ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=28059
หน้า 5 จากทั้งหมด 9

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ม.ค. 2010, 22:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

อ้างคำพูด:
การคิดเองเออเองว่า มีการตัดวงจร ของปฏิจจสมุปปาทในระหว่าง ย่อมเป็นความเพ้อเจ้อของนักคิดที่มองปฏิจสมุปปาท โดยลำดับแห่งกาลเวลา



มีการตัดวงจร ของปฏิจจสมุปปาทในระหว่าง

ตัดวงจรในระหว่าง ที่ท่านเช่นนั้นกล่าวนี้ (เข้าใจ) หรือได้ยินเขากล่าวมานี้ คือ ระหว่างอะไรกับอะไร

ตามที่คุณเข้าใจและฟังเขามาขอรับ :b1:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 10 ม.ค. 2010, 22:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

ก๊อปมาคงไม่ไหว กรัชกายซัง ก็ตามไปอ่าน ครับ
สองอาจาน ต่างปลื้มกันอยู่ครับ :b17: :b17:

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=28059&st=0&sk=t&sd=a

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 11 ม.ค. 2010, 07:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

เช่นนั้น เขียน:
ก๊อปมาคงไม่ไหว กรัชกายซัง ก็ตามไปอ่าน ครับ
สองอาจาน ต่างปลื้มกันอยู่ครับ :b17: :b17:


ก็กัดฟันก๊อปมาตรงที่มีปัญหาสัก4-5 บรรทัดก็พอ จะเอามาทั้งหมดทำไมเล่าท่านเช่นนั้น หรือ กลัวตกนรก :b32:

เจ้าของ:  mes [ 11 ม.ค. 2010, 08:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

เช่นนั้น เขียน:
สวัสดี คุณ mes

การทำความเข้าใจ ปฏิจจสมุปปาท เกี่ยวกับเหตุปัจจัยของธรรม

ปฏิจจสมุปปาท ไม่ใช่การอธิบาย เหตุปัจจัยขององค์ธรรมโดยลำดับแห่งกาล ว่าอันไหนเกิดก่อนเกิดหลังโดยลำดับกาลเวลา

แต่ปฏิจสมุปปาท อธิบายความเป็นเหตุเป็นปัจจัยขององค์ธรรม

จิตแต่ละขณะ ไม่ว่าจะเกิดดับรวดเร็วเท่าไหร่ก็ตาม เจตสิกธรรมที่เกิดร่วมเกิดพร้อมไปกับจิต ก็อธิบายโดยความเป็นเหตุเป็นปัจจัย

เช่น ตราบใดที่ยังไม่สิ้นตัณหา จิตขณะที่ยังไม่สิ้นตัณหา ย่อมเป็นทุกข์
ปฏิจสมุปปาท ย่อมอธิบายถึงเหตุปัจจัย อันเกิดเป็นทุกข์ของจิตดวงนั้น

การคิดเองเออเองว่า มีการตัดวงจร ของปฏิจจสมุปปาทในระหว่าง ย่อมเป็นความเพ้อเจ้อของนักคิดที่มองปฏิจสมุปปาท โดยลำดับแห่งกาลเวลา

เจริญธรรม




ก็ยังไม่ได้อธิบายถึงที่ผู้น้อยเรียนถาม

อ้างคำพูด:
ถามท่านเช่นนั้น

ที่ว่าขณะจิตเดียวเป็นอย่างไร

นานแค่ไหน ใช้เวลาอะไรเทียบ

และจิตที่ว่าเป็นรูปธรรมอย่างไร เป็นต้นว่า เป็นพลังงาน หรือวัตถุ

ถ้าไม่เป็นตัวตนประกอบด้วยอะไร

และเมื่อไร้ร่างกายมีแต่จิต จะเกิดเวทนา สัญญา ยังขาร อย่างไร

เมื่อขาดอายตนะจะรับรู้ทางใด หรือจิตรับรู้ได้เอง

ถ้าเป็นเช่นนั้นพระพุทธเจ้าก็ตรัสสั่งสอนมาผิด

วานท่านชี้แจงให้ความรู้แก่ผู้น้อยด้วยเทอญ
ถามท่านเช่นนั้น

ที่ว่าขณะจิตเดียวเป็นอย่างไร
นานแค่ไหน ใช้เวลาอะไรเทียบ

และจิตที่ว่าเป็นรูปธรรมอย่างไร เป็นต้นว่า เป็นพลังงาน หรือวัตถุ

ถ้าไม่เป็นตัวตนประกอบด้วยอะไร

และเมื่อไร้ร่างกายมีแต่จิต จะเกิดเวทนา สัญญา ยังขาร อย่างไร
เมื่อขาดอายตนะจะรับรู้ทางใด หรือจิตรับรู้ได้เอง

ถ้าเป็นเช่นนั้นพระพุทธเจ้าก็ตรัสสั่งสอนมาผิด

วานท่านชี้แจงให้ความรู้แก่ผู้น้อยด้วยเทอญ



เจ้าของ:  อโศกะ [ 11 ม.ค. 2010, 10:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

tongue
อ้างคำพูด:
กรัชกาย เขียน

ด้วยความเคารพ ขออนุญาตถามคุณอโศกะหน่อยครับ เพราะยังกำกวมที่ว่า

ปฏิจจสมุปบาท

เหตุ ปัจจัยแห่งการเวียนว่าย และทางออก

เช่น "เวียนว่าย" (บอกว่าเวียนว่ายในอะไร หรือ ออกไปจากการเวียนว่ายในอะไรประมาณเนี่ยครับ เอาชัดๆ โดยไม่ต้องตีความ)

และคำว่า "ทางออก" หมายถึงอะไรครับ คือ ออกจากอะไรแลว้ไปไหน

ด้วยความเคารพ

อโศกะ ตอบ

พูดถึงเวียนว่าย ต้องนึกถึงมหาสมุทรทั้ง 4 คือ กามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฐิโอฆะ อวิชชาโอฆะ

ที่เกี่ยวข้องกับวงปฏิจจสมุปบาทตรงๆ ใกล้ที่สุดคือ อวิชชาโอฆะ ห้วงน้ำหรือมหาสมุทรแห่งความไม่รู้


"ทางออก" เป็น โวหาร เป็นสื่อภาษา โดยปฏิบัติการแล้ว เมื่อมีสติ ปัญญา เฝ้าดู เฝ้าสังเกต พิจารณา ณ ช่วงต่อระหว่าง เวทนา กับ ตัณหา จะเป็นจุดที่เห็นง่าย รู้ง่าย ชัดเจนที่สุด

เห็นอะไร รู้ อะไร เห็นเหตุทุกข์ เห็น สมุทัย จะได้เรียนรู้ว่า ตัณหา เกิดขึ้นได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุที่แท้จริงที่ซ่อนลึกอยู่ เมื่อ ตัณหาเกิดขึ้นแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง ทั้งปฏิกิริยาลูกโซ่และผลข้างเคียง

จากการศึกษา ด้วยการเฝ้าดู เฝ้ารู้ เฝ้าสังเกต พิจารณา (Observing & Monitoring)ปฏิกิริยาธรรมชาติของวงปฏิจจสมุปบาท ตรงช่องระหว่าง เวทนา กับ ตัณหา นี้ ทำให้เกิดปัญญา รู้ว่า อัตตา หรือ สักกายทิฐิ อุปาทานที่เกิดขึ้นมาตอบโต้กับเวทนาที่เกิดขึ้นนั้น จะก่อให้เกิด ตัณหา ความทะยานอยาก เกิดจิตสังขาร หรือมโนกรรม แล้วส่งต่อให้เกิด วจีกรรม กายกรรม ไปตามลำดับ เป็น กุศล อกุศล อัพยากะตา ไปตามอำนาจแห่งเจตนาของจิต

กรรมครบองค์ วงปฏิจจสมุปบาท และวัฏสงสารก็หมุน หนุนเนื่องกันไปเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ไม่รู้จบ


ความออกได้ จะเกิดขึ้นเมื่อ อวิชชา ความไม่รู้ ซึ่งกลายมาเป็นความเห็นผิด (มิจฉาทิฐิ) คือเห็นว่าเป็น อัตตา ตัวกู ของกู ถูกทำลายลง ด้วย วิชชา ปัญญา สัมมาทิฐิ ความเห็นถูกต้อง ความรู้ธรรมตามความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งล้วนเป็น อนัตตา หาสาระแก่นสาร ตัวตน ไม่มี

ห่วงโซ่แห่งปฏิจจสมุปบาทและวัฏสงสาร ก็จะขาดสะบั้นลง เมื่อมรรค 4 เกิดขึ้นมาตัดทำลาย สังโยชน์ อันเป็นเงื่อนไขแห่งความสืบต่อ จนหมดสิ้นไป

:b8: tongue

ไฟล์แนป:
.jpg
.jpg [ 83.37 KiB | เปิดดู 3533 ครั้ง ]

เจ้าของ:  อโศกะ [ 11 ม.ค. 2010, 10:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

tongue
เช่นนั้นเขียน

การคิดเองเออเองว่า มีการตัดวงจร ของปฏิจจสมุปปาทในระหว่าง ย่อมเป็นความเพ้อเจ้อของนักคิดที่มองปฏิจสมุปปาท โดยลำดับแห่งกาลเวลา


อโศกะวิจารณ์

แล้วที่คุณเช่นนั้น คิดเองเออเองว่า ปฏิจจสมุปบาท เป็นแท่ง ไม่เป็นวง เกิดขึ้นในขณะจิตเดียว ตามความเชื่อถือศรัทธาที่มีต่อข้อมูลที่คุณมหาราชันย์ นำเสนอนั้น คุณคิด พิจารณาดีแล้วหรือว่า ถูกต้องตามธรรม
ตามธรรมที่ว่านี้ ไม่ใช่ธรรมตัวหนังสือในคัมภีร์ แต่หมายถึง ธรรม หรือธรรมชาติที่กำลังแสดงอยู่ในกายและจิตขณะปัจจุบันนี้นะครับ

คุณเช่นนั้นลองนั่งลง สงบจิตสัก 5 นาฑี แล้วสังเกต พิจารณาดูให้ดีว่า มีอะไรเกิดขึ้นในกาย ในจิต ของคุณ แล้ววิเคราะห์ออกมาซิว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งที่คุณเช่นนั้น มีสติ ปัญญาพอจับรู้ได้นั้น มีอะไรบ้าง ตามวงปฏิจจสมุปบาท ทั้ง 12 อย่าง ลองสังเกต วิเคราะห็แล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง ในเชิงปฏิจจสมุปบาทดูซิครับ คุณเช่นนั้น จะได้พบเห็นและเข้าใจ อะไรที่ไม่มีบอกรายละเอียดในตำราอีกเยอะเลยนะครับ


smiley

ไฟล์แนป:
ปัจจัย นิพพาน.jpg
ปัจจัย นิพพาน.jpg [ 106.55 KiB | เปิดดู 3520 ครั้ง ]

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 11 ม.ค. 2010, 12:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

อโศกะ เขียน:
แล้วที่คุณเช่นนั้น คิดเองเออเองว่า ปฏิจจสมุปบาท เป็นแท่ง ไม่เป็นวง เกิดขึ้นในขณะจิตเดียว ตามความเชื่อถือศรัทธาที่มีต่อข้อมูลที่คุณมหาราชันย์ นำเสนอนั้น คุณคิด พิจารณาดีแล้วหรือว่า ถูกต้องตามธรรม


ไม่มีพุทธพจน์รับรอง ความเป็นวง อันเพ้อเจ้อหรอกครับ ถ้ามีจริง ท่านยกมาสิครับ
พระพุทธองค์แสดงปฏิจสมุปปาท โดยความเป็นเหตุปัจจัยเท่านั้นครับ

อโศกะ เขียน:
ตามธรรมที่ว่านี้ ไม่ใช่ธรรมตัวหนังสือในคัมภีร์ แต่หมายถึง ธรรม หรือธรรมชาติที่กำลังแสดงอยู่ในกายและจิตขณะปัจจุบันนี้นะครับ


จิตเกิดดับหรือไม่ครับ ท่านอโศกะ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 11 ม.ค. 2010, 12:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

สวัสดีคุณ mes

เช่นนั้น ตอบกระทู้คุณ mes ครบแล้วครับ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 11 ม.ค. 2010, 12:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

กรัชกาย เขียน:
ก็กัดฟันก๊อปมาตรงที่มีปัญหาสัก4-5 บรรทัดก็พอ จะเอามาทั้งหมดทำไมเล่าท่านเช่นนั้น หรือ กลัวตกนรก :b32:


นู๋กรัชกายซัง
ถ้าก๊อปมามาก นู๋กรัชกายก็ลงนรกไปอบาย เร็วขึ้นกลัวนู๋กรัชกายลงนรกครับ smiley

เจ้าของ:  mes [ 11 ม.ค. 2010, 12:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

เช่นนั้น เขียน:
สวัสดีคุณ mes

เช่นนั้น ตอบกระทู้คุณ mes ครบแล้วครับ


เร็วจัง

อย่างนี้ถึงเรียกว่าขณะจิตเดียว

ตกลงปฏิจจสมุทบาทไม่เป็นวงจร(ผมเรียกวงจร)

คือเป็นแท่ง มีจุดเกิดจุดดับ

หมายความว่ามีมูลการณ์ว่างั้นเถอะ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 11 ม.ค. 2010, 12:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

mes เขียน:
เร็วจัง
อย่างนี้ถึงเรียกว่าขณะจิตเดียว
ตกลงปฏิจจสมุทบาทไม่เป็นวงจร(ผมเรียกวงจร)
คือเป็นแท่ง มีจุดเกิดจุดดับ
หมายความว่ามีมูลการณ์ว่างั้นเถอะ


ทำความเข้าใจ ว่า เป็นสัจจะ โดยความเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ถึงจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของ สังขตธรรมทั้งหลาย
จากนั้นก็จะเข้าใจ เองว่า ตัดตอน ในระหว่างไม่ได้ครับ

เจ้าของ:  mes [ 11 ม.ค. 2010, 13:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

เช่นนั้น เขียน:
ทำความเข้าใจ ว่า เป็นสัจจะ โดยความเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ถึงจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของ สังขตธรรมทั้งหลาย
จากนั้นก็จะเข้าใจ เองว่า ตัดตอน ในระหว่างไม่ได้ครับ


ตรงไหนในพระไตรปิฎกบอกว่าตัดตอนไม่ได้

อย่างผมรู้แล้วว่า

ความสุขทั้งหลาย
ความทุกขทั้งหลาย

เวทนาทั้งหลาย

เป็นแค่เหตุปัจจัย

ไม่มีสุขจริง ทุกขจริง

ไม่มีอยาก ไม่อยาก

ไม่มีภว

ไม่มีภพ

อย่างนี้ก็ตัดตอนไม่ได้หรอ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 11 ม.ค. 2010, 13:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

อ้างคำพูด:
ตรงไหนในพระไตรปิฎกบอกว่าตัดตอนไม่ได้


Quote Tipitaka:
ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุ
แห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น
พระมหาสมณะมีปกติทรงสั่งสอนอย่างนี้.

สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา



อ้างคำพูด:
อย่างผมรู้แล้วว่า

ความสุขทั้งหลาย
ความทุกขทั้งหลาย
เวทนาทั้งหลาย
เป็นแค่เหตุปัจจัย


เวทนาทั้งหลาย เ้กิดแต่เหตุ มีเหตุปัจจัย

อ้างคำพูด:
ไม่มีสุขจริง ทุกขจริง
ไม่มีอยาก ไม่อยาก
ไม่มีภว
ไม่มีภพ

มีสุข มีทุกข มีอทุกขมสุขเวทนา
มีภพ(ภว) เพราะคุณ mes ยังไม่ปรินิพพาน ดับธาตุขันธ์

อ้างคำพูด:
อย่างนี้ก็ตัดตอนไม่ได้หรอ


จิตเกิดดับ หรือไม่ครับ

เจ้าของ:  mes [ 11 ม.ค. 2010, 13:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

เช่นนั้น เขียน:
จิตเกิดดับ หรือไม่ครับ


ดับเพราะอะไร

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 11 ม.ค. 2010, 14:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศึกษาปฏิจจสมุปบาทด้วยภาพ

mes เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
จิตเกิดดับ หรือไม่ครับ


ดับเพราะอะไร


เกิดเพราะอะไร

หน้า 5 จากทั้งหมด 9 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/