วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 11:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 315 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 21  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
quote="เช่นนั้น"]
Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พรหมสังยุต
ปฐมวรรคที่ ๑
อายาจนสูตรที่ ๑
[๕๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคแรกตรัสรู้ ประทับอยู่ที่ต้นอชปาลนิโครธ
แถบฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เขตอุรุเวลาประเทศ ฯ


สัมมาสัมพุทธจิต อันเกิดขึ้น สำเร็จแล้ว ณ คืนวันตรัสรู้ เป็นจิตใหญ่หาประมาณมิได้
พระพุทธองค์ทรงเสวยอรหัตผลจิตไม่มีระหว่างคั่น มีจตุตถฌานอันเป็นที่ตั้งแห่งอภิญญาเป็นบาท พร้อมด้วยพุทธญาณ อันไม่ปรากฏเป็นการทั่วไปแก่พระสาวก
ดังนั้น พระองค์ประสงค์จะน้อมจิตด้วยญาณใด พระองค์ก็ทรงสามารถน้อมไปได้ด้วยพุทธจิตนั้น

enlighted เขียน:
เหอๆ

สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้วจริงหรือ

สภาวะนั้น ปรากฎองค์ฌาน ในจุตตถฌาน จริงหรือ


จริง


อ้างอิงพระไตรปิฎก:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พรหมสังยุต
ปฐมวรรคที่ ๑
อายาจนสูตรที่ ๑
[๕๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคแรกตรัสรู้ ประทับอยู่ที่ต้นอชปาลนิโครธ
แถบฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เขตอุรุเวลาประเทศ ฯ
............................................


แล้วใจความต่อไป ล่ะ

ครั้งนั้น ความปริวิตกแห่งพระหฤทัยบังเกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาค


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
เหอๆ

สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้วจริงหรือ

สภาวะนั้น ปรากฎองค์ฌาน ในจุตตถฌาน จริงหรือ


ท่านจะรับหรือเปล่า ว่า สัมมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้ว พร้อมด้วยพุทธญาณ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 11:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
enlighted เขียน:
เหอๆ

สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้วจริงหรือ

สภาวะนั้น ปรากฎองค์ฌาน ในจุตตถฌาน จริงหรือ


ท่านจะรับหรือเปล่า ว่า สัมมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้ว พร้อมด้วยพุทธญาณ



สิ่งนี้ไม่ใช่การรับ หรือการปฎิเสธ

ความบังเกิด ที่ปรากฎในใจ ขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะ ว่าใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยุ่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ครั้งนั้น ความปริวิตกแห่งพระหฤทัยบังเกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาค"

นี่เป็นใจความสำคัญ
และตอบสภาวะชัดเจนอยู่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 12:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
เหอๆ

สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้วจริงหรือ

สภาวะนั้น ปรากฎองค์ฌาน ในจุตตถฌาน จริงหรือ



enlighted เขียน:
สิ่งนี้ไม่ใช่การรับ หรือการปฎิเสธ

ความบังเกิด ที่ปรากฎในใจ ขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะ ว่าใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยุ่แล้ว


ท่าน ถาม จริงหรือ
เช่นนั้น ตอบ จริง

เช่นนั้น ถามท่านว่า ท่านยอมรับอย่างไร จริง หรือไม่จริง

ไม่ได้ถามท่านว่า ความบังเกิดที่ปรากฏในใจขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะอย่างไร
ท่าน แสดงความเห็นว่า "ความบังเกิดที่ปรากฏในใจ ขณะนั้นย่อมแสดงสภาวะว่า ใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยู่แล้ว"

เมื่อท่านแสดงเช่นนี้ จึงต้องถามท่านอีกทีหนึ่ง ว่า สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้ว ในคืนวันที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้นั้น จริงหรือไม่จริง

ถ้าไม่อย่างนั้น ท่านจะใคร่ครวญ คำว่า "ปริวิตก" เป็นอื่นไป

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 12:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


บัดนี้ เราไม่ควรจะประกาศธรรม ที่เราตรัสรู้แล้วโดยยาก
ธรรมนี้ เหล่าสัตว์ผู้ถูกราคะโทสะครอบงำแล้ว จะตรัสรู้
ไม่ได้ง่าย เหล่าสัตว์ผู้ยินดีแล้วด้วยความกำหนัด ถูกกองแห่ง
ความมืดหุ้มห่อแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันทวนกระแส ละเอียด
ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก เป็นอณู ฯ
เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงพิจารณาเห็นดังนี้ พระหฤทัยก็ทรงน้อมไปเพื่อ
ความขวนขวายน้อย ไม่ทรงน้อมไปเพื่อทรงแสดงธรรม ฯ
[๕๕๖] ครั้งนั้น สหัมบดีพรหม ทราบความปริวิตกแห่งพระหฤทัยของ
พระผู้มีพระภาคด้วยใจแล้ว ได้มีความดำริว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โลกจะฉิบหาย
หนอ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โลกจะพินาศหนอ
เพราะพระตถาคตอรหันตสัมมา-
*สัมพุทธเจ้า ทรงน้อมพระหฤทัยไปเพื่อความขวนขวายน้อย ไม่ทรงน้อมพระหฤทัย
ไปเพื่อทรงแสดงธรรม ฯ



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๔๔๐๕ - ๔๔๘๒. หน้าที่ ๑๙๑ - ๑๙๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 24 เม.ย. 2010, 12:05, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 12:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
enlighted เขียน:
เหอๆ

สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้วจริงหรือ

สภาวะนั้น ปรากฎองค์ฌาน ในจุตตถฌาน จริงหรือ



enlighted เขียน:
สิ่งนี้ไม่ใช่การรับ หรือการปฎิเสธ

ความบังเกิด ที่ปรากฎในใจ ขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะ ว่าใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยุ่แล้ว


ท่าน ถาม จริงหรือ
เช่นนั้น ตอบ จริง

เช่นนั้น ถามท่านว่า ท่านยอมรับอย่างไร จริง หรือไม่จริง

ไม่ได้ถามท่านว่า ความบังเกิดที่ปรากฏในใจขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะอย่างไร
ท่าน แสดงความเห็นว่า "ความบังเกิดที่ปรากฏในใจ ขณะนั้นย่อมแสดงสภาวะว่า ใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยู่แล้ว"

เมื่อท่านแสดงเช่นนี้ จึงต้องถามท่านอีกทีหนึ่ง ว่า สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้ว ในคืนวันที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้นั้น จริงหรือไม่จริง

ถ้าไม่อย่างนั้น ท่านจะใคร่ครวญ คำว่า "ปริวิตก" เป็นอื่นไป


สัมมาสัมพุทธจิต ที่บังเกิด ยังไม่เป็นผลอันแท้จริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
สัมมาสัมพุทธจิต ที่บังเกิด ยังไม่เป็นผลอันแท้จริง


สัมมาสัมพุทธจิต ที่บังเกิด
ปรากฏแล้ว หรือยังไม่ปรากฏ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่าน enlighted - สิ่งนี้ไม่ใช่การรับ หรือการปฎิเสธ

ความบังเกิด ที่ปรากฎในใจ ขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะ ว่าใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยุ่แล้ว


ท่านเช่นนั้น - เมื่อท่านแสดงเช่นนี้ จึงต้องถามท่านอีกทีหนึ่ง ว่า สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้ว ในคืนวันที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้นั้น จริงหรือไม่จริง

ถ้าไม่อย่างนั้น ท่านจะใคร่ครวญ คำว่า "ปริวิตก" เป็นอื่นไป


ท่าน enlighted - สัมมาสัมพุทธจิต ที่บังเกิด ยังไม่เป็นผลอันแท้จริง

คำถามเอกอนค่ะ แล้วผลอันแท้จริง ปรากฎเช่นไร

:b8:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 24 เม.ย. 2010, 15:02, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 14:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
อ๋อ...ไม่รู้นี้เอง ก้รู้

ไม่เป็นไร..ฟังจากท่านอื่นก็ได้คับ..ก็รู้

เห็นแว้บ ๆ ว่ามีคนรู้เขาตอบแล้ว.. ก็รู้

เล่นไม่ยากส์ครับ คุณกบน้อย :b32: ก็รู้ :b32:

อิอิ คิดว่า รู้ ก็ไม่รู้ :b13:

วาทะ รู้ แบบเดียรถีย์นี้

พาลงนรกได้ไม่ยากส์ละจ้าปริพาชกหลับอยู่ :b32:

กบจะเล่นด้วยก็เอาสิจ้า คราวนี้จะได้เปลี่ยนภูมิซะทีละจ้า

จากสัตว์เดรัจฉานจะได้ไปเป็นสัตว์นรกด้วยกันกะเดียรถีย์หลับอยู่ละจ้า
:b4:

หลับอยู่ เขียน:
ถ้าไม่แทงตลอดในสภาวะ เช่นนั้น มีหรือจะกล้าตั้งคำถาม
ถ้าไม่แทงตลอดในสภาวะ เช่นนั้น มีหรือจะกล้าตั้งคำถาม
ถ้าไม่แทงตลอดในสภาวะ เช่นนั้น มีหรือจะกล้าตั้งคำถาม

enlighted บรรลุแล้ว?

อิอิ ปริพาชกหลับอยู่เดียรถีย์เอ๋ย :b16:

ภูมิปัญญาเดียรถีย์ไม่มีทางหยั่งถึงละจ้า

เป็นแต่เอาพระไตรปิฎกปิดบังหน้าตา

เล่นตลกโปกฮาอวดวาทะที่คิดว่าตัวเอง รู้

สำรอกแต่มิจฉาทิฏฐิออกมา

ในใจไม่ได้มีสัมมาทิฏฐิอยู่เลยละจ้า


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:

:b8: :b17: :b8: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
บัดนี้ เราไม่ควรจะประกาศธรรม ที่เราตรัสรู้แล้วโดยยาก
ธรรมนี้ เหล่าสัตว์ผู้ถูกราคะโทสะครอบงำแล้ว จะตรัสรู้
ไม่ได้ง่าย เหล่าสัตว์ผู้ยินดีแล้วด้วยความกำหนัด ถูกกองแห่ง
ความมืดหุ้มห่อแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันทวนกระแส ละเอียด
ลึกซึ้ง เห็นได้ยาก เป็นอณู ฯ
เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงพิจารณาเห็นดังนี้ พระหฤทัยก็ทรงน้อมไปเพื่อ
ความขวนขวายน้อย ไม่ทรงน้อมไปเพื่อทรงแสดงธรรม ฯ
[๕๕๖] ครั้งนั้น สหัมบดีพรหม ทราบความปริวิตกแห่งพระหฤทัยของ
พระผู้มีพระภาคด้วยใจแล้ว ได้มีความดำริว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โลกจะฉิบหาย
หนอ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โลกจะพินาศหนอ
เพราะพระตถาคตอรหันตสัมมา-
*สัมพุทธเจ้า ทรงน้อมพระหฤทัยไปเพื่อความขวนขวายน้อย ไม่ทรงน้อมพระหฤทัย
ไปเพื่อทรงแสดงธรรม ฯ



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๔๔๐๕ - ๔๔๘๒. หน้าที่ ๑๙๑ - ๑๙๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0


อิอิ หลับอยู่เอาพระไตรปิฏกมาปิดหน้าอีกแระละจ้า

อยากจะโชว์แต่ก็ไม่กล้าโผล่หน้าออกมาปริพาชกเอ๋ย :b3:

ที่ขีดเส้นใต้กับเน้นไว้นั่นละเมอหรือว่าตั้งใจก็ไม่รู้ละจ้า 555+



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:

:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 15:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:

เช่นนั้น ถามท่านว่า ท่านยอมรับอย่างไร จริง หรือไม่จริง

ไม่ได้ถามท่านว่า ความบังเกิดที่ปรากฏในใจขณะนั้น ย่อมแสดงสภาวะอย่างไร
ท่าน แสดงความเห็นว่า "ความบังเกิดที่ปรากฏในใจ ขณะนั้นย่อมแสดงสภาวะว่า ใช่ หรือไม่ใช่
โดยสัจธรรมแท้จริงอยู่แล้ว"

เมื่อท่านแสดงเช่นนี้ จึงต้องถามท่านอีกทีหนึ่ง ว่า สัมมาสัมพุทธจิต สำเร็จแล้ว ในคืนวันที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้นั้น จริงหรือไม่จริง

ถ้าไม่อย่างนั้น ท่านจะใคร่ครวญ คำว่า "ปริวิตก" เป็นอื่นไป


อิอิ

ถ้า จริง ท่านจะใคร่ครวญ คำว่า "ปริวิตก" เป็นเช่นใดละจ้า

ถ้า ไม่จริง ท่านจะใคร่ครวญ คำว่า "ปริวิตก" เป็นเช่นใดละจ้า

แล้วท่านใคร่ครวญ คำว่า "ใคร่ครวญ" เป็นเช่นใดละจ้า



อนุโมทนาจ้า
:b8:

:b4: :b17: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 15:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:

ท่าน enlighted - สัมมาสัมพุทธจิต ที่บังเกิด ยังไม่เป็นผลอันแท้จริง

คำถามเอกอนค่ะ แล้วผลอันแท้จริง ปรากฎเช่นไร

:b8:


สิ่งที่ปรากฎก็คือ ถ้วยและน้ำชา

เทน้ำชาทิ้งหมดก็ยังปรากฎ ถ้วยว่างๆ ตั้งโด่เด่



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
เอรากอน เขียน:

ท่าน enlighted - สัมมาสัมพุทธจิต ที่บังเกิด ยังไม่เป็นผลอันแท้จริง

คำถามเอกอนค่ะ แล้วผลอันแท้จริง ปรากฎเช่นไร

:b8:


สิ่งที่ปรากฎก็คือ ถ้วยและน้ำชา

เทน้ำชาทิ้งหมดก็ยังปรากฎ ถ้วยว่างๆ ตั้งโด่เด่

อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


:b12: noohmairu หง่ะ :b1:

ท่าน กะ ท่าน enlighted นี่ .... :b12:

ค่ะ... :b8: ข้าน้อยจะขอติดตามดูอยู่ห่าง ๆ นะเจ้าคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2010, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
เอามาให้อ่านอีกที

๕๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าแรกตรัสรู้ ประทับอยู่ที่ต้นอชปาล-
นิโครธ แถบฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา อุรุเวลาประเทศ.
ครั้งนั้น ความปริวิตกแห่งพระหฤทัยบังเกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เสด็จเข้าที่สลับ ทรงพักผ่อนอยู่อย่างนี้ว่า ธรรมที่เราตรัสรู้แล้วนี้ ลึกซึ้ง
เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต คาคคะเนเอาไม่ได้ ละเอียด รู้ได้
เฉพาะบัณฑิต ก็หมู่สัตว์นี้แล ยังยินดีด้วยอาลัย ยินดีแล้วในอาลัย เบิกบาน
แล้วในอาลัย ก็ฐานะนี้ คือ ความเป็นปัจจัยแห่งธรรมมีสังขารเป็นต้นนี้ เป็น
ธรรมอาศัยกันและกันเกิดขึ้น อันหมู่สัตว์ผู้ยินดีด้วยอาลัย ยินดีแล้วในอาลัย
เบิกบานแล้วในอาลัย จะพึงเห็นได้ยาก แม้ฐานะนี้ ก็เห็นได้ยาก คือ ธรรม
เป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ธรรมเป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง ธรรมเป็นที่สิ้น
ตัณหา ธรรมเป็นที่สำรอก ธรรมเป็นที่ดับ นิพพาน ก็ถ้าเราจะพึงแสดงธรรม
แต่ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงรู้ทั่วถึงธรรมของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อย
ของเรา ข้อนั้น จะพึงเป็นความลำบากของเรา.





ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง



ยังยืนยันเรื่องสภาวะนะว่าไม่ใช่ " ฌาน "
เพราะถ้าเป็นฌาน เวลาพระพุทธองค์ทรงแสดง
จะมีการแสดงองค์ประกอบของฌานที่เป็นสัมมาสมาธิด้วยทุกครั้ง

แล้วในรูปประโยคทั้งหมด ไม่มีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่
แต่สภาวะที่ยกมาเป็นตัวอย่างตรงนี้เจาะจงชัดเจนว่า " ธรรมเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง "


ถ้ามีคำว่า " สมาธิ " ประกอบอยู่ นั่นหมายถึงการเข้าผลาสมาบัติของอริยะแต่ละระดับ

สภาวะของฌานสมาบัติ จะมีสภาวะเหมือนกับการเข้าผลาสมาบัติของอริยะ
ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับ แล้วเกิด ซึ่งทำให้มีคนหลงสภาวะตรงนี้ได้

แต่ความแตกต่างอยู่ที่ การเข้าฌานสมาบัติที่เป็นโลกียฌานนั้น มีวันเสื่อม
แต่ฌานสมาบัติที่เป็นโลกุตระนั้น ไม่มีวันเสื่อม

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 315 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 21  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร