ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
จิตใจ และการฝึกจิต (อัคร ศุภเศรษฐ์) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=19817 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 18:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | จิตใจ และการฝึกจิต (อัคร ศุภเศรษฐ์) |
จิ ต ใ จ และ ก า ร ฝึ ก จิ ต อัคร ศุภเศรษฐ์ (ดร.ไชย ณ พล) ชีวิตมีอยู่สองส่วน คือ แก่นชีวิต และเปลือกชีวิต เปลือกชีวิตก็คือร่างกาย ลมหายใจ ผัสสะ และความรู้สึก ทั้งหลายนี้ ซึ่งกำลังตายลงๆ ทุกวันๆ แก่นชีวิตก็คือใจ เลือกเอาจะะรักษาร่างกายที่กำลังตาย และพยายามหอบมันหนีความตายที่ซึ่งไม่อาจหนีพ้น หรือจะรักษาจิตใจซึ่งมีค่ากว่าการดำรงอยู่อย่างสงบสุขและสง่างาม ใครเลือกรักษาจิตใจอันเป็นชีวิตก็ต้องทำความรู้จักจิตใจให้ชัดเจน บริหารให้เหมาะสม และฝึกฝนให้จริงจังจนแก่กล้า การฝึกจิตนั้นมีหลายวิธีเพื่อหลายวัตถุประสงค์ จะฝึกตามวิธีไหนที่ใครสอนก็ได้ เพราะจิตใจเป็นสากล ต้องการให้จิตใจเข้มแข็งสมบูรณ์ ก็ควรเปิดกว้างเพื่อการเรียนรู้และฝึกฝน ใครสอนอะไรถ้าสมสมัจจะตามระดับสติปัญญาของท่านก็ควรเรียนรู้ แต่ถ้าใครพยายามจะครอบงำสติปัญญาของท่าน ว่าอย่างนี้เท่านั้นถูก อย่างอื่นผิด ปัญญาของตนเช่นนั้นเป็นดั่งไส้เดือนที่อยู่ในรู มิได้รู้โลกกว้างอย่างแท้จริง หรือหากรู้ก็แสดงว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ประสงค์จะครอบงำท่านไว้เป็นบริวาร ดังนั้นก็อย่ารับการครอบงำอันคับแคบนั้นมา มิฉะนั้นปัญญาท่านจะตีบตัน ทั้งจะพลาดสัจจะที่ยิ่งใหญ่และไม่ได้ประโยชน์สุขอันไพศาล จำไว้ว่า สิ่งที่ดีนั้นดี แต่การเมาดีนั้นบ้า ความบ้าทุกชนิดมีความโง่เป็นแม่ มีความขลาดเป็นพ่อ มีความไม่แยบคายเป็นพี่เลี้ยง ดังนั้นเพื่อประโยชน์สุขของตน จงเรียนรู้ให้กว้างขวาง แล้วเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับแต่ละภาวะแห่งชีวิตมาใช้ให้สนุกสนาน (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 18:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
• ก ร ร ม ฐ า น กรรมฐาน แปลตรงตัว คือฐานแห่งกรรม หรือการกระทำ หรืองานของใจ แปลโดยอรรถคือการพัฒนาจิตใจ ซึ่งแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือฝึกโดยการใช้การควบคุมจิตใจให้สงบ คือฝึกโดยการปล่อยวางให้โล่งโปร่งใส เมื่อใช้ทั้งสองวิธีรวมกันย่อมได้กำลังมากพอ ที่จะชำระจิตใจให้บริสุทธิ์จนถึงที่สุดแห่งวิวัฒนาการได้ การถึงที่สุดแห่งวิวัฒนาการนั่นเองคือเป้าหมายแห่งชีวิต และชีวิตทั้งหลายมีจิตใจเป็นจุดหมุนหลัก ดังนั้นการฝึกพัฒนาจิตใจจึงเป็นการหลักของทุกชิวิต เพื่อยกชีวิตให้ดีขึ้นโดยลำดับ จนถึงความบริสุทธิ์โดยที่สุด ใครยังไม่ได้ฝึกพัฒนาจิตใจ ถือว่ายังไม่ได้ทำงานที่ที่แท้จริงของชีวิต ทำงานหากินนั้นเป็นเพียงงานพื้นฐาน แต่กินอยู่เพื่ออะไรนี่สำคัญกว่า การดำรงอยู่เองด้วยซ้ำ งานตามหน้าที่นั้นเป้นเพียงงานสมมติตามตำแหน่ง หากไม่แบกตำแหน่งนั้นก็ไม่มีหน้าที่ จึงไม่ใช่งานจริงจังอะไร และหากบ้าทำงานตามตำแหน่งจนจิตใจสียหายก็นับว่าขาดทุน ดังนั้นไม่ว่าจะมีตำแหน่งอะไร รับผิดชอบหน้าที่ใด นั่นเป็นงานเสริม ส่วนงานหลักคือยกระดับวิวัฒนาการให้ได้ และวิธีจะยกระดับวิวัฒนาการได้ คือ การพัฒนาจิตใจ ดังนั้นการฝึกจิตจึงเป็นงานของทั้งฆราวาสและนักบวช ยิ่งเป็นนักบวชต้องให้ฝึกให้มากกว่าฆราวาสหลายเท่า เพราะฆราวาสเลี้ยงนักบวชอยู่ นักบวชจึงต้องมี อธีศีล อธิจิต อธิปัญญา บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดได้ก็ด้วยกรรมฐาน หาไม่จะเป็นหนี้โยม (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 18:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
• ฐ า น ะ แ ล ะ เ ป้ า ห ม า ย ใ น ก า ร ฝึ ก จิ ต การฝึกจิตทั้งหลายในโลกนั้นมีหลายวิธี เพื่อหลายวัตถุประสงค์ เช่น ฝึกจิตเพื่อสุขภาพ ฝึกจิตเพื่อปัญญา ฝึกจิตเพื่ออำนาจ ฝึกจิตเพื่อแก้ปัญหาใจ ฝึกจิตเพื่อการพักผ่อน และฝึกจิตพื่อการบริสุทธิ์ เป็นต้น พระท่านจะเน้นการฝึกจิตเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น คฤหัสถ์อาจเน้นฝึกจิตเพื่อสุขภาพก็ได้ เพื่อพัฒนาปัญญาก็ได้ เพื่อการพักผ่อนก็ได้ หรือเพื่อพัฒนาอำนาจก็ได้ หากใครอยากเพิ่มความบริสุทธิ์ให้แก่ชีวิตจิตใจ ด้วยก็ดี • การฝึกจิตเพื่อสุขภาพ ให้ฝึก ธรรมชาติสัมพันธ์ ชี่กง กังฟู ฟลังจักรวาล โยคะ • การฝึกจิตเพื่อความสุข ให้ฝึก อัปมัญญาสมาธิ รูปฌาน อรูปฌาน • การฝึกจิตพื่อความสัมพันธ์อันดี ให้ฝึก เทวปูชา มหาเมตตาแบบทิเบต • การฝึกจิตเพื่อปัญญา ให้ฝึก มโนยิทธิ เซน อภิธรรม • การฝึกจิตเพื่ออำนาจ ให้ฝึก กสิณ บริหารใจ จินตภาพ มนตรยาน • การฝึกจิตเพื่อแก้ปัญหาใจ ให้ฝึก จิตวิเคราะห์ วิปัสสนาแบบสูตรดั้งเดิม ธรรมะโยคะเปิดโลก • การฝึกจิตเพื่อการพักผ่อน ให้ฝึก โยคะ ธรรมชาติสัมพันธ์ ความว่างแบบเต๋า • การฝึกจิตพื่อความบริสุทธิ์ ให้ฝึกแบบ พุทธดั้งเดิมวิธีใดก็ได้ หรือทุกวิธีก็ดี เป็นต้น หากฝึกแล้วยังไม่ได้ผลดังหวัง รู้สึกยากหรือติดขัดที่อารมณ์ตน ก็ให้ลองสำรวจดูว่าตนมีจริตโด่งเกินไปหรือไม่ หากมีก็แก้เสีย (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 18:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
• จ ริ ต แ ล ะ ป ร ะ เ ภ ท ก า ร ฝึ ก จิ ต จริตคืออุปนิสัยหรืออัธยาศัยที่โดดเด่นของแต่ละคน แต่ละคนอาจะมีหลายจริตหรือจริตเดียวก็ได้ แต่โดยมากจะมีหลายจริตรวมกันโดยมีจริตใดจริตหนึ่งเด่นออกมา ก็ชื่อว่าเป็นคนจริตนั้นๆ แต่ละจริตต้องการวิธีการฝึกที่แตกต่างกัน เมื่อฝึกดีแล้วจริตอาจจะปลี่ยน ก็เปลี่ยนวีธีฝึกตามจริตให้เหมาะสมกัน จริตของบุคคลที่พระพุทธเจ้าทรงจำแนกไว้มีหกจริตด้วยกัน คือ ราคะจริต โทสะจริต โมหะจริต ศรัทธาจริต ปัญญาจริต วิตกจริต ท่านที่จะเลือกกรรมฐานที่เหมาะสมกับตนเอง วิเคราะห์ดูว่าช่วงนี้ของวิวัฒนาการท่านมีจริตใดเด่นเป็นอันดับหนึ่ง จริตใดเด่นเป็นอันดับสอง และจริตใดด้อยสุด (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 19:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
o ราคะจริต พวกราคะจิตคือพวกที่เพลิดเพลิน ยินดี มัวเมา แสวงหากาม และการบริโภค พวกนี้มักมีจริยาเรียบร้อย นุ่มนวล รักสะอาด ชอบอาหารที่มีรสหวานมัน สีสันสวย นิยมการเยินยอ สรรเสริญ มักโอ้อวด จ้าเล่ห์ แง่งอน o โทสะจริต พวกโทสะจริตเป็นพวกเจ้าอารมณ์ ฉุนเฉียว แปรปรวนเร็วหมือนไฟไหม้ฟาง พวกนี้มักมีจริยารีบร้อน กระด้าง ตึงตัง ชอบอาหารที่มีรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด ขมจัด นิยมการต่อสู้แข่งขัน มักลบหล่คุณคน ตีตนเสมอ ริษยา และมีปรารถนาอาฆาตเนืองๆ o โมหะจริต พวกโมหะจริตเป็นพวกคิดไม่เป็น ไม่มีเหตุไม่มีผล เป็นไปตามอำนาจสัญชาตญาณ พวกนี้มักมีกิริยาเซื่องซึม เหม่อลอย ชอบอาหารที่รสหมักดอง สุรายาเมา กินมูมมาม นิยมการเออออห่อหมกไปกับพวก เขาว่าดีก็ดีด้วย เขาว่าไม่ดีก็ไม่ดีด้วย ไม่มีมาตรฐานของตนเอง มีอาการง่วงเหงาหาวนอนเป็นประจำ และมีความสงสัยแต่ขี้เกียจเนืองๆ (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
o ศรัทธาจริต พวกศรัทธาจริตคือพวกที่แสวงหารประโยชน์ ชอบพัฒนา ครั้นพบสิ่งที่ดีกว่าตนหรือทำให้ตนดีขึ้น ก็จะหมกมุ่น คลังไคล้ เชื่อมั่นอย่างจริงจัง พวกนี้มักมีจริยาแช่มช้อย ละมุนละม่อม เป็นระเบียบเรียบร้อย ชอบอาหารที่มีรสหวาน มัน กลิ่นหอม นิยมการทำบุญและความเรียบง่าย มักเอาหน้าในสิ่งที่ทำ หรือโอ้อวดในสิ่งที่ตนเชื่อ และมีความเลื่อมใสออกนอกหน้าเนืองๆ o ปัญญาจริต พวกปัญญาจริตคือพวกที่รอบรู้ (ทำได้หรือไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) พวกนี้สามารถหาเหตุผลสารพัดมาพิสูจน์ความเห็นของตน (ถูกหรือผิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) พวกนี้มักมีจริยาเร็วแต่เรียบร้อย ชอบอาหารที่มีรสกลมกล่อม หลายรสผสมกันให้กลมกลืน นิยมการวิเคราะห์วิจัยโดยไม่มีอารมณ์ หรือมีก็เพียงเล็กน้อย มักมีความเพียรเข้ม ว่าง่าย รู้เร็ว และมีปรารถนาสงส่งอุดมคติเลิศเนืองๆ o วิตกจริต พวกวิตกจริตคือพวกคิดมาก คิดแล้วคิดอีก และออกจะไปในทางคิดร้างๆ ทำชั่วก็วิตกไปว่ากลัวคนจะรู้ จะทำดีก็วิตกไปว่ากลัวจะไม่ได้ดี ทำดีแล้ววิตกไปว่าคนจะไม่เข้าใจ พวกนี้มีจริยาเชื่องช้า แต่หลุกหลิก ชอบอาหารที่มีรสไม่จำเพาะ กินไม่เลือก นิยมความแปรปรวน เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียด มักลักปิดลักเปิด เดี๋ยวพูดมาก เดี๋ยวเงียงขรึม และมีปรารถนาคลุกคลีกับคณะเพื่อฝอยฟุ้งเนืองๆ (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 19:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
เมื่อจำแนกได้แล้วว่าตนเป็นพวกไหน ก็เลือกกองกรรมฐาน ดังเบื้องต้น (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 19:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
กรรมฐานเหล่านี้เป็นกรรมฐานปรับแก้จิต ไม่ใช่กรรมฐานที่ควรยึดเป็นหลักตลอดไป กรรมฐานที่ควรยึดเป็นหลักคือกรรมฐานเพื่อบรรลุเป้าหมายต่างๆที่ต้องการ เมื่อจริตมิให้สุดโต่งจนเกินไปได้แล้ว จากนั้นให้ตรวจสอบเทียบเคียง กับกองกรรมฐานที่ควรฝึกเพื่อเป้าหมายที่ประสงค์สำเร็จผล ในหัวข้อที่แล้ว แล้วจึงเลือกกรรมฐานกองเริ่มต้นได้ เมื่อปฏิบัติไปคุณสมบัติในตนจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ดูอีกครั้งว่าเป้าหมายเปลี่ยนหรือไม่ จริตเปลี่ยนหรือไม่ หากเปลี่ยนก็เลือกกองกรรมฐานเพิ่มเติมอีก หรือแม้ไม่เปลี่ยนแต่ประสงค์จะเรียนรู้ฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาจริตก็ทำได้ และหากใครสามารถ แนะนำให้ฝึกทุกอย่างแล้วท่านจะแตกฉานในเรื่องจิตเป็นอย่างดี แต่การจะฝึกทุกอย่างต้องแน่ใจประการหนึ่งว่า ท่านสามารถควบคุมอารมณ์ได้แล้วทุกกรณี และสามารถแก้อารมณ์ที่ไม่ปรารถนาได้ หรือมีกัลยามิตรที่ดีอยู่ใกล้ที่จะช่วยได้ (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 19:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
(มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 25 ธ.ค. 2008, 19:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
เมื่อรู้เกณฑ์แล้ว จากนั้นก็ลองประเมินผลการฝึกจิตที่ผ่านมาดูว่า วิธีการใดให้ผลอย่างไร แล้วทำการคัดสรรว่าวิธีใดควรฝึกต่อ วิธีการใดควรเลิกฝึก และควรฝึกเพิ่มวิธีใด วิธีการฝึกจิตทั้งหมดเป็นเพียงเครื่องมือให้ใช้ขี่ไปหาสมาธิ ดังนั้น วิธีการเองไม่ใช่สรณะที่ต้องยึดถือหลงไหล หากหลงเครื่องมือก็จะไม่ได้ผลเลิศใดใด เป็นเพียงคนเขลาแบกเครื่องมือไปอวดกันโดยไม่รู้จักใช้ให้เกิดผล หรือถึงเกิดผลบ้างก็จะเป็นเพียงผลบางส่วนท่านั้น ไม่ได้ผลครบถ้วนแห่งฌานวิสัยอันเป็นอจินไตย ปัญญาชนย่อมไม่คลั่งไคล้ในเครื่องมือ แต่ใช้เครื่องมือประดามีสร้างผล คือ ฌานสมาธิ ปัญญาญาณ และความบริสุทธิ์ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะนั่นคือเป้าหมายการฝึกจิตที่แท้จริง (ที่มา : สรรพศาสตร์แห่งการฝึกจิต โดย อัคร ศุภเศรษฐ์, หน้า ๒๓-๓๑ และ ๓๘๓-๓๓๙) รวมคำสอน “ดร.ไชย ณ พล (ศิยะ ณัญฐสวามี)” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=48689 |
เจ้าของ: | ลูกหว้า [ 13 ต.ค. 2015, 07:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
เจ้าของ: | อุบาสกน้อย [ 04 ต.ค. 2016, 18:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต : อัคร ศุภเศรษฐ์ |
เจ้าของ: | AAAA [ 14 ม.ค. 2019, 08:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต (อัคร ศุภเศรษฐ์) |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 02 ก.พ. 2019, 17:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต (อัคร ศุภเศรษฐ์) |
เจ้าของ: | ดาราวรรณ [ 14 ก.ค. 2019, 09:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: จิตใจ และการฝึกจิต (อัคร ศุภเศรษฐ์) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |