ฮานาโกะขออนุญาตพาเข้าครัวนะคะ อิอิ (ชอบง่ะ) 
วันนี้เรามาทำน้ำฟักทองกันเนอะ ตั้งใจทำให้แม่ค่ะ กลัวแม่ขาดสารอาหาร
น้ำฟักทอง สูตรธรรมชาติๆ แบบบ้านๆ
สิ่งที่ต้องมี
๑. ฟักทอง เลือกที่ผิวดูเขียวแก่ๆ ดูภายนอกแข็งๆ
แต่ข้างในมันดีมากเลยล่ะค่ะ ๕๐๐ กรัม (ครึ่งกิโลกรัม)
๒. เกลือป่นเล็กน้อยประมาณ ๑/๒ ช้อนชา
๓. น้ำเปล่า ๐.๕ ลิตร
๔. น้ำตาล รสหวานปะแล่มๆ ใส่ ๑ ทัพพีตักแกง
แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลค่ะ ฟักทองหวานธรรมชาติอยู่แล้ว
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
๑. ทัพพี
๒. หม้อ, หม้อนึ่ง
๓. กระชอน หรือสะดวกใช้เครื่องปั่นก็ได้
วิธีทำ
เตรียมนึ่งฟักทองโดยล้างฟักทองให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ ไม่หนาจนเกินไป
ฮานาโกะนึ่งทั้งเปลือกเลยค่ะ บางสูตรเขาจะให้เราปอกเปลือกก่อน
แต่เปลือกฟักทองก็กินได้ อย่าทิ้งค่ะ เสียดาย อิอิ
ใช้เวลานึ่งประมาณ ๔๐-๖๐ นาทีกำลังดี สุกและนิ่มค่ะ
จากนั้นพักฟักทองให้เย็นลงพอจับได้ ก็ใช้ทัพพีตักเนื้อออกจากเปลือก
ฟักทองนึ่งแล้วนิ่ม ตักเนื้อออกง่ายเลย
และอย่างที่บอก เปลือกอย่าทิ้งค่ะ นี่...กินเล่นเลย
ทำน้ำไป กินเปลือกไป เพลิน
อย่าว่าแต่เปลือก เมล็ดฟักทองที่เราแกะไว้ตอนแรก เรายังไม่ทิ้งเลย
ผึ่งไว้ค่ะ เอาไว้ปลูกได้อีก
กลับมาที่เนื้อฟักทอง
เนื้อฟักทองนิ่มมาก จะทำแบบใดแล้วแต่สะดวก
ถ้าใช้กระชอน ก็เติมน้ำลงไปผสมกับเนื้อแล้วยีเนื้อให้ละเอียดปานกลาง
แล้วตักไปกรองด้วยกระชอน
.บางบ้านก็ไม่ใช้เครื่องปั่นอ่าเนอะ ก็กระชอนไปเลย
ส่วนใครใช้เครื่องปั่น ปั่นรวดเดียวเลย แล้วถ้าชอบเนื้อข้นๆ ก็ไม่ต้องกรอง
แต่ถ้าชอบเหลวหน่อยก็กรองด้วยผ้าขาวบางค่ะ
ส่วนฮานาโกะใช้กระชอนค่ะ คิคิ
จากนั้น ตั้งไฟอ่อน ใส่เกลือ น้ำตาลตามความชอบ
พอเดือดก็เป็นอันเสร็จ ดื่มได้เลยค่ะ ระวังร้อนด้วยนะ
พักไว้ให้เย็นสนิท ตักใส่่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ดื่มได้ ๑-๒ วันค่ะ เพื่อความสดใหม่ อย่าทำเยอะ
อิอิ หมดจอกๆๆ เหน็บฟักทองมาด้วยเพื่อความมั่นใจว่าฟักทองแท้ๆ
คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูงมาก มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง สารสีเหลืองและโปรตีน
ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
เมล็ด มีน้ำมัน แป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน
สรรพคุณ
เมล็ด ขับพยาธิตัวตืด ขับปัสสาวะ และบำรุงร่างกาย
ราก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ถ่อนพิษของฝิ่น
น้ำมันจากเมล็ด บำรุงประสาท
เยื่อกลางผล พอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ
ที่มา : สถาบันการแพทย์แผนไทย
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารสุข : น้ำสมุนไพร 108
บ๊ายบายๆๆ เจอกันใหม่กระทู้หน้าจะมาพาเข้าครัวใหม่ค่ะ คิๆๆ
วันนี้เรามาทำน้ำฟักทองกันเนอะ ตั้งใจทำให้แม่ค่ะ กลัวแม่ขาดสารอาหาร
น้ำฟักทอง สูตรธรรมชาติๆ แบบบ้านๆ
สิ่งที่ต้องมี๑. ฟักทอง เลือกที่ผิวดูเขียวแก่ๆ ดูภายนอกแข็งๆ
แต่ข้างในมันดีมากเลยล่ะค่ะ ๕๐๐ กรัม (ครึ่งกิโลกรัม)
๒. เกลือป่นเล็กน้อยประมาณ ๑/๒ ช้อนชา
๓. น้ำเปล่า ๐.๕ ลิตร
๔. น้ำตาล รสหวานปะแล่มๆ ใส่ ๑ ทัพพีตักแกง
แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลค่ะ ฟักทองหวานธรรมชาติอยู่แล้ว
อุปกรณ์ที่ต้องใช้๑. ทัพพี
๒. หม้อ, หม้อนึ่ง
๓. กระชอน หรือสะดวกใช้เครื่องปั่นก็ได้
วิธีทำ เตรียมนึ่งฟักทองโดยล้างฟักทองให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ ไม่หนาจนเกินไป
ฮานาโกะนึ่งทั้งเปลือกเลยค่ะ บางสูตรเขาจะให้เราปอกเปลือกก่อน
แต่เปลือกฟักทองก็กินได้ อย่าทิ้งค่ะ เสียดาย อิอิ
ใช้เวลานึ่งประมาณ ๔๐-๖๐ นาทีกำลังดี สุกและนิ่มค่ะ
จากนั้นพักฟักทองให้เย็นลงพอจับได้ ก็ใช้ทัพพีตักเนื้อออกจากเปลือก
ฟักทองนึ่งแล้วนิ่ม ตักเนื้อออกง่ายเลย
และอย่างที่บอก เปลือกอย่าทิ้งค่ะ นี่...กินเล่นเลย
ทำน้ำไป กินเปลือกไป เพลิน
อย่าว่าแต่เปลือก เมล็ดฟักทองที่เราแกะไว้ตอนแรก เรายังไม่ทิ้งเลย
ผึ่งไว้ค่ะ เอาไว้ปลูกได้อีก
กลับมาที่เนื้อฟักทอง
เนื้อฟักทองนิ่มมาก จะทำแบบใดแล้วแต่สะดวก
ถ้าใช้กระชอน ก็เติมน้ำลงไปผสมกับเนื้อแล้วยีเนื้อให้ละเอียดปานกลาง
แล้วตักไปกรองด้วยกระชอน
.บางบ้านก็ไม่ใช้เครื่องปั่นอ่าเนอะ ก็กระชอนไปเลย ส่วนใครใช้เครื่องปั่น ปั่นรวดเดียวเลย แล้วถ้าชอบเนื้อข้นๆ ก็ไม่ต้องกรอง
แต่ถ้าชอบเหลวหน่อยก็กรองด้วยผ้าขาวบางค่ะ
ส่วนฮานาโกะใช้กระชอนค่ะ คิคิ
จากนั้น ตั้งไฟอ่อน ใส่เกลือ น้ำตาลตามความชอบ
พอเดือดก็เป็นอันเสร็จ ดื่มได้เลยค่ะ ระวังร้อนด้วยนะ
พักไว้ให้เย็นสนิท ตักใส่่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ดื่มได้ ๑-๒ วันค่ะ เพื่อความสดใหม่ อย่าทำเยอะ
อิอิ หมดจอกๆๆ เหน็บฟักทองมาด้วยเพื่อความมั่นใจว่าฟักทองแท้ๆ
คุณค่าทางโภชนาการ
เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูงมาก มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง สารสีเหลืองและโปรตีน
ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ
ดอก มีวิตามินเอ ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามินซีเล็กน้อย
เมล็ด มีน้ำมัน แป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน
สรรพคุณ
เมล็ด ขับพยาธิตัวตืด ขับปัสสาวะ และบำรุงร่างกาย
ราก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ถ่อนพิษของฝิ่น
น้ำมันจากเมล็ด บำรุงประสาท
เยื่อกลางผล พอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ
ที่มา : สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารสุข : น้ำสมุนไพร 108
บ๊ายบายๆๆ เจอกันใหม่กระทู้หน้าจะมาพาเข้าครัวใหม่ค่ะ คิๆๆ
