ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=27817 |
หน้า 25 จากทั้งหมด 29 |
เจ้าของ: | student [ 07 ม.ค. 2015, 01:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
อาการเป็นไข้ไม่สบายเริ่มหายไป ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น ว่ากันในเรื่องนั่งสมาธิ ก่อนนั่งสมาธิ ส่วนตัวมักจะตั้งคำถามไว้ เช่นอะไรหนอเป็นเหตุให้เกิดสัญญาวิปลาส คือ นี่เรานั่นเขา นี่ทุกข์นี่สุข นี่เที่ยงนั่นเที่ยง เมื่อเรากำหนดรู้ เรากำหนดรู้อะไร ถ้าไม่มีบัญญัติคำว่าขันธ์5 เราจะสานต่อธรรมกันได้ไหม ธรรมต่างๆที่ปรากฎขึ้น ก็ปรากฎตามเหตุและปัจจัย ที่เราเห็นนั้น เราไม่ได้มองความจริงของธรรมกันเท่าไหร่ ส่วนมากมักจะถูกบดบังให้เกิดการมองธรรมตามอำนาจกิเลส ก็มักจะตั้งคำถามก่อนนั่งสมาธิ เพื่อปรับหลายๆอย่างระหว่างการนั่งภาวนา ไม่มีความบังเอิญในการรู้ธรรม หากเพราะเกิดความสงสัยจึงนำไปสู่การรู้ธรรม ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | student [ 08 ม.ค. 2015, 23:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
พระคุณของพ่อแม่ ผมเองนั้นพออายุได้3ขวบ คุณพ่อก็ได้แยกจากแม่ไป ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้แม่เป็นคนเดียวที่รับภาระเลี้ยงดูลูก ในวาระสุดท้ายของชีวิตแม่ ได้มีโอกาสอยู่กับแม่จนสิ้นลมหายใจคาอ้อมกอด ผ่านมา20กว่าปีก็ไม่เคยลืมภาพ แต่ถือเป็นภาพแห่งบทเรียน ไม่ใช่ให้เราเข้มแข็งอย้างเดียวหรือลุกขึ้นสู้ชีวิตจากนี้ไปโดยไม่มีแม่ แต่แม่ยังฝากความรู้ให้เราได้พิจารณา ทุกอย่างในโลกล้วนอนิจจัง ผมเองนั้นในส่วนของการฝึกต้องมีการอาศัยสัญญาบ้าง เช่นหลับตานึกภาพกระดูก เลือด หนอง เหล่านี้คือสัญญา แม้กระทั่งความตาย ตั้งแต่เริ่มฝึกก็ได้ใช้สัญญากระดูกและความตายมาโดยตลอด เหล่านี้คือสัญญา ไม่ใช่ธาตุ ถ้าเป็นธาตุเราต้องรู้สึก อย่างธาตุไฟเราต้องรู้สึก ธาตุดินเราต้องรู้สึก ธาตุลมน้ำเราต้องรู้สึกกำหนดได้ กำหนดเป็น ถ้าจะสลับสัญญามากำหนดรู้ธาตุ ก็ต้องเป็นจิต ดูจิต ใช้สติ ดูความเปลี่ยนแปลงของธรรม ถ้าคิดจะเริ่มภาวนากำหนดรู้ต้องดูอารมณ์ ทำอารมณ์ให้เกิดกุศล ถ้าคิดจะใช้สัญญามาเป็นข้อกำหนดต้องเป็นอารมณ์ของกุศลและมรรค คือ ธรรมใดๆล้วนเกิดดับ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา เมื่ออารมณ์เป็นกุศล การนั่งสมาธิวันนั้นจึงเต็มเปี่ยมด้วยพลัง การระลึกถึงคุณพ่อแม่จึงจัดเป็นอารมณ์กุศล ต่อโอกาสหน้สครับ |
เจ้าของ: | student [ 08 ก.พ. 2015, 02:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
ได้นั่งสมาธิดังเช่นทุกวัน คืนนี้ก็นั่งไปเรื่อยๆจนสมาธิดิ่งลงไปเรื่อยๆ แต่ส่วนตัวก็พิจารณาไปเรื่อยๆ สังเกตุไปเรื่อยๆ จนดิ่งลงไปถึงจุดที่ว่าง ผมเองไม่ได้คิดว่าความต้องการลึกๆคือความว่างแบบนี้ เพราะติดพิจารณา แม้สมาธิจะดิ่งจนว่างเหมือนไม่มีอะไรเลยก็สงสัยอยู่ดีว่าเกี่ยวข้องกับการเกิดดับนามรูปในลักษณะใด ปกติผมเองจะกำหนดรู้การเกิดดับนามรูปเป็นปกติทุกเวลาอยู่แล้ว ถ้าถามว่าต่างกันอย่างไร ผมว่าการกำหนดรู้ด้วยสภาวะทุกอริยาบทนั้นมีเหตุมีผลชัดเจนกว่า เรารู้เหตุเกิดของธรรม เรารู้การดับลงของธรรมตามความเป็นจริง ดับลงแล้วรู้ว่าความว่างหรือความสงบนั้นเกิดขึ้นจริง ดับลงแล้วจิตรับรู้อะไร รับรู้สภาวะความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง เป็นอนัตตา ดังนั้นสมาธิที่ดิ่งลึกลงไปจนว่าง ต้องพิจารณาด้วยวิปัสสนาด้วย เป็นการต่อยอดให้เห็นสัจธรรม นั่งไปแล้วปรากฎแสงที่ขาวเป็นจุดแต่เปร่งแสงเป็นทางรอบๆ ก็พิจารณาไปเรื่อยๆว่าด้วยสมาธิที่ดิ่งลงระดับนี้ อาจจะมีนิมิตปรากฎ แต่ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจ เพราะไม่ใช่แนวที่ตัวเองชอบพิจารณา พอปล่อยจิตก็เริ่งจางหาย เลยลองกำหนดอีกก็ปรากฎขึ้นมาใหม่ เป็นอย่างนี้ 3-4 รอบ ทีนี้เหลือการถอนสมาธิ ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ตามครูบาอาจารย์ที่สอน ค่อยๆถอนสมาธิ ทุกอย่างชัดเจนไปหมด แม้แย้มฝีปากก็ชัดเจน ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 08 ก.พ. 2015, 07:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
student เขียน: พระคุณของพ่อแม่ ..... การระลึกถึงคุณพ่อแม่จึงจัดเป็นอารมณ์กุศล ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | student [ 10 ก.พ. 2015, 02:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
คืนก่อน ฝันเห็นหลวงตามหาบัว ฝันเห็นหลวงตาตอนท่านยังอายุน้อย ประมาณช่วงหนุ่ม หลวงตากำลังสนทนาธรรมกับญาติโยมอยู่กุฎิวัด น้ำเสียงดูหนักแน่น เป็นคนพูดเร็ว พูดได้เป็นเรื่องๆ ไม่สะดุด ก็ตื่นขึ้นมารู้สึกชื่นชมบารมีของหลวงตามหาบัว ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | student [ 14 ก.พ. 2015, 01:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
มาชั่งน้ำหนักดูใจ ว่าเราสนใจต่อการปรากฎขึ้นมาของธรรมในรูปแบบใด เช่นวันก่อนที่นั่งสมาธิจนดิ่งสู่ความว่าง มีแสงปรากฎ แล้วสามารถบังคับแสงในหายไปหรือปรากฎขึ้นมาใหม่นั้น หรือสภาวะธรรมที่เกี่ยวข้องกับตนเองเช่น เดิน หยิบ ก้าว ร้อนเย็น หนัก หายใจเข้าออก โสต จักษุ รส กระดูก ผม อวัยวะ ก็ให้น้ำหนักว่า สนใจในสภาวะธรรมที่เกี่ยวข้องกับตนเองมากกว่า คือ ไม่ได้นั่งเพ่งหาแสงหาความว่างแบบวันนั้น นั่งสมาธิหรือสติทั่วไปก็ไม่ได้นึกอยากให้แสงปรากฎ เพราะใจจดจ่อธรรมที่เราภาวนาอยู่แล้วแน่นอนกว่าให้รู้ว่า สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ควรแล้วหรือที่จะยึดมั่นถือมั่น ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | student [ 15 มี.ค. 2015, 03:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
นาน1เดือนที่ผมเองต้องการเข้ามาเขียนประสบการณ์ วันนี้จะคุยกันเรื่องหนังอินเดีย เรื่องพระพุทธเจ้า มหาศาสดาของโลก ดูไปแล้ว2ตอน ทางยูทูป รู้สึกถึงความตั้งใจของหนังเรื่องนี้ ดูทุกคนทุ่มเทให้กับบทบาทที่ตัวเองสวมเป็นตัวละครอย่างดี ฉากต่างๆดูสวยงามและยิ่งใหญ่ ดูแล้วสร้างศัทธาได้เป็นอย่างมาก ที่ศรัทธาอยู่แล้วก็เพิ่มความตั้งใจเอาความศรัทธามาเป็นข้อปฎิบัติได้ดียิ่งขึ้น สงสัยผมเองดูหนังซีรีย์แล้วเก็บไปฝัน ผมฝันว่าตัวเองนั่งเรือข้ามทะเลมุ่งหน้าไปทางทิศอะไรสักอย่างห่างจากทวิปอินเดียออกไป ออกไปเรื่อยๆจนกระทั่งเข้าสู่ดินแดนใหม่ มีภูเขาอันสูงใหญ่ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้า ภาพที่เห็นคือเงาของพระพุทธเจ้าปางนั่งสมาธิ ปกคลุมเทือกเขาทั้งลูก เหมือนแสงสะท้อนจากแผ่นหินเบื้องหน้า ส่งเป็นภาพพระพุทธเจ้าปกคลุมภูเขาไว้ ดูแล้วมหัศจรรย์ใจยิ่งนัก ในความฝันเหมือนไปด้วยกันกับแฟน เขาถามผมว่าเราออกห่างจากอินเดียมากแค่ไหน ผมบอกไม่รู้สิ แต่ที่นี่ไม่น่าจะใช่ประเทศอินเดีย น่าจะเป็นที่ไหนสักแห่ง แต่ไปต่อข้างหน้าไม่ได้ เพราะกระแสน้ำเริ่มไหลแรงและเชี่ยวมากยิ่งขึ้น มองไปข้างหน้าเหมือนเป็นน้ำตกขนาดใหญ่กั้นขวางเรือไว้อยู่ หากไปต่ออาจจะพัดตกลงไปไหนก็ได้ ก่อนจะตื่นรู้สึกว่าใจนั้นจดจ่ออยู่กับภาพพระพุทธเจ้าตรงหน้า ไม่อยากไปไหน อยากมองอยู่อย่างนั้น สุดท้ายก็ตื่นขึ้นมา มีเรื่องเยอะแยะตั้งใจจะเข้ามาเขียน แต่เป็นจังหวะที่ไม่มีคอมและแทปเลท จึงไม่ได้เขียนอะไรเลย พอจะเข้ามาเขียน ก็นึกสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ไม่ออก เพราะว่าไม่ได้เก็บไปคิดข้ามวันนั่นเอง จะสนใจต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นปกติก่อนอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | student [ 12 เม.ย. 2015, 08:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
เรานั่งสมาธิเมื่อคืนกำหนดรู้ธรรมไปเรื่อยๆ ไม่พยายามพิจารณาโดยสัญญา เพราะสัญญานั้นมักจะนำธรรมต่างๆก่อน เช่นบางทีเรากำหนดรู้ เวทนาทางกายต่ำลงไปทางขา สัญญาก็ปรากฎออกมาเป็นขา นำธรรมส่วนที่ต้องการพิจารณาเพราะเราต้องการพิจารณาเวทนาหรือกายหรือมหาภูติ4หรือจิตหรือการตั้งจิตการบังคับการเคลื่อนจิตการพิจารณาการเกิดการพิจารณาการดับการพิจารณาเหตุและการแยกแยะเหตุต่างๆ เนื่องจากนั่งตลอดจึงคุ้นเคยกับธรรมต่างๆแม้ที่แปลกถิ่น อารมณ์นั้นไม่ถือเอาการนั่งเพื่อแข่งขัน เช่นต้องการนั่งจับเวลา ไม่นั่งเพื่อยกตนว่าตนเองนั้นภาวนาเก่ง ธรรมต่างๆเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าจะนั่งจะยืนจะนอนจะทำอะไรธรรมต่างๆก็ปรากฎออกมาเป็นพระไตรลักษณ์อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับเราว่าเราประสงค์จะภาวนาแค่ไหน การภาวนาต้องเป็นไปตามมรรค8จึงจะเรียกว่าภาวนา เช่นเรากำหนดรู้เวทนา แต่เราสงสัยว่าเราภาวนาหรือไม่ ต้องดูที่อารมณ์ตนเองว่าเรามีจุดมุ่งหมายเพื่อการภาวนาหรือไม่ เช่นเราให้อาหานสุนัขข้างถนนนั้นต้องมีจุดมุ่งหมายเสียก่อนคือเมตตา นั่นคือจุดมุ่งหมายที่คล้องจองและเป็นไปตามมรรค8คือไม่ขัดแย้งกันนั่นเองครับ ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | student [ 19 เม.ย. 2015, 07:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
มานั่งคิดถึงความหมายในสองคำนี้คือ -กำหนดรู้ปัจจุบันอารมณ์ -ดำรงตนกำหนดรู้ธรรมเฉพาะหน้า สองคำนี้อาจมีความหมายที่ละเอียดลึกซึ้งลงไป ว่าปัจจุบันมีความหมายอย่างไรกันแน่ หรือธรรมเฉพาะหน้านั้นทำได้แค่ไหน อย่างไรก็ดี ความหมายโดยรวมแล้วคือตั้งสติ ตั้งใจ ชอบความหมายไหนก็คือความตั้งใจทำให้เกิดปรากฎนั้นเอง |
เจ้าของ: | suttiyan [ 21 เม.ย. 2015, 09:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
ปัจจุบันอารมณ์ เช่น ชอบ ชัง เฉย เป็นผลจากจิตเผลอนำเรื่องในอดีต หรือคำนึงถึงอนาคต มาปรุงแต่งจนเกิดเป็นอารมณ์ดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนของนามธรรม สำหรับการรู้เฉพาะหน้ามีความหมายกว้างและลึกกว่า โดยทั้งรูปธรรมและนามธรรม ทั้งภายนอกและภายใน สำหรับภายในระดับลึกเป็นลักษณะพลังงานที่คลายออกระดับเซลส์ ส่วนของจิตก็เป้นการคลายระดับจิตใต้สำนึก เป็นการลอกเจตสิกออกจากจิต |
เจ้าของ: | student [ 23 เม.ย. 2015, 13:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
suttiyan เขียน: ปัจจุบันอารมณ์ เช่น ชอบ ชัง เฉย เป็นผลจากจิตเผลอนำเรื่องในอดีต หรือคำนึงถึงอนาคต มาปรุงแต่งจนเกิดเป็นอารมณ์ดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนของนามธรรม สำหรับการรู้เฉพาะหน้ามีความหมายกว้างและลึกกว่า โดยทั้งรูปธรรมและนามธรรม ทั้งภายนอกและภายใน สำหรับภายในระดับลึกเป็นลักษณะพลังงานที่คลายออกระดับเซลส์ ส่วนของจิตก็เป้นการคลายระดับจิตใต้สำนึก เป็นการลอกเจตสิกออกจากจิต |
เจ้าของ: | student [ 23 เม.ย. 2015, 14:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
ขอขอบคุณท่าน suttiyan ที่เข้ามาขยายความหมายของปัจจุบันอารมณ์ และธรรมเฉพาะหน้า วันนี้อยากจะเล่าประสบการณ์ที่แปลกของผมเอง ปกติที่นั่งสมาธิทุกๆวันนั้น จะสังเกตุเห็นตัวเองระหว่างนั่งและวินาทีที่ลืมตาจากสมาธิ ระหว่างนั่ง จะสังเกตุว่าจู่ๆก็ตกภวังค์อย่างแรง การปรากฎขึ้นมาอย่างเช่น เส้นกระตุกขึ้นมาอย่างแรง ไม่ใช่ครั้ง2ครั้ง เป็นมาได้เกือบทุกๆครั้ง และวินาทีที่ถอนจากการนั่งสมาธิ ลืมตาขึ้น จะเหมือนว่า งงตัวเองว่าตัวเองอยู่ที่ไหน บางทีหลงทิศ จำไม่ได้ว่าตัวเองหันหน้าไปทางไหนของเตียงนอน บางทีดูฝาผนัง กลับนึกไม่ออกว่าเป็นที่ไหน หรือไม่คุ้นสถานที่ไปเลย ไม่ใช่แค่ครั้ง2ครั้ง แต่เป็นเกือบทุกครั้งที่นั่งสมาธิ มีเรื่องแปลกอีกหลายๆอย่าง เช่น นั่งสมาธิเกือบทุกครั้ง จะรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่บริเวณใส้ติ่งเด่นชัดขึ้นมา ไม่ใช่แค่ครั้ง2ครั้ง แต่เป็นมาตลอดเกือบทุกๆวัน แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อจิตใจผม ตรงกันข้าม กลับทำให้ผมดึงธรรมขึ้นมาพิจารณาถึงความไม่เที่ยงของสัญญาขันธ์ ลืมสถานที่ที่พึ่งนั่งได้ไม่ถึงชั่วโมง ต่อโอกาสหน้าครับ |
เจ้าของ: | walaiporn [ 25 เม.ย. 2015, 19:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
กำหนดรู้ปัจจุบันอารมณ์ หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นจาก ผัสสะ เป็นเหตุปัจจัย ดำรงตนกำหนดรู้ธรรมเฉพาะหน้า หมายถึง ผัสสะ |
เจ้าของ: | walaiporn [ 25 เม.ย. 2015, 19:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
student เขียน: เมื่อเรากำหนดรู้ เรากำหนดรู้อะไร ถ้าไม่มีบัญญัติคำว่าขันธ์5 เราจะสานต่อธรรมกันได้ไหม จะรู้หรือไม่รู้เกี่ยวกับขันธ์ ๕ สภาพธรรมต่างๆ ย่อมดำเนินไปตามเหตุและปัจจัย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเรา ที่มีต่อผัสสะ พระราธะ http://www.dharma-gateway.com/monk/grea ... -ratha.htm |
เจ้าของ: | walaiporn [ 25 เม.ย. 2015, 20:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฏิบัติค่ะ |
พิชัยสงครามอันยอดเยี่ยม สมณพราหมณ์เหล่านั้นทุกจำพวก ถูกต้องๆ แล้วด้วยผัสสายตนะทั้ง ๖ ย่อมเสวยเวทนา เพราะเวทนาของสมณพราหมณ์เหล่านั้น เป็นปัจจัยจึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัยจึงเกิดอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยจึงเกิดภพ เพราะภพเป็นปัจจัยจึงเกิดชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงเกิด ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด ภิกษุรู้ชัดตามความเป็นจริง ซึ่งความเกิด ความดับ คุณและโทษ แห่งผัสสายตนะทั้ง ๖ กับทั้งอุบายเป็นเครื่องออกไปจากผัสสายตนะเหล่านั้น เมื่อนั้น ภิกษุนี้ย่อมรู้ชัดยิ่งกว่าสมณพราหมณ์เหล่านี้ทั้งหมด http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/s ... 9&bookZ=33 |
หน้า 25 จากทั้งหมด 29 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |