วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 06:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 226 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 16  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


chalermsak เขียน:
545 จิตเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด (จากพระสูตร)
http://84000.org/true/545.html

ปัญหา อะไรเป็นธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วที่สุด ?

พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้แต่อย่างเดียวที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วเหมือนจิต ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้จะเปรียบเทียบให้เห็นว่า จิตเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วเพียงใดนั้น ก็กระทำไม่ได้ง่าย....”

บาลีแห่งเอกธรรม เอก. อํ. (๔๙)
ตบ. ๒๐ : ๑๑ ตท. ๒๐ : -
ตอ. G.S. ๑ : ๗-๘
------------------------------------------------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๒๐๓ - ๒๐๙. หน้าที่ ๙.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0

ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=42
------------------------------------------------------------------------



นี่ก็อีกคน

ยกมาไม่ดูตาม้าตาเรือ
อ่านพระธรรม ก็ไม่เข้าใจ ได้แต่ขุดมาแปะ

เห็นตัวหนังสือ เขียนว่าจิต จิต จิต ก็ไปขุด ไปยกมา แปะ

นั่นจิตตัวแม่ หรือ เป็นพวกตัวต่อเลโก ที่คอยประกอบกับจิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
นี่ก็อีกคน

ยกมาไม่ดูตาม้าตาเรือ
อ่านพระธรรม ก็ไม่เข้าใจ ได้แต่ขุดมาแปะ

เห็นตัวหนังสือ เขียนว่าจิต จิต จิต ก็ไปขุด ไปยกมา แปะ

นั่นจิตตัวแม่ หรือ เป็นพวกตัวต่อเลโก ที่คอยประกอบกับจิต


มีจิตแม่ด้วย งี้ก็แปลว่า ต้องมีจิตตัวบิดา หรือตัวพ่อดิ อีกหน่อยก็มีจิตตัวลูกตัวหลาน ฯลฯ :b32:

มีคำถาม จิตกับวิญญาณเหมือนกันหรือต่างกัน ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
นี่ก็อีกคน

ยกมาไม่ดูตาม้าตาเรือ
อ่านพระธรรม ก็ไม่เข้าใจ ได้แต่ขุดมาแปะ

เห็นตัวหนังสือ เขียนว่าจิต จิต จิต ก็ไปขุด ไปยกมา แปะ

นั่นจิตตัวแม่ หรือ เป็นพวกตัวต่อเลโก ที่คอยประกอบกับจิต


มีจิตแม่ด้วย งี้ก็แปลว่า ต้องมีจิตตัวบิดา หรือตัวพ่อดิ อีกหน่อยก็มีจิตตัวลูกตัวหลาน ฯลฯ :b32:

มีคำถาม จิตกับวิญญาณเหมือนกันหรือต่างกัน ?



เหอๆๆ

ที่ถามมาน่ะ หัดไปดูเอง ว่ามันจิตประเภทไหน
ไป เรียน เรื่อง อายตนะ ให้มันเข้าใจก่อนเหอะ

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 09:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
นี่ก็อีกคน

ยกมาไม่ดูตาม้าตาเรือ
อ่านพระธรรม ก็ไม่เข้าใจ ได้แต่ขุดมาแปะ

เห็นตัวหนังสือ เขียนว่าจิต จิต จิต ก็ไปขุด ไปยกมา แปะ

นั่นจิตตัวแม่ หรือ เป็นพวกตัวต่อเลโก ที่คอยประกอบกับจิต


มีจิตแม่ด้วย งี้ก็แปลว่า ต้องมีจิตตัวบิดา หรือตัวพ่อดิ อีกหน่อยก็มีจิตตัวลูกตัวหลาน ฯลฯ :b32:

มีคำถาม จิตกับวิญญาณเหมือนกันหรือต่างกัน ?



เหอๆๆ

ที่ถามมาน่ะ หัดไปดูเอง ว่ามันจิตประเภทไหน
ไป เรียน เรื่อง อายตนะ ให้มันเข้าใจก่อนเหอะ

อิอิ


รู้ก็บอกมาดิขอรับท่าน :b8:

ที่ถามว่า จิตกับวิญญาณเหมือนกันหรือต่างกัน ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2010, 10:07
โพสต์: 86

แนวปฏิบัติ: เงียบๆคนเดียว
งานอดิเรก: ฟังธรรมของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย&หลวงพ่อปราโมทย์.
สิ่งที่ชื่นชอบ: ตามดูจิต,หลวงปู่ฝากไว้,สติปัฏฐาน ๔
ชื่อเล่น: Mulan ;)
อายุ: 0
ที่อยู่: ปัจจุบัน

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
ลิ้มธรรม เขียน:
tongue


ขออนุญาตินะคะ เห็นหัวข้อก็เลยลองไปค้นหาดู ก็พบดังข้างล่างนี้ค่ะ...

จิตนั้นถ้าพยายามหาตัวหาตนว่าเป็นอะไร อยู่ที่ใดแล้ว โดยไม่เข้าใจธรรมหรือสภาวธรรม(ธรรมชาติ)แล้ว ก็จะเป็นดังที่ท่านหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้กล่าวแสดงไว้ในเรื่อง "จิตคือพุทธะ"
อันเป็นส่วนหนึ่งของ"คำสอนของฮวงโป"เช่นกัน

"จิตหนึ่ง นี้เป็นสิ่งที่เห็นตำตาเราอยู่แท้ๆ แต่ลองไปใช้เหตุผล(ว่ามันเป็นอะไร เป็นต้น) กับมันเข้าดูซิ เราจะหล่นลงไปสู่ความผิดพลาดทันที สิ่งนี้เป็นเสมือนกับความว่าง อันปราศจากขอบทุกๆด้าน ซึ่งไม่อาจจะหยั่ง หรือวัดได้" (จาก อตุโล ไม่มีใดเทียม, น.๔๒๓)

จิต ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ ที่บ้างก็เรียกกันว่ามโน บ้างก็เรียกว่าหทัย บ้างก็เรียกว่ามนายตนะ บ้างก็เรียกว่ามนินทรีย์ บ้างก็เรียกว่าวิญญาณ ฯ. หลายท่านพยายามหาว่า จิตคืออะไร? เป็นอะไร? อยู่ที่ใด? บ้างก็ว่าเจตภูต บ้างก็ว่าปฏิสนธิวิญญาณที่ลอยละล่องท่องเที่ยวแสวงหาภพใหม่หรือที่เกิดบ้าง บ้างก็ว่ากายทิพย์ บ้างก็ว่าคือสมอง บ้างก็ว่าหัวใจ บ้างก็ว่าอยู่ที่กลางอก บ้างก็ว่าอยู่ที่กลางศูนย์กาย บ้างก็ว่ากลางหน้าผาก บ้างก็ว่าเกิดมาแต่ชาติปางก่อน ฯลฯ. ล้วนแล้วแต่ปรุงแต่งกันไปต่างๆนาๆ กล่าวคือเป็นไปตามความเชื่อที่ถ่ายทอดหรือสืบต่อกันมา หรือตามความเข้าใจของตัวของตน ตามอธิโมกข์ ฯ. จึงต่างล้วนตกลงสู่หลุมพรางของความผิดพลาด หรือมายาของจิตทันที จึงเป็นไปดังคำกล่าวข้างต้นที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโลได้กล่าวไว้นั่นเอง

จิตนั้น ตามความเป็นจริงแล้วก็เป็นสังขาร อันคือสิ่งปรุงแต่งหรือสิ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้นอย่างหนึ่ง
ที่เกิดขึ้นแต่มีเหตุมาเป็นปัจจัยกันจึงเกิดขึ้น แล้วย่อมเป็นไปภายใต้กฎพระไตรลักษณ์ที่ว่า
ย่อมมีความไม่เที่ยง คงทนอยู่ไม่ได้จึงเป็นทุกข์ในที่สุด ไม่ใช่ตัวใช่ตน หรือไม่มีตัวไม่มีตนที่เป็นแก่นเป็นแกนอย่างแท้จริงเป็นอนัตตา เพราะเกิดมาแต่การที่มีเหตุต่างๆมาเป็นปัจจัยแก่กันและกัน
หรือมาประชุมกันชั่วขณะหนึ่งหรือระยะเวลาหนึ่ง จึงเกิดจิตหนึ่งขึ้นเป็นธรรมดา
ดังเช่น ตา กระทบ รูป ย่อมเกิดจักขุวิญญาณขึ้นเป็นธรรมดา อันคือจิตหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
กล่าวคือเมื่อเกิดการกระทบกันของอายตนะภายนอกและภายในในผู้ที่ยังดำรงขันธ์หรือชีวิตอยู่
จิตหรือวิญญาณหนึ่งๆก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แล้วตั้งอยู่อย่างแปรปรวน แล้วย่อมดับไปเป็นธรรมดา จิตจึงมีสภาพที่เกิดดับ เกิดดับๆๆ...เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา
อันเป็นไปตามกระบวนธรรมของขันธ์ ๕ นั่นเอง ดังแสดงไว้ในชาติธรรมสูตร

ชาติธรรมสูตร

[๓๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี

ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวงมีความเกิด(คือชาติ)เป็นธรรมดา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งทั้งปวงที่มีความเกิดเป็นธรรมดาคืออะไรเล่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย คือ จักษุ รูป จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส(ผัสสะ)
มีความเกิด(ของจิตหรือวิญญาณหนึ่งขึ้น จนยังให้เกิดเวทนาขึ้นด้วย)เป็นธรรมดา

(กล่าวคือเกิดแต่เหตุปัจจัยดังนี้ ตา รูป จักษุวิญญาณ จักษุผัสสะ...
จิตหนึ่งก็มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แล้วยังให้เกิดเวทนาเป็นธรรมดา)
:b8:

:b8: :b8: :b8:


ผมเห็นว่าต้องรบกวนให้ช่วยค้นหลักฐานจากพระสูตรมายืนยันหน่อยนะครับว่า

จิตเป็นอนัตตา และรู้ได้อย่างไรว่าจิตเกิดดับ? ใครเป็นผู้รู้ว่าจิตเกิดดับครับ?

tongue
การค้นหาหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ในความสงสัยของตน ก็ควรที่ค้นหาด้วยตนเอง

พระไตรปิฎกก็มีให้อ่านใน internet จะเลือกดูพระสูตรไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบ

สงสัยเรื่องจิต จิตก็มีอยู่เเล้วในตนเอง อยากพิสูจน์ให้รู้เเจ้งเห็นจริง
ทำไมไม่ปฎิบัติหาคำตอบออกมาจากจิตตนเองล่ะ

อ่านอะไรต่ออะไรเเล้วยังสงสัย หันมาอ่านจิตตนเองให้เเจ้ง ไม่ดีกว่าหรือ?

:b8: :b8: :b8:

หลวงพ่อชา สุภัทโท
ตอบปัญหาธรรม
คัดลอกจาก มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์


ควรจะทำอย่างไรเมื่อสงสัย บางวันวุ่นวายใจด้วยความสงสัยในเรื่องการปฏิบัติ
ความสงสัยนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทุกคนเริ่มต้นด้วยความสงสัย

ท่านอาจได้เรียนรู้อย่างมากมาย จากความสงสัยนั้น
ที่สำคัญก็คือ ท่านอย่าถือเอาความสงสัยนั้นเป็นตัวเป็นตน

นั่นคืออย่าตกเป็นเหยื่อของความสงสัย ซึ่งจะทำให้จิตใจของท่านหมุนวนเป็นวัฏฏะอันไม่มีที่สิ้นสุด
แทนที่จะเป็นเช่นนั้น จงเฝ้าดูกระบวนการเกิดดับของความสงสัยของความฉงนสนเท่ห์

ดูว่าใครคือผู้ที่สงสัย ดูว่าความสงสัย นั้นเกิดขึ้นและดับไปอย่างไร
แล้วท่านจะไม่ตกเป็นเหยื่อของความสงสัยอีกต่อไป

ท่านจะหลุดพ้นออกจากความสงสัยและจิตของท่านก็จะสงบ
ท่านจะเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นและดับไปอย่างไร ปล่อยวางความสงสัยของท่านและเพียงแต่เฝ้าดู
นี่คือที่สิ้นสุดของความสงสัย

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
จิต เป็นเพียง "ธาตุรู้" จริงหรือ?


ธรรมภูต เขียน:
จริงสิครับ จิตเป็นธาตุรู้หรือวิญญาณธาตุ ที่ม่ใช่วิญญาณขันธ์ที่เป็นขันธฺ๑ในขันธ์๕

:b39:


ท่านแสดง จิต โดยธาตุ และปะปน กับการแสดง จิต โดยขันธ์

เช่นนั้น จะถาม 2 ปะเด็น เพื่อความเข้าใจเรื่องจิต แก่สหธรรมิก

1. จิต เป็นเพียง "ธาตุรู้ หรือมโนวิญญาณธาตุ" จริงหรือ?
2. จิต เป็นขันธ์ ใด ในขันธ์ 5?

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 10 พ.ค. 2010, 12:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
จิต เป็นเพียง "ธาตุรู้" จริงหรือ?


ธรรมภูต เขียน:
จริงสิครับ จิตเป็นธาตุรู้หรือวิญญาณธาตุ ที่ม่ใช่วิญญาณขันธ์ที่เป็นขันธฺ๑ในขันธ์๕

:b39:


ท่านแสดง จิต โดยธาตุ และปะปน กับการแสดง จิต โดยขันธ์

เช่นนั้น จะถาม 2 ปะเด็น เพื่อความเข้าใจเรื่องจิต แก่สหธรรมิก

1. จิต เป็นเพียง "ธาตุรู้ หรือมโนวิญญาณธาตุ" จริงหรือ?
2. จิต เป็นขันธ์ ใด ในขันธ์ 5?


อิอิ ธาตุรู้จะเรียกว่าอะไรก็รู้เจ๋ยๆ ละจ้าๆ

ไม่เป็นขันธ์ใดในขันธ์ทั้งหลายที่ไม่เที่ยง ไม่เป็นอะไรเลย ละจ้าๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลิ้มธรรม เขียน:
ผมเห็นว่าต้องรบกวนให้ช่วยค้นหลักฐานจากพระสูตรมายืนยันหน่อยนะครับว่า

จิตเป็นอนัตตา และรู้ได้อย่างไรว่าจิตเกิดดับ? ใครเป็นผู้รู้ว่าจิตเกิดดับครับ?


อิอิ จิตหนึ่งไม่เกิดไม่ดับ ละจ้าๆ

จิตหนึ่ง รู้เจ๋ยๆ ว่าอะไรเกิด อะไรดับ ละจ้าๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:
อ้างคำพูด:
จิตคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์
http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18
หลักธรรมที่แท้จริงก็คือ จิต นั่นเอง
ซึ่งถ้านอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่มีหลักธรรมใดๆ
จิตนั่นแหละคือหลักธรรม ซึ่งถ้านอกไปจากนั้นแล้วมันก็ไม่ใช่จิต
จิตนั้น โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต
แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ใช่ มิใช่จิต
การที่จะกล่าวว่าจิตนั้นมิใช่จิต ดังนี้

นั่นแหละ ย่อมหมายถึง สิ่งบางสิ่งซึ่งมีอยู่จริง
สิ่งนี้มันอยู่เหนือคำพูด
ขอจงเลิกละการ คิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น
เมื่อนั้น เราอาจกล่าวได้ว่า คลองแห่งคำพูดก็ได้ถูกตัดขาดไปแล้ว
และ พฤติของจิต ก็ถูกเพิกถอนขึ้นสิ้นเชิงแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
กรัชกาย เขียน:
enlighted เขียน:
นี่ก็อีกคน

ยกมาไม่ดูตาม้าตาเรือ
อ่านพระธรรม ก็ไม่เข้าใจ ได้แต่ขุดมาแปะ

เห็นตัวหนังสือ เขียนว่าจิต จิต จิต ก็ไปขุด ไปยกมา แปะ

นั่นจิตตัวแม่ หรือ เป็นพวกตัวต่อเลโก ที่คอยประกอบกับจิต


มีจิตแม่ด้วย งี้ก็แปลว่า ต้องมีจิตตัวบิดา หรือตัวพ่อดิ อีกหน่อยก็มีจิตตัวลูกตัวหลาน ฯลฯ :b32:

มีคำถาม จิตกับวิญญาณเหมือนกันหรือต่างกัน ?



เหอๆๆ

ที่ถามมาน่ะ หัดไปดูเอง ว่ามันจิตประเภทไหน
ไป เรียน เรื่อง อายตนะ ให้มันเข้าใจก่อนเหอะ

อิอิ


รู้ก็บอกมาดิขอรับท่าน :b8:

ที่ถามว่า จิตกับวิญญาณเหมือนกันหรือต่างกัน ?


เหอๆๆ

จิต ก็คือ จิต

จิตคือธรรมชาติ ที่รู้

ในอภิธรรม เรียกจิตต่างกัน ตามสภาวอ่อนแก่ ของอรรถาจารย์
ที่มาอธิบาย จึงไปเรียกว่า มโน บ้าง หทัย บ้าง มนินทรีย์ บ้าง วิญาณ บ้าง และอื่นๆ
ซึ่งแสดงสภาวะธรรม อันเป็นปัจจังของตน ตามกำลังความเข้าใจ

จึงหาอรรถาจารย์ ที่อธิบายว่า จิตพุทธะไม่ได้ ในอภิธรรม

เพราะสภาวะจิตพุทธะ ที่เห็นและอธิบายได้ ก็จะมี

มีเพียงพระมหากัสสะปะ ผู้มีธรรมชาติรู้ เท่าเทียมพระพุทธเจ้า ทุกประการ
และก็มีท่านฮวงโป หลวงปู่ดุลย์ และก็ข้าพเจ้า

นอกนี้ไป ไม่มีอรรถาจาย์องค์ใดๆ สามารถอธิบายจิตพุทธะได้
มีแต่อ่านที่ตันม่อเซี้ยง แปลมาได้ อิอิ

อรรถาจารย์แต่ละองค์
จึงอธิบายได้ เพียง ธรรมชาติ แบบเอตทัคคะแต่ละด้าน เท่านั้น
ไม่อาจเข้า และอธิบาย ถึงพุทธะจิตที่แท้จริงได้

ตัวอย่างวิญญาณ ในอรรถา ที่เรียกจิต เป็นวิญญาณ
ก็เป็นธรรมชาติ รู้ ที่เป็นเอกทัคคะแบบพระสารีบุตร
จะเข้าใจ สภาวะจิต จากวิญญาณ
จึงเรียกจิตนั้นว่าวิญญาณ ซึ่งหมายถึงธรรมชาติที่รู้ ตามกำลังตน

ส่วนวิญญาณก็มี วิญญาณานในขันธ์ และในปฎิจสมุบาท
ก็เรียกวิญญาณ เหมือนกัน โดยไม่ให้ความละเอียดที่แตกต่าง
ทำให้คนที่ไม่แตกฉาน พากันมั่ว และมึนงง

การเรียกเหมือนกัน แต่ เป็นความต่างกัน ในสภาวะอ่อนแก่ละเอียดของธรรม
วิญญาณในขันธ์ เป้นสภาวะหยาบยิ่ง กว่าวิญญาณในปฎิจจสมุบาท
สภาวะของวิญญาณทั้งสองแบบ ยังมีความต่างอย่างมากมาย ไม่เหมือนกัน
วิญญาณในปฎิจจ เป็นวิญญาณตัวพ่อ ของวิญญาณในขันธ์
ซึ่งวิญญาณในขันธ์ เป็นเพียงตัวต่อเลโกที่ประกอบในวิญญาณปฎิจจสมุปาท

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
อิอิ ธาตุรู้จะเรียกว่าอะไรก็รู้เจ๋ยๆ ละจ้าๆ

ไม่เป็นขันธ์ใดในขันธ์ทั้งหลายที่ไม่เที่ยง ไม่เป็นอะไรเลย ละจ้าๆ



จิต เป็นเพียง ธาตุรู้ เจ๋ยๆ จริงหรือ?
จิต ไม่เป็นขันธ์ใดที่ไม่เที่ยง ไม่เป็นอะไรเลย -- จิตก็เที่ยง สิ จริงหรือ?

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
จิต ก็คือ จิต

จิตคือธรรมชาติ ที่รู้

ในอภิธรรม เรียกจิตต่างกัน ตามสภาวอ่อนแก่ ของอรรถาจารย์
ที่มาอธิบาย จึงไปเรียกว่า มโน บ้าง หทัย บ้าง มนินทรีย์ บ้าง วิญาณ บ้าง และอื่นๆ
ซึ่งแสดงสภาวะธรรม อันเป็นปัจจัยของตน ตามกำลังความเข้าใจ

จึงหาอรรถาจารย์ ที่อธิบายว่า จิตพุทธะไม่ได้ ในอภิธรรม

เพราะสภาวะจิตพุทธะ ที่เห็นและอธิบายได้ ก็จะมี

มีเพียง.... ผู้มีธรรมชาติรู้ .....และก็ข้าพเจ้า

อิอิ


และก็ข้าพเจ้า

:b9: อุ้ย...อิ อิ :b15: ท่านนี่... :b13: จริงเชียว... :b9: :b9: :b12:

ค่ะ...

ผู้มีธรรมชาติรู้

พอจะให้ความกระจ่างกับเอกอนเพิ่มเติมในเรื่องนี้ได้รึเปล่าคะ... :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
ผมเห็นว่าต้องรบกวนให้ช่วยค้นหลักฐานจากพระสูตรมายืนยันหน่อยนะครับว่า

จิตเป็นอนัตตา และรู้ได้อย่างไรว่าจิตเกิดดับ? ใครเป็นผู้รู้ว่าจิตเกิดดับครับ?



ลิ้มธรรม เขียน:
[center]การค้นหาหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ในความสงสัยของตน ก็ควรที่ค้นหาด้วยตนเอง

พระไตรปิฎกก็มีให้อ่านใน internet จะเลือกดูพระสูตรไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบ

สงสัยเรื่องจิต จิตก็มีอยู่เเล้วในตนเอง อยากพิสูจน์ให้รู้เเจ้งเห็นจริง
ทำไมไม่ปฎิบัติหาคำตอบออกมาจากจิตตนเองล่ะ

อ่านอะไรต่ออะไรเเล้วยังสงสัย หันมาอ่านจิตตนเองให้เเจ้ง ไม่ดีกว่าหรือ?


คุณลิ้มธรรม ถ้าคุณเลี่ยงที่จะไม่ตอบ ผมก็ตำหนิอะไรคุณไม่ได้อยู่แล้วเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ที่ผมถามคุณนั้น ก็เพราะว่าในพระสูตรหรือในอนัตตลักขณสูตร

สูตรที่ว่าด้วยเรื่องอนัตตาโดยเฉพาะ ก็ไม่มีตรงไหนกล่าวถึงจิตว่าเป็นอนัตตาเลย

ก็เพราะได้พิสูจน์ด้วยตนเองแล้ว จึงยังความสงสัยในเรื่องจิตเกิด-ดับหมดไป

ว่าที่เกิด-ดับนั้นไม่ใช่จิต เป็นเพียงอาการของจิตหรือจิตสังขารเท่านั้นที่เกิด-ดับ

คุณรู้ได้ยังไงว่าผม ไม่ลงมือปฏิบัติ ที่ผมถามคุณไป เพราะเห็นว่า

คุณพูดไว้ว่าได้รับผลของการปฏิบัติตรงตามพระบรมครูได้กล่าวไว้

ผมถามไป ถ้าคุณไม่คิดจะตอบก็ไม่ต้องเบี่ยงประเด็นไปนอกเรื่องก็ได้ครับ

:b39:

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
จิต เป็นเพียง "ธาตุรู้" จริงหรือ?


ธรรมภูต เขียน:
จริงสิครับ จิตเป็นธาตุรู้หรือวิญญาณธาตุ ที่ม่ใช่วิญญาณขันธ์ที่เป็นขันธฺ๑ในขันธ์๕

:b39:


ท่านแสดง จิต โดยธาตุ และปะปน กับการแสดง จิต โดยขันธ์

เช่นนั้น จะถาม 2 ปะเด็น เพื่อความเข้าใจเรื่องจิต แก่สหธรรมิก

1. จิต เป็นเพียง "ธาตุรู้ หรือมโนวิญญาณธาตุ" จริงหรือ?
2. จิต เป็นขันธ์ ใด ในขันธ์ 5?


๑.จิตเป็นธาตุรู้ ไม่ใช่มโนวิญญาตุธาตุ เพราะมโนคือ ใจเป็นอายตนะ๑ใน๖

ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้จิตรับรู้อารมณ์ทางใจ เมื่อจิตรับรู้อารมณ์เข้ามาทางมโน ก็เกิดมโนวิญญานขึ้นมาเป็นธรรมารมณ์

๒. จิตไม่ใช่ขันธ์๕ และขันธ์๕ไม่ใช่จิต เพราะจิตมีดวงเดียว ไม่ใช่เป็นกอง

ขันธ์ทั้งหลายจึงเป็นกองทุกข์ แต่จิตไม่ใช่กองทุกข์ ถ้าจิตเป็นกองทุกข์แล้ว

เราจะอบรมจิตให้เป็นสุขได้อย่างไร? จิตที่อบรมดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ใช่มั้ยครับ?

:b39:

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
enlighted เขียน:
จิต ก็คือ จิต

จิตคือธรรมชาติ ที่รู้

ในอภิธรรม เรียกจิตต่างกัน ตามสภาวอ่อนแก่ ของอรรถาจารย์
ที่มาอธิบาย จึงไปเรียกว่า มโน บ้าง หทัย บ้าง มนินทรีย์ บ้าง วิญาณ บ้าง และอื่นๆ
ซึ่งแสดงสภาวะธรรม อันเป็นปัจจัยของตน ตามกำลังความเข้าใจ

จึงหาอรรถาจารย์ ที่อธิบายว่า จิตพุทธะไม่ได้ ในอภิธรรม

เพราะสภาวะจิตพุทธะ ที่เห็นและอธิบายได้ ก็จะมี

มีเพียง.... ผู้มีธรรมชาติรู้ .....และก็ข้าพเจ้า

อิอิ


และก็ข้าพเจ้า

:b9: อุ้ย...อิ อิ :b15: ท่านนี่... :b13: จริงเชียว... :b9: :b9: :b12:

ค่ะ...

ผู้มีธรรมชาติรู้

พอจะให้ความกระจ่างกับเอกอนเพิ่มเติมในเรื่องนี้ได้รึเปล่าคะ... :b1:


ธรรมชาติแห่งพุทธะ ไม่ได้มีทั่วไป ไม่มีในพระสารีบุตร ไม่มีในพระโมคัลลาน
ไม่มีในพระอัสชิ ไม่มีในท่านเว่ยหล่าง
แต่มีในพระมหากัสสปะ ผู้ได้ชื่อว่า มีปัญญาเท่าพระพระสมณโคดม
ท่านฮวงโป หลวงปู่ดุลย์ และข้าพเจ้า



อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:

ธรรมชาติแห่งพุทธะ ไม่ได้มีทั่วไป ไม่มีในพระสารีบุตร ไม่มีในพระโมคัลลาน
ไม่มีในพระอัสชิ ไม่มีในท่านเว่ยหล่าง
แต่มีในพระมหากัสสปะ ผู้ได้ชื่อว่า มีปัญญาเท่าพระพระสมณโคดม
ท่านฮวงโป หลวงปู่ดุลย์ และข้าพเจ้า

อิอิ


อิ อิ... เอกอนหมายถึงนี่ค่ะ... ที่จะรบกวนให้ท่านช่วยขยายความเพิ่มเติมค่ะ

จิตคือธรรมชาติ ที่รู้

จิตพุทธะ...

ลักษณะของการเป็นผู้มีธรรมชาติรู้ ... การรู้นั้น รู้เช่นไร

จึงเป็นการรู้ถึง จิต อย่างที่ไม่ได้...อยู่ภายใต้เงื่อนไขแห่งการน้อมไปตามตำราใด ๆ
การฟังมา อ่านมา หรือท่องจำมา น่ะค่ะ...

:b1: :b8: :b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 226 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 16  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร