วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 426 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 25, 26, 27, 28, 29  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2017, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ความคืบหน้าของการเป็นพุทธะนั้น
ความเห็นของผมตอนนี้ยังเป็น
การเกิดเป็นธรรมะร่วมกันกับกระแสธรรม

คือเป็นช่วงแห่งการแก้ไขปัญหาทั้งหมดของชีวิต หรือเรียกว่าเป็นกิจ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2017, 13:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2015, 15:40
โพสต์: 65

แนวปฏิบัติ: ไม่เจาะจงรูปแบบ
งานอดิเรก: ปั่นจักรยาน
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2019, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ห่างหายไปนานมากครับ
จริงๆ ก็อยากจะเข้ามาเขียนอะไรอีกเยอะแยะ
ที่ล่าสุดก็เป็นเรื่องของขันธ์5
เป็นเหตุปัจจัยของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
เป็นธรรมดา แต่สิ่งหนึ่งที่เราไปยึดมั่นถือมั่น
ก็ขัดแย้งกับความเป็นสัจธรรม คือตัวสังขาร
เวลาพิจารณา ทั้งพุทธวัจน์หรือคำพูดของครูอาจารย์
เห็นจิตในจิต ก็คือ การพิจารณาสัจธรรมที่ปรากฏ
ทั้งร้อนหนาว อาการต่างๆ ปวดขาปวดแขน เหล่านี้คือจิตเข้าไปเห็น อาศัยความเป็นขันธ์5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คือเห็นจิตในจิต เห็นรูป เห็นนาม ตามความเป็นจริง
นั่นคือเห็นจิตในจิต เพราะถ้าตาย ก็ไม่เห็น ไม่รับรู้สภาพต่างๆ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2019, 00:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมได้นั่งสมาธิทุกวัน แต่ละวันก็จะพิจารณาปัจจัยต่างๆ
ที่ปรากฏ ทั้งธรรมชาติของขันธ์5 ที่ปรากฏวนเวียนเกิดดับอยู่ทุกวัน
เป็นทุกข์ที่จะต้องประสบจนกว่าจะสิ้นลมกันไปทุกคน
เราไม่สามารถนั่งให้หายจากอาการเจ็บปวด เราเพียงแต่บรรเทาอาการนั้นลง
แล้วอาการเหล่านั้นก็จะกลับมาบีบคั้นอีกครั้งไม่ช้าก็เร็ว
นี่เป็นสัจธรรมอีกอย่างที่สิ่งมีชีวิตต้องประสบ
แล้วอีกอย่างคือด้านความคิด มีความคิดต่างๆนาๆไหลเข้ามา
นั่นก็เป็นธรรมชาติอีกอย่าง ผมก็ต้องตั้งสติ ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้อย่างน้อย ตัดความคิดต่างๆออกไป
ไม่ให้รบกวนจิตใจจนพิจารณาอะไรไม่ได้ การตั้งสตินั้นเป็นสิ่งที่เป็นคำสอนอยู่แล้ว
เราไม่ต้องไปค้นหาถามอาจารย์สำนักต่างๆว่าตั้งสตินั้นเป็นสิ่งจำเป็นแค่ไหน เพราะการระลึกรู้จากการตั้งสตินั้นเป็นบันไดขั้นสำคัญตั้งแต่วันแรกของการฝึกจนกระทั่งวันตายอยู่แล้ว
ในการนั่งสมาธิ ผมก็จะแยกความเป็นขันธ์ หรือนามรูป ให้เป็นหมวดๆออกไป ของใครของมัน
แม้ว่าขันธ์5จะประชุมกันอยู่ เราก็ต้องอาศัยความรู้จากคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้ามาประกอบในการพิจารณาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2020, 15:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกท. ที่ผมชอบที่สุดในเว็บนี้คับ เข้ามาอ่านอีก ถึงกท.จะนานแล้วก็ตาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2020, 01:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
เราไม่สามารถนั่งให้หายจากอาการเจ็บปวด เราเพียงแต่บรรเทาอาการนั้นลง
แล้วอาการเหล่านั้นก็จะกลับมาบีบคั้นอีกครั้งไม่ช้าก็เร็ว

รอบของความปวดก็เช่นนี้เอง ปวดน้อยวิ่งไปหามาก มากเข้า ก้คลายลง จนปวดน้อย แล้วก้กลับมาปวดมากอีก และอาจจะปวดมากกว่าทีแรก เพราะมันก็เป็นอนัตตาธรรมตัวนึงเหมือนกัน นี่เพราะนั่งท่าเดิมนานๆ ทำให้เห็นทุกข์ได้ชัด เรียก อริยาบทไม่บังทุกข์ ถ้าเปลี่ยนท่า หรือขยับซ้ายทีขวาที ก็ไม่เห็นความจริงจริงของมัน ไม่เห็นตัวทุกข์ และความไม่เที่ยงในตัวทุกข์ที่เป็นสังขารธรรมของมัน
แต่ถ้า สติตั้งมั่น สมาธิดี กำลังใจดีขึ้น จะพอยันความปวดหรือทุกข์ตัวนี้ไหว จนความปวดหายไปได้ เพราะจิตคลายตัว/เลยละอุปทาน จากจิตที่ยึดเกาะติดกับขาที่ปวด กลายเป็นไม่ปวดแทน กายแยกออกมา จิตแยกออกไป เห็นจิตแยกออกมาจากการทำงานของขันธ์5ได้ เรียกว่า "เห็นจิตผู้รู้" ก็ได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 426 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 25, 26, 27, 28, 29

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร