วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 09:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 26  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 23:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 16:32
โพสต์: 323

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ขอกราบอนุโมทนา คนดี ขอกราบงาม ๆ ๓ ครั้ง

สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ



วันนี้เพิ่มสติ เพิ่มสมาธิให้กับตัวเอง โดยการสวดมนต์
เริ่มสวด ประมาณเวลา 12.00 จบประมาณเกือบ 19.00 (มีพักเล็กน้อย) นาน ๆ ทำที


ได้ความอดทน พลัง ความเข้มแข็ง สติ สมาธิ กำลังใจ หลายอย่าง

ทำสลับกับการฝึกสมาธิก็ดี (สำหรับคนที่สมาธิยังไม่แข็งแรง เหมือนงมงายตอนนี้)

ขอแบ่งบุญให้ ขอให้ได้ด้วยกัน


:b42:


โอมฺ มณีปทฺเม หุมฺ

ขอปัญญาจงบังเกิดมี


:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:
28 มีนาคม 2553
เดิน 11 นอน 6

วันนี้ไม่ค่อยมีไรเลย
มองเห็นว่าใจมันแน่นๆ บอกไม่ถูก แล้วก็ฟุ้งไปหลายเรื่อง เหมือนไม่มีสมาธิเดินจงกรม
เหมือนมีอะไรปิดบังหัวใจอยู่ มองไม่ค่อยเห็น

ก็ ไม่มีอะไรเลย สำหรับวันนี้






ทำให้ต่อเนื่องนะคะ ทำทุกวัน จะมากหรือจะน้อย ไม่ใช่ตัววัดผลหรือเป็นตัวบ่งบอกผล
แต่ความสม่ำเสมอ ความเสมอต้นเสมอปลาย ความต่อเนื่อง ตรงนี้แหละคือตัวสำคัญที่สุด
ยิ่งมีสติ สัมปชัญญะเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเห็นรายละเอียดของสภาวะมากขึ้นเท่านั้น

เวลาเดิน ใหรู้เท้าที่กระทบพื้น รู้ลงไปตรงนั้น จะช่วยให้ระงับความฟุ้งไปได้เป็นพักๆ
พอวันใด สติดี สมาธิดี ความฟุ้งจะหายไปเองค่ะ

วันนี้ได้ไปอีกหนึ่งหน่วยกิตสติ สัมปชัญญะและสมาธิที่เพิ่มขึ้นนะคะ ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย
ค่อยๆปรับอินทีรย์ไปเรื่อยๆค่ะ เดินมั่ง นั่งมั่ง นอนมั่ง ยืนมั่ง ใช้ทั้งนั้นแหละค่ะ
แต่ที่สำคัญคือ ควรเดินก่อนไปต่อด้วยการกำหนดอริยาบทอื่นๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:
28 มีนาคม 2553
เดิน 11 นอน 6

วันนี้ไม่ค่อยมีไรเลย
มองเห็นว่าใจมันแน่นๆ บอกไม่ถูก แล้วก็ฟุ้งไปหลายเรื่อง เหมือนไม่มีสมาธิเดินจงกรม
เหมือนมีอะไรปิดบังหัวใจอยู่ มองไม่ค่อยเห็น

ก็ ไม่มีอะไรเลย สำหรับวันนี้


กรรมฐาน เจริญก้าวหน้าดีครับ สำคัญตรงนี้ "มองเห็น" "รู้ตลอด" (ปชานาติ)

อนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


หมั่นสำรวม สังวร ระวังอายตนะให้ดีๆ
เมื่อเกิดการกระทบ อาจก่อให้เกิดความชอบหรือชัง ให้หมั่นกำหนดรู้ลงไป
วันนี้ชัด พรุ่งนี้ไม่ชัด วันนี้ดี พรุ่งนี้ไม่ดี มันไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอนทั้งสิ้น
สิ่งที่สำคัญที่ควรมองให้เห็นคือ กิเลสในใจตน
คำสรรเสริญ เยินยอ ล้วนเป็นพิษร้าย เมื่อสติ สัมปชัญญะ ยังไม่สามารถรู้เท่าทันได้ พึงระวังให้ดี

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 18:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 18:28
โพสต์: 4

ชื่อเล่น: น้องฝ้าย
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดี นะ วารินเน่
นายเจ๋งสุด
เจริญในศีล สมาธิ และปัญญา นะเพื่อน

เราดูนายอยู่

.....................................................
ศีล สมาธิ ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



1 มีค. 48
21.30 สวดมนต์ เดิน+นั่ง ไม่ได้จับเวลา
22.45 แปลกจริงๆ เรานั่งอย่างไรได้นาขนาดนี้ การนั่งก็เหมือนกับว่าเราหลับไปตลอดเวลาก็ไม่ใช่
บอกไม่ถูก เรายังจับพองยุบไม่ได้ตลอดเวลาเหมือนเดิม

2 มีค.
21.10 เดิน 1ชม. นั่ง 1ชม.
การเดิน มีฟุ้งเป็นบางครั้ง พอกำหนดได้
นั่ง เริ่มกำหนดได้ ยังมีปวดตอนท้ายๆ กำหนดปวดได้ จนครบเวลา

3 มีค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
เวลาที่ไม่ได้กำหนดเวลา กลับได้สมาธิดี
แต่เวลาตั้งใจจับเวลา นั่ง 1 ชม. กลับไม่มีสมาธิ

4 มีค.
สวดมนต์ กำหนดยืนแล้วนั่ง ไม่ได้จับเวลา

7 มีค.
สวดมนต์ นั่งแล้วแผ่เมตตา

เท่าที่อ่านๆมา สังเกตุเห็นได้อย่างหนึ่งว่า ถ้าไม่เดินจงกรมก่อนทุกครั้ง
วันต่อๆไปจะเอาแต่นั่งอย่างเดียว แล้วต่อมาคือ หยุดทำ


8-9 มีค.
พาพู่ไปวัดอัมวัน พู่อยู่วัดต่อ 7 วัน ส่วนเรากลับมาทำงาน

10 มีค.
เดิน 1ชม. นั่ง 1ชม.
เดินได้ดี มีสติดี
นั่ง ปวดมากๆ ต้องใช้วิธีขยับก้นช่วย ต้องฝึกใหม่

11 มีค.
สวดมนต์ วันนี้ไม่ได้กำหนดเดิน แต่นั่งเลย และแผ่เมตตา

12-15 มีค.
สวดมนต์ แผ่เมตตาอย่างเดียว

16 มีค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.

17 มีค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
วันนี้ตั้งเวลานานเกินไป 1/2 ชม. เท่ากับนั่ง 1ชม. จะรู้สึกเองตอนครบเวลา บอกไม่ถูก

18 มีค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
ปวดหนอ ยังกำหนดไม่ได้

19 มีค.
วันนี้ไม่ได้ปฏบัติ หงุดหงิดกับหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต ทำให้เกิดความเบื่อมากๆ
เมื่อเบื่อ เลยทำให้ไม่อยากทำอะไรเลย เบื่อชาวบ้าน ร้องคาราโอเกะ กินเหล้าทุกคืน เสียงดังมากๆ
เราอย่าไปสนใจชาวบ้านเลย ดูตัวเราดีกว่า ทุกอย่างผลักดันในด้านความคิด
เหตุการณืทั้งหลายที่เกิดขึ้น ทำให้เราเกิดความอดกลั้น เราเริ่มระวังอารมณ์ชั่ววูบได้ดีขึ้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลาเราโกรธ เราจะด่าทันที แต่เมื่อกี้เราก็หลุดด่าหมากระทบคนเหมือนกัน
ความจริงแล้วเราไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับบุคคลเหล่านี้ดีที่สุด
อาจจะมองดูเหมือนว่าเราแล้งน้ำใจ แต่ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า


ตอนนั้นยังกำหนดเรื่องเสียงไม่ได้ พอได้ยินแล้วเกิดความหงุดหงิดและรำคาญมากๆ
พอมาชวนเราไปบ้านเขา ไม่ไปก็ไม่ได้ พอเขาเมาชอบค่อนขอดเรา


20 มีค.
นั่งอย่างเดียว 1/2 ชม.

21 มีค.
สวดมนต์อย่างเดียว

22 มีค.
เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม. ไม่มีสมาธิเลย

23 มีค.
เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.

24 มีค.
เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม. มีแต่ความปวดทรมาณ ( ปวดขา )

25 มีค.
กำหนดยืนแล้วนั่งเลย

26 มีค.
กำหนดยืนแล้วนั่งเลย ไม่มีสมาธิ ดิ่งเหมือนคนหลับไปเฉยๆ


กิเลสเข้าแทรกได้ตลอดเวลา เมื่อทำไม่ต่อเนื่อง เลยทำให้เป็นแบบนี้
ทำแบบลุ่มๆดอนๆ ก็เลยได้ผลแบบลุ่มๆดอนๆ อ่านๆของตัวเองแล้วยังขำเลย
เราขี้เกียจขนาดนี้เลยหรือ แตกต่างจากปัจจุบันแบบหน้ามือกับหลังมือ เหมือนคนละคนกันเลย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 20:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าชะตากรรมพัดพาให้เราได้เจอกับอะไรก็ตาม
ไม่ว่าจะดีหรือร้าย
หรือจะเป็นสายลมหวานที่ทำให้หลงทางได้
แต่อุปสรรค์นั้นมีไว้ให้ฝ่าฟัน

ทุกอย่างจึงอยู่ที่ตัวเอง ว่าจะกระทบหรือไหม

เคยคิดเหมือนกันนะว่า เอามาลงที่นี่ต้องเผชิญกับคำชมแน่ๆ
แล้วเราที่เคยหลงตัวเองมากๆเมื่อก่อน
จะสามารถผ่านอะไรพวกนี้ไปได้อีกครั้งไหมนั้น..

ก็ต้องดูกันต่อไป..

--------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 29 มีนาคม 2553
เดิน 7 นอน 4

วันนี้ไม่มีอะไรมาก
เหมือนจะรู้สึกทุกข์อยู่ในใจ
พอดูไปดูมาก็คิดว่าน่าจะเป็น เบื่อความทุกข์ของโลกมากกว่า
คิดว่าไม่อยากเกิดแล้วล่ะ
ทั้งๆที่วันนี้ไม่ค่อยได้เจอเรื่องแย่อะไร สงสัยจะรู้สึกต่อเนืองกะเมื่อวาน
สติเริ่มดีขึ้น

และคิดว่าอีกไม่นานจะดีขึ้นกว่านี้เยอะ

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แก้ไขล่าสุดโดย varinne เมื่อ 30 มี.ค. 2010, 00:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 03:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


แวะมาเยี่ยมและขออนุโมทนา
ในความเพียรนะค่ะน้องวา :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


7 เมย. 48
สวดมนต์
หลายวันที่ผ่านมา ไม่ได้ปฏิบัติเลย ได้แต่สวดมนต์อย่างเดียว นับวันต้องเริ่มต้นใหม่ตลอดเวลา ยากจริงๆเลย

22 เมย.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.

23 เมย.
สวดมนต์

4พค. 48
ยากจริงๆหนอในการเริ่มต้นใหม่ทุกๆครั้ง เราไม่ได้ทำสม่ำเสมอ

10 พค.
สวดมนต์ เดิน 15 นาที นั่ง 15 นาที เริ่มต้นใหม่อีกแล้ว
ทำยังไงถึงจะปฏิบัติได้สมาเสมอ ส่วนมากจะไม่ได้ปฏิบัติ นับวันถอยหลังไปเรื่อยๆ
ทำความดีนี้แสนยากจริงๆ เหมือนอย่างที่หลวงพ่อพูดเลย ถ้าเราคิดจะปฏิบัติทีไร
เรารู้สึกเกียจคร้านขึ้นมาทันที ทั้งที่เวลาก็มี ไม่ใช่ไม่มี เราชอบตามใจตัวเอง
คอยแต่จะเอาแต่สบาย เวลาปฏิบัติทีไร มีแต่ความง่วงนอนมากๆ เบื่อตัวเองมากๆเลย
ทำไมถึงขี้เกียจอย่างนี้ อีกนานไหมหนอกว่าจะทำได้สม่ำเสมอ

12 พค.
สวดมนต์

19 พค.
สวดมนต์

30 พค.
ได้แต่สวดมนต์ ปฏิบัติเราไม่ได้ทำเลย เชื่อว่าสักวันหนึ่ง เราต้องปฏิบัติได้เหมือนเดิม

.......................................................

9 มิย.
เดี๋ยวนี้แทบจะไม่ได้สวดมนต์เลย ยิ่งปฏิบัติไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้ทำเลย
เราเบื่อคนมากๆเลย เมื่อชาติก่อนคงทำกรรมกับคนเหล่านี้ไว้เยอะ ถึงต้องมาชดใช้กัน
ไม่อยากเกิดอีกแล้ว ปัญหาเยอะมากๆ แต่คงจะยากเหลือเกิน เพราะเรายังปฏิบัติแบบทำมั่งไม่ทำมั่งแบบนี้
บางทีก็อดคิดไม่ได้เหมือนเล่นละครใส่กัน ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเขาเป็นอย่างไร เบื่อจริงๆ อยากย้ายบ้านหนี
แต่ก็คงเจอคนแบบนี้อีก ผิดที่เราเอง ที่ไปพูดคุยกับเขา แต่ถ้าไม่คุยกับเขาก็โดนเขาว่าเอาอีก

23 มิย.
สวดมนต์ ทุกวันนี้ได้บทเรียนในชีวิตหลายๆอย่าง เราไม่ควรจะไปยุ่งกับใคร หรือพูดกับใคร
เพราะพูดทีไรเป็นเรื่องทุกที คนส่วนมากจะไม่ชอบพูดความจริงกัน ส่วนมากชอบพูดแต่สิ่งที่คิดว่า
ตัวเองจะได้มากกว่า เราชอบคิดเรื่องกรรม แต่พอมองลึกๆลงไป เราจะเห็นว่า คนที่ลำบากมากกว่าเรา
ยังมีอีกมากมาย ขอให้เราได้พบแนวทางสว่างด้วยเทอญ

25 มิย.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
การนั่ง กำหนดได้ดี มีสมาธิในการกำหนด อาการวูบไม่ค่อยมี มีแต่ดิ่งลงไปเฉยๆ
กำหนดรู้หนอได้ทันมากขึ้นเวลาดิ่ง ปวดขา ยังพอกำหนดได้

26 มิย.
สวดมนต์ เดิน1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
การนั่ง ปวดหลังมากๆ ตรงก้นกบ กำหนดไม่ได้ ฟุ้งตลอด มีแต่ความปวด

27 มิย.
สวดมนต์

...............................................................................

19 กค.
สวดมนต์ ไม่ได้ทำกรรมฐานเลย นานมาก

22-25 กค.
สวดมนต์

26 กค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
ไม่มีอะไร เหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกๆครั้ง

28 กค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
การปฏิบัติ วันนี้รู้สึกสงบดีขึ้น เราอธิษฐานว่า เราจะพยายามทำให้สม่ำเสมอ

..............................................................................

3 สค.
ลองนอนกำหนดดู แรกๆก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกๆครั้ง เดี๋ยวดีขึ้นเอง

4-8 สค.
สวดมนต์อย่างเดียว

9 สค.
สวดมนต์ นั่งไม่ได้กำหนดเวลา

10 -18 สค.
สวดมนต์อย่างเดียว

19 สค.
สวดมนต์ นั่งไม่ได้กำหนดเวลา

20 สค.
สวดมนต์ นั่งไม่ได้กำหนดเวลา

22 สค.
สวดมนต์ เดิน 45 นาที นั่ง 45 นาที ปวดขาตลอดเวลา

23-28 สค.
สวดมนต์อย่างเดียว

29 สค.
สวดมนตื เดินและนั่ง ไม่ได้กำหนดเวลา

30 สค.
สวดมนต์ เดิน 1ชม. นั่ง 1ชม.
เดินจงกรม นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อว่าให้เดินช้าๆ
นั่ง ปวดขามากๆ

31 สค.
สวดมนต์ เดิน 1ชม. นั่ง 1 ชม.
พอนั่งได้ 45 นาที ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ ความสงบเริ่มดีขึ้น ความปวดกำหนดยังไม่ค่อยได้

.......................................................................



.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 30 มีนาคม 2553
เดิน 10 นอน 3

วันนี้อารมณ์ไม่ดีเท่าไหร เจอคนงี่เง่าเข้าใจไรยากๆแล้วรั้งแต่ว่าความคิดของตัวเอง ถูกๆๆๆๆๆ
แก้ยาก รำคาญจริงๆ ของแบบนี้อธิบายไปสิบชาติก็คงไม่เข้าใจ เอาเถอะไม่อยากจะพูดคุยด้วยแล้ว
ถ้ายังเป็นคนแบบนี้ ขอเลิกคบดีกว่า ไม่ไหวจริงๆ

วันนี้เดิน ก็คิดหลายๆเรื่อง ไม่สบายใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ตอนนี้เลย เราอยากจะเลิกทำแบบนี้เสียทีนะ มันไม่ยอมเลิกเสียที เสียสุขภาพ เสียหลายๆอย่าง ทั้งเวลา ทั้งสายตา ไป ไม่อยากจะเป็นแบบนี้เลย นี่คือสิ่งที่อัดอั้นในใจเรามาตลอด ทำยังไงจึงจะหลุดจากเรื่องแบบนี้ได้สักทีนะ

แต่การเดินจงกรมนั้นทำให้จิตใจเราเข้มแข็งขึ้น เราไม่เอาแต่นั่งโทษตัวเองหรือว่านั่งจมอยู่กับความทุกข์อีกต่อไป เราพร้อมที่จะเผชิญหน้าหาสาเหตุและก็แก้ไขมัน ถึงแม้ว่ามันอาจจะใช้เวลาบ้าง หรือบางทีตอนนี้อาจยังมองไม่เห็นหนทางเลย แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นาน ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี

วันนี้น่าอายจัง ถ้าจะพูดว่าเจอความโลภน่ะ
ความโลภทำให้ไม่เจอกับความสุขและความเป็นจริงที่เป็นอยู่
ใจมันจะหมกหมุ่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าคนอื่น

ตอนนี้เราไม่ค่อยอายแล้วเพราะคิดว่าตัวนี้หลายๆคนก็มีกัน แล้วแต่ว่าจะมองเห็นหรือไม่เห็นกันก็เท่านั้น

เราคิดว่าถ้ารู้จักกิเลสตัวนี้ชัดขึ้น เราคงจะดีขึ้นกว่านี้ในอีกไม่นาน

เพราะว่าวันนี้เราเดินน้อยก็เลยพิจารณาเรื่องนี้ไม่แตกเท่าไหร...
เราขอยกยอดการพิจารณาไปในวันพรุ่งนี้

ส่วนตอนนอน คิดหลายเรื่องนะ
ก็ไม่รู้จะบันทึกว่าอะไรดี
ถึงจะรู้สึกแย่ แต่การดำเนินชีวิตทางโลกก็ปกติดีทุกอย่าง

จบการบันทึกเพียงเท่านี้

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 01:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:

แต่การเดินจงกรมนั้นทำให้จิตใจเราเข้มแข็งขึ้น เราไม่เอาแต่นั่งโทษตัวเองหรือว่านั่งจมอยู่กับความทุกข์อีกต่อไป เราพร้อมที่จะเผชิญหน้าหาสาเหตุและก็แก้ไขมัน ถึงแม้ว่ามันอาจจะใช้เวลาบ้าง หรือบางทีตอนนี้อาจยังมองไม่เห็นหนทางเลย แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นาน ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี




เรื่องจริงค่ะ



varinne เขียน:

วันนี้น่าอายจัง ถ้าจะพูดว่าเจอความโลภน่ะ
ความโลภทำให้ไม่เจอกับความสุขและความเป็นจริงที่เป็นอยู่
ใจมันจะหมกหมุ่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าคนอื่น

ตอนนี้เราไม่ค่อยอายแล้วเพราะคิดว่าตัวนี้หลายๆคนก็มีกัน
แล้วแต่ว่าจะมองเห็นหรือไม่เห็นกันก็เท่านั้น

เราคิดว่าถ้ารู้จักกิเลสตัวนี้ชัดขึ้น เราคงจะดีขึ้นกว่านี้ในอีกไม่นาน





ยิ่งทำ สติ สัมปชัญญะจะดีขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเห็นกิเลสชัดเจน
การยอมรับตามความเป็นจริง ในสิ่งที่เรามี ในสิ่งที่เราเป็น ไม่ใช่เรื่องน่าอายค่ะ
เพราะเป็นการทำความเพียรเพื่อให้กิเลสเบาบางลงไป

ถ้าไม่เห็นกิเลสในใจตัวเอง จะเอาที่ไหนมายอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่ได้
บางทีเห็นแล้ว แต่ไม่ยอมรับ นั่นคือยังมีการโกหกตัวเองอยู่
แล้วจะทำให้กิเลสเบาบางลงไปได้ยังไง จริงมั๊ยคะ?

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



1 กย. 48
1-9 สวดมนต์อย่างเดียว

10 กย.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.

11 กย.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
เหมือนเดิม แต่ได้ความรู้สึกที่ดีขึ้นมาหน่อย

12-16 กย.
สวดมนต์อย่างเดียว

17 กย.
สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.
ความรู้สึกคือ วูบหายไปช่วงหนึ่ง ระหว่างนับอิติปิโสได้ถึง 30 จบแล้วหายไป
โผล่ออกคือ กำลังนับ จบที่ 45 นับได้ 50 จบ หมดเวลาพอดี ปวดขาช่วงท้ายๆ

18 กย.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม. เหมือนคนหลับยาว ไม่รู้เรื่อง

19 กย.
สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.
ตอนนั่ง ง่วงนอนมากๆ เลยคิดว่า ขอกำหนดนอนละกัน ปรากฏว่า ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาดัง
หลับยาวถึงสว่างเลย

20 กย.
สวดมนต์ เดิน 1ชม. นั่ง 1 ชม. แล้วเดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
มีแต่ทรมาณ ปวดขามากๆ ปวดก้นกบมากๆ

21 กย.
สวดมนต์ เดิน 1ชม. นั่ง 1 ชม.
พอเริ่มนั่ง ก็เริ่มปวดเลย สวดอิติปิโสได้ 3 จบ ดิ่งไปเลย มารู้สึกตัวอีกที 10 นาที ครบ 1ชม.

22 กย.
สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม. 10 นาที
วันนี้ทรมาณมากๆเลย กำหนดไม่ได้

23 กย.
ทดลอง ค่อยๆทำแบบเพิ่มเวลา คือ เดิน 15 นาที นั่ง 15 นาที เพิ่มจนครบ 1 ชม.

24 กย.
สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม. ต่อด้วย เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
เดินรอบแรก รู้สกตัวดี มีสมาธิดี เหมือนตัวเบาๆลอยๆ
นั่ง กำหนดมีสติดีขึ้น แต่พออีก 10 นาที จะหมดเวลา โอ๊ยยย ปวดสุดๆ

รอบสอง นั่งนี่ ไม่ไหวเลย ปวดขา ปวดไปหมดทั้งตัว ทรมาณมากๆ กำหนดไม่ได้เลย

25 กย.
สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.

26 กย.
เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.

27 กย.
สวดมนต์อย่างเดียว

28 กย.
เดิน 1/1/2 ชม. นั่ง 1/1/2 ชม.
ไม่สบาย ไอมาก กำหนดไม่ได้ เวียนหัวมากๆ

29 กย.
บ่าย เดิน 1 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
เย็น เดิน 1 ชม. นั่ง 35 นาที
วันนี้ จิตเป็นสมาธิดี รู้สึกว่างๆ

....................................................................

4 ตค.
เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
จะเพิ่มเวลาครั้งละ 5 นาที กลัวเสียสัจจะว่าจะทำกี่นาที
เดิน ยังเดินเร็วอยู่ ยังกำหนดไม่ดีวันนี้
นั่ง รู้สึกตัวได้ดี ไม่มีงูบหรือหลับ กำหนดได้ แต่ความคิดฟุ้งๆอยู่ แต่ก็กำหนดความคิดได้ทัน

5 ตค.
เดิน 35 นาที นั่ง 35 นาที ใกล้จะหมดเวลา ปวดมากๆ

10 ตค.
เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.
เราคิดท้อในใจบ่อยๆว่า ชีวิตเราทำไมถึงเป็นแบบนี้ ยิ่งเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรมมากเท่าไหร่
ดูเหมือนว่า เราจะทุกข์มากขึ้นเท่านั้น แล้วเราก็ยังคงขี้เกียจเหมือนเดิมในเรื่องปฏิบัติ

11 ตค.
เดิน 15 นาที นั่ง 15 นาที
วันนี้ขึ้นสวดมนต์แต่วัน เพราะรู้สึกทุกข์ใจหลายๆเรื่อง เราคิดว่า จะมามัวนอนหายใจอยู่ทำไมให้เสียเวลา
เหมือนคนหายใจทิ้งไปวันๆ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้เลย เราจึงพยายามปฏิบัติตลอด ถึงแม้ว่า บางทีจะไม่ได้ปฏิบัติ หรือ ได้ปฏิบัติ แต่เราก็จะพยายาม พยายามทำ ดีกว่าไม่ทำ
ดีกว่านอนอย่างเดียว อดทนเอาหน่อยนะ

หลวงพ่อบอกเสมอๆว่า การทำความดีนั้น ต้องลงทุนด้วยความยากลำบาก แล้วเราจะได้ดี

เราต้องอดทน เราไม่อยากเสียใจอีกแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม มันเป็นเรื่องทั้งของกรรมใหม่
และกรรมเก่า ที่เราต้องชดใช้ แต่เราตั้งใจไว้แล้วจะไม่ขอสร้างเพิ่มขึ้นอีกเป็นอันขาด
ขอใช้กรรมเก่าให้หมด วิธีใช้กรรมให้หมดที่ง่าย แต่ว่าทำได้ยากที่สุดก็คือ ทำกรรมฐาน เท่านั้น

12 ตค.
เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม.
ปฏิบัติรู้สึกดีขึ้น นั่งทรมาณน้อยลง 1/2 ชม. แรกรู้สึกจะดิ่ง ความรู้สึกหายไป เหมือนนั่งแล้วหายไปเฉยๆ
1/2 ชม. หลัง ปวดบ้าง แต่พอทนได้ รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ

เราต้องบอกตัวเองเสมอๆว่า เราต้องอดทน หากเราปฏิบัติได้สำเร็จ ชีวิตทั้งชีวิต เราจะได้รู้ว่า
ต่อไป ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ยิ่งเราเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรมมากเท่าไหร่ เรารู้สึกว่า
ปัญหาเราก็มากขึ้นเท่านั้น แต่พอเราเริ่มปฏิบัติแบบจริงจัง ปัญหาที่เคยคิดว่าเป้นปัญหา
เรากลับมอง ณ ตรงนั้นว่า มันไม่ใช่ปัญหา ทุกอย่างมีทางแก้ไขได้

16 ตค.
สวดมนต์ เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม. หลายวันมาเลย ที่ไม่ได้สวดมนต์

17 ตค.
เช้า สวดมนต์ เดิน 1ชม. นั่ง 1 ชม. เย็น เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.

18 ตค.
สวดมนต์ 03.30 เดิน 15 นาที นั่ง 1/2 ชม.
21.00 สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม. วันนี้ปวด พอทนได้

19 ตค.
04.00 ทำวัตรเช้า
18.50 ทำวัตรเย็น
19.45 เดิน 1ชม. นั่ง 1ชม.

20 ตค.
04.20 ทำวัตรเช้า
13.45 สวดมนต์ เดิน 1 ชม. นั่ง 1 ชม. กำหนดได้ดี สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน
18.50 ทำวัตรเย็น เดิน 1/2 ชม. นั่ง 1/2 ชม.
ยิ่งนับวัน การปฏิบัติยิ่งบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี รู้แต่ว่าต้องทำทุกวัน เพราะชีวิตเราทุกวันนี้
มีแต่ความทุกข์เหลือเกิน เราต้องฝืนใจ ต้องพยายามทำแบบที่หลวงพ่อสอนไว้ ต้องอดทน
เพื่อสิ่งดีๆในชีวิตในวันข้างหน้าที่รอเราอยู่ ตอนนี้ถึงจะทุกข์มากแค่ไหน เราก็ต้องทน ต้องยอมรับ
ไปวัดอัมพวัน 21-28 ตค. 48

11 ธค.
ตั้งแต่กลับมาจากวัด แทบจะไม่ได้ปฏิบัติเลย ได้แต่สวดมนต์อย่างเดียว




นี่แหละ การขาดพี่เลี้ยง ไม่มีใครคอยบอกว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง
ปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆคืออะไร

ที่บอกว่า หลวงพ่อสอนนั้น คือ ระหว่างที่ไปวัดในวันแรก จะไปที่กุฏิหลวงพ่อก่อน
ช่วงนั้นหลวงพ่อยังลงเทศน์อยู่ ท่านพูดโดยรวมๆ แต่ก็โดนเราทุกๆครั้ง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


เดินไปก็ฟุ้งไปงั้นหรือ... :b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2010, 01:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่31 มีนาคม 2553
เดิน 10 นั่ง 3

วันนี้เป็นไรไม่รู้ แม้แต่เรื่องที่ดูว่าเล็กน้อยก็สามารถทำให้หงุดหงิดได้

คิดได้หลายอย่างนะวันนี้

แต่ว่าหงุดหงิด...

บันทึกแค่นี้ละ..

ฟังเพลงๆ

http://www.youtube.com/watch?v=DLfrp2H- ... r_embedded

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2010, 01:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เนื้อเพลงแปล

เธอยังจำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหม?
ฉันยังไม่เคยลืมเลือนแม้สักวันที่ผ่านไป
ฉันอยากจะรู้สึกถึงทุกๆสิ่งที่เธอเคยชอบ
ฉันเหม่อมองขึ้นไปบนฟากฟ้า เธออยู่ข้างบนนั้น กำลังมองลงมาที่ฉันหรือเปล่า? บอกฉันที…

ฉันกำลังคิดถึงเธออยู่
มีตั้งมากมายที่ฉันอยากจะบอกกับเธอ
โอ้ ฉันคิดถึงเธอ ฉันคิดถึงเธอ
ฉันโหยหาเธออย่างเศร้าสร้อย
เธออยู่ที่ไหน กอดฉันไว้
ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ

หากฉันรู้ว่าเราจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก
ฉันก็คงจะไม่ปล่อยมือเธอไป
หากฉันร้องไห้แล้วบอกเธอว่า"อยู่กับฉัน"
เธอจะยังคงอยู่ตรงนี้ ยิ้มอยู่ข้างๆฉันไหม?

ฉันกำลังคิดถึงเธออยู่
มีตั้งมากมายที่ฉันอยากจะให้เธอได้ยิน
โอ้ ฉันคิดถึงเธอ ฉันคิดถึงเธอ
น้ำตาหลั่งรินยามเมื่อกาลเวลาผ่านฉันไป
โอ้ ฉันคิดถึงเธอ กอดฉันไว้
ฉันจะคิดถึงเธอเสมอ

ถึงแม้ชะตาฉันจะไม่แปรผัน ฉันมีบางอย่างจะบอกเธอ
“ฉันอยากจะกลับไป…” ไปสู่วันนั้น ช่วงเวลานั้น คำอธิฐานเดียวนี้คือสิ่งที่ฉันต้องการ

ฉันกำลังคิดถึงเธออยู่
มีตั้งมากมายที่ฉันอยากจะให้เธอได้รับรู้
โอ้ ฉันคิดถึงเธอ ฉันคิดถึงเธอ
ฉันได้แค่หวังว่าทั้งหมดมันเป็นแค่ความฝัน
ดวงใจของฉันยังคงร้องไห้อยู่
ฉันจะคิดถึงเธอเสมอ

เครดิต http://chrisk69.exteen.com/20100119/jap ... 12390-1235

แล้วก็
เป็นเพลงจากซีรีย์ญี่ปุ่น

[รีวิวฉบับสมบูรณ์???].'.'.'.'.JIN หมอทะลุศตวรรษ " อดีต คือร่องรอยของอนาคต" .'.'.'.'.[มีทั้งไม่สปอยล์และไม่สปอยล์]

http://74.125.153.132/search?q=cache:Gp ... clnk&gl=th

อ่านแล้วจะทำให้เนื้อเพลงเศร้ายิ่งขึ้น

เพียงการขยับปีกของผีเสื้อ ก็สามารถทำให้เกิดพายุลูกใหญ่ได้
เป็นปรากฎการณ์ที่เรียกกันว่าButterfly effect
หรือที่เรียกคำเปรียบปรายได้ว่า "เด็ดดอกไม้กระเทือนถึงดวงดาว"

เป็นซีรีย์อีกซีรีย์หนึ่งที่เราได้มองเห็นถึง โศกนาฎกรรมของชีวิต
(ต่อจากนี้คือสปอย)
ที่พระเอก หมอจุนได้ผ่าตัดเนื้องอกคู่หมั้นของตัวเองผิดพลาด ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ 3 ปี
ทำให้เขาโทษตัวเองตลอดมา แต่แล้ววันหนึ่งเขาได้เจอกับคนไข้แปลกๆที่ทำให้เขาย้อนกลับมายังยุคสมัยเอโดะ
เขาได้ใช้ความรู้ความสามารถในฐานะของหมอช่วยเหลือคนมากมายในยุคสมัยนั้น
มีเพียงรูปถ่ายใบเดียวที่ติดมากับเขาที่ยังเชื่อมโยงถึงอนาคตที่เขาจากมาอยู่
เป็นรูปเขากับคู่หมั้นที่ชื่อว่า มิกิ ถ่ายรูปในขณะที่มิกิกำลังป่วยหนัก
เมื่อจุนได้กระทำอะไรไปที่ทำให้ยุคสมัยที่ไม่ควรจะมีตัวตนของจุนอยู่เปลี่ยนแปลง ภาพนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
จนเมื่อเขาได้พบกับนางโลมนามว่า โนะคาเสะ ที่หน้าตาเหมือนมิกิมาก ทำให้เขาสงสัยว่า เป็นบรรพบุรุษของมิกิหรือเปล่า
ในขณะเดียวกันเมื่อเขาข้องเกี่ยวกับโนะคาเสะเท่าไร ภาพที่ติดตัวมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
จนกระทั้งเป็นภาพถ่ายที่จุน กับ มิกิ ไม่ได้ถ่ายอยู่โรงพยาบาลด้วยกัน
แต่แล้ว ในวันที่มีคนไปซื้อตัวโนะคาเสะไป จุนได้ตรวจพบเนื้องอกในตัวของโนะคาเสะ
และภาพของมิกิในรูปก็เริ่มจางหายไป จุนกังวลมากจนไม่ยอมรักษาโนะคาเสะ แต่แล้วก็มีคำพูดที่ว่า

"พระเจ้ามอบอุปสรรค์ให้เรา เพื่อให้เราฟันฝ่ามันไปให้ได้"

จุนไม่มีทางรู้ว่าถ้าเขารักษาโนะคาเสะแล้ว จะทำให้อนาคตของเขากับมิกิเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง
แต่เพราะ.. มันเป็นสิ่งที่สมควรที่จะทำในฐานะของหมอ ในฐานะที่เป็นคนคุ้นเคยกัน
จุนเลยต้องฝังรูปถ่ายไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองกังวล แล้วยอมผ่าตัดโนะคาเสะ

เมื่อการผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี จุนกลับมาขุดรูปถ่ายที่ฝังเอาไว้.. และพบว่า รูปถ่ายนั้น หายไปทั้งใบ
ซากิ บอกกับจุนว่า
"น้ำเป็นสิ่งที่แปลกประหลายดีนะ เมื่อแข็งตัว ก็จะกลายเป็นหิมะ แล้วก็กลายเป็นไอ ต่อให้เราจะมองไม่เห็นน้ำนั้นก็ตาม แต่น้ำก็ยังมีตัวตนเสมอ และอยู่รอบๆตัวเราเสมอ"
(ประมาณนี้)

โศกนาฏกรรมชีวิตก็คือ จุนไม่อาจกลับไปหาคนที่เขารักได้อีกแล้ว ไม่มีอนาคตที่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป
แต่จุนก็ได้ทำ ในสิ่งที่เขาสมควรที่จะทำ
และเราก็เชื่อว่าที่จุนตัดสินใจทำเช่นนั้นลงไปนั้นไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย

"พระเจ้ามอบอุปสรรค์มาให้เรา เพื่อให้เราฝ่าฟันมันไปให้ได้ และถ้าทำได้สำเร็จ จะต้องมีอนาคตที่ดีรออยู่แน่นอน"

ต่อไปจุนก็คงจะได้อยู่กับซากิต่อไปน่ะนะ
ย้อนกลับไปดูที่เนื้อเพลง ก็เปรียบดั่งบทเพลงที่กลั้นกรองมาจากจิตใจของจุนที่คิดถึงแต่มิกิเสมอมาล้วนๆเลย
ทั้งรู้สึกผิด ทั้งอยากย้อนเวลากลับไป ทั้งอยากจะอยู่ด้วยกัน

นี่แหละ โศกนาฎกรรมของชีวิต..

ที่บางทีแล้ว เราเองก็เลือกกำหนดไม่ได้เลยว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร
ไปทางไหน มันจึงจะดี
ทำยังไง จึงจะเป็นอย่างนั้น... กำหนดไม่ได้เลยแท้ๆ

ชีวิตก็คือ โศกนาฎกรรม ดีๆนี่แหละ
:b48: :b48:

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 26  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร