18499....ทำบุญด้วยการให้ สบายใจลดขยะ...

ลูกโป่ง

เวลาที่ได้เสื้อตัวใหม่มาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า คุณเอาเสื้อตัวเก่าไปเก็บไว้ไหน
คำถามแสนธรรมดาของเพื่อนคนหนึ่ง ทำให้ผมนึกสะอึกขึ้นมาทีเดียว
เพราะแม้จะไม่ใช่ หนุ่มเมโทรที่ต้องอัปเดตเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ทุกสุดสัปดาห์
แต่ก็ต้องยอมรับครับว่า ผมซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ แทบทุกเดือนเหมือนกัน

หลายครั้งเมื่อเห็นว่าตู้เสื้อผ้าแน่นจนเกินไป ผมมักจะเลหลังเสื้อผ้าเก่า
ที่ไม่ได้ใช้ไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ นานวันเข้าก็หลงลืมไปว่า เคยมีเสื้อตัวนั้นอยู่
และซื้อใหม่เรื่อยๆ ซ้ำร้ายบางตัวซื้อมาแล้วไม่ได้ใส่ก็เคยมี

แม้จะได้ยินเพื่อนหลายคนพูดเข้าหูอยู่บ่อยๆ ว่า นิสัยชอบซื้อเสื้อใหม่
และเก็บเสื้อผ้าเก่าๆ ไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยที่ทำอยู่
ทำให้ปริมาณขยะในบ้านเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ถือเป็นความผิด
สมควรถูกประณามเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่รู้จักคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ
เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติเสื้อผ้าล้นโลก แต่ผมไม่สนใจ

กระทั่งคุณศศิธร ใจกล้า เพื่อนนักข่าวจากตลาดหลักทรัพย์
หนึ่งในกลุ่มนักข่าวที่เข้าร่วมโครงการ “บริจาคสิ่งของเพื่อน้องบนดอย”
ได้เอ่ยปากขอเสื้อผ้าเก่าเพื่อไปบริจาคให้กับเด็กๆ ผู้ยากไร้ตามชนบทต่างๆ
ผมถึงได้คิด เราเอาเปรียบคนอื่นมากไปหรือเปล่า...

“โครงการบริจาคสิ่งของเพื่อน้องบนดอย เกิดจากพี่ๆนักข่าวสายธนาคารแห่งประเทศไทย
และเพื่อนๆ นักข่าวสายตลาดหลักทรัพย์มีความคิดร่วมกันว่าอยากจะทำประโยชน์ให้สังคม
จึงเห็นพ้องต้องกันว่า น่าจะเอาเสื้อผ้าเก่า และของเหลือใช้ในบ้าน
เช่น ตุ๊กตา กระเป๋า สมุด หนังสือ ดินสอ ไปบริจาคให้น้องๆในถิ่นทุรกันดาร
โดยการใช้วิธีบอกต่อไปตามกลุ่มเพื่อนที่ เป็นสื่อด้วยกัน
ให้เก็บรวบรวมของที่ต้องการบริจาคไว้
พอได้ปริมาณมากเราก็จะไปรับมา และนำไปให้น้องๆตามที่ต่างๆปีละครั้ง
ซึ่งปัจจุบันทำมาเป็นปีที่สามแล้ว ผลจากการบอกต่อกันไปเรื่อยๆ
ทำให้ตอนนี้เราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเพื่อนนักข่าวสายอื่นๆ
รวมถึงผู้ใหญ่ใจดีอีกหลายท่าน เห็นถึงความตั้งใจ
ช่วยบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยน้องๆที่ขาดแคลน” ศศิธรเล่า
ก่อนชวน “คุณมีเสื้อผ้าเยอะ เก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไร
เอามาบริจาคดีไหม ได้บุญด้วยนะ”

ฟังเพื่อนพูดยิ่งให้รู้สึกผิด ทั้งที่รู้ว่าขยะในบ้านกว่า 1, 400 ชนิด สามารถนำมารีไซเคิล
และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น กระดาษ พลาสติก ขวดแก้ว
ซึ่งวัสดุเหล่านี้ยังต้องผ่านกระบวนการต่างๆ อีกหลายขั้นตอน
แต่สำหรับเสื้อผ้าเก่าที่กองสุมอยู่เต็มห้อง
แค่เสียเวลาเก็บใส่กล่องแล้วยกมาบริจาค กลับไม่ยอมทำ

“การบริจาคสิ่งของที่เราไม่ใช้แล้ว ให้กับคนที่มีความต้องการมากกว่า
ถือเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรอย่างหนึ่ง นอกจากนั้นยังได้ช่วยลดขยะในบ้าน
เพิ่มพื้นที่ให้ตู้เสื้อผ้า เราอยู่ในเมืองใหญ่ เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วมีไม่น้อยที่เก็บไว้เฉยๆ
ควรเอาไปบริจาค เพราะสำหรับคนที่ขาดแคลนของที่เป็นขยะในตู้เสื้อผ้าของเรา
มีค่ายิ่งกว่าทองคำอีกนะ”

“สำหรับบางคน ที่มักจะใช้ของที่มีอยู่อย่างฟุ่มเฟือย เช่น ปากกา
ดินสอที่เขียนได้นิดเดียว แล้วไม่ชอบก็ทิ้ง หรือสมุดโน้ตที่เขียนไปได้แค่สองสามแผ่น
เบื่อแล้วอยากได้เล่มใหม่ก็ทิ้งไว้เฉยๆ เป็นต้น
ก็อยากให้คิดตระหนักว่า ควรคิดถึงคนไม่มีบ้าง พอเราคิดถึงคนอื่น
เราก็จะรู้จักให้และใช้สิ่งที่มีอยู่อย่างรู้ค่าขึ้นกว่าเดิม” ศศิธรกล่าวทิ้งท้าย

และนั่นก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ผมรีบไปหาซื้อลังกระดาษขนาดใหญ่มาหลายใบ
จัดแจงหยิบเสื้อผ้ากองโตใส่ลงไป แพ็คกล่องอย่างดีเตรียมไว้
รอเวลาให้เพื่อนชื่อศศิธรมารับไปส่งให้ถึงมือน้องๆ
พร้อมกับโทรศัพท์หาเพื่อนๆอีกหลายคนที่เข้าข่ายบ้าซื้อเสื้อผ้า ทำแบบเดียวกันบ้าง

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการบริจาคสิ่งของเพื่อน้องบนดอย
ที่กลุ่มนักข่าวสายตลาดหลักทรัพย์ และสายธนาคารแห่งประเทศไทยทำอยู่นี้
คงจุดประกายให้คุณเก็บสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้ในบ้าน
(ใกล้จะกลายเป็นขยะที่ถูกลืม) ไปบริจาคบ้างนะครับ

คัดลอกจาก...
http://www.cheewajit.com/HealthyGreen/A ... aspx?id=39

:b8:

Duangtip

สาธุๆๆ ค่ะ

กฎการใช้บอร์ด

18499....ทำบุญด้วยการให้ สบายใจลดขยะ...

ผู้ใช้งานขณะนี้


ทั่วไป เว็บธรรมจักร