ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สอบถามค่ะ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=29401 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | jsb [ 07 ก.พ. 2010, 02:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | สอบถามค่ะ |
คือเวลานั่งสมาธิพอผ่านไปส้ก5นาทีจะรู้สึกเหมือนจะเป็นลม และฟุ้งซ่านมาก บางเรื่องจำไม่ได้แล้วก็ผุดขึ้นมาขณะนั่งสมาธิ(เฉพาะกรรมทีไม่ดี)แต่บางครั้งทำงานอยู่มันก็จะรู้สึกเหมือนเข้าสมาธิไปเอง รู้สึกกลัวมาก เวลาโกรธก็รู้ว่ากำลังโกรธแต่หยุดไม่ได้ๆแต่ดูอยู่เฉยๆ จนรู้สึกว่าไม่รู้ความจริงหรือฝัน ตอนนี้เลิกทำสมาธิได้สักพักแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าวิบากกรรมที่เคยทำไว้กำลังให้ผลอยู่เพราะเป็นคนไมเคยเจ็บป่วยแต่ตอนนี้เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่และจะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟและของร้อนอยู่เนีองๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | walaiporn [ 07 ก.พ. 2010, 03:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
jsb เขียน: คือเวลานั่งสมาธิพอผ่านไปส้ก5นาทีจะรู้สึกเหมือนจะเป็นลม และฟุ้งซ่านมาก บางเรื่องจำไม่ได้แล้วก็ผุดขึ้นมาขณะนั่งสมาธิ(เฉพาะกรรมทีไม่ดี)แต่บางครั้งทำงานอยู่มันก็จะรู้สึกเหมือนเข้าสมาธิไปเอง รู้สึกกลัวมาก เวลาโกรธก็รู้ว่ากำลังโกรธแต่หยุดไม่ได้ๆแต่ดูอยู่เฉยๆ จนรู้สึกว่าไม่รู้ความจริงหรือฝัน ตอนนี้เลิกทำสมาธิได้สักพักแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าวิบากกรรมที่เคยทำไว้กำลังให้ผลอยู่เพราะเป็นคนไมเคยเจ็บป่วยแต่ตอนนี้เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่และจะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟและของร้อนอยู่เนีองๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ![]() ลักษณะอาการที่เกิดกับคุณนั้น ก็ไม่แตกต่างจากคนอื่นๆอีกหลายๆคนหรอกนะคะ เราเองก็เคยเป็นแบบนั้น นานมาแล้วนะคะ คือเวลาทำงาน จิตมันชอบเป็นสมาธิ จนเพื่อนหาว่าบ้า เพราะขาดการสื่อสารรอบๆตัว แต่ชอบนะเพราะมันสงบดี ไม่เกิดอาการกลัวหรอกนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่ค่อยจะเข้าใจในเรื่องของสมาธิเท่าไหร่นัก แต่ก็ไปหาหมอที่สนิทกัน ตามคำแนะนำของเพื่อน ผลออกมาคือปกติดีทุกอย่าง ส่วนเรื่องฟืนไฟนี่ ตัวเองจะไม่ถูกโฉลกกับไฟฟ้า ต้องคอยระวัง เพราะจะเป็นคนที่ถูกไฟฟ้าดูดง่ายมากๆเลย แล้วเมื่อก่อนตามแขนขา จะมีแต่แผลที่เกิดจากไฟ ส่วนเรื่องความโกรธ คุณเก่งนะ รู้ว่าโกรธถึงจะหยุดไม่ได้ แต่ดูเฉยๆได้ เราน่ะถ้าเมื่อก่อนโกรธล่ะก็ปริ๊ดแตกเลย นี่คือเรื่องในอดีต เล่าสู่กันฟังนะคะ ให้เห็นว่า ไม่ได้มีคุณคนเดียวที่เป็นแบบนี้ ขอถามรายละเอียดหน่อยนะคะ ได้เดินจงกรมก่อนที่จะนั่งหรือเปล่าคะ ถ้าเดิน เดินกี่นาที และเวลานั่ง ใช้การบริกรรมภาวนาแบบไหนคะ เป็นเพียงหนึ่งความคิดเห็นนะคะ เดี๋ยวก็จะมีความคิดเห็นอื่นๆตามมา |
เจ้าของ: | jsb [ 07 ก.พ. 2010, 10:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
ขอบคุณค่ะ ไม่ค่อยได้เดินจงกรมค่ะ แต่เวลาเดินจะทำความรู้สึกตัวไปด้วย คือรู้ว่าเท้าไหนย่างแต่ไม่ทุกครั้งค่ะ บริกรรมขณะนั่งสมาธิก็ พุธโธ ค่ะ และตามดูลมหายใจ แต่รู้สึกว่าเวลาหายใจเข้าจะขัดๆตึงๆคือสั้นมากคล้ายหายใจไม่ออก อาการนี่เพิ่งเป็นไม่นานมานี่ค่ะ ส่วนเรื่องโกรธไม่ได้เก่งหรอกค่ะ ก็ปรี๋ดแตกเหมือนกันเพียงแต่รู้ แต่หยุดไม่ได้ แต่เวลานอนสมาธิจะทำได้ดีมากค่ะ เพราะจะรู้สึกตัวขณะหลับลุกก็รู้ แรกๆงงค่ะ นึกว่าตัวเองเอ๋อ แต่ตอนนี้ชินแล้ว ส่วนเรื่องอยู่ดีเข้าสมาธิเอง ที่กลัวเพราะบางทีแฟนถามอะไรแล้วสมาธิมา ก็เลยทะเลาะกันเพราะบางทีเขาไม่เข้าใจ แฟนเป็นคริสต์ไม่เคยนั่งสมาธิค่ะ |
เจ้าของ: | walaiporn [ 07 ก.พ. 2010, 11:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
jsb เขียน: ขอบคุณค่ะ ไม่ค่อยได้เดินจงกรมค่ะ แต่เวลาเดินจะทำความรู้สึกตัวไปด้วย คือรู้ว่าเท้าไหนย่างแต่ไม่ทุกครั้งค่ะ บริกรรมขณะนั่งสมาธิก็ พุธโธ ค่ะ และตามดูลมหายใจ แต่รู้สึกว่าเวลาหายใจเข้าจะขัดๆตึงๆคือสั้นมากคล้ายหายใจไม่ออก อาการนี่เพิ่งเป็นไม่นานมานี่ค่ะ ส่วนเรื่องโกรธไม่ได้เก่งหรอกค่ะ ก็ปรี๋ดแตกเหมือนกันเพียงแต่รู้ แต่หยุดไม่ได้ แต่เวลานอนสมาธิจะทำได้ดีมากค่ะ เพราะจะรู้สึกตัวขณะหลับลุกก็รู้ แรกๆงงค่ะ นึกว่าตัวเองเอ๋อ แต่ตอนนี้ชินแล้ว ส่วนเรื่องอยู่ดีเข้าสมาธิเอง ที่กลัวเพราะบางทีแฟนถามอะไรแล้วสมาธิมา ก็เลยทะเลาะกันเพราะบางทีเขาไม่เข้าใจ แฟนเป็นคริสต์ไม่เคยนั่งสมาธิค่ะ การเดินจงกรม ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบตายตัวหรอกค่ะ เดินแบบไหนก็ได้ ขอเพียงให้รู้สึกเวลาเท้ากระทบพื้น เวลาเคลื่อนไหวกาย รู้ไปกับกาย รู้แค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ ส่วนการเดินแบบมีรูปแบบนั้น เอาไว้สำหรับทดสอบสติ สัมปชัญญะค่ะ หรือถ้าบางคนถนัดเดินแบบรูปแบบก็ไม่ผิดอะไร ใช้ได้ทุกรูปแบบ ผู้ปฏิบัติจะเลือกได้เองว่า ตัวเองถนัดแบบไหน ก็ให้ใช้แบบนั้น แล้วค่อยๆมาปรับเปลี่ยนในภายหน้าได้ การทำสมาธิไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว สามารถทำได้ทุกอริยาบท เกิดจากเหตุของแต่ละคนสร้างมาแตกต่างกันไป ถ้าถนัดนอนทำสมาธิ ใช้นอนทำก็ได้ค่ะ ส่วนการนั่งก็ควรจะฝึกไว้บ้าง เพื่อจะได้ทำได้ทุกอริยาบท ลองทำดูก่อนนะคะ เดินจงกรมก่อน 5 นาที แล้วต่อด้วยการกำหนดนั่งหรือนั่งสมาธินี่แหละค่ะ 5 นาที ให้สังเกตุตัวเองดูว่า หลังจากเดิน 5 นาที แล้วมานั่งต่ออีก 5 นาที อาการที่บอกว่า คล้ายๆจะเป็นลมนั้น ยังเกิดขึ้นอีกมั๊ย ถ้าเกิดขึ้นอีก ให้เริ่มเดินใหม่ แต่เพิ่มเดินเป็น 10 นาที นั่งต่ออีก 5 นาที ถ้าทำแล้ว ยังมีอการเหมือนเดิมอีก ให้เพิ่มเดินเป็น 15 นาที นั่ง 5 นาที เพิ่มการเดินครั้งละ 5 นาทีแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ จนกว่าการนั่งนั้น อาการที่ว่าคล้ายๆจะเป็นลมนั้นเบาบางลงไป เวลาหายใจ ให้ฝึกหายใจยาวๆก่อนนะคะ คือ พอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ให้สูดลมหายใจ เข้าออกยาวๆ 5 ครั้ง จะใช้คำบริกรรมร่วมด้วยหรือจะแค่รู้ลมที่หายใจที่เข้าออกก็ได้ค่ะ แล้วต่อด้วยการนั่งสมาธิแบบที่เคยทำ อย่าลืมตั้งนาฬิกาจับเวลาด้วยนะคะ อ้อ ... ค่อยๆลองทำและสังเกตุดูด้วยนะคะ คือ สังเกตุดูทั้งลมหายใจ และอาการที่เคยเป็นน่ะค่ะ ทำวันละครั้งสองครั้งหรือจะกี่ครั้งก็ตามแต่สะดวกค่ะ ไม่ต้องหักโหม |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 ก.พ. 2010, 21:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
เจ้าของคำถาม คุณค่อยๆพิจารณา link นี้ดูก่อนนะครับ viewtopic.php?f=2&t=24709&st=0&sk=t&sd=a แล้วค่อยสนทนากัน ผู้ตั้งกระทู้ถาม link นั้น ใช้พอง-ยุบ เป็นกรรมฐาน (เป็นที่ทำงานของจิต) แต่คุณใช้ลมหายใจเข้าออกทาง จมูกเป็นกรรมฐาน ข้อนี้ไม่เป็นอุปสรรคครับ คุณใช้อย่างไรก็อย่างนั้น แต่ปรับเสริมส่วนที่คุณขาดหรือ บกพร่องนิดหน่อย อ่านทั้งสอง link นะครับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 07 ก.พ. 2010, 22:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
อ้างคำพูด: เวลานั่งสมาธิพอผ่านไปส้ก 5 นาทีจะรู้สึกเหมือนจะเป็นลม และฟุ้งซ่านมาก บางเรื่องจำไม่ได้แล้วก็ผุดขึ้นมาขณะนั่งสมาธิ (เฉพาะกรรมทีไม่ดี) แต่บางครั้งทำงานอยู่มันก็จะรู้สึกเหมือนเข้าสมาธิไปเอง รู้สึกกลัวมาก เวลาโกรธก็รู้ว่า กำลังโกรธแต่หยุดไม่ได้ๆ แต่ดูอยู่เฉยๆ จนรู้สึกว่าไม่รู้ความจริงหรือฝัน ตอนนี้เลิกทำสมาธิได้สักพักแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าวิบากกรรมที่เคยทำไว้กำลังให้ผลอยู่ เพราะเป็นคนไม่เคยเจ็บป่วย แต่ตอนนี้เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่และจะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟและของร้อนอยู่เนีองๆ สภาวะที่คุณประสบนั่น มองให้แง่ของการปฏิบัติกรรมฐานแล้ว ไม่แปลก ธรรมดาๆ ระยะนี้ถึงตรงนี้ก็เป็นอย่างนี้ ผ่านจุดนี้ไปแล้ว ก็ไม่ประสบกับภาวะนี้อีก อุปมาก็เหมือนการเดินทางครับ คุณดูคำถามของโยคี link นี้สิครับ มีหลากหลายตัวอย่าง http://www.free-webboard.com/home.php?n ... hammachati แต่เขาหลุดรอดไปไม่ได้มีนิดเดียวเอง คือไม่กำหนดรู้สภาวะนั้นๆ ตามที่มันเป็นแต่ละขณะๆเท่านี้เอง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 11 ก.พ. 2010, 21:45 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ | ||
คุณ jsb เงียบไปเลย เป็นไงบ้าง หรือว่า ภาวะดังกล่าวดับแล้ว ยังติดตามอยู่ไหมครับ พอๆเห็นแนวทางการปฏิบัติหรือยัง
|
เจ้าของ: | jsb [ 18 ก.พ. 2010, 09:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
สวัสดีค่ะ อาการต่างๆตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ สงบมากขึ้น แต่ทำไมตอนที่ไม่นั่งสมาธิ คือตอนทำกิจการต่างๆระหว่างวัน พอมีอะไรมากระทบที่ไม่พอใจอารมณ์โกรธจะรุนแรงแต่รู้ตัวเองไม่สามารถหยุดร่างกายให้หยุดระเบิดอารมณ์โกรธได้ และอารมณ์โกรธก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างวันนี้ตีหลานอย่างรุนแรงทั้งที่รู้ตัวว่ากำลังตีหลาน(หลานแค่หกขวบ)แต่ก็ห้ามร่างกายไม่ได้ พยายามข่มความโกรธ และบอกตัวเองว่าอย่าทำแต่เหมือนว่ามันโกรธมากกว่าเดิม ช่วยหน่อยค่ะ หรือว่าจะเสียสติไปแล้ว ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 18 ก.พ. 2010, 11:20 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ | ||
อ้างคำพูด: พอมีอะไรมากระทบที่ไม่พอใจอารมณ์โกรธจะรุนแรงแต่รู้ตัวเองไม่สามารถหยุดร่างกายให้หยุดระเบิดอารมณ์โกรธได้ และอารมณ์โกรธก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างวันนี้ตีหลานอย่างรุนแรงทั้งที่รู้ตัวว่ากำลังตีหลาน(หลานแค่หกขวบ)แต่ก็ห้ามร่างกายไม่ได้ พยายามข่มความโกรธ และบอกตัวเองว่าอย่าทำแต่เหมือนว่ามันโกรธมากกว่าเดิม ช่วยหน่อยค่ะ หรือว่าจะเสียสติไปแล้ว คุณไม่ได้เสียสติหรอกครับ แต่อาจจะเสียสตางค์ ![]() เช่น โกรธแล้วตีๆๆหลานจนบาดเจ็บ ตีๆๆจนหายโมโหโทโสแล้ว ก็ต้องพาหลานไปโรงพยาบาล (เสียสตางค์) หากระเบิดอารมณ์คนอื่น ห้ามตนเองไม่ได้ก็ตบตีกัน เราอาจถูกกระทำตอบ หรือบาดเจ็บไปด้วยกัน ก็ต้องเสียเงินค่ารักษา หรือ อาจได้เสียเงินค่าปรับที่โรงพัก จะยังไม่ตอบ แต่จะถามว่า หลังจากตีหลานเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว ความโกรธหาย ไหมครับ
|
เจ้าของ: | jsb [ 18 ก.พ. 2010, 23:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
ตอนตีแล้วเห็นหลานร้องไห้รู้สึกสะใจด้วยค่ะ ตีเสร็จรู้สึกอารมณ์โกรธลดลง ปนสงสารหลาน และรู้สึกผิดค่ะ สับสนมากค่ะ ทำไมเป็นอย่างนี้ค่ะ เหมือนยิ่งฝึกยิ่งลงเหว |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ก.พ. 2010, 19:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
แนะนำกรณีดำเนินชีวิตปกติประจำวัน แล้วโทสะเกิดขึ้นปุ๊บรู้สึกตัว ให้นับเลขจาก 1-100 ถึงร้อยแล้ว นับย้อนกลับ จาก 100-1 ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ก.พ. 2010, 19:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
jsb เขียน: คือเวลานั่งสมาธิพอผ่านไปส้ก5นาทีจะรู้สึกเหมือนจะเป็นลม และฟุ้งซ่านมาก บางเรื่องจำไม่ได้แล้วก็ผุดขึ้นมาขณะนั่งสมาธิ(เฉพาะกรรมทีไม่ดี)แต่บางครั้งทำงานอยู่มันก็จะรู้สึกเหมือนเข้าสมาธิไปเอง รู้สึกกลัวมาก เวลาโกรธก็รู้ว่ากำลังโกรธแต่หยุดไม่ได้ๆแต่ดูอยู่เฉยๆ จนรู้สึกว่าไม่รู้ความจริงหรือฝัน ตอนนี้เลิกทำสมาธิได้สักพักแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าวิบากกรรมที่เคยทำไว้กำลังให้ผลอยู่เพราะเป็นคนไมเคยเจ็บป่วยแต่ตอนนี้เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่และจะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟและของร้อนอยู่เนีองๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ![]() กรณี้ทำกรรมฐาน คุณใช้กรรมฐานอะไรครับ ใช้ลมหายใจเข้าออกแล้วบริกรรมพุทโธ หรือ อะไรครับ ขอรายละเอียดอีกหน่อย |
เจ้าของ: | ภาวิตา-พหุลีกตา [ 20 ก.พ. 2010, 14:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
ขอแนะนำนิดนึงครับ (จากผู้รู้น้อยๆคนนึง) ...การปฎิบัติสมาธิภาวนา ขออย่าได้ไปติดขั้นตอนวิธีการ เอาความเข้าใจที่ว่า ความรุ้สึกอยู่ที่ไหน จิตก็อยู่ที่นั้น อย่างเช่น ใ้ช้การเจริญอานาปาณสติ คือกำหนดความรู้สึก รู้ว่ามีลมหายใจเข้า-ออก ตลอดเวลา หรือว่าจะกำหนดรู้ที่้ท้องมีการยุบ-พอง หรือ ลมกระทบที่ปลายจมูก ก็ขอให้กำหนดรู้อยู่อย่างนั้นครับ อย่าไปนึกว่าลมหายใจ สั้น-ยาว ลมหายใจเร็ว-ช้า เพียงแต่กำหนดรู้เฉยอยู่ เพราะว่าจิตเราเป็นผู้รู้ที่ลมหายใจอยู่แล้ว ...สำหรับการปฎิบัติสมาธิภาวนา เมื่อจิดเริ่มมีอาการสงบ จะเริ่มรู้สึกว่ากายเบา จิตเบา ตามธรรมชาติของจิตของเรานั้น เมื่อจิตเรามีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก เช่นรู้ที่ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นานๆเข้าสักพักนึง จิตจะค่อยๆมีอาการสงบลงไป ก่อนที่จิตจะสงบ จะรู้สึกมีอาการเคลิ้มๆ แล้ววูบลงไป ช่วงนี้ ถ้าวูบลงไป แล้วเกิดสว่างขึ้น นั้นก็คือ จิตเป็นสมาธิ แต่ถ้าวูบแล้วมืด คือ หลับไปเลย บางครั้งผู้ฝึกใหม่จะตกใจตื่นกับอาการแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ คือว่าจิตเราตกภวังค์ เพราะว่า จิตที่จะเป็นสมาธิได้ ต้องผ่านภวังค์ทั้งนั้นครับ แต่ผู้ที่เคยเป้นสมาธิได้ดีแล้ว ก็จะวูบเพียงนิดหน่อย แล้ว จิตสว่า่งเลย ส่วนการบริกรรมภาวนาที่ใช้คู่กับลมหายใจ ก็เป็นวิธีนึง เพราะว่า เมื่อจิตสงบลงเป็นสมาธิแล้ว คำบริกรรมภาวนาจะหายไปหมด จะรู้สึกว่ามีปีติ มีความสูข เมื่อเราใช้คำบริกรรมภาวนา ควบคู่ไปกับลมหายใจ เมื่อคำบริกรรมภาวนาหายไป จิตเราจะวิ่งไปจับที่ลมหายใจ ...หลังจากจิตเราถอนออกจากสมาธิแล้ว อย่าพึ่งลุก-เดินไปไหน ขอให้นั่งหรือยืนอยุ่สักพักนึงเพื่อให้จิตเราผ่อนคลายลง เพราะว่าการทำจิตให้เป็นสมาธิได้นั้น จะเป็นฐานสร้างพลังให้แก่จิตของเรา เมื่อทำได้บ่อยเข้า แล้วไม่ได้ผ่อนคลายจิตลง ในบางครั้งเมื่อมีอารมณ์บางอย่างมากระทบ ถ้าห้ามอารมณ์นั้นไม่ได้ เราจะเผลอตัวระเบิดอารมณ์ออกมาก็มีครับ ...และสุดท้ายครับ การปฎิบัติสมาธิภาวนานั้น อย่าไปบังคับจิต หรือ ข่มจิต ใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้เกิดสมาธิ ให้ปล่อยเรื่อยๆ สบายๆ แล้วถ้าจิตจะสงบ ก็ปล่อยให้สงบลงไป หรือ ถ้าจิตไม่ยอมสงบ ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างนั้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางที่พอจะแนะนำได้ ขอให้หมั่นพากเพียรปฎิบัติ อย่าได้มีความเพียรน้อยเหมือนผมเลยครับ ขอให้คุณjsb เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | jsb [ 21 ก.พ. 2010, 02:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
ตอนเริ่มทำสมาธิ ก็เริ่มจากพุธโทค่ะ พอจิตเริ่มสงบเปลี่ยนเป็นตามดูลมหายใจโดยอัตโนมัติค่ะ |
เจ้าของ: | jsb [ 21 ก.พ. 2010, 02:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สอบถามค่ะ |
ตอบคุณภวิตา เป็นไปได้ไหมค่ะ อารมณ์โกรธที่ระเบิดออกมา อาจมาจากพอออกจากสมาธิแล้วลุกเลย ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |