างมาได้

รูปภาพ

ซึ่งต้องป้อนมันทุก ๆ สองชั่วโมง ไม่เคยเกินกว่านี้
ถ้าวันไหนป้อนช้า เขามีน้ำเสียงโวยวาย
และเขาจะจิกนิ้วเหมือนจะเร่งเราให้ป้อนเร็ว ๆ หน่อย (น่าจับกินซะให้รู้แล้วรู้รอด)

ตอนมื้อเย็นก็ให้ป้อนให้ตุงหน่อย และมีแถมมื้อก่อนนอนด้วย(หนึ่งทุ่ม-สองทุ่ม)

และถ้าต้องท้องกิ่วรอทั้งวัน โหยยยย... ใจจะขาดรอน ๆ

เขาจะร้อง และ จะร้องจนเหนื่อย และเขาจะตะกุยตะกาย
และนี่คือสิ่งที่น่ากลัว เพราะเขาจะหมดแรง และจะกู้คืนยากมาก

นกที่ตกจากรัง ถ้าคนไม่เห็นภายในสี่ชั่วโมง โอกาสรอดก็น้อยแล้ว

ก็คือ พาใส่กล่องใส่รองเท้าไปทำงานด้วยกันเลย

หรือต้องดูว่าเขาสามารถจิกกินเองได้รึเปล่า ถ้าได้จึงจะทิ้งเขาไว้ได้



วันนี้น้องนกของเราตายแล้วค่ะ T________T ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำแนะนำ ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


orangez เขียน:
เอรากอน เขียน:
orangez เขียน:
วันนี้ก็มีลูกนกเอี้ยงมาตกอยู่หน้าบ้านเหมือนกันเลยค่ะ :b20: คงต้องเลี้ยงเค้าไว้จนกว่าเค้าจะบินเองได้
กระทู้นี้มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ แต่ติดตรงที่เราต้องไปทำงาน คงเอานกไปด้วยไม่ได้ อยากถามคุณเอกอนว่า ถ้าป้อนอาหารเค้าก่อนออกจากบ้าน แล้วกลับมาค่อยให้จะได้ไม๊คะเพราะเราอยู่บ้านคนเดียวไม่มีใครเลี้ยง ขนาดลูกนกเท่ากับเจ้าของกระทู้พอดีเลยค่ะ บังเอิญมากๆเลยนะเนี่ย :b24:


แล้วตอนนี้คุณให้มันกินอะไรคะ ซึ่งคงไม่มีปัญหา
อาหารปลาคราฟเป็น ทางเลือกที่ใช้ได้เลย
คือ ลูกนกมันต้องได้กินเรื่อย ๆ ทั้งวันค่ะ

ที่เคยต้องจำใจเลี้ยง คือเล็กประนี้ พอดีไปค้นหาภาพตัวอย่างมาได้

รูปภาพ

ซึ่งต้องป้อนมันทุก ๆ สองชั่วโมง ไม่เคยเกินกว่านี้
ถ้าวันไหนป้อนช้า เขามีน้ำเสียงโวยวาย
และเขาจะจิกนิ้วเหมือนจะเร่งเราให้ป้อนเร็ว ๆ หน่อย (น่าจับกินซะให้รู้แล้วรู้รอด)

ตอนมื้อเย็นก็ให้ป้อนให้ตุงหน่อย และมีแถมมื้อก่อนนอนด้วย(หนึ่งทุ่ม-สองทุ่ม)

และถ้าต้องท้องกิ่วรอทั้งวัน โหยยยย... ใจจะขาดรอน ๆ

เขาจะร้อง และ จะร้องจนเหนื่อย และเขาจะตะกุยตะกาย
และนี่คือสิ่งที่น่ากลัว เพราะเขาจะหมดแรง และจะกู้คืนยากมาก

นกที่ตกจากรัง ถ้าคนไม่เห็นภายในสี่ชั่วโมง โอกาสรอดก็น้อยแล้ว

ก็คือ พาใส่กล่องใส่รองเท้าไปทำงานด้วยกันเลย

หรือต้องดูว่าเขาสามารถจิกกินเองได้รึเปล่า ถ้าได้จึงจะทิ้งเขาไว้ได้


วันนี้น้องนกของเราตายแล้วค่ะ T________T ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำแนะนำ ขอบคุณค่ะ


ในรอบ 1 สัปดาห์....น้องนก .....มาสอนธรรมในกระทู้นี้ 3 ชีวิตแล้ว

ขออนุโมทนา ในกุศลกรุณาจิตของคุณorangez ในครั้งนี้ด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: เดี๋ยวเอกอนเล่าให้ฟังบ้างนะ

ตอนที่พ่อเกษียณ ตอนนั้นลูก ๆ ตอนนั้นพี่ชายยังเรียนอยู่ เขารักสถาบันน่ะ เลยอยู่ยาวนิดนึง
เอกอนกำลังหางานทำ ซึ่งตอนนั้นสิ่งที่แม่อยากให้พ่อทำแก้เหงาคือ
คือ แม่เริ่มไปปลูกบ้านอยู่ในชนบท ก็เลยมองการเพาะพันธ์ไก่ชนขาย
จากชีวิตคนเมือง
เอกอนยังค่อนข้างว่างงาน ก็ได้ไปที่บ้านเรื่อย ๆ
ไก่คู่แรกที่ได้มา พ่อเป็นเหลืองหางขาวอายุ 3 ปี ส่วนแม่ไก่ก็มีเหลือง ประดู่ นก
และก็มีหนุ่มหางขาวอีกตัว
ก็สร้างซุ้มให้เขาอยู่แยกกัน เพราะเจ้าโต้งแก่เป็นไก่ชนะสังเวียนใหญ่มา เงินเดิมพันหลักล้าน
แต่น่องหลุด จึงไม่อาจตีได้อีก แต่เป็นพ่อพันธ์ได้
เอกอนก็เริ่มได้เรียนรู้ และสัมผัสมนต์เสนห์ความสง่างามของไก่ชน
เจ้าโต้งทั้งสอง เริ่มช่วยกันผลิตลูกไก่ จาก เจ็ดเป็นสิบ จากสิบเป็นยี่สิบ
ก็มีคนเอาไก่พ่อพันธ์แม่พันธ์มาให้เพิ่มเติม
แต่วันหนึ่ง เจ้าโต้งแก่ก็ตาย คือไก่ตัวผู้เจอกันไม่ได้
แม้จะล้อมรั้วตาขาย แต่วันที่ลมแรงตาข่ายก็รุ่ยมาใกล้กัน
เขาก็ซัดกันตรงตาข่าย เจ้าโต้งแก่ขาติดตาข่ายทำให้ทำอะไรไม่ได้
จึงเป็นฝ่ายถูกตี แต่เลือดของไก่ที่ผ่านการฝึกมาอย่างดี แม้ในสังเวียนที่มันเคยขาหัก
มันก็ไม่กระโดดออกจากสนาม แต่ยังคงสู้ทั้ง ๆ ขาหัก จนอีกฝ่ายตาย
ซึ่งในวันนั้น กว่าคนจะมาเจอและจับแยกมันก็สะบักสะบอม
แต่กระนั้นมันชูคอขันอย่างเต็มเสียง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหยดสุดท้ายของชีวิต
วันนั้น เอกอนก็เดินทางจากกรุงเทพ มาถึงก็มึดแล้ว
ก็กำลังตั้งโต๊ะกินข้าวกันพอดี ชาวบ้าน(เพื่อนบ้าน)ก็ยกอาหารจานพิเศษมา
แต่แม่ก็เฉย ๆ ซึ่งเอกอนก็สงสัยเพราะเห็นเป็นเนื้อไก่ แต่ทำไมแม่ไม่แตะเลย
แม่ก็บอกว่า เนื้อไอ้โต้ง


:b43: :b43: :b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ในวันนั้น สิ่งที่เอกอนได้เรียนรู้ก็คือ วิถีชาวบ้าน

พวกเขาก็กินกันอย่างเป็นปกติ นะ

:b48: :b49: :b48:

นั่นคือครั้งแรกในชีวิตที่เอกอนได้เผชิญหน้ากับคำว่า

วิถีแห่งชนบท วิถีแห่งชนเมือง มุมมองสองด้านมาเจอกัน

เรามองว่า ชาวบ้านเขาทำได้เพราะเขาเลี้ยงสัตว์ไว้กินอยู่แล้ว

แต่เขามองดูสิ่งที่เราเป็น เป็นเรื่องน่าขบขัน
กับการที่เราไม่กินไก่ที่เราเลี้ยง แต่เรากินไก่ที่ซื้อมาจากในตลาด

เขาบอกว่ามันต่างกันตรงไหน เราไม่ได้ฆ่ามันสักหน่อย

:b46: :b47: :b46:

สิ่งที่อยู่ในใจคือไก่ในจาน กับ เจ้าโต้งที่เคยอุ้มเล่น

และ...เอกอนก็หยิบส้อม จิ้มไอ้โต้งและเอาเข้าปาก

:b44: :b53: :b44:

...แล้วนั่งพิจารณาสิ่งที่เกิดในใจ...

:b48: :b49: :b48:

...ธรรมะบนจานไก่...



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:


ในวันนั้น สิ่งที่เอกอนได้เรียนรู้ก็คือ วิถีชาวบ้าน

พวกเขาก็กินกันอย่างเป็นปกติ นะ

:b48: :b49: :b48:

นั่นคือครั้งแรกในชีวิตที่เอกอนได้เผชิญหน้ากับคำว่า

วิถีแห่งชนบท วิถีแห่งชนเมือง มุมมองสองด้านมาเจอกัน

เรามองว่า ชาวบ้านเขาทำได้เพราะเขาเลี้ยงสัตว์ไว้กินอยู่แล้ว

แต่เขามองดูสิ่งที่เราเป็น เป็นเรื่องน่าขบขัน
กับการที่เราไม่กินไก่ที่เราเลี้ยง แต่เรากินไก่ที่ซื้อมาจากในตลาด

เขาบอกว่ามันต่างกันตรงไหน เราไม่ได้ฆ่ามันสักหน่อย

:b46: :b47: :b46:

สิ่งที่อยู่ในใจคือไก่ในจาน กับ เจ้าโต้งที่เคยอุ้มเล่น

และ...เอกอนก็หยิบส้อม จิ้มไอ้โต้งและเอาเข้าปาก

:b44: :b53: :b44:

...แล้วนั่งพิจารณาสิ่งที่เกิดในใจ...

:b48: :b49: :b48:

...ธรรมะบนจานไก่...



สวัสดีครับ คุณเอรากอน

ผมก็มีประสบการณ์ในลักษณะเดียวกัน ที่สำคัญ

.....คนเลี้ยง คนให้อาหาร คนหยอดยา(วัคซีนไข้หวัด)......
.....คนเชือด ......
.....คนถอนขน.....ฯลฯ....
.....คือ.............คน คนเดียวกัน...คนนั่น คือ ผมเองครับ

เป็นกรรมที่ทำไว้เมื่อครั้งยังเด็ก โดยได้รับคำสั่งจากญาติผู้ใหญ่

การที่ได้มาศึกษาธรรมจึงมี โอกาสสร้างแต่กุศล มาเจือจางอกุศลที่เคยก่อไว้

................................................................................

การที่เรา ไม่อย่างกิน ไก่ของเรา ก็นี่ล่ะครับคำว่า "เรา" , "ของเรา"
มันก่อร่างสร้างความวุ่นวายให้สรรพชีวิตมาตลอด
ไม่มีคำว่า "เรา" ก็หมดทุกข์ทันที

นกที่ชื่อทามะ หรือ นกตัวอื่นๆ ตลอดจนสัตว์ทั้งหลายล้วนไม่ใช่ของเรา

วันนี้นอกจาก "ทามะ" และ "เจ้าเอี้ยง" ของน้องorangez
ยังมีนกอีกหลายพันหลายหมื่นทั่วโลกล้มตายกันอีกตั้งมากตั้งมาย

ทั้งโดยน้ำมือมนุษย์ ที่ล่าชีวิตเค้า เพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อใช้เป็นอาหาร...จานเด็ดบ้าง ไม่เด็ดบาง
นกพิราบน้ำแดง นกกระทาอบเกลือ นกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ นกกระจาบทอดกรอบ
และทั้งจากภัยธรรมชาติ หรือแม้แต่การทำร้าย ทำลายกันเองโดยธรรมชาติ

ส่วนใหญ่ต้องตายในขณะจิตเกิดโทสะ เพราะถูกฆ่า , ถูกเบียดเบียน

ส่วน เจ้าทามะ และ เจ้าเอี้ยง ก็ต้องนับว่า.....ตายโดยปราศจากการถูกเบียดเบียน
ตายในขณะที่ได้รับความเเมตตา/กรุณา

มันตายดีกว่าเพื่อนๆ ของมันเยอะ

เจริญธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 18:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว





การเลี้ยงไก่ และ ลูกไก่ ก็เป็นประสบการณ์อีกรูปแบบที่ สนุก และตื่นเต้น
มันคือของใหม่ที่เราต้องเรียนรู้ตลอด
แม่ เอกอน พี่ชาย เราเลี้ยงมันด้วยพื้นฐานของความรู้สึกว่ามันคือสัตว์เลี้ยง
และ นั่นก็คือเรามีความรู้สึกที่ผูกพันธ์กับพวกมันทุก ๆ ตัว

การให้อาหาร การกวาดลานขี้ไก่ และการให้ยาไก่
ฝนตก ลมมา เล้าแตก 5555
ทุกอย่างมันคือ ชีวิตชีวา

แต่เมื่อเห็นเอกอนเดินมา มันจะรีบเข้ามาออ
เพราะรู้ว่ามันจะได้กินของอร่อย เพราะเอกอนชอบสรรหาของอร่อยมาฝากพวกมัน

ชาวบ้านเขาเลี้ยงไก่ เป็นอาชีพ เพราะนั้นเป็นวิถี ความผูกพันธ์ระหว่างเขากับไก่
เป็นไปในลักษณะ สิ่งทำมาหากิน ตัวไหนเก่งก็อาจจะได้ขายไปเป็นไก่ชน
ซึ่งพวกซุ้มต่าง ๆ บางทีเขาก็มาซื้อไก่เพื่อไปเป็นไก่ซ้อม
เลี้ยงเพื่อกินไข่ เลี้ยงเพื่อขายไปเป็นเนื้อ เลี้ยงเพื่อกินเอง
ดังนั้น ไก่ในเล้าของพวกเขา จึงเก่าไปใหม่มา

แต่ไก่ที่บ้าน จากสิบ เป็นยี่สิบ เป็นห้าสิบ เป็นร้อย
ไม่เคยขายเลยสักตัว เพราะใจไม่ให้
ไม่รู้ทำไม รัก หวง ห่วง พวกมันทุกตัว
จนไก่ยั๊วเยี๊ยะเต็มเล้า ชักกลุ้มใจเพราะค่าอาหาร ค่ายามันใช่ย่อย
แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนทนได้ เพราะใจมันผูกพันธ์กับไก่ที่ตนเลี้ยง
และเอกอนก็ชอบมาก ไก่ก็ชอบเอกอน พอเข้าไปมันก็กรูกันเข้ามา
แย่งกันอ้อนแย่งกันให้อุ้มให้กอด แม่ กับ พี่ชายก็เช่นกัน

แต่แล้ววันหนึ่ง นิวคัสเซิล ก็มาเยี่ยมเยือน
แม้จะได้รับยา แต่เราหยุดมันไม่ได้
มันร่วงตาม ๆ กัน ทีละตัว สองตัว สามตัว

ที่เล้ามีไก่ตัวผู้สีขาวปลอดอยู่สี่ตัว ซึ่งแม่ปลื้มมาก มันขาวสะอาดสวย
แม่บอกว่า ตื่นเช้าขึ้นมา แม่ก็เห็นมันร่วงลงไปนอนกองกับพื้น

ไก่ร้อยกว่าตัว เหลือเพียงไม่ถึงสิบตัว เพียงชั่วสามคืน พี่ชายกับแม่ช่วยกันหิ้วไก่ไปฝัง
ตอนนั้นเอกอนได้ทำงานแล้ว พอวันหยุดเอกอนรีบบึ่งไปสวน
จากเล้าที่เคยชุลมุน ทุกอย่างเข้าสู่สภาพ โล่ง เงียบ ... มองแล้วรู้สึก เย็นยะเยือกใจ

:b41: :b46: :b41:



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่เอกอน นำเรื่องไก่มาเล่า

ก็อยากให้ ท่านอิกคิว และ คุณ ออเรจนซ์ วางใจจาก แขกผู้มาเยือนทั้งสาม
การที่มีนกมาตายอยู่ในอุ้มมือเรา ถือเป็นเรื่องปกติ
คือปกติ ทุกอย่างมันเดินเข้าสู่ความตายอยู่แล้ว เพียงแต่จะเป็นในลักษณะไหน
เมื่อไร อย่างไร เท่านั้นเอง

แม่ กะ พี่ชาย เลี้ยงไก่ สมบูรณ์แข็งแรง ร้อยกว่าตัว

แต่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น เหมือนใบไม้ร่วง

กับเจ้านกบางตัว ที่ทุกวันคิดว่ามันไม่น่าจะรอด แต่มันก็ดันรอด

การเรียนรู้ถึงความหวัง และความผิดหวัง หรือการเรียนรู้กับของที่มีลักษณะความเป็นไปได้
สองทาง หรือสองด้านนั้น เมื่อเราเรียนย้ำกับมันครั้งแล้วครั้งเล่าในหลาย ๆ บทเรียน
คำถามที่เกิดในใจเอกอน ตลอดเวลากับการมองโลก ก็คือ ธรรมชาติกำลังจะสอนอะไรให้กับเรา

" ธรรมชาติ มันไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด แต่มันเป็นตามที่มันเป็น "

ธรรม ก็คง เช่นเดียวกันนั่นล่ะ

ธรรม ไม่ใช่สิ่งที่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
แต่ ธรรม คือการตระหนักถึงคำตอบ ทำไมมันถึงใช่ และทำไม่มันถึงไม่ใช่ ทำไม ล่ะ

แล้วมันมีหนทางมั๊ย ที่มันจะไม่เป็นทั้งใช่ และ ไม่ใช่ :b1:


ทุกครั้งที่เราป้อนข้าวนก เรามองจุดหมายปลายทางข้างหน้า ว่ามันจะต้อง...

แต่จริง ๆ แล้ว จุดหมายปลายทางนั้น มันเดินเคียงคู่กับเราตลอดเวลา
มันไม่เคยแซงไปข้างหน้า และมันก็ไม่เคยถอยไปอยู่ข้างหลัง


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 21 มิ.ย. 2010, 20:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
ที่เอกอน นำเรื่องไก่มาเล่า

ก็อยากให้ ท่านอิกคิว และ คุณ ออเรจนซ์ วางใจจาก แขกผู้มาเยือนทั้งสาม
การที่มีนกมาตายอยู่ในอุ้มมือเรา ถือเป็นเรื่องปกติ
คือปกติ ทุกอย่างมันเดินเข้าสู่ความตายอยู่แล้ว เพียงแต่จะเป็นในลักษณะไหน
เมื่อไร อย่างไร เท่านั้นเอง

แม่ กะ พี่ชาย เลี้ยงไก่ สมบูรณ์แข็งแรง ร้อยกว่าตัว

แต่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น เหมือนใบไม้ร่วง

กับเจ้านกบางตัว ที่ทุกวันคิดว่ามันไม่น่าจะรอด แต่มันก็ดันรอด

การเรียนรู้ถึงความหวัง และความผิดหวัง หรือการเรียนรู้กับของที่มีลักษณะความเป็นไปได้
สองทาง หรือสองด้านนั้น เมื่อเราเรียนย้ำกับมันครั้งแล้วครั้งเล่าในหลาย ๆ บทเรียน
คำถามที่เกิดในใจเอกอน ตลอดเวลากับการมองโลก ก็คือ ธรรมชาติกำลังจะสอนอะไรให้กับเรา

" ธรรมชาติ มันไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด แต่มันเป็นตามที่มันเป็น "

ธรรม ก็คง เช่นเดียวกันนั่นล่ะ

ธรรม ไม่ใช่สิ่งที่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
แต่ ธรรม คือการตระหนักถึงคำตอบ ทำไมมันถึงใช่ และทำไม่มันถึงไม่ใช่ ทำไม ล่ะ

แล้วมันมีหนทางมั๊ย ที่มันจะไม่เป็นทั้งใช่ และ ไม่ใช่ :b1:


ทุกครั้งที่เราป้อนข้าวนก เรามองจุดหมายปลายทางข้างหน้า ว่ามันจะต้อง...

แต่จริง ๆ แล้ว จุดหมายปลายทางนั้น มันเดินเคียงคู่กับเราตลอดเวลา
มันไม่เคยแซงไปข้างหน้า และมันก็ไม่เคยถอยไปอยู่ข้างหลัง


ทั้งสาม....จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

แต่มันสอนธรรมเรา....ด้วยชีวิต

......อ่านกระทู้ของ คุณ ออเรจนซ์ ประโยคที่ว่า "คงต้องเลี้ยงเค้าไว้จนกว่าเค้าจะบินเองได้"

จิตใจผมไม่ให้หดหู้ขึ้นมาทันที จากประสบการณ์ที่ได้จากเจ้า ทามะ1

อยากสื่อสารถึงคุณออเรจนซ์ แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะทำให้เสียกำลังใจ

ในขณะเดียวกัน มันก็เตือนว่า เจ้าทามะ2 จะไปเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะรู้อยู่แล้วก็ตกลงมาบนพื้นปูน จากความสูงประมาณ 2 เมตรเศษ ภายในคงบอบช้ำไม่น้อย

ขอบคุณสำหรับธรรม แบบไก่ๆ ครับ

มีเรื่องตลก(ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่) ... แฟนผม "กลัวผี" เจ้าทามะ2

เอาเข้าไป....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Eikewsang เขียน:

......อ่านกระทู้ของ คุณ ออเรจนซ์ ประโยคที่ว่า "คงต้องเลี้ยงเค้าไว้จนกว่าเค้าจะบินเองได้"

จิตใจผมไม่ให้หดหู้ขึ้นมาทันที จากประสบการณ์ที่ได้จากเจ้า ทามะ1

อยากสื่อสารถึงคุณออเรจนซ์ แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะทำให้เสียกำลังใจ



ไม่จำเป็นต้องสื่อสาร การเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

การพลิกเรื่องเศร้าทุกเรื่องให้เป็นเรื่องที่มีคุณค่าในตัวของมัน นั้นสำคัญกว่า

คนเราไม่ได้ต้องการคำเตือน หรือคำปลอบใจ หรือคำใด ๆ มากไปกว่า

ถ้อยคำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราในการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

อิ อิ เป็นงัย วาทะพอจะส่งเข้าประกวดได้ป่าว...



แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 22 มิ.ย. 2010, 00:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2010, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 23:29
โพสต์: 1065


 ข้อมูลส่วนตัว


นู๋ไบกอน เขียน:
" ธรรมชาติ มันไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด แต่มันเป็นตามที่มันเป็น "

ธรรม ก็คง เช่นเดียวกันนั่นล่ะ

ธรรม ไม่ใช่สิ่งที่ ใช่ หรือ ไม่ใช่
แต่ ธรรม คือการตระหนักถึงคำตอบ ทำไมมันถึงใช่ และทำไม่มันถึงไม่ใช่ ทำไม ล่ะ

แล้วมันมีหนทางมั๊ย ที่มันจะไม่เป็นทั้งใช่ และ ไม่ใช่ :b1:


นู๋ไบกอน เขียน:
ไม่จำเป็น การเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

แต่การพลิกเรื่องเศร้าทุกเรื่องให้เป็นเรื่องที่มีคุณค่าในตัวของมันได้นั้น สำคัญกว่า

คนเราไม่ได้ต้องการคำเตือน หรือคำปลอบใจ หรือคำใด ๆ มากไปกว่า

ถ้อยคำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราในการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง


อิ อิ เป็นงัย วาทะพอจะส่งเข้าประกวดได้ป่าว...


:b20: :b4: :b20: :b4: :b20:

ซาบซึ้ง....ซาบซึ้ง จึงมาขออนุโมทนา....

วาทะเช่นนี้้...เห็นที...ชนะเลิศ!!!!
smiley :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 15:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
Eikewsang เขียน:

......อ่านกระทู้ของ คุณ ออเรจนซ์ ประโยคที่ว่า "คงต้องเลี้ยงเค้าไว้จนกว่าเค้าจะบินเองได้"

จิตใจผมไม่ให้หดหู้ขึ้นมาทันที จากประสบการณ์ที่ได้จากเจ้า ทามะ1

อยากสื่อสารถึงคุณออเรจนซ์ แต่ก็ไม่กล้า กลัวจะทำให้เสียกำลังใจ



ไม่จำเป็นต้องสื่อสาร การเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

การพลิกเรื่องเศร้าทุกเรื่องให้เป็นเรื่องที่มีคุณค่าในตัวของมัน นั้นสำคัญกว่า

คนเราไม่ได้ต้องการคำเตือน หรือคำปลอบใจ หรือคำใด ๆ มากไปกว่า

ถ้อยคำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราในการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

อิ อิ เป็นงัย วาทะพอจะส่งเข้าประกวดได้ป่าว...



สาธุ สาธุ สาธุ

จิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 74 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร