วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 12:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 315 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 21  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
enlighted เขียน:
เอามาให้อ่านอีกที

๕๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าแรกตรัสรู้ ประทับอยู่ที่ต้นอชปาล-
นิโครธ แถบฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา อุรุเวลาประเทศ.
ครั้งนั้น ความปริวิตกแห่งพระหฤทัยบังเกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เสด็จเข้าที่สลับ ทรงพักผ่อนอยู่อย่างนี้ว่า ธรรมที่เราตรัสรู้แล้วนี้ ลึกซึ้ง
เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต คาคคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้
เฉพาะบัณฑิต ก็หมู่สัตว์นี้แล ยังยินดีด้วยอาลัย ยินดีแล้วในอาลัย เบิกบาน
แล้วในอาลัย ก็ฐานะนี้ คือ ความเป็นปัจจัยแห่งธรรมมีสังขารเป็นต้นนี้ เป็น
ธรรมอาศัยกันและกันเกิดขึ้น อันหมู่สัตว์ผู้ยินดีด้วยอาลัย ยินดีแล้วในอาลัย
เบิกบานแล้วในอาลัย จะพึงเห็นได้ยาก แม้ฐานะนี้ ก็เห็นได้ยาก คือ ธรรม
เป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ธรรมเป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง ธรรมเป็นที่สิ้น
ตัณหา ธรรมเป็นที่สำรอก ธรรมเป็นที่ดับ นิพพาน ก็ถ้าเราจะพึงแสดงธรรม
แต่ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อย
ของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความลำบากของเรา.





ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง



ยังยืนยันเรื่องสภาวะนะว่าไม่ใช่ " ฌาน "
เพราะถ้าเป็นฌาน เวลาพระพุทธองค์ทรงแสดง
จะมีการแสดงองค์ประกอบของฌานที่เป็นสัมมาสมาธิด้วยทุกครั้ง

แล้วในรูปประโยคทั้งหมด ไม่มีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่
แต่สภาวะที่ยกมาเป็นตัวอย่างตรงนี้เจาะจงชัดเจนว่า " ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง "


ถ้ามีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่ นั่นหมายถึงการเข้าผลาสมาบัติของอริยะแต่ละระดับ

สภาวะของฌานสมาบัติ จะมีสภาวะเหมือนกับการเข้าผลาสมาบัติของอริยะ
ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับ แล้วเกิด ซึ่งทำให้มีคนหลงสภาวะตรงนี้ได้

แต่ความแตกต่างอยู่ที่ การเข้าฌานสมาบัติที่เป็นโลกียฌานนั้น มีวันเสื่อม
แต่ฌานสมาบัติที่เป็นโลกุตระนั้น ไม่มีวันเสื่อม


แม่หนูน้อย

ปริวิตก เป็นสังขารประเภทใดหรือ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


" ลูกศิษย์ คิดล้างครู "

มีเรื่อง " กรรม " มาเล่าให้ฟัง

เมื่อก่อนไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องราวที่คนๆหนึ่งเขาเขียนไว้ว่า
" มีเทวดากับนางฟ้า 2 ตน เสวยสุขอยู่บนหัวชาวนา "

แล้วมีคำถามๆกลับมาว่า คนที่เอ่ยอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ปฏิบัติ ทำไมถึงกล้าทำผิดศิล

1. ฉกชิง ต้องใช้คำว่า ลักขโมยสินะ เพราะเจ้าของไม่ได้อนุญาติและไม่ได้คิดให้
แต่แอบลักขโมยพาไปกลางดึก

2. มุสาวาทา ใช้วาจาให้น่าเชื่อถือในการตีสนิทในมาดของผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อหลอกให้อีกฝ่ายตายใจ

ทุกวันนี้ คนๆนี้ยังคับแค้นใจต่อการกระทำของอีกฝ่าย ยังไม่มีการให้อโหสิกรรมต่อกัน

นี่คือ หนึ่งกรรม

อีกหนึ่งกรรม

ไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนี่ ใครสภาวะจิตจะแย่กว่ากัน

อีกคน เปรียบเสมือนลูกศิษย์ สอนไปสอนมา สอบอารมณ์ไปมา กลับกลายมีเรื่องชู้สาว
โดยอีกฝ่ายหลงเชื่อ แต่ไม่ถลำตัวลงไปลึก ทุกวันนี้คนๆนี้ยังคงคับแค้นใจต่อการกระทำของอีกฝ่าย
และคนๆนี้ได้หลงเชื่อในมุสาที่อีกฝ่ายกล่าว จึงเป็นเหมือนต้นเหตุให้ อีกฝ่ายได้กระทำผิดศิล
ต่อครอบคัรวของคนข้างบน ซึ่งคนข้างบนเป็นเพื่อนกับคนข้างล่าง

เมื่อคนข้างล่างได้รู้เรื่องราวและความจริงทั้งหมด ได้ไปขอขมาและขออโหสิกรรมต่อคนข้างบน
ซึ่งคนข้างบนเข้าใจดีว่า คนข้างล่างถูกหลอกเหมือนกัน จึงได้ให้การอโหสิกรรมต่อกัน

รออ่านตอนต่อไปว่า คนที่ผิดศิลนั้น จะหนีวิบากกรรมที่ตัวเองทำไปได้อย่างไร
กฏแห่งกรรมนั้นซื่อสัตย์ ไม่มีใครหนีได้หรอก กรรมส่งผลแน่นอน เพียงแต่รอจังหวะและเวลา
ตามวาระที่จะส่งผลเท่านั้นเอง ตอนนี้กรรมเริ่มส่งผลแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่รู้

จึงเกิดเรื่องราว " ลูกศิษย์คิดล้างครู " ขึ้นมา

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 24 เม.ย. 2010, 20:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียกว่า วาทะ รู้ แบบ อัญญาเดียรถีย์ปริพาชก2012 ของหนูไมรุ ต่างหาก ก็รู้ :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 24 เม.ย. 2010, 20:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
เรียกว่า วาทะ รู้ แบบ อัญญาเดียรถีย์ปริพาชก2012 ของหนูไมรุ ต่างหาก ก็รู้ :b32:


อิอิ สำรอกออกมาเลยละจ้า :b4:

เมื่อปรารถนาแล้วนรกไม่ไปไหนละจ้า



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ต้องสำรอกมิจฉาทิฏฐิออกมาละจ้า

ไปนรกไหมจ้า

อนุโมทนาสาธุจ้า

ก็รู้จ้า :b32:

ง่ายส์์์์์์์์์์สสสสสสสสส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:


ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง



ยังยืนยันเรื่องสภาวะนะว่าไม่ใช่ " ฌาน "
เพราะถ้าเป็นฌาน เวลาพระพุทธองค์ทรงแสดง
จะมีการแสดงองค์ประกอบของฌานที่เป็นสัมมาสมาธิด้วยทุกครั้ง

แล้วในรูปประโยคทั้งหมด ไม่มีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่
แต่สภาวะที่ยกมาเป็นตัวอย่างตรงนี้เจาะจงชัดเจนว่า " ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง "


ถ้ามีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่ นั่นหมายถึงการเข้าผลาสมาบัติของอริยะแต่ละระดับ

สภาวะของฌานสมาบัติ จะมีสภาวะเหมือนกับการเข้าผลาสมาบัติของอริยะ
ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับ แล้วเกิด ซึ่งทำให้มีคนหลงสภาวะตรงนี้ได้

แต่ความแตกต่างอยู่ที่ การเข้าฌานสมาบัติที่เป็นโลกียฌานนั้น มีวันเสื่อม
แต่ฌานสมาบัติที่เป็นโลกุตระนั้น ไม่มีวันเสื่อม


อิอิ หวัดดีจ้าคุณป้า walaiporn นักดูสภาวะระดับหนึ่งจ้า :b16:

ที่คุณป้าอธิบายมายืดยาวนั้นนะจ้า

ไม่ได้เห็นสภาวะ ปทปรมะ ของตัวเองเลยละจ้าคุณป้าขา :b32:


* แล้วในรูปประโยคทั้งหมด ไม่มีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่
แต่สภาวะที่ยกมาเป็นตัวอย่างตรงนี้เจาะจงชัดเจนว่า " ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง "


* ถ้ามีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่ นั่นหมายถึงการเข้าผลาสมาบัติของอริยะแต่ละระดับ


อ่านพระไตรปิฏกหมดทั้งตู้คุณป้าเห็นได้แค่*ถ้อยคำที่เป็นตัวหนังสือ* เท่านั้นละจ้า

ไม่อาจเห็นสภาวะที่แสดงออกมาเลยละจ้า :b9:

ปทปรมะ จริงๆๆ เลยละจ้าคุณป้าขา



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:

:b16: :b17: :b16: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังกะหนูไมรุ บรรลุแล้วงั้น555555 :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


หาวาทะกันไปก่อนนะ คน2เพศขอดูหนังก่อน :b13:

ผู้ที่กำลังออนไลน์
กำลังดูบอร์ดนี้: enlighted, Google [Bot], noohmairu

ก็รู้ :b32: :b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 24 เม.ย. 2010, 21:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
" ลูกศิษย์ คิดล้างครู "

มีเรื่อง " กรรม " มาเล่าให้ฟัง

เมื่อก่อนไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องราวที่คนๆหนึ่งเขาเขียนไว้ว่า
" มีเทวดากับนางฟ้า 2 ตน เสวยสุขอยู่บนหัวชาวนา "

แล้วมีคำถามๆกลับมาว่า คนที่เอ่ยอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ปฏิบัติ ทำไมถึงกล้าทำผิดศิล

1. ฉกชิง ต้องใช้คำว่า ลักขโมยสินะ เพราะเจ้าของไม่ได้อนุญาติและไม่ได้คิดให้
แต่แอบลักขโมยพาไปกลางดึก

2. มุสาวาทา ใช้วาจาให้น่าเชื่อถือในการตีสนิทในมาดของผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อหลอกให้อีกฝ่ายตายใจ

ทุกวันนี้ คนๆนี้ยังคับแค้นใจต่อการกระทำของอีกฝ่าย ยังไม่มีการให้อโหสิกรรมต่อกัน

นี่คือ หนึ่งกรรม

อีกหนึ่งกรรม

ไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนี่ ใครสภาวะจิตจะแย่กว่ากัน

อีกคน เปรียบเสมือนลูกศิษย์ สอนไปสอนมา สอบอารมณ์ไปมา กลับกลายมีเรื่องชู้สาว
โดยอีกฝ่ายหลงเชื่อ แต่ไม่ถลำตัวลงไปลึก ทุกวันนี้คนๆนี้ยังคงคับแค้นใจต่อการกระทำของอีกฝ่าย
และคนๆนี้ได้หลงเชื่อในมุสาที่อีกฝ่ายกล่าว จึงเป็นเหมือนต้นเหตุให้ อีกฝ่ายได้กระทำผิดศิล
ต่อครอบคัรวของคนข้างบน ซึ่งคนข้างบนเป็นเพื่อนกับคนข้างล่าง

เมื่อคนข้างล่างได้รู้เรื่องราวและความจริงทั้งหมด ได้ไปขอขมาและขออโหสิกรรมต่อคนข้างบน
ซึ่งคนข้างบนเข้าใจดีว่า คนข้างล่างถูกหลอกเหมือนกัน จึงได้ให้การอโหสิกรรมต่อกัน

รออ่านตอนต่อไปว่า คนที่ผิดศิลนั้น จะหนีวิบากกรรมที่ตัวเองทำไปได้อย่างไร
กฏแห่งกรรมนั้นซื่อสัตย์ ไม่มีใครหนีได้หรอก กรรมส่งผลแน่นอน เพียงแต่รอจังหวะและเวลา
ตามวาระที่จะส่งผลเท่านั้นเอง ตอนนี้กรรมเริ่มส่งผลแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่รู้

จึงเกิดเรื่องราว " ลูกศิษย์คิดล้างครู " ขึ้นมา


อิอิ

ปทปรมะ เพี้ยนจัด ละจ้า

เพี้ยนภาคหนึ่งยังไม่พอ จะมีเพี้ยนภาคต่อๆๆๆๆๆ ไปอีกละจ้า

ไม่มีสติก็ไหลตามความคิดปรุงแต่งเป็นตุเป็นตะไปเรื่อยละจ้า :b22:

สนใจแต่คนข้างล่าง คนข้างบน เค้าทำไรกัน

ตัวเองอยากแอบดูเค้าไม่รู้สึกตัวจะโดนทิ่มตาแตกละจ้า :b4:



ละเหตุได้ ก็ไม่ต้องไปอยากแอบดู คนข้างล่าง คนข้างบน เค้าทำไรกัน

ละจ้าๆๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:

:b8: :b4: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ก็ต้องสำรอกมิจฉาทิฏฐิออกมาละจ้า

ไปนรกไหมจ้า

อนุโมทนาสาธุจ้า

ก็รู้จ้า :b32:

ง่ายส์์์์์์์์์์สสสสสสสสส


อิอิ สำรอกมิจฉาทิฏฐิออกมา

มีพระไตรปิฏกไว้ปิดหน้า

หลับอยู่

ไม่รับสัมมาทิฏฐิเข้าไป

ก็ได้ลงนรกสมใจละจ้า

ง่ายส์สสสสสสสส


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:

:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย noohmairu เมื่อ 24 เม.ย. 2010, 21:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
บัดนี้ เราไม่ควรจะประกาศธรรม ที่เราตรัสรู้แล้วโดยยาก
ธรรมนี้ เหล่าสัตว์ผู้ถูกราคะโทสะครอบงำแล้ว จะตรัสรู้
ไม่ได้ง่าย เหล่าสัตว์ผู้ยินดีแล้วด้วยความกำหนัด ถูกกองแห่ง
ความมืดหุ้มห่อแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันทวนกระแส ละเอียด
ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก เป็นอณู ฯ
เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงพิจารณาเห็นดังนี้ พระหฤทัยก็ทรงน้อมไปเพื่อ
ความขวนขวายน้อย ไม่ทรงน้อมไปเพื่อทรงแสดงธรรม ฯ
[๕๕๖] ครั้งนั้น สหัมบดีพรหม ทราบความปริวิตกแห่งพระหฤทัยของ
พระผู้มีพระภาคด้วยใจแล้ว ได้มีความดำริว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โลกจะฉิบหาย
หนอ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โลกจะพินาศหนอ
เพราะพระตถาคตอรหันตสัมมา-
*สัมพุทธเจ้า ทรงน้อมพระหฤทัยไปเพื่อความขวนขวายน้อย ไม่ทรงน้อมพระหฤทัย
ไปเพื่อทรงแสดงธรรม ฯ



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๔๔๐๕ - ๔๔๘๒. หน้าที่ ๑๙๑ - ๑๙๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


เหอๆๆ

ยังจะยกพระไตรปิฎก มาซ้ำเติมอีก

สภาวะหยาบ ไม่อาจส่องสภาวะละเอียด
สภาวะต่ำกว่า ไม่อาจส่องสภาวะที่สูงกว่าได้

แต่สภาวะนี้
พรหมสภาวะ ที่ยังไม่เป็นสัมมาสัมพุทธจิต
ก็ยังส่องทะลุใจได้ปรุโปร่ง
เห็นปริวิตก ที่เกิดในใจ พระพุทธเจ้าได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
noohmairu เขียน:
สิ่งที่ปรากฎก็คือ ถ้วยและน้ำชา

เทน้ำชาทิ้งหมดก็ยังปรากฎ ถ้วยว่างๆ ตั้งโด่เด่

อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


:b12: noohmairu หง่ะ :b1:

ท่าน กะ ท่าน enlighted นี่ .... :b12:

ค่ะ... :b8: ข้าน้อยจะขอติดตามดูอยู่ห่าง ๆ นะเจ้าคะ


อิอิ

คิดว่าติดตามดูอยู่ห่างๆ แล้วจะพ้น ถ้วย ไปได้หรอจ้า

โป๊ก!


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
" ลูกศิษย์ คิดล้างครู "

มีเรื่อง " กรรม " มาเล่าให้ฟัง

เมื่อก่อนไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องราวที่คนๆหนึ่งเขาเขียนไว้ว่า
" มีเทวดากับนางฟ้า 2 ตน เสวยสุขอยู่บนหัวชาวนา "

แล้วมีคำถามๆกลับมาว่า คนที่เอ่ยอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ปฏิบัติ ทำไมถึงกล้าทำผิดศิล

1. ฉกชิง ต้องใช้คำว่า ลักขโมยสินะ เพราะเจ้าของไม่ได้อนุญาติและไม่ได้คิดให้
แต่แอบลักขโมยพาไปกลางดึก

2. มุสาวาทา ใช้วาจาให้น่าเชื่อถือในการตีสนิทในมาดของผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อหลอกให้อีกฝ่ายตายใจ

ทุกวันนี้ คนๆนี้ยังคับแค้นใจต่อการกระทำของอีกฝ่าย ยังไม่มีการให้อโหสิกรรมต่อกัน

นี่คือ หนึ่งกรรม

อีกหนึ่งกรรม

ไม่รู้ว่าระหว่างสองคนนี่ ใครสภาวะจิตจะแย่กว่ากัน

อีกคน เปรียบเสมือนลูกศิษย์ สอนไปสอนมา สอบอารมณ์ไปมา กลับกลายมีเรื่องชู้สาว
โดยอีกฝ่ายหลงเชื่อ แต่ไม่ถลำตัวลงไปลึก ทุกวันนี้คนๆนี้ยังคงคับแค้นใจต่อการกระทำของอีกฝ่าย
และคนๆนี้ได้หลงเชื่อในมุสาที่อีกฝ่ายกล่าว จึงเป็นเหมือนต้นเหตุให้ อีกฝ่ายได้กระทำผิดศิล
ต่อครอบคัรวของคนข้างบน ซึ่งคนข้างบนเป็นเพื่อนกับคนข้างล่าง

เมื่อคนข้างล่างได้รู้เรื่องราวและความจริงทั้งหมด ได้ไปขอขมาและขออโหสิกรรมต่อคนข้างบน
ซึ่งคนข้างบนเข้าใจดีว่า คนข้างล่างถูกหลอกเหมือนกัน จึงได้ให้การอโหสิกรรมต่อกัน

รออ่านตอนต่อไปว่า คนที่ผิดศิลนั้น จะหนีวิบากกรรมที่ตัวเองทำไปได้อย่างไร
กฏแห่งกรรมนั้นซื่อสัตย์ ไม่มีใครหนีได้หรอก กรรมส่งผลแน่นอน เพียงแต่รอจังหวะและเวลา
ตามวาระที่จะส่งผลเท่านั้นเอง ตอนนี้กรรมเริ่มส่งผลแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่รู้

จึงเกิดเรื่องราว " ลูกศิษย์คิดล้างครู " ขึ้นมา


เหอๆๆ

การหยิบ ยกนิทาน เรื่อง ลูกศิษย์ คิดล้างครู ขึ้นมา
เห็นมโนกรรม จากสังขารจิตหรือเปล่า
เคลื่อน อกุศลจิต หยิบยกเรื่องนี้ มาเพราะเหตุใด
จึงเกี่ยวข้องการแสดงธรรมนี้
เดี๋ยวจะด่วนลงอเวจี นะแม่หนูน้อย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
หาวาทะกันไปก่อนนะ คน2เพศขอดูหนังก่อน :b13:

ผู้ที่กำลังออนไลน์
กำลังดูบอร์ดนี้: enlighted, Google [Bot], noohmairu

ก็รู้ :b32: :b32: :b32:


รู้ให้จริงเหอะ
รู้ไม่จริง ก็ลงอเวจี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 315 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 21  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร