ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=25683 |
หน้า 3 จากทั้งหมด 4 |
เจ้าของ: | อายะ [ 23 ก.ย. 2009, 09:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
อันนี้จากความเห็นส่วนตัวนะครับ การปฏิบัติกรรมฐานไปแล้วนอนน้อยลงเรื่อยๆ เป็นเรื่่องปกติ แต่อย่างไรก็ตามร่างกายก็ยังต้องนอนอยู่ดี คราวนี้็ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้ัวนอนแค่ไหนละจึงจะพอดี ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล คือตื่นแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย เพราะถ้านอนไม่พอมากๆ ติดกันหลายวันแล้วอาจจะเกิดอาการปวดศรีษระขึ้นมาได้ การปฏิบัติแบบพองยุบ หรือจะภาวนาพุธ โธ ก็ตามซึ่งสติต้องจดจ่ออยู่กับลมเข้าออกเป็นรูปแบบการปฏิบัติที่ทำให้สติตื่นได้ดี ซึ่งอันนี้ผมถือเป็นข้อดี แต่อาจเกิดอาการข้างเคียงเช่นนอนไม่หลับเป็นต้น ดังนั้นวิธีแก้ก่อนนอนควรไปทำสมถะซักพัก 15-30 นาที โดยทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นสมถะประเภทที่เป็นนามธรรมที่ไม่ไปเกี่ยวข้องกับกาย เช่น เมตตาภาวนา พุทธานุสติ ธรรมมานุสติ สังฆานุสติ หรือถ้าจะใช้พุทโธตามที่ถนัด ก็ระลึกพุทโธอย่างเดียว ไม่ต้องไปเกี่ยวกับลมหายใจ แล้วขณะนอนก็ทำสมถะไปด้วยซึ่งโดยทั่วไปไม่น่าเกิน 5 นาทีก็น่าจะหลับได้ ซึ่งถ้าในกรณีที่สติไม่กล้าเกินไปผมว่าน่าจะสามารถหลับได้ครับ สำหรับกรณีให้หยุดปฏิบัติซักพัก อันนี้ก็สามารถทำให้หลับได้เพราะว่าสติจะลดลงเรื่อยๆ แต่ก็เสียดายที่จะต้องหยุดการบ่มอินทรีย์ไปด้วย และเมื่อหยุดแล้วกลับมาทำใหม่บางท่านก็อาจนอนไม่หลับเหมือนเดิม ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่จบสิ้นได้ อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบดูที่ว่านอนไม่หลับนั้น ร่างกายอ่อนเพลียหรือเปล่า ถ้าแค่นอนน้อยลงแต่ร่างกายยังสดชื่นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ หรือบางท่านคิดว่าตัวเองนอนไม่หลับเช่น ขณะนอน จะพลิกตัวก็รู้ มีเสียงก็ได้ยิน จะขยับแขนขาก็รู้ แต่จริงๆ แล้วหลับ ตื่นมาก็สดชื่นไม่อ่อนเพลีย บ่มอินทรีย์ต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุด เหล็กกำลังร้อนต้องรีบตีนะครับ หมายเหตุ อาการทางกายที่บ่งบอกว่าหลับไม่พอประมาณนี้คือ เหนื่อยง่าย ปวดศรีษะ มึนหัว ตาพร่า อ่อนเพลีย อาการทางจิตขณะไม่ได้เจริญสติ จะหงุดหงิดง่าย โมโหง่าย เจริญธรรมครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 24 ก.ย. 2009, 20:44 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน | ||
ตั้งแต่คุณเอนอนหลับ หายไปเลยนะครับ
|
เจ้าของ: | sasikarn [ 27 ก.ย. 2009, 18:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
ขอบคุณค่ะคุณอายะได้ให้คำแนะนำ เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ เป็นจริงอย่างที่คุณอายะว่าจริง ๆ คือพอไม่ได้ปฏิบัติ เอก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน ก็ยังคิดอยู่ค่ะว่าเป็นเพราะเราหยุดการปฏิบัติรึเปล่าความอ่อนโยนก็เลยจะหายตามไปด้วย... นู๋เอค่ะ |
เจ้าของ: | sasikarn [ 27 ก.ย. 2009, 18:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
คุงmuranoว่าใครหน้าแปลกอ่ะคะ... เอ๊ะ หรือว่า...ว่าเราหว่า นู๋เอค่ะ |
เจ้าของ: | sasikarn [ 27 ก.ย. 2009, 18:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
กรัชกาย เขียน: ตั้งแต่คุณเอนอนหลับ หายไปเลยนะครับ ไม่ได้หายไปไหนค่ะ พอดีไป จ.กาญจนบุรี เพิ่งกลับมาวันนี้เอง ซื้อหนมมาฝาก แต่มะรู้ว่าจาฝากไว้ตรงไหนดีค่ะ เอเลยกินเข้าไปหมดเลย นู๋เอค่ะ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 28 ก.ย. 2009, 18:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนีผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ ผู้คงที่ สงบระงับแล้วมีสติในกาลทุกเมื่อ กิเลสเครื่องกังวลใดมีอยู่ในกาลก่อน เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น ให้เหือดแห้งหายไป กิเลสเครื่องกังวลใด จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ในท่ามกลาง ก็จักเป็นมุนีผู้สงบระงับแล้วเที่ยวไป....ดังนี้ เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | sasikarn [ 30 ก.ย. 2009, 07:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
มหาราชันย์ เขียน: ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนีผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ ผู้คงที่ สงบระงับแล้วมีสติในกาลทุกเมื่อ กิเลสเครื่องกังวลใดมีอยู่ในกาลก่อน เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น ให้เหือดแห้งหายไป กิเลสเครื่องกังวลใด จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ในท่ามกลาง ก็จักเป็นมุนีผู้สงบระงับแล้วเที่ยวไป....ดังนี้ เจริญในธรรมครับ ขอบคุณค่ะคุณมหาราชันย์ จริง ๆ ใจเอยังคิดเลยนะคะว่าเมื่อไหร่ที่เราหมดห่วง หรือไม่มีห่วงอะไรแล้ว เออยากไปอยู่วัดอ่ะคะอยู่ไปตลอด... แต่ตอนนี้ยังห่วงพ่อกะแม่อยู่เลยยังไปไหนมะได้ นู๋เอ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ก.ย. 2009, 07:32 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน | ||
อ้างคำพูด: ขอบคุณค่ะคุณมหาราชันย์ จริง ๆ ใจเอยังคิดเลยนะคะว่าเมื่อไหร่ที่เราหมดห่วง หรือไม่มีห่วงอะไรแล้ว เออยากไปอยู่วัดอ่ะคะอยู่ไปตลอด... แต่ตอนนี้ยังห่วงพ่อกะแม่อยู่เลยยังไปไหนมะได้ ไว้คุณเอ แต่งงานมีครอบครัว ก็ห่วงครอบครัวห่วงลูก เลี้ยงลูก ไปไหนไม่ได้ ลูกโตแต่งงานมีครอบครัวก็มีหลานก็รักหลาน ห่วงหลานเลี้ยงหลานไปไหนไม่ได้ ฯลฯ
|
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ก.ย. 2009, 07:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
เอางี้ไม่ดีกว่าหรือขอรับ ตอนนี้สภาวะเข้าสู่ปกติกินได้นอนหลับแล้ว ก็เริ่มต้นทำกรรมฐานใหม่ แต่ก้าวเดินอย่างมีระเบียบมีขั้นมีตอน ทำทั้งที่ยังมีห่วงคือพ่อแม่นี่ล่ะ ไว้ตอนนั้นห่วงจะมีหลายห่วงมากห่วงขึ้น อายุก็มากขึ้นก็จะห่วงสังขารอีกแหละ |
เจ้าของ: | กระบี่ไร้เงา [ 30 ก.ย. 2009, 11:29 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน | ||
sasikarn เขียน: ขอบคุณค่ะคุณมหาราชันย์ จริง ๆ ใจเอยังคิดเลยนะคะว่าเมื่อไหร่ที่เราหมดห่วง หรือไม่มีห่วงอะไรแล้ว เออยากไปอยู่วัดอ่ะคะอยู่ไปตลอด... แต่ตอนนี้ยังห่วงพ่อกะแม่อยู่เลยยังไปไหนมะได้ อ่านแล้วชื่นใจค่ะ คุณ sasikarn ใผ่ธรรม แล้วยังมีความกตัญญูกตเวที ต่อบุพการี ชื่นชมค่ะ การนอนไม่หลับ ต้องพิจารณาว่าไม่หลับเพราะความฟุ้ง หรือไม่หลับเพราะจิตเปลี่ยนคุณภาพด้วยนะคะ เพราะคุณ sasikarn กระทำจิตภาวนา โดยน้อมเอา พุท-โธ เป็นอารมณ์ กรรมฐาน ทำให้จิตเกิดปราโมทย์ ปีติ ขึ้น การน้อมเอา พุทธคุณ ๙ มาเป็นอารมณ์นั้น ดิฉันเคยทำมาก่อนค่ะ ยิ่งเพิ่มสัทธาในพระรัตนตรัยให้มากขึ้น ได้ตรัสไว้ว่า อุบายในการทำจิตให้ตั้งมั่นนั้น การระลึกถึง พระพุทธคุณ เป็น ๑ วิธีในนั้นค่ะ ซึ่งถ้ากระทำให้มากแล้ว ย่อมทำให้เกิดความหน่าย ความคลายกำหนัด ความสงบ ซึ่งเป็นหนทางที่จะบรรลุธรรมตามต้องการได้ค่ะ ไม่ทำให้หลับนะคะ แต่จะทำให้ จิตตื่น เป็นจิตที่อ่อน จิตที่ควรแก่การงานต่อไปค่ะ สาธุ ค่ะ คุณ sasikarn Quote Tipitaka: ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งที่บุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ธรรมอย่างหนึ่งคืออะไร คือ พุทธานุสสติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ฯ สาธุค่ะ ... คุณ sasikarn จิตที่ตื่น กับจิตที่หลับ ต่างกันนะคะ เจริญในธรรมค่ะ
|
เจ้าของ: | sasikarn [ 01 ต.ค. 2009, 14:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
ไว้คุณเอ แต่งงานมีครอบครัว ก็ห่วงครอบครัวห่วงลูก เลี้ยงลูก ไปไหนไม่ได้ ลูกโตแต่งงานมีครอบครัวก็มีหลานก็รักหลาน ห่วงหลานเลี้ยงหลานไปไหนไม่ได้ ฯลฯ[/quote] 55555จาไม่แต่งงาน จาอยู่เป็นโสดค้ำฟ้า5555555 ไม่อยากมีห่วงหลายห่วงอ่ะค่ะ กรัชกาย เขียน: เอางี้ไม่ดีกว่าหรือขอรับ ตอนนี้สภาวะเข้าสู่ปกติกินได้นอนหลับแล้ว ก็เริ่มต้นทำกรรมฐานใหม่ แต่ก้าวเดินอย่างมีระเบียบมีขั้นมีตอน ทำทั้งที่ยังมีห่วงคือพ่อแม่นี่ล่ะ ไว้ตอนนั้นห่วงจะมีหลายห่วงมากห่วงขึ้น อายุก็มากขึ้นก็จะห่วงสังขารอีกแหละ ตอนนี้เอเริ่มทำกรรมฐานใหม่ได้หลายวันแล้วเหมือนกันค่ะ... ล่าสุดที่นั่งรู้สึกเหมือนมีลูกกลม ๆ ไหลขึ้นไปที่สมอง ไม่ได้ปวดหัวนะคะ แต่รู้สึกมันหนัก ๆ ที่หัว มีลูกกลม ๆ วิ่งไปมาแต่ช้า เอก็ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปเรื่อย ๆ ซัก 3 นาทีอาการนั้นก็หายไป พอหายไปปุ๊ปเหมือนเราลงไปลึกขึ้น ร่างกายเบาแบบโหว่ง โหว่ง พูดไม่ถูกอ่ะ และมีขนรุกซู่ ซู่มานิดนึง แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรนะคะ มันว่างเปล่ามากมีเพียงสีขาวสลัว ๆ เหมือนอยู่ในห้องอ่ะคะ แต่ไม่ใช่แสงไฟ หรือดวงไฟ เหมือนคนอื่นนะคะ และก็ไม่เห็นนิมิตอะไรด้วย พอนั่งเสร็จคราวนี้ก็นอนหลับเป็นปกติค่ะ แต่ตอนนอนก็ยังเอามือวางที่หน้าท้องและพุท-โธ จนหลับไป... ปุจฉา !! แล้วที่ว่าทำอย่างมีระเบียบขั้นตอน อันนั้นทำอย่างไงอ่ะคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ... นู๋เอค่ะ |
เจ้าของ: | sasikarn [ 01 ต.ค. 2009, 14:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
ขอบคุณ คุณกระบี่ไร้เงามากค่ะ... นู๋เอค่ะ |
เจ้าของ: | murano [ 01 ต.ค. 2009, 19:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
อ้างคำพูด: 55555จาไม่แต่งงาน จาอยู่เป็นโสดค้ำฟ้า5555555 ไม่อยากมีห่วงหลายห่วงอ่ะค่ะ พูดได้ เพราะยังไม่เจอแบบถูกสเป็ค ปะเหมาะเคราะดี เจอหนุ่มในฝัน จะอ่อนระทวย ซินะจะบอกให้... |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 01 ต.ค. 2009, 21:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
sasikarn เขียน: ตอนนี้เอเริ่มทำกรรมฐานใหม่ได้หลายวันแล้วเหมือนกันค่ะ... สวัสดีครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ปฏิบัติอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ รักษาใจให้ร่าเริงมีปีติสุข แบบที่เป็นนั้นดีอยู่แล้วครับ คนผู้แสวงหาความสุขเพื่อตน พึงกำจัดความรำพัน กำจัดความทะยานอยากและความโทมนัสของตน พึงถอนลูกศร คือกิเลสของตนเสีย เป็นผู้มีลูกศร คือ กิเลสอันถอนขึ้นแล้ว อันตัณหาและทิฐิ ไม่อาศัยแล้ว ถึงความสงบใจ ก้าวล่วงความเศร้าโศกได้ทั้งหมด เป็นผู้ไม่มีความเศร้าโศกย่อมจักเยือกเย็น ฉะนี้แลฯ ” เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | sasikarn [ 01 ต.ค. 2009, 23:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญหาที่เจอหลังจากฝึกปฏิบัติกรรมฐาน |
murano เขียน: อ้างคำพูด: 55555จาไม่แต่งงาน จาอยู่เป็นโสดค้ำฟ้า5555555 ไม่อยากมีห่วงหลายห่วงอ่ะค่ะ พูดได้ เพราะยังไม่เจอแบบถูกสเป็ค ปะเหมาะเคราะดี เจอหนุ่มในฝัน จะอ่อนระทวย ซินะจะบอกให้... 5555 คุณmurano อ่ะ ตลกจัง อ่านข้อความของคุณทีไรอารมณ์ดีทุกที...ก็พยายามนิมิตอยู่อ่ะนะ แต่มะเห็นซะที เฮ้ออออออ...สงสัยชาตินี้คงจะไม่ได้อ่อนระทวยกับเขาแล้วหล่ะ 5555555555555 นู๋เอค่ะ... |
หน้า 3 จากทั้งหมด 4 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |