วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 17:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 14:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


มันยากตรงไหนแค่ มุ่งไปที่ลมหายใจเข้าออกเนี่ย ทำแล้วผมไม่เห็นเป็นอะไรเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2009, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนคุณ ผู้ดูแล....วิเศษ
การปฎิบัติของแต่ละคนจะมีสภาวะเกิดขึ้นแตกต่า้งกันคับ 100 คน ก็ร้อยอย่าง แต่จะมีบางอย่างที่เหมือนกัน ผมมั่นใจว่าถ้าท่านได้ลองปฏิบัติ กำหนดจิต ตลอดทั้งวันทั้งคืนซัก 7-15 วัน โดยแต่ละวันนอนแค่ 5 ชม ไม่พูดไม่คุยกับใคร ยกเว้นกันพระอาจารย์ แล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเองครับ ว่าการปฏิบัติธรรม นั้นอาจจะหนักกว่าการฝึกทหาร หรือการสอบ entrance เข้ามหาลัยก็เป็นได้


ขอความเจริญในธรรมจงมีแต่ท่าน ผู้ดูแล....วิเศษ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2009, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
เรียนคุณ ผู้ดูแล....วิเศษ
การปฎิบัติของแต่ละคนจะมีสภาวะเกิดขึ้นแตกต่า้งกันคับ 100 คน ก็ร้อยอย่าง แต่จะมีบางอย่างที่เหมือนกัน ผมมั่นใจว่าถ้าท่านได้ลองปฏิบัติ กำหนดจิต ตลอดทั้งวันทั้งคืนซัก 7-15 วัน โดยแต่ละวันนอนแค่ 5 ชม ไม่พูดไม่คุยกับใคร ยกเว้นกันพระอาจารย์ แล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเองครับ ว่าการปฏิบัติธรรม นั้นอาจจะหนักกว่าการฝึกทหาร หรือการสอบ entrance เข้ามหาลัยก็เป็นได้


ขอความเจริญในธรรมจงมีแต่ท่าน ผู้ดูแล....วิเศษ

ก็ตามใจ เซ็ง :b47: :b47:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 21:25
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอสอบถามครับ ถ้าเราผ่านช่วงที่โลกมันหมุนไปแล้ว เราจะรู้สึกเหมือนว่าสงบ
อย่างนี้ผมมาถูกทางหรือป่าวครับ และถ้าผ่านจุดนี้ไปอีก (จุดที่รู้สึกสงบ)
จะกลับมาโลกหมุนอีกป่าว และตอนที่อยู่ในช่วงสงบเราควรทำอย่างไรบ้าง
ขออนุโมทนาด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


storm019 เขียน:
ขอสอบถามครับ ถ้าเราผ่านช่วงที่โลกมันหมุนไปแล้ว เราจะรู้สึกเหมือนว่าสงบ
อย่างนี้ผมมาถูกทางหรือป่าวครับ และถ้าผ่านจุดนี้ไปอีก (จุดที่รู้สึกสงบ)
จะกลับมาโลกหมุนอีกป่าว และตอนที่อยู่ในช่วงสงบเราควรทำอย่างไรบ้าง
ขออนุโมทนาด้วยครับ





ได้เดินจงกรมก่อนที่จะนั่งหรือเปล่าค่ะ ใช้การจับเวลาร่วมด้วยหรือเปล่า
ถ้าจับเวลา ให้เดินจงกรมมากกว่านั่ง นั่งให้น้อยลง
ไม่ว่าจะจับเวลาหรือไม่จับเวลา ก็ให้เดินจงกรมก่อนที่จะนั่งทุกครั้ง

ตอนอยู่ในช่วงสงบ

ถ้าจับลมหายใจได้ ให้จับลมหายใจ

จับลมหายใจไม่ได้ ถ้ามีอาการท้องพองขึ้น ยุบลง ตามลมหายใจเข้าออก
ให้จับที่พองยุบแทน

ถ้าจับพองยุบไม่ได้ จะมีกายที่เคลื่อนไหวตามลมหายใจเข้าออกคือ แถวทรวงอก
ให้จับรู้อาการที่เคลื่อนไหวแถวทรวงอก

ถ้ามีเสียงชีพจรเต้น ให้จับที่เสียงชีพจรเต้น

ถ้าจับอะไรไม่ได้เลย ให้รู้ถึงกายที่นั่งอยู่แทน

อย่าเอาจิตไปจดจ่อไปอยู่กับความสงบ แต่ให้มารู้อยู่ในกายแทน
รู้ไปตามที่เขียนบอกไว้ รู้ตรงไหนได้ชัดให้รู้ลงไปตรงนั้น
มันจะมีสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้นน่ะค่ะ รู้ไปตามความเป็นจริง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 02:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 21:25
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาคุณ walaiporn ครับ
ผมไม่เคยเดินจงกรมเลย และก็ไม่ได้จับเวลาด้วยครับ
รบกวนหน่อยนะครับหากว่าเดินจงกรมควรใช้เวลาสักกี่นาทีดีครับ
และอีกเรื่องครับ หากเราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ อาการโลกหมุนจะหายไปไหม
เพราะผมมีอาการอย่างนี้มาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว แต่วันนี้กลับไม่มี
แต่ก็รู้สึกว่าสงบและมีสติคล้าย ๆ กับตอนที่ผ่านอาการโลกหมุนไปแล้ว
(แต่ความรู้สึกตื่นเต้นไม่มี) สรุปคืออาการโลกหมุนต้องเป็นทุกครั้งไหม
ถึงจะได้เข้าสู่ความสงบที่แท้จริงครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 04:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญชัย เขียน:
อาการหมุนหายแล้วครับผม แต่อาการสั่นมาแทน มีใครเป็นมั้ง :b32:


ผมว่า ทั้งอาการของ จขกท. ของคุณบุญชัย

ล้วนเป็นอาการของปีติทั้งสิ้น

ไม่น่าจะเป็นการเข้า ฌาน 3

โห ถ้าเข้าฌาน 3 จริงๆ จขกท. คงไม่มาถามแบบนี้หรอก

สมถญาณิก ถ้าถึงขนาด ได้ฌาน 2 แล้ว จะเข้า ฌาน 3
แต่ไม่รู้ถึงสภาวะธรรมในระดับต้นๆ ไม่น่าเป็นไปได้

แค่ได้ฌาน 1 ก็ไม่ธรรมดาแล้ว อาการแค่นี้ ก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร
------------------------------------------------------

ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค และ วิมุตติมรรค แบ่งปีติเป็นห้าประเภท คือ

ขุททกาปีติ......ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล
ขณิกาปีติ........ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบๆเป็นขณะๆ ดุจฟ้าแลบ
โอกกันติกาปีติ...ปีติเป็นระลอก หรือปีติเป็นพักๆ ทำให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกายดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง
อุพเพงคาปีติ.....ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรง ให้รู้สึกใจฟู แสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ
ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านเอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ ปีติที่ประกอบกับสมาธิ ท่านมุ่งเอาข้อนี้

มีลิงค์ที่น่าสนใจ

viewtopic.php?f=2&t=18904
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=436668


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


storm019 เขียน:
อนุโมทนาคุณ walaiporn ครับ
ผมไม่เคยเดินจงกรมเลย และก็ไม่ได้จับเวลาด้วยครับ
รบกวนหน่อยนะครับหากว่าเดินจงกรมควรใช้เวลาสักกี่นาทีดีครับ
และอีกเรื่องครับ หากเราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ อาการโลกหมุนจะหายไปไหม
เพราะผมมีอาการอย่างนี้มาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว แต่วันนี้กลับไม่มี
แต่ก็รู้สึกว่าสงบและมีสติคล้าย ๆ กับตอนที่ผ่านอาการโลกหมุนไปแล้ว
(แต่ความรู้สึกตื่นเต้นไม่มี) สรุปคืออาการโลกหมุนต้องเป็นทุกครั้งไหม
ถึงจะได้เข้าสู่ความสงบที่แท้จริงครับ





เดินจงกรม ให้เดินได้ตามสะดวกค่ะ ตามเวลาที่สะดวก
มีเวลามาก ให้เดินมาก มีเวลาน้อย ให้เดินน้อย แล้วจึงต่อด้วยการนั่งค่ะ

ส่วนอาการโลกหมุนที่ถามมาว่า จะหายไปไหม
ตอบ ว่าหายไปแน่นอนค่ะ

ถามมาว่า สรุปคืออาการโลกหมุนต้องเป็นทุกครั้งไหม ถึงจะได้เข้าสู่ความสงบที่แท้จริงครับ
ตอบ ไม่ค่ะ

เพราะผมมีอาการอย่างนี้มาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว แต่วันนี้กลับไม่มี
ตอบ สภาวะเขามาสอน มันไม่เที่ยงค่ะ

คำแนะนำ เดินก่อนนั่ง ทำให้ได้ทุกวัน ทำตามสะดวก จะมากหรือน้อย ขอให้ทำทุกวัน
ติดขัดตรงไหน ถามได้นะคะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www




ขออนุญาตฝากลิงค์วิธีเดินจงกรมค่ะ


http://bhaddanta.blogspot.com/2005/09/b ... 46845.html

http://www.youtube.com/watch?v=eUq15XCLVzQ


เจริญในธรรม :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 07:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 21:25
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนากับคุณ walaiporn และคุณ taktay ด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2010, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 13:15
โพสต์: 34

แนวปฏิบัติ: สมาถะ วิปัสสนาญาน ลมหายใจมิมีสิ้นสุด มิมีประมาณ
งานอดิเรก: ธรรมะเกิดที่ใจ ไปให้ถึงธรรม จึ่งมีธรรมประจำใจ บ้านเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ ทุกแนว "รอยเท้าสัตว์ย่อมรวมลงในเท้าช้าง"ฉันใด ก็ฉันนั้น
ชื่อเล่น: out
อายุ: 47
ที่อยู่: จังหวัดแพร่

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: สวัสดีค่ะ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ ท่านได้มาพบทางที่ถูกแล้ว

แต่ด้วยกุศลผลบุญเกื้อกูล แห่งสติ แห่งปัญญา จึ่งพบพานบุญบารมีไม่เท่ากัน ดวงตาจึ่งพามาไม่เท่ากัน
เมื่อพบหนทาง.. พลังแห่งศรัทธา ..พลังแห่งความดีจะคุ้มครองคนดีเสมอ.. เกิดแต่ใจของเราเอง ..

ศีล สมาธิ ปัญญา นำพา ความสงบ สุข เยือกเย็น
เป็นจุดหมายของการปฏิบัติเยี่ยงปุถุชนเช่นเรา

การปฏิบัติธรรม ก็คือการเรียนรู้ตัวเราเอง รู้ตามความเป็นจริงแห่งจิตใจของตัวตนของเราเอง

กรรมฐานเบื้องต้นจึ่งเป็นการเจริญจิตภาวนาเพื่อความสงบของจิตใจ

แต่การวิปัสสนาเป็นการรู้แจ้งเห็นจริง ตามความเป็นจริงของกาย ของใจเราเอง

แรกๆ หากสติไม่เท่าทันปัจจุบันอารมณ์ อาจถูกตัณหา ราคะ หลอกให้หลง ตามกิเลสมารไป

แต่พอสู่ขั้นละเอียด รู้ไม่เท่าทันจิต อาจถูกนิมิตกิเลสมารหลอกลวงไป จึ่งห่างไกลจุดหมาย ปลายทาง

สิ่งที่เห็น เห็นจริง แต่มิเป็นจริงดั่งที่เห็น แม้แต่กาย ใจเราเอง ล้วนเป็น อยู่ คือ สมมุติทั้งสิ้น
เห็นสักแต่ว่าเห็น เป็น สักแต่ว่าเป็น สักแต่ว่ารู้สึก ตามความเป็นจริง
เรียนรู้ดูตัวตนของเราเองโดยมิปรุงแต่ง เห็นความ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์บังคับไม่ได้

โกรธรู้ :b33: ดูสภาวะของกาย ใจเต้นแรง มือกำ เลือดขึ้นหน้า ตัวสั่น สักพัก เริ่มหายไป
พยาบาทรู้ อิจฉารู้ ดีใจรู้ เสียใจรู้ ฯลฯ รู้เนื่องๆ

เพียรปฏิบัติทุกขณะจิต ที่ไม่ลืมกาย ไม่ลืมใจ มีลมหายใจเป็นวิหารธรรมแห่งจิต :b44:

พิจารณาสติปัฏฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม หมุนวนไป.. พิจารณาไป..ตามความเป็นจริง ..
พระสัทธรรมจึ่งเกิดขึ้นกับทุกสรรพชีวิต เป็นสัจธรรม เป็นธรรมดาของอริยสัจ.นั่นเอง :b53: :b53:

ขั้นแรกๆ มักสงสัย สภาวะธรรม มากมาย ..แต่..สักว่ารู้ สักว่าดู และต้องพิจารณาอย่างแยบคาย หากมีกัลยาณมิตรนำทางก็จะดีมาก จึ่งพ้น ..ปหานกิเลสนานาพรรณ . :b34: ปิตินานาปการ..เกิดแต่ใจของตัวเราเอง รู้ด้วยตัวตนของเราเอง

เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: tongue :b48:


แก้ไขล่าสุดโดย tongpon เมื่อ 19 ส.ค. 2010, 21:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร