วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 14:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16 ... 26  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อวานเดินไป 10 นาที ส่วนวันนี้ เดินไป
20 นอน 4 นาที

รู้สึกว่าตัวเองมีสติมากขึ้น
แต่วันนี้รู้สึกท้องไม่ค่อยดี
สงสัยต้องกินยาธาตุน้ำขาวหน่อย...

ขอจบบันทึกเพียงเท่านี้

ปล. สงสารทหารมาก ทำไมต้องมาเสียชีวิตเสี่ยงตายกะพวกบ้าๆร้องโหวกเหวกปิดถนนเพื่อขอประชาธิปไตยที่มีคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์ สงสัยพูดได้แค่อย่างเดียวว่าเป็นกรรมของชาติ..

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะมาบอกว่า

เหมือน ไดอารี มากกว่า บันทึกการปฎิบัติธรรม นะจ๊ะๆๆ

เดิน ไป รู้สึกไป ปวดท้อง เข้าส้วม


ไม่มีบันทึกสภาวะธรรม ที่ปรากฎ ที่เห็น ที่เป็นอยู่
และที่ละวาง อันนี้สำคัญนะจ๊ะ ๆๆ
ไปหล่ะ
เชิญตามสะบาย

จุ๊ปส์ๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 23:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
จะมาบอกว่า

เหมือน ไดอารี มากกว่า บันทึกการปฎิบัติธรรม นะจ๊ะๆๆ

เดิน ไป รู้สึกไป ปวดท้อง เข้าส้วม


ไม่มีบันทึกสภาวะธรรม ที่ปรากฎ ที่เห็น ที่เป็นอยู่
และที่ละวาง อันนี้สำคัญนะจ๊ะ ๆๆ
ไปหล่ะ
เชิญตามสะบาย

จุ๊ปส์ๆๆ

ทำไมคุณถึงไม่ดึงสาระ ออกมาจากกระทู้ปฎิบัติธรรมที่แสนล้ำค่าของเรานี้ล่ะคะ

หรือว่าคุณทำไม่เป็น :b48:

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้นี้ มีทั้งคนมาโพสสาระความรู้ แลกเปลี่ยนกัน

เพื่อผู้ปฎิบัติคนอื่นๆด้วย เรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่คุณเข้ามาสร้างความแปดเปื้อนให้กับกระทู้นี้

หากเข้าใจถึงความเสียใจของผู้ปฎิบัติธรรมคนหนึ่งแล้ว

เราว่านรกอยู่ไม่ไกลตัวคุณเลย

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แก้ไขล่าสุดโดย varinne เมื่อ 12 เม.ย. 2010, 23:18, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 23:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้อ... อยากจะบอกอีกสักหน่อยหนึ่ง

มารไม่มี บารมีไม่เกิด

ขอบคุณที่มาเป็นมาร... ให้กับเราคะ :b12:

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 00:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 12 เมษายน 2553
เดิน 15 นั่ง 2

จริงๆกะว่าจะทำให้เต็มเวลา แต่ตอนนี้ดึกแล้ว คงต้องเอาจริงๆจังๆในวันพรุ่งนี้

วันนี้ขณะที่เดินนั้น เดินแบบเดิมคือพยายามดูเท้าสามระยะ ตามที่เคยได้บันทึกไว้เมื่อวันก่อนๆ
มีช่วงที่ฟุ้งบ้าง และก็ช่วงที่มองนาฬิกาบ่อยๆว่าเมื่อไหรจะหมดเวลา
ก็เลยได้รู้สึกตัวว่า ที่ตัวเองกำลังเดินจงกรมปฎิบัติกรรมฐานอยู่นี่ ยังไม่ได้ทำด้วยความตั้งใจจริง
ที่ผ่านมาเพียงแค่ทำเพราะว่าอยากให้หมดเวลาเร็วๆ กับทำตามใจชอบ
และเพราะว่าพี่บอกให้ทำอย่างต่อเนือง ก็เลยทำมาเรื่อยๆแม้ว่าจะไม่ครบตามกำหนดเวลาก็ตาม
แต่คิดว่าต่อจากนี้จะตั้งใจทำกรรมฐานให้ดี ให้เหมือนกับการตั้งใจมีชีวิตที่แท้จริง
ความรู้สึกนั้นเมื่อได้เห็นภาพรวมในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่จึงได้พิจารณาและได้รู้
ตามสุภาษิตที่เคยกล่าวไว้ว่า ตนจงเป็นผู้เตือนตนเอง

เมื่อเจริญสติจนสติดีขึ้นระดับหนึ่งๆจึงได้สามารถเตือนตนเอง และสามารถมองเห็นตัวเองได้ตามความเป็นจริง
และใช้การพิจารณานั้นๆในการปรับปรุงตนให้มีความดียิ่งขึ้น

แต่บางทีแล้วเกิดความกลัว หากจะต้องปฎิบัติจริงๆจังๆ
คงเป็นเพราะเราเป็นคนที่กลัวความเปลี่ยนแปลงมากๆ
มันก็เหมือนกับกำแพงที่มองไม่เห็นอีกฟากหนึ่ง
ไม่รู้ว่าถ้าข้ามไปแล้วต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
เรามีความรู้สึกส่วนตนว่าเรายังไม่ถึงช่วงท้ายๆของชีวิต.. เราจึงไม่อยากจะเดินไปให้ถึงปลายทางเร็วๆนัก
แต่นั้นก็เป็นความกลัวเฉพาะของเรา...
แต่ว่า เราเชื่อนะว่า หากเบื้องบนไม่ต้องการให้เราเดินหน้าต่อไป คงจะไม่ให้เราได้เดินทางเส้นทางนี้แน่
ดังนั้นทางเลือกที่ถูกต้องจริงๆของเราก็คือ การปฎิบัติกรรมฐานอย่างจริงๆจังๆนับจากนี้เป็นต้นไป

หวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะอวยพรให้เราประสบความสำเร็จนับตั้งแต่ก้าววินาทีต่อจากนี้
โมทนาสาธุ

จบการบันทึกเพียงเท่านี้

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมคุณถึงไม่ดึงสาระ ออกมาจากกระทู้ปฎิบัติธรรมที่แสนล้ำค่าของเรานี้ล่ะคะ

หรือว่าคุณทำไม่เป็น


บอกตรงๆๆ ว่า ธรรมลักษณะใดๆ ก็ตาม ไม่เห็นว่าจะมีสาระและประโยชน์ใดๆที่จะต้องเอาไปยึดถือและเก็บไว้และเอาไปประดับเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับคุณ วารินน์...
เยี่ยมยอดมากครับ..สำหรับบันทึกการปฏิบัติธรรมของคุณ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างสูงสำหรับท่านที่กำลังศึกษา เรียนรู้การปฏิบัติในเว็บธรรมแห่งนี้...
ขอให้คุณศึกษาทางโลก(เทคโนโลยี)และทางธรรม(จิต วิญญาน)ไปพร้อมๆกัน และประสบผลสำเร็จนะครับ...คิดดูถ้าเยาวชนส่วนมากทำแบบคุณ..รับรองสังคมในเมืองเราบ้านเราจะไม่วุ่นวายแบบนี้
เสพ บริโภค เกินความจำเป็น อกตัญญูต่อธรรมชาติ บูชาเนื้อหนังมังสา...ฆ่า ฟันกันไร้สติและไร้เหตุผล ไม่เกรงกลัวต่อบาป...ฯลฯ สุดจะพรรณา
คุณโชคดี..คุณมีกุศลกรรมปางก่อน..และกุศลกรรมปัจจุบันที่ได้ปฏิบัติกรรมฐาน มี มรรค มีผล มีอานิสงส์..คุณจะรู้ถึงความสงบด้วยตัวคุณเอง..
ความกลัวที่คุณพูดถึง...จะค่อยๆ ลดลงไป คุณควรจะศึกษาทางปริยัติ และฟังธรรมบรรยายบ่อยๆแล้วปฏิบัติไปพร้อมกัน...เมื่อก่อนผมก็ขี้กลัวผีแบบคุณ...แต่ด้วยการศึกษาและปฏิบัติ ควบคู่ไปกับฟังธรรมบรรยายของพระอาจารย์...ความกลัว(ผี)ลดลงไปแล้วเกือบครึ่งนึง....
มีพระอาจารย์มากมายที่สอนกรรมฐาน หาได้ง่ายในเว็บ เผยแผ่กันไปครอบคลุม ทั้งวิทยุ โทรทัศน์
และเว็บฯ
คุณควรยกระดับจากสมถภาวนา..ขึ้นสู่ วิปัสสนาภาวนา...พิจารณาตามความเป็นจริง...เข้าสู่ปรมัตธรรม..เป็นธรรมอันประเสริฐ...เมื่อคุณแยกรูป-นาม ได้แล้ว ตัวตนแทบจะไม่มี เมื่อไม่มีตัวตนก็ไม่มีผีมาหลอก..ผีหลอกเราไม่ได้ เพราะไม่มีเราในที่นี้แล้ว..เหลืออยู่แต่ความว่าง ..(เอ๊ะ..ยังไงกัน)
ท่านพระอาจารย์ของผม(ได้ยินแต่เสียงทางคลื่นวิทยุ เอ เอ็ม ตอนตี๔หน้าตายังไม่เคยเห็น) อาจารย์ สุรศักดิ์ เขมะรังสี(พระครูเกษมธรรมทัต)แห่งวัดมเหยงค์ อยุธยา ลองฟังธรรมบรรยายของท่านดูครับ อาจจะตรงกับจริตของคุณก็ได้ ท่านบรรยยายเข้าใจง่าย..มีมากมายหลายหมวดให้คุณเลือกโหลดได้...โดยเฉพาะหมวดกรรมฐาน..วิปัสสนา..วิธีละบัญญัติ เข้าสู่ปรมัตถ์ ท่านเน้นมากๆ ครับ..
ท้ายนี้ขอขอบคุณสาธุชนทุกท่านที่อ่าน..หวังว่าการโพสครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย

ขอทุกท่านจงเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปเทอญ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 14:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็เลยได้รู้สึกตัวว่า ที่ตัวเองกำลังเดินจงกรมปฎิบัติกรรมฐานอยู่นี่

สติธรรมดา เห็นความรู้สึกแล้วก็ไหลตามไปเรื่อยๆๆๆ
สติปรมัตถ์ เห็นความรู้สึก รู้จัก เข้าใจ ทิ้ง


คิดว่าต่อจากนี้จะตั้งใจทำกรรมฐานให้ดี

รู้ว่าความคิดไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

เรามีความรู้สึกส่วนตนว่าเรายังไม่ถึงช่วงท้ายๆของชีวิต.. เราจึงไม่อยากจะเดินไปให้ถึงปลายทางเร็วๆนัก

ความรู้สึกส่วนตนเป็นมิจฉาทิฏฐิ

varinne เขียน:
กระทู้นี้ มีทั้งคนมาโพสสาระความรู้ แลกเปลี่ยนกัน

เพื่อผู้ปฎิบัติคนอื่นๆด้วย เรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่คุณเข้ามาสร้างความแปดเปื้อนให้กับกระทู้นี้

หากเข้าใจถึงความเสียใจของผู้ปฎิบัติธรรมคนหนึ่งแล้ว

เราว่านรกอยู่ไม่ไกลตัวคุณเลย


ความเสียใจนั้นแหละที่จะฉุดให้เธอลงนรก

อนุโมทนาสาธุจ้า

:b8: :b8: :b8:

:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มี.ค. 2010, 00:05
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนฝึกม้า รับจ้างฝึกม้าที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เขาไปสนทนากับพระพุทธเจ้า เลยสนทนากันถึงเรื่องการฝึกม้า ถ้าว่าม้าตัวนั้นฝึกไม่ได้เท่าที่ฝึกที่สุดแล้วก็ปล่อยให้เจ้าของไป มันก็เป็นม้าเลว ไปทำเสียชื่อผู้ฝึกม้าแล้วจะทำอย่างไร คนฝึกม้าก็ว่าข้าพเจ้าก็ฆ่าม้านั้นเสีย ไม่ให้ทำลายชื่อเสียงของข้าพเจ้า เพราะม้าตัวนี้ผ่านการฝึกในสำนักนี้ถึงที่สุดแล้ว มันยังเป็นม้าที่ใช้ไม่ได้
คนฝึกม้าก็ย้อนถามพระพุทธเจ้าบ้างว่า ถ้าพระองค์ฝึกสาวกบางคนของพระองค์ ฝึกไปฝึกมาถึงที่สุดแล้ว มันก็ยังไม่ได้ผลอะไร แล้วพระองค์จะทำอย่างไร
พระพุทธเจ้าก็ตรัสตอบว่า ฉันก็ฆ่าเขาเสีย คนคนนั้นก็เลยแย้งว่า ก็ปาณาติบาต ไม่สมควรแก่สมณโคดมไม่ใช่หรือ พระพุทธเจ้าก็อธิบายว่า
การฆ่าในอริยวินัย ในธรรมวินัยของพระสงฆ์หมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป มีก็เหมือนกับไม่มี คือทำให้ไม่มี ไม่มีการเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป นั่นแหละเรียกว่าการฆ่าในอริยวินัย ไม่ต้องเอามีดอาวุธอะไรมาฆ่าให้ตาย เหมือนคนฝึกม้าจะต้องทำ การไม่เกี่ยวข้องด้วยนั่นแหละ คือการฆ่าที่ถึงที่สุด มันฆ่าถึงจิตใจ การไม่เกี่ยวข้องด้วยก็หมายความว่าทำให้เหมือนกับมันไม่มี มันหายไปแล้ว นี่เรียกว่าการฆ่า

ขอให้คุณ จขกท เจริญในธรรม และอนุโมทนาในความเพียรชำระตนเอง อุปสรรคใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างหนทางขอเอาใจช่วย เปลี่ยนเป็นแรงผลักดันเป็นบททดสอบที่จะก้าวข้ามผ่านไปได้ด้วยการเอาชนะจิตใจตนเอง..เพราะชีวิตของพวกเราทุกคนที่ยังเดินอยู่บนเส้นทางของความทุกข์นี้นั้น หาความแน่นอนมิได้เลย :b8:

นำมาจาก หนังสือ พุทธทาส ภิกขุ (8 เรื่อง)
http://www.ruendham.com/book_detail.php ... e_content=การฆ่าตัวตายทางวิญญาณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.พ. 2010, 17:04
โพสต์: 47

แนวปฏิบัติ: สวดมนต์
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 20

 ข้อมูลส่วนตัว


ไหงกระทู้นี้เริ่มมีลางไม่ดี=_=


ขอให้คุณวารินเน่ฝึกฝนและทำต่อเนื่องไปเถอะนะค่ะ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีคนลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ดีๆ^^~
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ส่วนใครที่มายุ่งย่ามก็ถือซะว่าเป็นมารก็แล้วกันนะค่ะ บางอย่างเราก็ต้องทำใจ

เหมือนที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "เราหยุดแล้ว ท่านตั้งหากที่ยังไม่หยุด" ให้แก่องคุลีมาร

สิ่งที่คุณต้องทำในขณะนี้คือ สงบ ค่ะ^^~
ความนิ่งและสงบจะทำให้คุณดีขึ้น

ขอเอาใจช่วยน่ะค่ะ^^~


ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ให้มองภาพนี้นานๆ แล้วก็เพ่งพินิจจิตให้อยู่ในสมาธิน่ะคะ หวังว่าจะช่วยได้
รูปภาพ




จำไว้นะค่ะ ว่าเราควรจะ สงบ ค่ะ^^~ แล้วสิ่งต่างๆจะดีขึ้นเอง

.....................................................
เกิดดับ...
[จิ เจ รุ นิ]


จงทำใจให้นิ่ง....แล้วจะได้พบความสงบ เมื่อสงบ ความสุขย่อมจะตามมา....


ราตรีนาน สำหรับคนนอนไม่หลับ
ระยะทางโยชน์หนึ่งไกล สำหรับผู้ล้าแล้ว
สังสารวัฎยาวนาน สำหรับคนพาล
ผู้ไม่รู้แจ้งพระสัทธรรม


คนพาลได้ความรู้มา
เพื่อการทำลายถ่ายเดียว
ความรู้นั้น ทำลายคุณความดีเขาสิ้น
ทำให้มันสมองของเขาตกต่ำไป


คนโง่ รุ้ตัวว่าโง่
ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง
แต่โง่แล้ว อวดฉลาด
นั่นแหละเรียกว่าคนโง่แท้

........What Goes Around... Comes Around........


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สู้เว้ย!! เขียน:
คนฝึกม้า รับจ้างฝึกม้าที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เขาไปสนทนากับพระพุทธเจ้า เลยสนทนากันถึงเรื่องการฝึกม้า ถ้าว่าม้าตัวนั้นฝึกไม่ได้เท่าที่ฝึกที่สุดแล้วก็ปล่อยให้เจ้าของไป มันก็เป็นม้าเลว ไปทำเสียชื่อผู้ฝึกม้าแล้วจะทำอย่างไร คนฝึกม้าก็ว่าข้าพเจ้าก็ฆ่าม้านั้นเสีย ไม่ให้ทำลายชื่อเสียงของข้าพเจ้า เพราะม้าตัวนี้ผ่านการฝึกในสำนักนี้ถึงที่สุดแล้ว มันยังเป็นม้าที่ใช้ไม่ได้
คนฝึกม้าก็ย้อนถามพระพุทธเจ้าบ้างว่า ถ้าพระองค์ฝึกสาวกบางคนของพระองค์ ฝึกไปฝึกมาถึงที่สุดแล้ว มันก็ยังไม่ได้ผลอะไร แล้วพระองค์จะทำอย่างไร
พระพุทธเจ้าก็ตรัสตอบว่า ฉันก็ฆ่าเขาเสีย คนคนนั้นก็เลยแย้งว่า ก็ปาณาติบาต ไม่สมควรแก่สมณโคดมไม่ใช่หรือ พระพุทธเจ้าก็อธิบายว่า
การฆ่าในอริยวินัย ในธรรมวินัยของพระสงฆ์หมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป มีก็เหมือนกับไม่มี คือทำให้ไม่มี ไม่มีการเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป นั่นแหละเรียกว่าการฆ่าในอริยวินัย ไม่ต้องเอามีดอาวุธอะไรมาฆ่าให้ตาย เหมือนคนฝึกม้าจะต้องทำ การไม่เกี่ยวข้องด้วยนั่นแหละ คือการฆ่าที่ถึงที่สุด มันฆ่าถึงจิตใจ การไม่เกี่ยวข้องด้วยก็หมายความว่าทำให้เหมือนกับมันไม่มี มันหายไปแล้ว นี่เรียกว่าการฆ่า

ขอให้คุณ จขกท เจริญในธรรม และอนุโมทนาในความเพียรชำระตนเอง อุปสรรคใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างหนทางขอเอาใจช่วย เปลี่ยนเป็นแรงผลักดันเป็นบททดสอบที่จะก้าวข้ามผ่านไปได้ด้วยการเอาชนะจิตใจตนเอง..เพราะชีวิตของพวกเราทุกคนที่ยังเดินอยู่บนเส้นทางของความทุกข์นี้นั้น หาความแน่นอนมิได้เลย :b8:

นำมาจาก หนังสือ พุทธทาส ภิกขุ (8 เรื่อง)
http://www.ruendham.com/book_detail.php ... e_content=การฆ่าตัวตายทางวิญญาณ


อนุโมทนาสาธุจ้า :b48:

* การชี้สภาวะ เป็นยาพิษชนิดร้ายแรง สามารถฆ่าตัวตนได้ หากเสพเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 21:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลบค่ำ เขียน:
ไหงกระทู้นี้เริ่มมีลางไม่ดี=_=


ขอให้คุณวารินเน่ฝึกฝนและทำต่อเนื่องไปเถอะนะค่ะ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีคนลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ดีๆ^^~
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ส่วนใครที่มายุ่งย่ามก็ถือซะว่าเป็นมารก็แล้วกันนะค่ะ บางอย่างเราก็ต้องทำใจ

เหมือนที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "เราหยุดแล้ว ท่านตั้งหากที่ยังไม่หยุด" ให้แก่องคุลีมาร

สิ่งที่คุณต้องทำในขณะนี้คือ สงบ ค่ะ^^~
ความนิ่งและสงบจะทำให้คุณดีขึ้น

ขอเอาใจช่วยน่ะค่ะ^^~


ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ให้มองภาพนี้นานๆ แล้วก็เพ่งพินิจจิตให้อยู่ในสมาธิน่ะคะ หวังว่าจะช่วยได้
รูปภาพ




จำไว้นะค่ะ ว่าเราควรจะ สงบ ค่ะ^^~ แล้วสิ่งต่างๆจะดีขึ้นเอง


มาเป็นกำลังให้ด้วยจ้า :b17: :b17: :b4: :b4:

จำไว้นะจ้า ว่าความสงบไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
จำไว้นะจ้า ว่าตัวเราไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่สามารถบังคับบัญชาได้
จำไว้นะจ้า ว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

อนุโมทนาสาธุจ้า

:b53: :b53: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.พ. 2010, 17:04
โพสต์: 47

แนวปฏิบัติ: สวดมนต์
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 20

 ข้อมูลส่วนตัว


^^~อนุโมทนากับพี่ข้างบนค่ะ^^~ ขอบคุณน่ะค่ะที่เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ฝึกทำในสิ่งดีๆ ช่างน่าชื่นชมค่ะ

ดีน่ะค่ะ เหมือนกับเราได้ติดตามการเจริญเติบโตของต้นอ่อนทางธรรม

อยากให้ทุกๆท่านเอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ให้มุมานะมากๆขึ้นน่ะค่ะ


ค่ะ อย่าลืมน่ะค่ะ ว่าสัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
ใครทำกรรมมาก ผลของมันก็มากตาม ใครทำน้อยก็ได้ตามนั้น
ใครทำกระทำกรรมให้เป็นที่เดือนร้อนแก่ผู้อื่นเท่าใด จิตใจเขาก็คงจะเป็นเดือนเป็นร้อนตามเท่านั้น

มนุษย์เรา เกิดแก่เจ็บตาย ไม่เที่ยงค่ะ^^~
อย่าถืออารมณ์ตามคน เราจะเดือนร้อนตามไป

^^~

ดังสุภาษิตไทยที่กล่าวว่า

อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา



สิ่งใดๆทั้งหลายย่อมไม่เที่ยง

การทำดีก็เช่นกัน ย่อมมีสิ่งที่มาผจญ หากแต่สงบและอดทน ดังองค์พระพุทธเจ้า ท่านก็จะประสบความสำเร็จ ณ.ทางธรรมน่ะค่ะ^^~

แม้แต่องค์เทพต่างๆเวลาบำเพ็ญเพียรยังต้องใช้ความอดทน ดังนั้นก็จงอดทนต่อไปเถอะค่ะ


ส่วนทางโลกนั้น คนเราทุกคนย่อมมีสิ่งที่ประสบพบเจอไม่เหมือนกัน หากทำความเข้าใจและอดทนก็จะผ่านไปได้ค่ะ

ท่องไว้น่ะค่ะ อดทน ^^~

วารินแปลว่าน้ำ ก็ขอให้คุณเป็นดังน้ำที่นิ่งสงบ ไม่เคลื่อนไหวไปตามแรงลมหรือแรงของสิ่งรอบข้าง

นิ่งเพื่อ....ใจสงบ.....นิ่งเพื่อ.....สติ.....นิ่งเพื่อ.....ปัญญาจะบังเกิดแก่ผู้ที่มีความนิ่งอันสมควร


อันที่จริง การฝึกสมาธิสติ ฝึกที่ใดๆก็ได้ค่ะ^^~
หากเพียงเราคงความรู้เท่าทันและสติอันเป็นบ่อเกิดได้ จะเดินเหินออกไปข้างนอกก็ย่อมทำได้ทุกเวลา
จะกวาดบ้านทำงานบ้านและฝึกไปพร้อมกันได้ก็ทุกเวลา

ขอเอาใจช่วยน่ะค่ะ^^~ ทำจิตให้เข้าสู่ความนิ่ง ย่อมทำให้เกิดความสงบค่ะ

.....................................................
เกิดดับ...
[จิ เจ รุ นิ]


จงทำใจให้นิ่ง....แล้วจะได้พบความสงบ เมื่อสงบ ความสุขย่อมจะตามมา....


ราตรีนาน สำหรับคนนอนไม่หลับ
ระยะทางโยชน์หนึ่งไกล สำหรับผู้ล้าแล้ว
สังสารวัฎยาวนาน สำหรับคนพาล
ผู้ไม่รู้แจ้งพระสัทธรรม


คนพาลได้ความรู้มา
เพื่อการทำลายถ่ายเดียว
ความรู้นั้น ทำลายคุณความดีเขาสิ้น
ทำให้มันสมองของเขาตกต่ำไป


คนโง่ รุ้ตัวว่าโง่
ยังมีทางเป็นบัณฑิตได้บ้าง
แต่โง่แล้ว อวดฉลาด
นั่นแหละเรียกว่าคนโง่แท้

........What Goes Around... Comes Around........


แก้ไขล่าสุดโดย พลบค่ำ เมื่อ 14 เม.ย. 2010, 00:06, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในขณะนี้ตอนนี้เราก็รู้สึกว่าโดนหลอกอยู่เหมือนกันน่ะคะ..
เขาไม่ได้มาในรูปของวิญญานหรอก
แต่มาในรูปของคอมเม้นต์ที่เป็นภาพลวงตาซึ่งเกิดจากความอาฆาตของเขาทั้งนั้น

เราไปแหย่รังแตนเข้า แตนก็เลยแยกร่างมารุมล้อมเรา
อย่างที่กระทู้อันแสนล้ำค่าของเรากลายเป็นฉะนี้...
ถามว่าเราเสียใจไหม... เราขอตอบตามตรงว่า เสียใจที่มันกลายเป็นแบบนี้
แต่ไม่ได้เสียใจอะไรมากมายนัก มันเป็นรูปของการเสียความรู้สึก แต่เพราะได้ลดการยึดถือยึดมั่นลงไปได้มาก
ใครเป็นตัวจริง ใครเป็นตัวปลอม
ณ ขณะนี้เรารู้..

เหมือนดั่งดอปเปอร์เกงเกอร์ ที่จะคอยลอกเลียนแบบผู้อื่นตลอดเวลา
แต่ช่างมันเถอะ
เอาเป็นว่าสาระสำคัญที่เราจะพูดจริงๆก็คือ
ถึงแม้เขาจะไม่ได้อยู่ในรูปของวิญญานมาหลอกก็ตาม...
บางทีครั้งต่อไปเราอาจจะเลิกกลัวผี ตัวจริงๆเลยก็ได้ จากประสบการณ์ครั้งนี้น่ะ


----------------------------------------------------------------------

วันนี้กลับบ้านมาดึกมาก... ตามเวลาบันทึกที่เห็น

จึงขอเดิน 4 นาที กับนั่ง20วินาที
ที่ทำนานมากกว่านั้นไม่ได้ก็ดั่งสาเหตุข้างล่างต่อจากนี้

แต่ว่า ด้วยความรู้สึกที่ไม่ต้องการให้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราจะบันทึกต้องถูกปรามาสด้วยใครบางคนที่ไร้สามัญสำนึก
ทำให้เราเล่าทั้งหมดที่เราอยากจะเล่าไม่ได้
ดังนั้น ในเมื่อเล่าไม่ได้

จึงไม่สามารถบันทึกการเจริญสติในวันนี้ได้

แต่จะบันทึกความรู้สึกของเราที่เป็นตัวบอกสภาวะแทน

วันนี้เราได้คิดอะไรหลายๆอย่าง
เป็นต้นว่า เราอยากจะให้ใครบางคนที่ไร้สามัญสำนึกอยู่ ณ ขณะนี้ตกนรก โดยที่เราจะเป็นลากเขาลงไปเอง
แต่เมื่อได้คุยโทรศัพท์กับพี่ จึงได้เกิดปัญญาขึ้นจากสติที่เราเพียรสั่งสมทำกรรมฐานมาเป็นระยะเวลากว่าครึ่งปีว่า
ในขณะนี้ที่เราเผชิญอยู่ก็เป็นการชดใช้กรรมเช่นกัน กรรมของใครกรรมของมัน
ไปเกิดความรู้สึกแช่งเขาไป มันก็เท่านั้น
มันก็เท่านั้นจริงๆ ไม่มีอะไรเลย เพราเขาเองก็คงมีบุญของเขาที่คอยปกป้องรักษาอยู่ แม้จะเป็นเพียงเศษบุญที่ยังทำให้เขามีชีพอยู่ได้โดยไม่โดนลากลงนรกลงไปก่อน
และในขณะนี้ที่เราเผชิญอยู่ก็ถือว่าเป็นการชดใช้กรรมด้วยเช่นกัน

นั้นหมายถึงว่าเราเองก็คงเคยทำเช่นนี้กับคนอื่น เราก็เลยต้องโดนแบบนี้
ดังนั้น เราจึงมีความรู้สึกว่า
ปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมให้เขาจัดสรรไปเอง
เราจึงปล่อยวางซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ได้... แต่ยังไม่หมดนักหรอก...

คอยดูต่อไปละกัน

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16 ... 26  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร