วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 07:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19 ... 26  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 17:58
โพสต์: 34

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:
จะว่าไปแล้ว เราก็เลยเดินจงกรมสลับกับพิจารณากายของตัวเองน่ะคะ
แล้วเห็นแผ่นหนังลอกๆๆออกมา แล้วก็เห็นพวกน้ำเลือดน้ำหนอง แต่พิจารณาอย่างนั้นได้เพียงสองวันก็เปลี่ยนไปพิจารณาเรื่องอื่นน่ะคะ
แต่ว่าการพิจารณานั้นส่วนใหญ่เราจะให้จิตคิดพิจารณาไปเองน่ะคะ ถ้าเจอเรื่องไหนเจอกิเลสตัวไหนหนักๆมาก็จะพิจารณาดูตัวนั้นๆ
ถ้าไงก็โมทนาคะ


------------------------
แบบนี้คือ พิจารณายังไม่จบ คุณควรพิจารณาต่อไปอีกว่า ในชีวิตประจำวันก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ ( ไม่คิดว่าเป็นตัวเรา แต่ให้คิดว่าเป็นก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวหนึ่ง ) มีกิจกรรมต่างๆร่วมกับก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวอื่นๆ

บางทีก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ โดนกระทบกระทั่ง เกิดความโกรธความขุ่นเคืองใจ ( ไม่ใช่ตัวเราโกรธ )

อีก 20 - 30 ปี ข้างหน้า ก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ก็หมดอายุขัย เน่าเปื่อยกลายเป็นก้อนดิน ก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวอื่นๆที่มากระทบกระทั่ง ก็หมดอายุขัย กลายเป็นดินเช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้น ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ในเวลานี้ก็ไม่แตกต่างจาก อากาศที่พัดไปพัดมา

พิจารณาแบบนี้บ่อยๆ เวลาไหนก็ได้ ไม่ต้องเป็นเวลาเดินจนงกรมก็ได้ ตอนเริ่มฝึกหัดคิดใหม่ๆจะรู้สึกไม่ยอมรับว่าเป็นความจริง แม้ว่าจะเป็นความจริงก็ตาม เพราะว่าจิตยังไม่คุ้นเคย ให้คุณแก้ไขโดย


เวลาคุณนึกคิดว่าคนนั้นคนนี้ทำให้คุณไม่พอใจ คุณก็ตบท้ายความคิดเหล่านั้นว่า ตัวคุณและคนเหล่านั้น เป็นก้อนเลือดก้อนเนื้อ ผลสุดท้ายทั้งตัวคุณและคนเหล่านั้น ก็กลายเป็นดิน ความโกรธหรือความขุ่นเคือง ก็คืออากาศเราดีๆนี่เอง


เมื่อนึกคิดแบบนี้บ่อยๆ จนเริ่มจะเป็นนิสัยขึ้นมาบ้างแล้ว คุณจะเห็นว่าความโกรธที่มีอยู่เบาบางลงทันที แล้วจิตใจของคุณจะเริ่มเย็นลง จนคุณสังเกตุได้ว่ามีความสุขมากกว่าเดิมจริงๆ ( ความสุขที่เกิดขึ้นนี้รู้สึกได้เลย ไม่ต้องใช้ความคิดช่วยเลย )

เมื่อคุณเริ่มมีความสุขเกิดขึ้นมา แม้ว่าจะเล็กน้อย ความคิดในรูปแบบใหม่นี้จะคล่องแคล่วขึ้นมาเอง และความเพียรในการปฏิบัติธรรมจะเกิดตามมา ( ความเพียรเกิดจากความสุข )

การให้อภัยก็จะง่าย เพราะว่าทุกๆคนเป็นดินก้อนหนึ่ง ที่ทำกิจกรรมร่วมกับดินอีกก้อนหนึ่ง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเรื่องเอาราวอะไรกันมากนัก

--------------------------------------

เป็นกำลังใจให้คุณหมั่นปฏิบัติต่อไปครับ ขออนุโมทนา

หมายเหตุ ถ้าพิจารณากิเลสตัวที่กำลังเกิดขึ้น คุณจะโดนกิเลสชักจูงความคิด โดยที่คุณไม่รู้ตัว
เพราะว่า อารมณ์ในใจจะไปบดบังความรู้สึกตัว


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 16 เม.ย. 2010, 06:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:


ทิ้งท้าย

ผู้ใดดูหมิ่นการเจริญสติของเรา ผู้นั้นขาดสติชิบหายวายวอดแน่ๆ..
นี่ไม่ใช่การแช่ง
แต่มันจะเป็นความจริง ที่เวรกรรมจะจัดสรรเอง


ถ้าเธอเห็นว่า การชี้สภาวะธรรม และทำความสำรอกอวิชชาของเธอให้ออกมา
เป็นการดูหมิ่นดูแคลน
ก็ขอร้องเลย
ใหเธอแช่งออกมา
อยากแช่งอะไรก็ให้ออกมา ตามใจปราถนาของเธอ
จะให้ชิบหายวายวอดเท่าไร ก็แช่งได้ตามปราถนา
เป็นไปตามความใคร่ ความกระหายอยากของเธอทั้งสิ้น
สำรอกออกมาตามอกุศลจิตแต่ฝ่ายเดียว
หากุศลจิตได้น้อยมากในใจ

และสติยังอ่อน ปัญญาก็ยังอ่อน ปลุกไม่ขึ้น

แล้วเธอก็จะได้รับผลนั้น อย่างที่เธอไม่คาดคิด
เพราะไม่รู้ว่า สภาวะธรรมที่โพสต์ไปนั่น
เป็นสัจธรรมเพียงใด

ในเมื่อเธอไม่สามารถเก็บอะไรได้
พื้นฐานการปฎิบัติ ยังน้อยมาก
การตบให้เข้าที่เข้าทาง เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับเธอแล้ว

การฝึกสัตว์ การทรมาณสัตว์ จะมีเฉพาะสัตว์ที่มีอวิชชาหนาแน่น
ยิ่งหนาแน่นมาก ก็ต้องกระทบมาก เป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


2504 เขียน:
varinne เขียน:
จะว่าไปแล้ว เราก็เลยเดินจงกรมสลับกับพิจารณากายของตัวเองน่ะคะ
แล้วเห็นแผ่นหนังลอกๆๆออกมา แล้วก็เห็นพวกน้ำเลือดน้ำหนอง แต่พิจารณาอย่างนั้นได้เพียงสองวันก็เปลี่ยนไปพิจารณาเรื่องอื่นน่ะคะ
แต่ว่าการพิจารณานั้นส่วนใหญ่เราจะให้จิตคิดพิจารณาไปเองน่ะคะ ถ้าเจอเรื่องไหนเจอกิเลสตัวไหนหนักๆมาก็จะพิจารณาดูตัวนั้นๆ
ถ้าไงก็โมทนาคะ



------------------------
แบบนี้คือ พิจารณายังไม่จบ คุณควรพิจารณาต่อไปอีกว่า ในชีวิตประจำวันก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ ( ไม่คิดว่าเป็นตัวเรา แต่ให้คิดว่าเป็นก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวหนึ่ง ) มีกิจกรรมต่างๆร่วมกับก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวอื่นๆ

บางทีก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ โดนกระทบกระทั่ง เกิดความโกรธความขุ่นเคืองใจ ( ไม่ใช่ตัวเราโกรธ )

อีก 20 - 30 ปี ข้างหน้า ก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ก็หมดอายุขัย เน่าเปื่อยกลายเป็นก้อนดิน ก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวอื่นๆที่มากระทบกระทั่ง ก็หมดอายุขัย กลายเป็นดินเช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้น ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ในเวลานี้ก็ไม่แตกต่างจาก อากาศที่พัดไปพัดมา

พิจารณาแบบนี้บ่อยๆ เวลาไหนก็ได้ ไม่ต้องเป็นเวลาเดินจนงกรมก็ได้ ตอนเริ่มฝึกหัดคิดใหม่ๆจะรู้สึกไม่ยอมรับว่าเป็นความจริง แม้ว่าจะเป็นความจริงก็ตาม เพราะว่าจิตยังไม่คุ้นเคย ให้คุณแก้ไขโดย


เวลาคุณนึกคิดว่าคนนั้นคนนี้ทำให้คุณไม่พอใจ คุณก็ตบท้ายความคิดเหล่านั้นว่า ตัวคุณและคนเหล่านั้น เป็นก้อนเลือดก้อนเนื้อ ผลสุดท้ายทั้งตัวคุณและคนเหล่านั้น ก็กลายเป็นดิน ความโกรธหรือความขุ่นเคือง ก็คืออากาศเราดีๆนี่เอง


เมื่อนึกคิดแบบนี้บ่อยๆ จนเริ่มจะเป็นนิสัยขึ้นมาบ้างแล้ว คุณจะเห็นว่าความโกรธที่มีอยู่เบาบางลงทันที แล้วจิตใจของคุณจะเริ่มเย็นลง จนคุณสังเกตุได้ว่ามีความสุขมากกว่าเดิมจริงๆ ( ความสุขที่เกิดขึ้นนี้รู้สึกได้เลย ไม่ต้องใช้ความคิดช่วยเลย )

เมื่อคุณเริ่มมีความสุขเกิดขึ้นมา แม้ว่าจะเล็กน้อย ความคิดในรูปแบบใหม่นี้จะคล่องแคล่วขึ้นมาเอง และความเพียรในการปฏิบัติธรรมจะเกิดตามมา ( ความเพียรเกิดจากความสุข )

การให้อภัยก็จะง่าย เพราะว่าทุกๆคนเป็นดินก้อนหนึ่ง ที่ทำกิจกรรมร่วมกับดินอีกก้อนหนึ่ง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเรื่องเอาราวอะไรกันมากนัก

--------------------------------------

เป็นกำลังใจให้คุณหมั่นปฏิบัติต่อไปครับ ขออนุโมทนา

หมายเหตุ ถ้าพิจารณากิเลสตัวที่กำลังเกิดขึ้น คุณจะโดนกิเลสชักจูงความคิด โดยที่คุณไม่รู้ตัว
เพราะว่า อารมณ์ในใจจะไปบดบังความรู้สึกตัว


กิเลสเกิด ต้องเห็น ต้องหยุดให้ได้เสียก่อน
ถึงจะไหลตาม ตามดู ตามรู้ ก็ต้องให้หยุดสนิท
เมื่อหยุดแล้ว ขาดจากความคิด และอารมณ์นั้น ค่อยกลับมาพิจารณา

การใช้สังขารความคิด ไปพิจารณา ซ้อนเข้าไปในระหว่างเกิดอารณ์ และความรู้สึก
เป็นการกระทำที่ ไม่ชาญฉลาด

เป็นการใช้สังขาร ไปซ่อน ไปซ้อน ไปกด ไปแทรก สังขารเดิม
สังขารเดิมก็ยังไม่เห็น และเสียรูปไป

และการพิจารณา ก้ระวังเมื่อสติไม่พอ ไหลไปกับการพิจาราณา
ถ้าเป็นตนพิจารณา ก็ไปซะแล้ว ขาดสติ ขาดสัมปชัญญะระหว่างพิจารณา

พิจารณา ไม่จบ ไม่แทงหาตัวเอง
ก็เลยละกิเลสไม่ได้
กิเลสเกิดจากตนเองแท้ๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
varinne เขียน:


ทิ้งท้าย

ผู้ใดดูหมิ่นการเจริญสติของเรา ผู้นั้นขาดสติชิบหายวายวอดแน่ๆ..
นี่ไม่ใช่การแช่ง
แต่มันจะเป็นความจริง ที่เวรกรรมจะจัดสรรเอง


ถ้าเธอเห็นว่า การชี้สภาวะธรรม และทำความสำรอกอวิชชาของเธอให้ออกมา
เป็นการดูหมิ่นดูแคลน
ก็ขอร้องเลย
ใหเธอแช่งออกมา
อยากแช่งอะไรก็ให้ออกมา ตามใจปราถนาของเธอ
จะให้ชิบหายวายวอดเท่าไร ก็แช่งได้ตามปราถนา
เป็นไปตามความใคร่ ความกระหายอยากของเธอทั้งสิ้น
สำรอกออกมาตามอกุศลจิตแต่ฝ่ายเดียว
หากุศลจิตได้น้อยมากในใจ

และสติยังอ่อน ปัญญาก็ยังอ่อน ปลุกไม่ขึ้น

แล้วเธอก็จะได้รับผลนั้น อย่างที่เธอไม่คาดคิด
เพราะไม่รู้ว่า สภาวะธรรมที่โพสต์ไปนั่น
เป็นสัจธรรมเพียงใด

ในเมื่อเธอไม่สามารถเก็บอะไรได้
พื้นฐานการปฎิบัติ ยังน้อยมาก
การตบให้เข้าที่เข้าทาง เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับเธอแล้ว

การฝึกสัตว์ การทรมาณสัตว์ จะมีเฉพาะสัตว์ที่มีอวิชชาหนาแน่น
ยิ่งหนาแน่นมาก ก็ต้องกระทบมาก เป็นธรรมดา


สติปัญญาอ่อนๆแบบเธอ แนะนำใครไม่ได้ล่ะคะ

แนะนำได้แต่ความโง่ๆ ของเธอออกมา

สำรอกความโง่ออกมาขนาดน้ก็แย่น่ะสิคะ
หุหุหุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 14:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


kanalove เขียน:


สติปัญญาอ่อนๆแบบเธอ แนะนำใครไม่ได้ล่ะคะ

แนะนำได้แต่ความโง่ๆ ของเธอออกมา

สำรอกความโง่ออกมาขนาดน้ก็แย่น่ะสิคะ
หุหุหุ


สำรอกมิจฉาทิฏฐิออกมาเลยจ้า


เพราะมีตัวตน จึงไปข้องกับสิ่งที่เคลื่อนไหว

เหมือนสุนัขบ้าที่เห่าแม้กระทั่งใบไม้ใบหญ้าที่กระดุกกระดิกได้เมื่อถูกลมพัด



อนุโมทนธาสาธุจ้า :b8:

:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
kanalove เขียน:


สติปัญญาอ่อนๆแบบเธอ แนะนำใครไม่ได้ล่ะคะ

แนะนำได้แต่ความโง่ๆ ของเธอออกมา

สำรอกความโง่ออกมาขนาดน้ก็แย่น่ะสิคะ
หุหุหุ


สำรอกมิจฉาทิฏฐิออกมาเลยจ้า


เพราะมีตัวตน จึงไปข้องกับสิ่งที่เคลื่อนไหว

เหมือนสุนัขบ้าที่เห่าแม้กระทั่งใบไม้ใบหญ้าที่กระดุกกระดิกได้เมื่อถูกลมพัด



อนุโมทนธาสาธุจ้า :b8:

:b4: :b4: :b4:


บุคคลที่ความคิดดับได้แล้ว

ก็ควรหุบปากไปได้แล้วนะคะ

อย่ามาเห่าหอนแถวนี้

บอกแล้วไงไม่ต้อนรับ

ท่าทางจะฟังภาษาคนไม่รุ้เรื่อง อิอิ

noohmairu ใช่คนอะเปล่าอะ 555+


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นกระทู้ที่ตัวเองตั้งขึ้นมาเป็นแบบนี้แล้ว รู้สึกใจหายจังเลย..
มันคงเป็นกรรมของเราน่ะคะ ที่ต้องมาเผชิญกับคนแบบนี้
ถ้าไงเราก็จะเผชิญหน้ากับกรรมแบบนี้ให้ถึงที่สุดคะ


enlighted เขียน:
varinne เขียน:


ทิ้งท้าย

ผู้ใดดูหมิ่นการเจริญสติของเรา ผู้นั้นขาดสติชิบหายวายวอดแน่ๆ..
นี่ไม่ใช่การแช่ง
แต่มันจะเป็นความจริง ที่เวรกรรมจะจัดสรรเอง


ถ้าเธอเห็นว่า การชี้สภาวะธรรม และทำความสำรอกอวิชชาของเธอให้ออกมา
เป็นการดูหมิ่นดูแคลน
ก็ขอร้องเลย
ใหเธอแช่งออกมา
อยากแช่งอะไรก็ให้ออกมา ตามใจปราถนาของเธอ
จะให้ชิบหายวายวอดเท่าไร ก็แช่งได้ตามปราถนา
เป็นไปตามความใคร่ ความกระหายอยากของเธอทั้งสิ้น
สำรอกออกมาตามอกุศลจิตแต่ฝ่ายเดียว
หากุศลจิตได้น้อยมากในใจ

และสติยังอ่อน ปัญญาก็ยังอ่อน ปลุกไม่ขึ้น

แล้วเธอก็จะได้รับผลนั้น อย่างที่เธอไม่คาดคิด
เพราะไม่รู้ว่า สภาวะธรรมที่โพสต์ไปนั่น
เป็นสัจธรรมเพียงใด

ในเมื่อเธอไม่สามารถเก็บอะไรได้
พื้นฐานการปฎิบัติ ยังน้อยมาก
การตบให้เข้าที่เข้าทาง เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับเธอแล้ว

การฝึกสัตว์ การทรมาณสัตว์ จะมีเฉพาะสัตว์ที่มีอวิชชาหนาแน่น
ยิ่งหนาแน่นมาก ก็ต้องกระทบมาก เป็นธรรมดา


enlighted เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ

หัวกระทู้ก็บอกอยู่โต้งๆว่า เป็นบันทึกการเจริญสติของข้าพเจ้า
ไม่ได้เป็นกระทู้สอนสภาวะใครทั้งนั้น
สุดแล้วแต่ผู้ที่เข้ามาอ่านจะเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้าง

ท่าทางคุณจะอ่านภาษาคนไม่ออกนะคะ

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


2504 เขียน:
varinne เขียน:
จะว่าไปแล้ว เราก็เลยเดินจงกรมสลับกับพิจารณากายของตัวเองน่ะคะ
แล้วเห็นแผ่นหนังลอกๆๆออกมา แล้วก็เห็นพวกน้ำเลือดน้ำหนอง แต่พิจารณาอย่างนั้นได้เพียงสองวันก็เปลี่ยนไปพิจารณาเรื่องอื่นน่ะคะ
แต่ว่าการพิจารณานั้นส่วนใหญ่เราจะให้จิตคิดพิจารณาไปเองน่ะคะ ถ้าเจอเรื่องไหนเจอกิเลสตัวไหนหนักๆมาก็จะพิจารณาดูตัวนั้นๆ
ถ้าไงก็โมทนาคะ



------------------------
แบบนี้คือ พิจารณายังไม่จบ คุณควรพิจารณาต่อไปอีกว่า ในชีวิตประจำวันก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ ( ไม่คิดว่าเป็นตัวเรา แต่ให้คิดว่าเป็นก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวหนึ่ง ) มีกิจกรรมต่างๆร่วมกับก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวอื่นๆ

บางทีก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ โดนกระทบกระทั่ง เกิดความโกรธความขุ่นเคืองใจ ( ไม่ใช่ตัวเราโกรธ )

อีก 20 - 30 ปี ข้างหน้า ก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวนี้ก็หมดอายุขัย เน่าเปื่อยกลายเป็นก้อนดิน ก้อนเลือดก้อนเนื้อตัวอื่นๆที่มากระทบกระทั่ง ก็หมดอายุขัย กลายเป็นดินเช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้น ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ในเวลานี้ก็ไม่แตกต่างจาก อากาศที่พัดไปพัดมา

พิจารณาแบบนี้บ่อยๆ เวลาไหนก็ได้ ไม่ต้องเป็นเวลาเดินจนงกรมก็ได้ ตอนเริ่มฝึกหัดคิดใหม่ๆจะรู้สึกไม่ยอมรับว่าเป็นความจริง แม้ว่าจะเป็นความจริงก็ตาม เพราะว่าจิตยังไม่คุ้นเคย ให้คุณแก้ไขโดย


เวลาคุณนึกคิดว่าคนนั้นคนนี้ทำให้คุณไม่พอใจ คุณก็ตบท้ายความคิดเหล่านั้นว่า ตัวคุณและคนเหล่านั้น เป็นก้อนเลือดก้อนเนื้อ ผลสุดท้ายทั้งตัวคุณและคนเหล่านั้น ก็กลายเป็นดิน ความโกรธหรือความขุ่นเคือง ก็คืออากาศเราดีๆนี่เอง


เมื่อนึกคิดแบบนี้บ่อยๆ จนเริ่มจะเป็นนิสัยขึ้นมาบ้างแล้ว คุณจะเห็นว่าความโกรธที่มีอยู่เบาบางลงทันที แล้วจิตใจของคุณจะเริ่มเย็นลง จนคุณสังเกตุได้ว่ามีความสุขมากกว่าเดิมจริงๆ ( ความสุขที่เกิดขึ้นนี้รู้สึกได้เลย ไม่ต้องใช้ความคิดช่วยเลย )

เมื่อคุณเริ่มมีความสุขเกิดขึ้นมา แม้ว่าจะเล็กน้อย ความคิดในรูปแบบใหม่นี้จะคล่องแคล่วขึ้นมาเอง และความเพียรในการปฏิบัติธรรมจะเกิดตามมา ( ความเพียรเกิดจากความสุข )

การให้อภัยก็จะง่าย เพราะว่าทุกๆคนเป็นดินก้อนหนึ่ง ที่ทำกิจกรรมร่วมกับดินอีกก้อนหนึ่ง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเรื่องเอาราวอะไรกันมากนัก

--------------------------------------

เป็นกำลังใจให้คุณหมั่นปฏิบัติต่อไปครับ ขออนุโมทนา

หมายเหตุ ถ้าพิจารณากิเลสตัวที่กำลังเกิดขึ้น คุณจะโดนกิเลสชักจูงความคิด โดยที่คุณไม่รู้ตัว
เพราะว่า อารมณ์ในใจจะไปบดบังความรู้สึกตัว


ขอบคุณคำแนะนำของคุณ2504 มากคะ

แต่ว่า เราคิดว่าเราจะให้ตัวสติ เป้นตัวตัดกิเลสแทน
ทำนองว่า เมื่อเจริญสติจนดีระดับหนึ่งได้ สติจะเป็นเครื่องตัดกิเลสได้โดยอัตโนมัติน่ะคะ

ถึงตอนนี้เราอาจจะยังทำได้ไม่ถึงขนาดนั้น หรืออาจจะไม่ถึงขั้นของคุณ2504 เราก็เลยไม่รู้ว่าต่อไปจะเจออะไรบ้าง
ก็ต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจความเอื้อเฟื้อที่ดีมา ณ ที่นี้

โมทนาสาธุ :b8:

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แก้ไขล่าสุดโดย varinne เมื่อ 15 เม.ย. 2010, 16:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 16:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
kanalove เขียน:


สติปัญญาอ่อนๆแบบเธอ แนะนำใครไม่ได้ล่ะคะ

แนะนำได้แต่ความโง่ๆ ของเธอออกมา

สำรอกความโง่ออกมาขนาดน้ก็แย่น่ะสิคะ
หุหุหุ


สำรอกมิจฉาทิฏฐิออกมาเลยจ้า


เพราะมีตัวตน จึงไปข้องกับสิ่งที่เคลื่อนไหว

เหมือนสุนัขบ้าที่เห่าแม้กระทั่งใบไม้ใบหญ้าที่กระดุกกระดิกได้เมื่อถูกลมพัด



อนุโมทนธาสาธุจ้า :b8:

:b4: :b4: :b4:


ถ้าคุณไม่มีตัวตนแล้ว

ก็อย่ามาตอบกระทู้นี้คะ

อย่ามาเป็นสุนัขบ้าที่เห่าแม้กระทั้งใบไม้ใบหญ้าที่กระดุกกระดิกได้เมื่อถูกลมพัดในกระทู้นี้

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 18:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


สองกระทู้นี้แตกต่างกันตรงไหนนะ ระหว่าง

บันทึกการเจริญสติของข้าพเจ้า
viewtopic.php?f=2&t=29959

กับ

เรียนอาจารย์ทุกท่าน รายงานผลการปฎิบัติค่ะ
viewtopic.php?f=2&t=27817


แตกต่างที่แนวทางการปฏิบัติ หรือแตกต่างตรงที่มุมมองของแต่ละคน
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของ 2 กระทู้นี้คือ
คนหนึ่งเน้นแนวการเจริญสติเป็นหลัก กับอีกกระทู้ เน้นเรื่องสมาธิเป็นหลัก

คนหนึ่งใช้ภาษาในการสื่อสารตรงๆแบบทั่วๆไป เพราะไม่ได้ศึกษาปริยัติอะไรมามากมาย
อีกอย่างความเป็นวัยรุ่นของเจ้าของกระทู้ เลยค่อนข้างจะพูดแบบง่ายๆ

อีกคนหนึ่ง ค่อนข้างจะศึกษาปริยัติมาพอสมควร ภาษาที่ใช้ค่อนข้างจะเน้นไปทางปริยัติ
อีกอย่างความเป็นผู้สูงวัยกว่า ภาษาที่ใช้จะแสดงความอ่อนน้อมออกมา


ทุกอย่างมันมีเหตุนะ ผลกระทบของกระทู้นี้จึงเกิดค่อนข้างเยอะ
ทั้งๆที่บันทึกของกระทู้นี้ ไม่มีอะไรที่แตะตาหรือดูผิดแปลกประหลาดใดๆเลย
ผิดอีกกระทู้หนึ่ง ค่อนข้างจะหวือหวามากกว่า ทั้งการใช้ภาษาและสภาวะที่บรรยายมา



หากการนำกระทู้ทั้ง 2 กระทู้มาเปรียบเทียบ อาจจะก่อให้เกิดความไม่พอใจ
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะไหนๆก็พูดเรื่องสภาวะมาแล้ว
ก็อยากจะนำสภาวะมาชี้ให้เห็นหลายๆจุดที่คนอ่านสภาวะหรือดูสภาวะไม่ออก
ว่า สภาวะที่แสดงตามความเป็นจริง กับ สภาวะที่เข้าใจสภาวะผิดๆนั้น ดูตรงไหน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 20:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 15 เมษายน 2553
เดิน 30 นอน 13 นาที

วันเวลาผ่านไปเร็วจริงๆนะเนี่ย
วันนี้เป็นวันพฤหัสซะแล้ว.. อีกไม่นานก็จะไม่ใช่วันหยุดยาว
เดินวันนี้ไม่มีอะไรมาก
เดินดูเท้าไป บางทีความคิดหลุดลอยไปก็เลยต้องกลับมาดูเท้าใหม่
ก็คิดอยู่นะว่าแค่ดูเท้าแล้วมันจะมีอะไรเหรอ
ก็เลยคิดเปรียบเทียบกับชีวิตที่ผ่านมา ที่มีสติเพิ่มขึ้นความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น
ตอนนี้ก็เลยแน่ใจว่า การเดินจงกรมที่ทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่ช่วยจิตใจได้ดีที่สุดแล้ว

ที่ไม่ได้นั่งสมาธิเพราะเดินแล้วปวดหลังก็เลยนอนทำ แล้วก็ยาวไปเลย
คือมีความรู้สึกตัวเล็กน้อยว่านอนอยู่ตลอด แต่ว่าความคิดวิ่งไปไหนบ้างนั้นก็จำไม่ได้แล้ว

สงสัยวันพรุ่งนี้ต้องพยายามมากกว่าวันนี้

จบการบันทึกเพียงเท่านี้

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


kanalove เขียน:
บุคคลที่ความคิดดับได้แล้ว

ก็ควรหุบปากไปได้แล้วนะคะ

อย่ามาเห่าหอนแถวนี้

บอกแล้วไงไม่ต้อนรับ

ท่าทางจะฟังภาษาคนไม่รุ้เรื่อง อิอิ

noohmairu ใช่คนอะเปล่าอะ 555+


อิอิ noohmairu ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา

ไม่ได้เป็นอะไรเลยละจ้า :b12:


อนุโมทนาสาธุจ้า :b16:

varinne เขียน:

ถ้าคุณไม่มีตัวตนแล้ว

ก็อย่ามาตอบกระทู้นี้คะ

อย่ามาเป็นสุนัขบ้าที่เห่าแม้กระทั้งใบไม้ใบหญ้าที่กระดุกกระดิกได้เมื่อถูกลมพัดในกระทู้นี้


อิอิ อิสระจากตัวตน

จะเป็นอะไรก็ได้ละจ้า :b13:


อนุโมทนาสาธุจ้า จุ๊บๆ :b17:

:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 22:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
kanalove เขียน:
บุคคลที่ความคิดดับได้แล้ว

ก็ควรหุบปากไปได้แล้วนะคะ

อย่ามาเห่าหอนแถวนี้

บอกแล้วไงไม่ต้อนรับ

ท่าทางจะฟังภาษาคนไม่รุ้เรื่อง อิอิ

noohmairu ใช่คนอะเปล่าอะ 555+


อิอิ noohmairu ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา

ไม่ได้เป็นอะไรเลยละจ้า :b12:


อนุโมทนาสาธุจ้า :b16:

varinne เขียน:

ถ้าคุณไม่มีตัวตนแล้ว

ก็อย่ามาตอบกระทู้นี้คะ

อย่ามาเป็นสุนัขบ้าที่เห่าแม้กระทั้งใบไม้ใบหญ้าที่กระดุกกระดิกได้เมื่อถูกลมพัดในกระทู้นี้


อิอิ อิสระจากตัวตน

จะเป็นอะไรก็ได้ละจ้า :b13:


อนุโมทนาสาธุจ้า จุ๊บๆ :b17:

:b48: :b48: :b48:


ไม่ได้เป้นอะไรก็อย่ามาเป็นตัวเป็นตนในกระทู้นี้

จขกท.ไล่แล้วก็ไม่ยอมออกไป

แบบนี้เขาเรียกว่าหน้าด้าน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2010, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ก็มีกระทู้แฉพฤติกรรมของคนๆหนึ่งออกมาแล้วล่ะคะ

viewtopic.php?f=1&t=30713&p=191480#p191480

เราไม่อยากจะยุ่งกับคนพรรคนี้เลยละคะ...

ตอนนี้ก็มีอีกสิ่งที่อยากจะบันทึก แต่ดูเหมือนว่าจะบันทึกในช่วงเวลาที่กระทู้นี้ตกเป็นเป้าโจมตีของคนแบบนั้นไม่ได้

ถ้าไงก็ไว้โอกาสหน้าคะ

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2010, 00:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


kanalove เขียน:

ไม่ได้เป้นอะไรก็อย่ามาเป็นตัวเป็นตนในกระทู้นี้

จขกท.ไล่แล้วก็ไม่ยอมออกไป

แบบนี้เขาเรียกว่าหน้าด้าน


หุหุ เจ้าของกระทู้ตายแล้วหอบกระทู้ไปด้วยให้ได้นะจ้า


อนุโมทนาสาธุจ้า :b8:

:b4: :b17: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 387 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19 ... 26  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร