วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 12:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:
1) ถ้ายังเป็นมนุษย์อยู่ หากเป็นพระอรหันต์ จะดำรงชีวิตได้ไม่เกิน 7 วัน แล้วตาย (นิพพาน)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 17:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
varinne เขียน:
1) ถ้ายังเป็นมนุษย์อยู่ หากเป็นพระอรหันต์ จะดำรงชีวิตได้ไม่เกิน 7 วัน แล้วตาย (นิพพาน)


แล้วท่านว่าไงล่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 17:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




QA.jpeg
QA.jpeg [ 21.92 KiB | เปิดดู 8009 ครั้ง ]
enlighted เขียน:
varinne เขียน:
1) ถ้ายังเป็นมนุษย์อยู่ หากเป็นพระอรหันต์ จะดำรงชีวิตได้ไม่เกิน 7 วัน แล้วตาย (นิพพาน)


:b12: เป็นพระอรหันต์ ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ละป่าว...อิอิ :b32: :b32: :b13: :b13:

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ

สัปดาห์นึงมีเจ็ดวัน
วันอาทิตย์ เป็นมิตรจากวันจันทร์
วันอังคารเพื่อนกัน กะวันพุธ พฤหัส
เป็นพี่วันศุกร์ วันเสารซาหนุก ไม่ไปโรงเรียน

เย่

เล่ม ๗ จุลวรรค ภาค ๒ มี ๘ ขันธกะว่าด้วยข้อบัญญัติปลีกย่อย เรื่องเสนาสนะ สังฆเภท วัตรต่างๆ การงดสวดปาฏิโมกข์ เรื่องภิกษุณี เรื่องสังคายนาครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒


ปฐมสังคยานา พระอรหันต์ก็อยู่ เกินเจ็ดวันแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 เม.ย. 2010, 02:08
โพสต์: 65

ชื่อเล่น: ชาเขียว
อายุ: 24

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องให้พระอรหันต์มาตอบแล้วแหล่ะจ๊ะ คำถามแบบนี้
พระพุทธองค์ทรงไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ แม้แต่ธรรมะที่พระองค์ทรงค้นพบ
ทั้งตัวของพระองค์เองด้วย เพียงแต่พระองค์เอามาบอกกล่าว
แล้วลองปฎิบัติดูจะรู้เองว่าดีรึไม่ดีแค่ไหน

ปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเคยได้ยินกันบ่อยไหม
เราเป็นปุถุชนไปสงสัยในวิสัยของพระอรหันต์แล้วยังอยากรู้คำตอบอีก
ทั้งๆที่ยังไม่ก้าวพ้นวิสัยแม้พระโสดาบันเลย
เราอยู่ในวิสัยของปุถุชน มันมีธรรมที่สมควรแก่เราอยู่แล้ว
ที่เราสมควรปฎิบัติเพื่อความเป็นพระอริยะในอนาคตกาลต่อไป
ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลจะช้ารึเร็ว เพราะแต่ละบุคคลมีความเพียรต่างกัน สติปัญญาต่างกัน

ควรปฎิบัติธรรมที่สมควรแก่ธรรม แล้วซักวันข้อสงสัยของท่านๆก็จะกระจ่างทั้งหมด
ด้วยตัวของท่านเองแหล่ะ อยากรู้เร็วท่านก็รู้อยู่แล้วควรทำเช่นไร :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 17:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: :b23: จารย์...งง...มนุษย์ที่เป็นพระอรหันต์

พระอรหันต์ไหนๆ ก็เป็นมนุษย์ทั้งนั้น แล้วทำไมต้องตาย

งง งง งง....จารย์ตั้งคำถามผิดละป่าว...
:b10:

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 18:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirisuk เขียน:
:b10: :b23: จารย์...งง...มนุษย์ที่เป็นพระอรหันต์

พระอรหันต์ไหนๆ ก็เป็นมนุษย์ทั้งนั้น แล้วทำไมต้องตาย

งง งง งง....จารย์ตั้งคำถามผิดละป่าว...
:b10:


เอามาจากสาววารินทร์ อ่ะคร๊าบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 18:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุทธจิตต์ เขียน:
ต้องให้พระอรหันต์มาตอบแล้วแหล่ะจ๊ะ คำถามแบบนี้
พระพุทธองค์ทรงไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ แม้แต่ธรรมะที่พระองค์ทรงค้นพบ
ทั้งตัวของพระองค์เองด้วย เพียงแต่พระองค์เอามาบอกกล่าว
แล้วลองปฎิบัติดูจะรู้เองว่าดีรึไม่ดีแค่ไหน

ปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเคยได้ยินกันบ่อยไหม
เราเป็นปุถุชนไปสงสัยในวิสัยของพระอรหันต์แล้วยังอยากรู้คำตอบอีก
ทั้งๆที่ยังไม่ก้าวพ้นวิสัยแม้พระโสดาบันเลย
เราอยู่ในวิสัยของปุถุชน มันมีธรรมที่สมควรแก่เราอยู่แล้ว
ที่เราสมควรปฎิบัติเพื่อความเป็นพระอริยะในอนาคตกาลต่อไป
ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลจะช้ารึเร็ว เพราะแต่ละบุคคลมีความเพียรต่างกัน สติปัญญาต่างกัน

ควรปฎิบัติธรรมที่สมควรแก่ธรรม แล้วซักวันข้อสงสัยของท่านๆก็จะกระจ่างทั้งหมด
ด้วยตัวของท่านเองแหล่ะ อยากรู้เร็วท่านก็รู้อยู่แล้วควรทำเช่นไร :b8:


อิอิ

ท่าทางจะเป้นพวกสาวก กาลามะสูตร น๊าคร๊าบบ

อิอิ

กาลามะสูตร พระพุทธเจ้าตรัสจบปุ๊ป
กาลามะชน เชื่อพระพุทธเจ้า ปั๊ป
ขอถวายตนเป็นอุบาสกอุบาสิกา


เลิกเชื่อกาลามะสูตรทันที เปรี้ยง

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 เม.ย. 2010, 02:08
โพสต์: 65

ชื่อเล่น: ชาเขียว
อายุ: 24

 ข้อมูลส่วนตัว


โดยส่วนตัวแล้วนะ คิดว่าผู้ที่มาทางนี้
คือทางธรรมของพระพุทธเจ้าเช่นนี้
จะคิดเห็นแตกต่างกันไปต่างๆนาๆก็ช่าง
แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยนะ
คนส่วนมาก ไม่มีโอกาสได้มาสัมผัสรับรู้
พวกเราๆท่านๆ ถึงรู้แต่ทำได้มั้งไม่ได้มั้ง ก็ถือว่ายังได้มารับรู้
และมีโอกาสที่จะได้ปฎิบัติและท้ายที่สุดต้องปฎิบัติได้แน่นอน :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุทธจิตต์ เขียน:
โดยส่วนตัวแล้วนะ คิดว่าผู้ที่มาทางนี้
คือทางธรรมของพระพุทธเจ้าเช่นนี้
จะคิดเห็นแตกต่างกันไปต่างๆนาๆก็ช่าง
แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยนะ
คนส่วนมาก ไม่มีโอกาสได้มาสัมผัสรับรู้
พวกเราๆท่านๆ ถึงรู้แต่ทำได้มั้งไม่ได้มั้ง ก็ถือว่ายังได้มารับรู้
และมีโอกาสที่จะได้ปฎิบัติและท้ายที่สุดต้องปฎิบัติได้แน่นอน :b8:


อิอิ

ได้หมด ทิ้งหมด ละจ้าๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 12:55
โพสต์: 26

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


น่าจะตั้งคำถามผิด
จริงๆคงต้องการถามว่า ฆราวาสที่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้วจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 7 วันจริงหรือ
สำหรับตัวเอง ขอตอบว่ายังไม่เชื่อในความคิดแบบนี้
คงต้องขอเวลาพิสูจน์ด้วยตัวเองน่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆหรือ พระอรหันต์ จะดำรงชีวิตได้ไม่เกินเจ็ดวัน

มันไร้สาระสิ้นดี พระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ตอนที่ตรัสรู้ แล้วทำไมอยู่มาได้จนถงอายุ 80 ปีล่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
varinne เขียน:
1) ถ้ายังเป็นมนุษย์อยู่ หากเป็นพระอรหันต์ จะดำรงชีวิตได้ไม่เกิน 7 วัน แล้วตาย (นิพพาน)


:b32: :b9: :b12: :b13: :b32: :b9:

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 10:17
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คืออย่างนี้ พระอรหันต์ที่เป็นฆราวาสผู้ครองเรือนจะอยู่ได้เจ็ดวัน เช่น พระสุทโธทนะพุทธบิดา
ส่วนพระอรหันต์ที่เป็นบรรชิตคือผู้ไม่ครองเรือนหรือผู้ไม่ครองเรือนจะอยู่ได้ตามคาบขันธ์ เช่น พระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก พระอรหันตสาวิกา ในประเทศไทย ก็มี หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ฯลฯ ปัจจุบันก็มี หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปัณโณ เป็นต้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเชื่อที่ว่าพระอรหันต์ที่อยู่ในเพศฆราวาสจะต้องตายภายใน 7 วัน


เหตุเกิดจากเรื่อง2 เรื่อง

1. เรื่องของพระนางเขมาเถรี

พระพุทธเข้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาต่อไปว่า “คนที่กำนัดด้วยราคะปล่อยใจไปตามกระแสตัณหาเป็นเหมือนแมงมุมติดใยตัวเอง ส่วนคนฉลาดตัดกระแสตัณหานั้นได้แล้วเป็นผู้ไม่มีอาลัยละทุกข์ทั้งปวงได้ เมื่อพระนางสดับพระธรรมเทศนานี้จบลงก็ทรงบรรลุอรหัตผล เป็นพระอรหันต์ทั้งที่ยังไม่ได้อุปสมบท ตามปกติผู้บรรลุอรหัตผล ทั้งยังเป็นคฤหัสถ์อยู่จะต้องอุปสมบทครองเพศเป็นบรรพชิดมิฉะนั้นจะต้องนิพพานในไม่ช้า พระพุทธเจ้าทรงถามพระเจ้าพิมพิสารว่ามหาบพิตรต้องการให้พระนางเขมาอุปสมบทหรือนิพพานถ้าไม่บวชก็จะดับขันธ์นิพพานในคืนนั้นถ้าบวชอยู่ในเพศบรรชิตก็จะมีอายุยืนยาวต่อไปจนตลอดอายุขัย

พระเจ้าพิมพิสารทูลตอบว่าให้นางอุปสมบทเถิดอย่าให้นางนิพพานในขณะนี้เลย พระพุทธเจ้าจึงประทานการอุปสมบทให้พระนางเขมาเป็นภิกษุณี เมื่ออุปสมบทแล้วพระนางเขมาเป็นผู้ฉลาดสามารถแตกฉานในพระธรรมวินัย เพราะเป็นผู้มีปัญญามากพระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้งให้พระเขมาเถรีเป็นอัครสาวิกาเบื้องขวา เป็นเลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลายผู้มีปัญญามาก


2. เรื่องในตำนานมิลินทปัญหา

ถามถึงความเป็นพระอรหันต์แห่งคฤหัสถ์

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า

“ข้าแต่พระนาคเสนมีคำกล่าวไว้ว่าคฤหัสถ์ผู้สำเร็จอรหันต์แล้วย่อมมีคติ๒ประการคือ
บรรพชาในวันนั้น๑ ปรินิพพานในวันนั้น๑ ไม่อาจเลยวันนั้นไปได้” ดังนี้

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าถ้าในวันนั้นไม่ได้อาจารย์หรืออุปัชฌาย์หรือบารตจีวรผู้สำเร็จอรหันต์แล้วนั้นจะบรรพชาเองหรือเลยวันนั้นไปหรือมีพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์องค์ใดองค์หนึ่งมาให้บรรพชาจะได้หรือไม่หรือต้องปรินิพพานไป?”

พระนาคเสนตอบว่า

“ขอถวายพระพรพระอรหันต์นั้นบรรพชาเองไม่ได้ถ้าบรรพชาเองก็ชื่อว่า“ไถยสังวาส” (ลักเพศคือปลอมบวช) และเลยวันนั้นไปก็ไม้ได้จะมีพระอรหันต์องค์อื่นมาหรือไม่มีก็ตามก็ต้องปรินิพพานในวันนั้น”

“ข้าแต่พระนาคเสนถ้าอย่างนั้นความเป็นพระอรหันต์ก็ทำให้สิ้นชีวิตน่ะชิ”

“ขอถวายพระพรคฤหัสถ์ถึงสำเร็จอรหันต์แล้วก็ต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้นเพราะเพศคฤหัสถ์ไม่มีกำลังพอ

ขอถวายพระพรธรรมดาโภชนาหารย่อมรักษาอายุรักษาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายไว้แต่ว่าโภชนาหารนั้นย่อมทำให้สิ้นชีวิตได้ด้วยไฟย่อยอาหารไม่พอย่อมทำให้สิ้นชีวิตนั้นไม่ใช่เป็นโทษแห่งอาหารนั้นเป็นโทษแห่งไฟย่อยอาหารไม่พอฉันใด

การที่คฤหัสถ์ผู้เสำเร็จพระอรหันต์แล้วต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้นข้อนั้นไม่ใช่เป็นโทษแห่งความเป็นพระอรหันต์เป็นโทษแห่งเพศคฤหัสถ์มีกำลังไม่พอฉันนั้น

อีกประการหนึ่งเหมือนกับบุคคลยกเอาก้อนหินหนักๆวางบนฟ้อนหญ้าเล็กๆฟ้อนหญ้าเล็กๆนั้นก็ต้องจมลงไปเพราะกำลังไม่พอฉันใดข้อนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น

อีกอย่างหนึ่งเหมือนบุรุษผู้มีบุญน้อยเมื่อได้ราชสมบัติอันใหญ่แล้วก็ไม่อาจรักษาความเป็นอิสระไว้ได้ฉันใดคฤหัสถ์ผู้ได้สำเร็จพระอรหันต์แล้วก็ไม่อาจรับรองความเป็นอรหันต์ไว้ได้ฉันนั้นเพราะฉะนั้นจึงต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้นขอถวายพระพร”

“ถูกต้องดีแล้วพระนาคเสน”



ลองพิจารณาเรื่องของพระนางเขมาเถรี

ต้องเข้าใจก่อนว่าพระอรหันต์ทั้งหลายนั้น ท่านเป็นคนฉลาดในการหาอุบาย คำพูดคำจาทุกคำล้วนแต่แฝงไปด้วยอุบายอันชาญฉลาดทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวพระพุทธองค์เหมือนเรื่องที่ตรัสกับพระอานนท์ว่า ..."อานนท์เธอพิจาณาความตายวันละกี่ครั้ง" ...."7-8 ครั้งพระพุทธเจ้าข้า"......" น้อยมากอานนท์เธอเป็นผู้ประมาทความตายต้องพิจารณาให้ได้อยู่ทุกลมหายใจ "......อันนี้ แล้วแต่ระดับสติปัญญาของแต่ละคนว่าจะพิจารณาคำพูดนี้ของพระพุทธองค์ยังไง ...เพราะคงไม่มีพระโสดาบันที่ไหนหายใจเข้า-ออกก็มีแต่คำว่า ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย หรอก เพราะฉะนั้น "ความตาย” ที่พระพุทธองค์หมายถึงนั้นคือ ให้พิจารณาความเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปของทุกสิ่ง ทุกสิ่งที่ถูกรู้และตัวผู้เข้าไปรู้ก็ต้องเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป เช่นกัน ความตายที่ว่าคือไม่มีสิ่งใดคงอยู่แน่นอนเป็นอนิจจัง เพราะฉะนั้นทุกช่วงเวลาที่เราหายใจเข้า-ออกย่อมมีสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น กำลังตั้งอยู่ และกำลังดับไปเป็นธรรมดา จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งหลาย.....นี่ต่างหาก พระพุทธองค์สอนไตรลักษณ์ให้แก่พระอานนท์ต่างหาก

เพราะฉะนั้นให้คิดพิจารณากันเอาคำที่ว่า“มหาบพิตรต้องการให้พระนางเขมาอุปสมบทหรือนิพพานถ้าไม่บวชก็จะดับขันธ์นิพพานในคืนนั้นถ้าบวชอยู่ในเพศบรรชิตก็จะมีอายุยืนยาวต่อไปจนตลอดอายุขัย” พระพุทธเจ้าหมายความว่ายังไง ........และอีกอย่างพระนางปรารถนาจะเป็นอัครสาวิกาอยู่แล้วด้วย.. ...พระเจ้าพิมพิสารตอนนั้นท่านเป็นพระโสดาบัน ถ้าพระเจ้าพิมพิสารได้อรหันต์พร้อมกับนางเขมาเถรีวันนั้น รับรองว่าพระพุทธองค์จะไม่กล่าวประโยคดังบทข้างต้นแน่ๆ ....
ข้อคิดที่น่าพิจารณาคือ “พระโสดาบันนั้นยังมีกิเลสคือความผูกพันธ์อยู่มากยังไม่อยากทำใจจากคนรักไปไหนเหมือนที่พระอานนท์ไม่อยากให้พระพุทธเจ้าจากไปพระพุทธเจ้าไปอยู่ไหนพระอานนท์ก็อยากจะไปอยู่ด้วย .....คนรักของพระโสดาบันไปอยู่ในเพศไหน พระโสดาบันก็อยากจะตามไปอยู่ในเพศนั้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุที่ยังตัดอาลัยไม่ได้ ... แต่โสดาบันก็ยังไม่ฉลาดในคำพูดและอุบายของพระอรหันต์เท่านั้นเอง...”




ลองพิจาณาเรื่องของพระนาคเสนกับพระเจ้ามิลินท์

กับเรื่องนี้ก็เหมือนกันเป็นเรื่องแต่งภายหลังจากสังคายนาพระไตรปิฎก แต่หนักกว่าที่พระเจ้ามิลินท์ไม่ได้นับถือพุทธศาสนามาก่อน แถมเป็นชาวกรีก การหาอุบายเพื่อให้เข้าใจยิ่งยากยิ่งลำบาก บางอย่างที่ท่านรู้จึงไม่จำเป็นต้องอธิบายโดยละเอียด และถ้าสภาพความเป็นอรหันต์เป็นดังที่ท่านนาคเสนเปรียบเทียบจริง ก็ควรจะดับขันธ์ตายลงตั้งแต่ตอนที่ได้ความเป็นอรหันต์ ”เหมือนกับบุคคลยกเอาก้อนหินหนักๆวางบนฟ้อนหญ้าเล็กๆฟ้อนหญ้าเล็กๆนั้นก็ต้องจมลงไปเพราะกำลังไม่พอฉันใดข้อนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น.” .........ฟ้อนหญ้าเล็กๆมันไม่รอให้ตัวเองจมอยู่เป็นวัน เป็นคืน หรือ 7 วัน 7 คืนหรอก ถ้าคนจะตายเพราะได้วิมุติ มันก็ควรจะตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

เพราะฉะนั้น คำตอบมันเหมือนปฏิกิริยาเคมีทางธรรมชาติ น้ำไม่สามารถเข้ากับน้ำมันฉันใด น้ำที่กลิ้งบนใบบัวไม่ซึมลงใบบัวฉันใด .....ขันธ์กับจิตของพระอรหันต์ก็ฉันนั้น.....ต่างอันต่างอยู่ ต่างอันต่างจริง จิตไม่ติดขันธ์ ขันธ์ไม่ติดจิต ...แต่ก็ยังคงมีอยู่ เหมือนน้ำกับน้ำมันที่เข้ากันไม่ได้ แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนทำลายซึ่งกันและกัน ยังคงอยู่เพื่อรอวันดับตามธรรมชาติ เมื่อน้ำระเหยออกไปก่อนน้ำมันจึงระเหยตามโดยธรรมชาติ.......เมื่อขันธ์ของพระอรหันต์ถูกทำลายด้วยความแก่ เจ็บ ตาย ไปก่อน จิตจึงเสวยความเป็นนิพพานอย่างแท้จริง เป็นธรรมชาติและสัจธรรมความจริงของผู้ได้วิมุติเช่นกัน......ไม่เกี่ยวกับเพศและเครื่องแต่งกาย.....

ซึ่งแม้ชีวิตฆราวาสจะอึดอัดสำหรับภาวะความเป็นอรหันต์ แต่กว่าจะถึง "อรหันต์" ได้ก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวกับเรื่อง "อึดอัดคับแคบ" ในเรือนในสังคมในกายในใจมาแล้วทั้งสิ้น........


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron