วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 19:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 113 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 03:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


28 มิย.


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/15 ค่ะ
ก็รู้เท้าค่ะ มีเย็นๆแปล็บๆ หลายครั้งในช่วงเริ่มๆ แปล๊บหาย แปลบหาย
แล้วก็หลังๆก็เริ่มฟุ้งหลงไปคิดยาวขึ้น พอรู้lสึกตัวก็มาชัดที่การเดินต่อ
ตอนคิดก้รู้เท้าคลอๆ แต่จะมัวๆ แล้วก็มีมดกัด น้อยครั้งแต่แรงแล้วหายไป

พอมานั่ง
ก็ตอนแรก รู้ท้องขึ้นลง ก็บริกรรมพองยุบค่ะคู่กันก็จับได้ตรงจังหวะ
สักพักก็เปลี่ยนบ้างไม่บริกรรมคือมันเบื่อก็เลิกไปเอง มารู้ท้องเฉยๆแล้วก็เริ่มมีหลงแทรก
แล้วค่อยกลับมารู้ว่ากำลังนั่งไม่จับท้อง


รอบสอง 40/10 ค่ะ
ก็รู้เทารอบนี้ก้ฟุ้งเยอะค่ะ มีอสภาวะอะไรเกิดขึ้น ก็กำหนดเอานะคะ ถึงหาย

แล้วก็พอมานั่ง
ก็รู้ท้องขยับ มีมดกัด สั้นๆแต่แรงมาก มีคันก็เกาค่ะ หลังๆก็รู้ว่ากายนั่งอยู่ไม่จับท้องเหมือนแรกๆค่ะ

walai says: ขนาด 10 นาที นะ ขอสักจิ๊ดดดก็ยังดี

says: มันกัดแม้กะทั้งตอนอุทิศส่วนกุศลค่ะเล่นเอาเนื้อเต้นเลย

walai says: นั่นแหละค่ะ ตัวทดสอบสติ ดีกว่าไปโดนทดสอบฟัดกับชาวบ้านนะคะ
แบบนี้ไม่มีพิษไม่มีภัย มีแต่ได้กับได้

says: ค่ะพี่ ก็พิจารณานิดหน่อยค่ะวันนี้ เวลาเราปรุงโกรธ ตัวไม่ยอมมันโผล่
มันก็เกิดคำถามว่าทำไมไม่ยอม พอดูมันหายไป ไอ้ตัวไม่ยอม นานๆทีค่ะ แบบนี้

walai says: นั่นแหละค่ะ เห็นไหม บทมันจะพิจรณา มันมีเอง ไม่ต้องไปสงสัยว่าพิจรณากันยังไง

says: ค่ะ ใช่ค่ะ

walai says: กิเลสมันเนียนนะหมู การพิจรณาก็เหมือนกัน พิจรณาด้วยความอยาก ยังไม่รู้ตัวเลย

says: ค่ะ มีค่ะ

walai says: อยากห็นตามความเป็นจริง พิจรณาอยู่นั่นแหละ

says: พอก็กลายเป็นเราไปจ้องมันแล้ว

walai says: ใช่ค่ะ นั่นแหละ

says: กลายเป็นตัววิจารย์ ไม่ใช่ตัวพิจารณา

walai says: บอกแล้วมันเนียน บางคนยังดูไม่ออกเลยกิเลสตัวนี้

says: ค่ะพี่

walai says: จะส่งอะไรให้อ่าน คนเรานะหมูโกหกไม่ได้หรอกเรื่องสภาวะ
วัดอัมพวันไม่เคยสอนแบบนั้น ก้าวหนอไม่เคยมี ให้รู้แค่พองยุบไม่เคยมี

says: ค่ะพี่ ใช่ค่ะหลวงพ่อเน้นหนอจากที่ฟังเทปท่านนะคะ

says: ค่ะ กำลังถึงคิดให้คอมพลี คอมพลีท

walai says: ถ้าคนปฏิบัติจริงๆนะหมู เขาไม่กลัวการพูดคุยหรอก จะมีอะไรล่ะหมู
จำสภาวะที่พี่คุยกับหมูได้ไหม ถอดสแควรูท

สภาวะพองหนอยุบหนอนี่เขาไม่มีวันทิ้งแบบหรอก ไปที่ไหน สำนักไหน สอนเหมือนกันหมด
ใช้ย่างหนอด้วย ก้าวหนอไม่มี แล้วต้องพองหนอยุบหนอ มาตามรู้ไม่มี

says: ปนๆกันนะคะ ที่เขาบอก ตามรู้ออกแนวดูจิต

walai says: ใช่ค่ะคือปนไปหมด พี่ถึงถามย้ำไง ไม่งั้นแนะนำเขาไม่ได้
ถามว่าเดินแล้วเป็นยังไง โน่นตอบไปอีกเรื่อง

says: กิเลสนี่ถึงมันจะตัวเดิมๆ แต่มันก็ครอบงำได้ตลอดเลย
หายไปแล้วก็มาสิงใหม่ ตกใต้อำนาจมันอีก ถ้าไม่ระวัง

walai says: ใช่ค่ะ นับว่ากุศลของเรายังมีที่ได้พบทาง พี่อ่านวิสุทธิมรรคนะ

says: เป็นไงคะ

walai says: เขาเรียกว่าพระไตรปิฎกฉบับย่อ อ่านแล้วร้องโอ้โห การตีความนี่สำคัญจริงๆ

says: เป็นไงคะ

walai says: พระพุทธเจ้าน่ะทรงตรัสเรื่องกิเลสไว้ตั้งแต่แรกเลย

says: เหรอคะ ท่านว่าไงคะ

walai says: ก็มีเทวดามั๊งทูลถามพระองค์ท่าน เรื่องความรกชัฏ
แล้วถามว่าอะไรถึงจะถากได้หมด พระองค์พูดเรื่องตัณหา เอาไว้จะเอาลงในหนังสือน่ะ รออ่านดีกว่า

says: ได้ค่ะ

walai says: ดูเรื่องศิล พี่เข้าใจนะที่พระอาจารย์พูดเมื่อวาน
พี่มองเรื่องการปฏิบัติ พี่มองเรื่องเหตุ แต่พระอาจารย์ท่านมองหมด คือความศัรทธา

says: ท่านพูดแค่สั้นๆนะคะ

walai says: ค่ะ ความศรัทธานะหมู สำคัญมาก ดูถ้าหมูไม่ศรัทธาพี่ก็คงไม่เชื่อ และหลายๆคนด้วย
ดูบางคนศรัทธาน้อยปัญญามาก ตัวกูเก่งเขาเลยเยอะ ท่านถึงเน้นเรื่องศิล
สาเหตุที่นำศิลขึ้นมาก่อนเร่องสติเพราะเหตุนี้ เพื่อให้คนศรัทธาในเรื่องศิล

says: อืมมม แบบเชื่อมั่นใจ

walai says: พอเชื่อในเรื่องศิล การโน้มน้าวจิตจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น
ตำราถึงเริ่มต้นจากศิล เพื่ออย่างน้อย คนที่ไม่ได้เจริญสติโดยตรง
แต่การรักษาศิลก็เป็นการเจริญสติอย่างหนึ่งเหมือนกันแต่เป็นทางอ้อม

says: เพราะจะรักษาได้ ก็ต้องมีสติคอยระวัง

walai says: ใช่ค่ะ อย่างน้อยยังช่วยยัยยั้งไม่ไปอบายได้หากระลึกได้ถึงศิล
และศิลนี่นำไปพูดที่ไหนๆก็ได้ เหมือนๆกันเกือบทุกศาสนา
การเจริญสติแบบที่พี่น้ำแนะนำอยู่นี่ มันดับที่เหตุเลย

says: แต่ทุกคนที่ได้ทำ ก็ย่อมจะทำได้ ใช่ไหมคะ เพียงแต่ได้ทำหรือไม่

walai says: เหตุไงหมู เหตุของแต่ละคน ใครเชื่อใครล้วนมีเหตุ
เหมือนพระพุทธเจ้าน่ะแหละ เหมือนครูบาฯทั้งหลายน่ะแหละ

says: ค่ะพี่ว่าจะ ได้มาทางตรงนี้ไหม

walai says: ทางถึงได้มีมากมาย ล้วนเกิดจาากเหตุ

says: อืมมม วนเวียนอยู่นานเลยค่ะ กว่าจะได้ทำจริงจัง

walai says: เหมือนที่พี่พูดกับพระอาจารย์ว่า แค่สัมมาสติตัวเดียว
ถ้าทำได้ ทุกอย่างจบ มรรค8 ครบทันที

says: แล้วก็แค่ระลึกได้ กับรู้ตัวเท่านั้นเอง ทำให้ติดต่อ รักษาศีลไว้ ที่เหลือก็ตามมาเอง

walai says: ระลึกได้ รู้สึกตัวในการกระทำนั้นๆได้ สัมมาทิฏฐิเกิดแล้ว หิริโอตัปปะมีกำลังมากขึ้น
ศิลย่อมสะอาดได้ทันที ส่วนสภาวะอื่นๆเขาก็เกิดตามเหตุ แต่อยู่ในมรรค 8

says: มันแบบ สุดๆ หาหนทางเท่าไรก้ไม่เจอ ทั้งที่อยู่บนเส้นทางนี้แต่ก็ไม่เจอเส้นทาง

walai says: แต่นั้นแล้วแต่กำลังของสติ สัมปชัญญะด้วยนะ
ดีใจนะที่ได้คุยกับท่านเมื่อวานนี้น่ะ ทำให้ตัวรู้ของพี่เกิดอีก สภาวะละเอียดมากขึ้น

says: เกิดความรู้ใหม่อีก ไวจังเลย

walai says: ใช่ค่ะ เรื่องความสำคัญของศรัทธา อุบายของการรักษาศิล
ทำไมถึงกล่าวเรื่องศิลนำขึ้นมาก่อน

says: จะรออ่าน นะคะ คือหนังสือธรรมมะ ต้องขึ้นอยู่กะคนด้วยอะค่ะ

walai says: แหมๆๆๆ นึกถึงเมื่อวาน กว่าท่านจะให้หนังสือ มีการสอบอารมณ์ก่อนอีก

says: ถ้าสภาวะไม่ถึง ก็เอาไปแล้วเสียดาย อ่านแล้วไม่เข้าใจ นะคะ เสียวเลย

walai says: สุดท้ายท่านแนะพี่เพิ่มอีก คันถุระอย่าลืม ส่งพระอาจารย์ด้านอภิธรรมมาให้อีก
เมตตามากๆ แนะนำพี่ให้รู้จักกับพระอาจารย์ท่านั้นอีก เหมือนมันลงตัวนะ

says: แล้วก็เหมือนจับวางนะคะ พระอาจารย์อภิธรรมท่านเข้าห้องมาพอดีเลย

walai says: นั่นสิคะ บอกเรียบร้อยเลย มาครั้งต่อไป ให้หาพระอาจารย์อภิธรรม

says: ค่ะ ท่านให้พรหมูด้วย

walai says: พี่คงไม่ไปเขียนอะไรที่ซับซ้อนขนาดนั้นหรอก นั่นล่ะสุดยอด มันคือการทำนาย
พี่ถึงมองไงเมื่อวาน ท่านสอบหมู แต่หมูไม่รู้

says: เหรอคะ แต่ ช่างเถอะค่ะ ไม่เอาอะ

walai says: ถูกแล้วว กิเลสกำเริบเปล่าๆ

says: เอาปัจจุบันพอ อะไรๆมันไม่เที่ยงจริงๆ เสร็จกิเลสก้พ้นทางนี้นะคะ

walai says: ค่ะ ทำต่อไปค่ะ

says: กิเลสน่ากัวจะตาย

walai says: นั่นคือหนึ่งกำลังใจที่ครูบาฯท่านให้กับผู้ปฏิบัติ

says: ค่ะพี่ คิดแบบนี้จะดีกว่า

walai says: รู้แต่ว่า บรรยากาศเมื่อวานนะ ท่านเมตตามากๆเลย

says: ใช่ค่ะ ท่านรับฟังนะคะ แบบฟัง หนักแน่น

walai says: ค่ะ เวลาอธิบายนี่ชัดเจน แถมเน้นพี่อีก จำให้แม่นอย่าลืม
คือตอนที่พี่บอกว่าเคยเขียนไปแล้วแต่ไม่ได้จำเรื่องพละ 5

says: ค่ะพี่ท่านบอกสำคัญมาก เรื่องการปรับอินทรีย์นี่คะหมูจำได้

walai says: ค่ะ ท่านมองว่าสำคัญ พี่เองก็มองว่าตรงจุดนี้สำคัญ
ท่านเป็นนักปฏิบัติโดยแท้นะนั่น ไม่ใช่ตำราอย่างเดียว

says: มันอยู่ที่ เธอ เธอ เธอ ยังจำได้ ขึ้นใจเลย ตามองตรงมา

walai says: คำตอบนะโดนใจมากๆใช่เลย พระอาจารย์พูดโดนใจจริงๆ

says: ค่ะโดนน่ะค่ะ บอกตรงๆ เพราะหมูน่ะไม่เอาเลยเรื่องปริยัติ ไม่สนใจอะค่ะ

walai says: พอๆกัน

says: พี่น้ำยังรุ้เรื่องไงคะ ค่ะพี่ก็ตอนนี้กำหนดค่ะเวลาไม่ทัน
สติยังไม่แข็งแรง ไอ้แค่รู้น่ะเคยแค่ไม่กี่หนค่ะ หลังๆก็ใช้กำหนดเป็นพี่เลียงไปก่อนค่ะ

walai says: รู้หนอนี่มีค่ามากๆ ขำๆเหมือนกันนะเมื่อวาน นึกว่าพระอาจารย์จะแย้งเรื่องรู้หนอ
ท่านจะสอนตามรูปแบบคือ กำหนดตามที่รู้สึกจริงๆ แต่ท่านไม่แย้งในสิ่งที่พี่พูด
พอบอกว่าหนังสือที่เขียนชื่อ รู้หนอ ท่านพยักหน้าเลย

says: ตอนแรกหมูก็กังวลนะคะ เพราะพี่น้ำ ทำแบบอิสระตามผู้ปฎิบัติ
หมูนึกว่าท่านเป็นนักปริยัติ แล้วก็จะเน้นปริยัติ แล้วจะไม่ให้หนังสือ
แต่ว่าพอพี่น้ำเล่าแล้วท่านรับฟัง แบบนักแน่น ก็อืมมมมมมม

walai says: แถมบอกกับท่านอีกนะ ปริยัติไม่รู้เรื่องค่ะ กล้ามั่กๆที่ไปขอหนังสือจากท่าน

says: หมูนะ เอ่อ ได้เทิ้ดหนังสือ แล้วตอนที่พี่บอกว่า
จำอินทรีย์ไม่ได้ว่าอะไรคู่กะอะไร เริ่มฝ่อแล้ว หนังสือๆ ลุ้นนะนั่น ยอมรับเลยค่ะ

walai says: จำไม่ได้จริงๆนะ มันลืมหมดเลย เพราะจิตมันจำแค่เรื่องปรับสมาธิ นี่คือหลัก
พี่ไม่ได้มองเรื่องตัวสภาวะที่เหลือ พี่มองตรง คือความศรัทธานี่พี่ตัดไปเลย พี่มองว่า มันเป็นไปตามเหตุ
พี่ไม่ได้ให้ใครมาศรัทธา การสอนแบบนั้นเหมือนหว่านแห น่ะหมู อย่างน้อยต้องมีคนสนใจขึ้นมาบ้าง
แต่พี่เรียกว่าเก็บเกี่ยวเอาเฉพาะคนที่มีเหตุกับเรามาด้านนี้จริงๆและทำจริงๆ

says: แต่ก็อิ่มใจใช่ไหมคะ

walai says: เฉยๆนะคะ ไม่มีอิ่มใจ ไม่เหมือนเราทำเอง

says: หมูว่าแล้ว ตอนนี้แถวบ้านทำกัน สัก 5 - 6 คนได้ไหมคะ

walai says: ค่ะ รู้สึกจะขยายวงกว้างมากขึ้น ร้านเสริมสวย
คนทำเล็บ เจ้าของร้านเกมส์ แต่ละคนเริ่มจับทางถูก เขาบอกว่า ต้องอดทนมากเลย

says: เร็วนะคะ

walai says: นั่นสิ พี่ว่าเร็วนะ

says: เร็วจิงๆค่ะ

walai says: ตัวต่อตัวแบบนี้เร็วมากๆเลย

says: เหมือนเดินทางลัด ถ้าเขาเชื่อพี่นะคะ ก็จะเร็ว

walai says: แล้วอีกอย่าง แบบพี่ไม่อยู่ ในกลุ่มเขาจะคอยดึงกันเอง เขาจำคำพูดพี่แม่นะ
อย่าตอบโต้ หยุดไว้ก่อน มันคือเหตุใหม่ที่กำลังจะเกิด

says: ตอนนี้เวลาสติหมูเอาไม่อยู่ เพราะหมูเป็นคนโทสะแรงมาก
มีสตินะคะ แต่กิเลสแรง ก็ใช้วิธีหลบก่อนคือรู้ว่าแก้ไข แต่อยู่ต่อก็ก่อเหตุใหม่

walai says: ใช่ค่ะหลบก่อนดีกว่า หากยังไม่แข็งพอ
ร้านเสริมสวยเหมือนกัน เขาบอกว่า โกรธจนตัวสั่นไปหมด
เขาไม่เคยคิดเลยว่าอารมณ์โกรธเขาจะรุนแรงขนาดนี้ เขาไม่เคยเป็น
เขาพยายามเอามือจับขอบโต๊ะไว้แล้วหายใจยาวๆกำหนดรู้หนอช่วย


says: โห โดนทดสอบอย่างแรง แต่ยอมรับเลยว่าพยายามมาก

walai says: เขาบอกว่าได้ผลนะสงบลงไปได้ แต่แป๊บเดียว
คนก่อเหตุคนเดิมกลับมาตอกย้ำเขาอีกแล้ว เขาสั่นไปทั้งตัว โกรธน่ะ แต่ต้องแยกเขี้ยวยิ้มให้กับเขา

says: ทนสุดๆอะ

walai says: เข้าใจเลยนะ

says: เก่งจังๆ

walai says: เขาพูดเรื่องทีพี่มีทุนติดตัวเยอะ ใครว่าอะไรก็นิ่ง มีแต่บอกว่าอภัยให้เขาไป
ไม่มีใครอยากไม่เป็นคนดีหรอกทุกคนอยากเป็น เรายังให้โอกาสตัวเอง
แล้วทำไมไม่ให้โอกาสกับเขา แบบนี้น่ะ เขายังทำไม่ได้

พี่บอกว่า ต่อไปเขาจะทำได้เอง แต่ตอนนี้สติเขายังไม่พอ
เขามาอยู่ในสภาวะเดียวกับพี่ กับทุกๆคน

says: สมัยก่อนถ้าย้อนกลับไปดูได้ พี่น้ำคงจะทนมากๆเหมือนกัน มันต้องทนทุกคน
หมูนึกถึงอะไรรู้ไหมคะ หมูนึกถึงพระเวสสันดรค่ะ ตอนที่ชูชก ขอโอรสและธิดาท่าน แล้วตีต่อหน้า
สุดๆเลยนะคะ ท่านก็ทนมากๆกกกกกก

walai says: นั่นแหละ ไม่ใช่เรื่องง่าย พี่ถึงเข้าใจทุกคน
ทุกคนอยู่สภาวะเดียวกับพี่เขอเหมือนพี่แต่แตกต่างไปตามเหตุที่ทำมา
สติใครมากกว่า รับมือได้ สติใครน้อยสุดโดนหนักหน่อย

says: ว่าแต่ทำไมทุกคนอยู่สภาวะเดียวกะพี่ละคะ

walai says: พี่ถึงบอกว่า จงอดทน อดกลั้น อย่าตอบโต้ ให้อภัยกับเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ล้วนเกิดจากตัวเราทำเอาไว้ทั้งนั้น

กิเลสไงหมู เราต่างคนต่างยังมีกิเลส มีกิเลสเหมือนๆกัน แตกต่างตรงที่ว่า ความเบาบาง
อุปทานการปรุงแต่งไม่เท่ากัน ใครอุปทานมาก ทุกข์มาก สติใครทันกว่า การกระทบดับไวขึ้น
พี่ถึงบอกไง ไม่มีใครดีกว่าใครหรอก

พี่อาจจะได้เปรียบตรงที่ว่าผ่านสิ่งต่างๆที่ทุกคนกำลังเจอมาก่อน นั่นแค่หยาบๆนะ
แค่คำด่า แค่คำนินทา จิ๊บๆนะ เจอทางใจมันยิ่งกว่านี้

says: ทางใจ อืมมค่ะ จำได้ค่ะ ที่เคยอ่านในบันทึกพี่ ตอนนั้นพี่เศร้ามาก ตอนนี้ต่างไปเลยนะคะ

walai says: แล้วแต่เหตุน่ะหมู เพราะความไม่รู้ ถ้าทุกคนรู้นะ ไม่มีใครหรอกที่จะอยากมาทำร้ายกัน
ทุกคนอยากร่ำรวย อยากมีความสุข อยากเป้นคนดี

says: ใช่ค่ะ แม้แต่คนที่ ถูกว่าเลว เลวแค่ไหนก็ไม่ดีใจหรอก

walai says: ใช่ค่ะ เพราะไม่รู้ไง เราจึงไปว่าเขาเลว
มันแค่อารมณ์ของเขาที่เขาแสดงออกมาตอนนั้น สักวัน กุศลเขามี เขาย่อมได้พบทาง

says: ต้องหมั่นสร้างกุศล

walai says: ใช่ค่ะ

says: ทางก็สะดวกขึ้น ชักเจอกัลยาณมิตรแถวบ้านพี่น้ำแล้ว

walai says: เหมือนที่เราคุยกันน่ะ ทำความดีว่ายากแล้วนะ แล้วต้องมาทำดีแบบให้หมดใจเลย
กับคนที่เรารู้ว่าเขาไม่ชอบเรา เขาเกลียดเรา คิดดูละกัน บททดสอบนี่สุดยอด ทุกคนต้องเจอ
เจอเหมือนกันหมด ตอนนี้คนแถวบ้านพี่กำลังเจอกิเลสตัวนี้ การให้อภัย พี่น่ะเฉยๆกับตรงนี้ไปแล้ว

says: โดนเป็นแถบๆ กิเลสหน่ะ คงน้ำหนักตัวมากกว่าหมูหลายเท่า ฉุดไม่อยู่

walai says: ใครทำยังไงได้อย่างงั้น มองแค่นั้นเอง จิตมันไม่มีค้างคาใจ
บางครั้งมีแวบ แบบที่บอกหมู แต่มันดับไว ไม่ใส่ใจเหมือนก่อนๆ

says: อนุโมทนา ค่ะ การอภัยยากมาก

walai says: สาธุค่ะ ยากแท้ เพราะไม่เคยทำไงคะ พอทำได้แล้ว เบาสบาย

says: ถ้าเคยแล้วมันง่ายแท้

walai says: ไม่มีกังวลไม่มีค้างคาใจ นั่นเหตุของเขา ใครอยากทำอะไรเรื่องของเขา
เราไม่มีหน้าที่ไปแก้ทิฏฐิของใครๆ เรามีหน้าที่คือทำหน้าที่ในกายและจิตของเราต่อไป
อยากเล่นกับกิเลส ก็เล่นพอประมาณ อยู่ในกรอบ

says: ไม่อยากเล่นค่ะ มันลงไปเล่นเอง

walai says: เดี๋ยวนี้พี่มีนะ นานๆที ถอยห่างลงไปเรื่อยๆ

walai says: อันนั้นสติยังไม่ทันค่ะ ถ้าสติทันแล้ว เราคุมมันได้

says: กิเลสเท่าช้าง สติเท่าหนู

walai says: ทำไปเถอะหมูน่ะ เอาให้พ้นมดกัดก่อน เดี๋ยวจะโดนกัดหนักกว่าเดิม

says: มันกัดอยู่นั่น กัดมาราธอน

walai says: สภาวะแบบนั้นแหละ เขามาทดสอบกำลังของสติ แค่รู้ได้เมื่อไหร่ จบ
ตัวอื่นมาต่อ ดีกว่าไปรบกับกิเลสนอกตัวนา นั่นมีแต่เหตุใหม่

says: ค่ะพี่ใช่ค่ะ งั้นกัดกัดไป ยอมให้กัด

walai says: เห็นไหม การเรียนรู้อยู่ในกายและจิตเป็นเรื่องที่ดี

says: เป็นสนามฝึกฝน

walai says: ใช่ค่ะ ก่อนลงสนามจริงคือนอกตัว

says: นอกตัวนี่ สุดยอดดดดด

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2010, 04:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


says: 60/15 ค่ะ ก็รู้เท้าค่ะเท้าก็ชัดนะคะ
แล้วก็เวทนามีแบบเมือนอะไรชาๆตามตัว มีคัน มีมานะ กำหนดรู้หนอไปค่ะ
พอมานั่ง
ก็รู้ท้องขยับ แล้วคลอกะความคิด หลังๆ ก็รู้กายนั่งในภาพรวมค่ะ

walai says: ค่ะ มีแต่ถูกทดสอบนะคะ
ความพอใจ ไม่พอ เหมือนเงาตามตัว ไวมากๆ

says: ใช่ค่ะพี่ อืมคนรอบข้างเราเหมือนตัวละคร
เหมือนหมากที่จะเข้ามากระทบเรา แบบไม่รู้จะโดนอะไรบ้างเลยนะคะ

walai says: เข้าใจค่ะ นี่แหละบททดสอบ ไม่งั้นคงไม่เรียกว่าบททดสอบ

says: เงินคืออสรพิษ จริงๆค่ะ

walai says: พี่ถึงบอกไง การทำความดีกับคนที่เขาไม่ชอบเรานี่มันยากมากๆ
ยากที่จะให้เขาเชื่อใจเรา มันเป็นเรื่องศรัทธา
มันเป็นเหตุให้ทำใจได้ยากในการที่จะทำตามที่พี่บอก

ตอนนี้ไม่แล้ว พี่เชื่อในเรื่องของเหตุ เรื่องความศรัทธาเป็นรอง
หากเหตุของเขา ต้องทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนั้น เราไปฝืนไม่ได้
หากเขามีเหตุร่วมกับเรา ยังไงเขาก็ต้องกลับมา ถ้าไม่กลับมานั่นคือจบเหตุ
พี่นึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วพี่เป็นใคร วางเลยค่ะ ไม่ไปทุกข์เหมือนเมื่อก่อน
เหตุต่างๆที่ทำให้เสียใจ เพราะยังยึดติด

says: เหมือนอะไรบังตา

walai says: กิเลสไง

says: ค่ะพี่ จะออกจากการเกิดนี้ โดนขัดจนไม่เหลืออะไร

walai says: ค่ะ มันดูโหดร้าย แต่จริงๆแล้วเปล่าเลย ไม่มีอะไรโหดร้าย
แต่เราต่างหากที่ไปยึดติดกันเอง กอดกิเลสเอาไว้แน่น

says: ค่ะพี่ ทำต่อไปๆ

walai says: มีแค่นี้แหละค่ะ ใครจะไป ใครจะอยู่ ทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุทั้งสิ้น
คนเรานะ ถ้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้ ไปไม่รอดหรอก
กิเลสมันจะครอบเอาไว้แบบนั้น

says: อืมมม ยอมรับ แต่ยังวางเฉยไม่ได้ แต่รู้ว่าตัวเองเป็นแบบนั้นอะค่ะ

walai says:
ใช่ค่ะ แต่อย่าสร้างภาพ อย่าเล่นละคร ยิ่งใครทำแบบนั้นนะ นั่นคือโกหกตัวเอง
และคนอื่นๆ คนอื่นๆน่ะไม่มีผลอะไรหรอก แต่ตัวเองนี่สิ ส่งผลมากๆ
ทำให้ไม่สามารถมองเห็นตามความเป็นจริงได้เลย

เน็ตนี่นะสุดยอด สุดยอดของการผิดศิล เพราะคิดว่าแค่ตัวหนังสือ ไม่ผิด
มีเยอะคนที่คิดแบบนี้

says: คือใช้นามแฝง

walai says: นั่นแหละตัวดี ตัวสนองกิเลส อาหารชั้นเลิศของกิเลสเขาเลยแหละ

says: อืมมม อาหารชั้นเลิศ... มันพอกพูนสินะคะ โดยไม่รู้ตัวเลย

walai says: ใช่ไง เพราะคิดว่า แค่ตัวหนังสือ สะสมไปเรื่อยๆ
เล่นหลายๆตัวละคร ดีมั่ง ร้ายมั่ง

says: สุดท้ายหาตัวเองไม่พบ

walai says: ใช่ค่ะ กิเลสตัวปลอมบังตา มัวแต่ส่งจิตออกนอก
กิเลสที่นองเนืองแท้จริงในใจเลยมองไม่เห็น
จิตหลอกจิต เพราะเหตุนี้แหละ เล่นกับกิเลส จนแยกแยะไม่ได้

says: จิตหลอกจิต พี่น้ำพูด 2 -3 ครั้งช่วงนี้นะคะ
คือจิตมันหลอกว่าไม่บาปใช่ไหมคะ

walai says: เปล่าค่ะ หลอกไม่ให้เห็นว่า อะไรจริง อะไรเท็จ
ก็เลยกลายเป็นการสร้างเหตุไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเหตุดี เหตุไม่ดี นั่นแค่อุปทาน
เหตุดี ก็ยังขึ้นชื่อว่ามีการสร้างเหตุอยู่ ตราบใดยังมีเหตุ ผลก็ยังมีอยู่
หมดเหตุเมื่อไหร่ ผลจึงจะหมด เราจึงต้องมาเจริญสติเพราะเหตุนี้
ผลของการเจริญสติจึงทำให้เราตัวต้นเหตุทั้งหมด ดับที่เหตุโดยตรง ผลถึงจะไม่เกิดขึ้นมาอีก

says: อ่อออออ ถ้าพูดงี้เข้าใจค่ะพี่ สร้างเหตุดีก็ยังต้องเกิดอีก
เพราะไปยึดถือดีก็ได้ดี เดี๋ยวกเวียนกลับมา ไม่จบเสียที

walai says: เหมือนคนรักษาศิล อย่างมากก็สวรรค์กับมนุษย์
ยังไงก็ต้องมีเหตุ และมีผล ถ้ายังไม่เห็นตามความเป็นจริงก็จะอุปทานตลอด

says: ค่ะพี่ พอเข้าใจในระดับที่พอจะเข้าใจ ที่เหลือก็เหมือนศิษย์น้องบอกค่ะ
เขาบอกว่าเขามี อมตธรรม คือ "ทำต่อไป"

ก็บอกว่ามีอีกคำค่ะ บอกว่า ระวังนะความอยากมันเนียน
เขาเลยบอกว่า เขาไม่ได้ยินคำนี้สงสัยยังไม่ถึงรอบ บอกเขาว่ากิเลสตัวนี้ไม่หนาเท่า

walai says: กิเลสทุกๆคนมีเหมือนกัน แต่แตกต่างกันไปตามเหตุที่กระทำมา
ฉะนั้นสภาวะจึงแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ได้รับนั้นเหมือนๆกัน จะสุขมากหรือน้อย
จะทุกข์มากหรือน้อย หรือแค่รู้ ก็อยู่ที่กำลังของสติของแต่ละคนละ

พี่ถึงบอกไง ไม่ว่าพี่ หรือใครๆก็ตามที่มาปฏิบัติด้วยกัน ทุกคนเสมอกัน
มีกิเลสเหมือนๆกัน ที่แตกต่างคือ กำลังของสติ เหตุที่ทำมาตามกิเลสของตัวเอง

says: ชัดเจนนะคะพี่ ที่พี่บอก ขอบคุณค่ะ

walai says: เหมือนคุณเจ้าของร้านเกมส์ถามพี่ในวันนี้ เรื่องแฟนเขากับคนทำผม
เขาถามว่า ทำไมพี่ถึงบอกสภาวะให้คนทำผมฟัง ทีกับแฟนเขาทำไมถึงไม่บอก
พี่บอกว่า ช่างทำผมเขามีศรัทธาในตัวพี่แล้ว เขาเชื่อพี่ ฉะนั้นไม่ว่าจะแนะนำอะไร
เขาจะทำตาม แต่แฟนเขา ยังไม่มีความศรัทธาในตัวพี่ พี่เลยไม่บอกอะไร
เพราะบอกไปเขาก็ไม่เชื่อ ต้องดูสภาวะ

says: อ่อ เข้าใจละ

walai says: อ่านดู

says: พี่ทำอะไรอยู่ครับ ผมคุยกับศิษย์พี่อยู่ครับ

walai says: ดีค่ะ กัลยาณมิตร เป็นสิ่งที่ดี เพราะชวนกันถากถางกิเลส
กำลังคุยกับคนขี้สงสัย บางครั้งถามจนน่าเบื่อ บางครั้งน่าตบ บางครั้งสนุก
บางครั้งเฉยๆ แล้วแต่ความคิดที่เกิดขณะนั้นๆ เข้าใจป่ะคะ

says: ครับ เข้าใจครับแบบนี้ก้อเป็นคู่ซ้อมของกิเลสได้ไงครับ


says: คู่ซ้อมเข้าใจคิดแฮะ

walai says: พูดตรงไปป่ะ

says: ตรงดีค่ะ

walai says: พี่ทำให้เห็น เพื่อจะได้ไม่ยึดติดในตัวพี่ แต่เพื่อให้เขาทำด้วยตัวเองถึงไม่

says: ค่ะพี่ เขาซึมซับพี่ไป ดูสิคะ

ศิษย์น้อง says: เมื่อเราหาหนทางของเราเจอแล้ว เมื่อนั้นแหล่ะเส้นทางเราก็จะสดใส

ศิษย์พี่ says: หนทางหมายถึงอะไรเหรอคะ สำหรับศิษย์น้อง

says: อ๋อ เส้นทางนะครับ

says: นั่นสิคะ แหมมันต่างกะหนทางตรงไหน

says: อ๋อ คือเมื่อเราปฏิบัติ ได้ถึงระดับนึงแล้ว เราก็จะรู้ด้วยตัวของเราเองครับ
ถ้าเรารู้จากของคนอื่น

says: มาทำนองพี่น้ำเลยอะ พอจะรู้ตอนจบแล้ว

says: มันไม่ใช่รู้จากตัวเราเองครับ


ถอดมาเป๊ะ

walai says: พี่เข้าใจชัดเจนในสิ่งที่หลวงพ่อจรัญพูดเสมอๆว่า เมื่อเราช่วยตัวเองได้แล้ว
จึงจะช่วยคนอื่นๆได้ แม่แบบแม่แผนแม่แปลน เราดีพอหรือยังที่จะเป็นแม่แบบ
แก่คนอื่นๆได้ พี่ไม่เคยให้ค่าว่าตัวเองดีหรือไม่ดี แต่ทำให้รู้ว่า พี่ยังมีกิเลสนะ
ยังมีความรู้สึกชอบหรือชังเหมือนคนทั่วๆไปนะ คุณยอมรับได้ไหม

says: ค่ะพี่น้ำ จริงๆแล้ว ความเป็นพี่น้ำน่ะ คือสอนหลายๆอย่างนะคะ
เรื่องของกิเลส คนที่พยายามเดินเส้นทางนี้ไม่ได้ปิ๊งแวบ แล้วสะอาดเลย มันขัดเกลา

walai says:
ค่ะ ขัดแล้วขัดๆๆๆจนน้ำตางี้อย่าให้เซดดดด

says: ค่ะพี่ จริงๆค่ะ คือมันเป็นทางเดินจริงๆไงคะ มันคือทางที่เราเดิน
แต่สมับยก่อน เคยเข้าใจว่าต้องสะอาดเลย พอเรายังสกปรก ก็เลยคิดว่าเราทำไม่ได้ ไม่ถูก
ทำไมไม่สะอาดเลย เข้าใจผิด

walai says: ค่ะ จิตหลอกจิต ชัดขึ้นไหมคะ เราถูกหลอกมานาน กิเลสดี
แต่อย่างว่าแหละ มันขึ้นอยู่กับเหตุ

says: อันนี้ก้อจัดเป็นจิตหลอกจิตด้วย.. มันเหมือนความเชื่อที่ฝัง

walai says: ถ้ารู้ก่อนตั้งแต่แรกเรื่องสติ คงไม่ต้องมาต่องแต่งแบบนี้กัน

says: ใช่ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 30 มิ.ย. 2010, 04:33, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2010, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


288 วัน ผลของการฝึกเจริญสติ

วันที่ 4 มิย. 53


says: สวัสดีค่ะพี่ รอบแรกเสร็จแล้วค่ะ 60/15
รอบนี้ฟุ้งค่ะ ยังรู้เท้า พอดีโดนกระทบ ก็เลยปรุงยาว แต่ก็ยังรู้เท้าอยู่ ไม่ได้โต้ตอบค่ะ
กำหนดตอนโดนกระทบ พอเขามาทำต่อผลคือฟุ้งแต่รู้เท้าค่ะ นานค่ะ

ที่คิดเรื่องนั้นคลอกะการรู้เท้าเป็นครึ่งชั่วโมงได้ จากนั้นก็เลิกค่ะ หมดจากการเกาะเกี่ยวเรื่องนั้น
ก็รู้เท้ากะไปฟุ้งเรื่องอื่นๆ มีมดกัดเยอะค่ะ หายไว แต่มาเรื่อย

พอมานั่ง รู้ท้องขยับค่ะ กะคลอๆคิดช่วงแรก หลังๆคิดน้อยลง
รู้ท้องขยับและมีตัวที่ดูอยู่ค่ะ จนจบค่ะ

รอบสอง 30/10

ก็รู้เท้า ฟุ้ง มีเจ็บๆ ที่เท้าค่ะ หลังเท้า ก็กำหนดรู้หนอ สักพักก็หายไป
พอมานั่ง ก็มีพวกหนังที่ชอผุดขึ้นมาเป็นภาพคลอๆ กับการรู้ท้องขยับค่ะ จับท้องได้ค่ะต่อเนื่อง
ภาพหนังนี่มาแล้วไป แต่ท้องจับได้ยืนพื้นค่ะ จนจบค่ะ

walai says: ค่ะ ทำต่อไปค่ะ ภพชาติเกิดจากอะไร

says: 1. คือกรรมที่เราสร้างไปต้องชดใช้ กรมมในอดีตค่ะ

2. การตอบโต้ต่อการกระทบใหม่ๆ กลายเป็นภาพชาติใหม่ค่ะ

ส่วนภายในใจก็คือ การยึดมั่น ค่ะติดอยู่กับความพอใจ ความไม่พอใจหรืออะไรที่เราให้ค่าค่ะ

walai says: แล้วสิ่งทั้งหมดที่หมูพูดมานั้น สรุปแล้วเหตุทั้งหมดเกิดจากอะไร

says: ขาดสติแล้วไปปรุงแต่งค่ะ ไม่ทัน

walai says: ความไม่รู้ไงหมู ถ้าเรารู้ถึงเรื่องราวของต้นเหตุที่ก่อให้เกิดภพชาติ ถ้ารู้แล้วจะทำมั๊ย

says: ไม่ทำค่ะ

walai says: นี่แหละผลของการเจริญสติน่ะแหละ ถ้าเข้าใจสภาวะ รู้เรื่องของสภาวะแบบชัดเจน
รู้ว่าสภาวะที่เกิดขึ้นกับเราทั้งหมดนั้น เกิดจากอะไร เมื่อรู้แล้ว รู้ตามความเป็นจริงของตัวสภาวะแล้ว
เราจะไม่ทำอีกเลย อย่างน้อยที่เรายังทำคือ เลือกทำแต่เหตุดี เช่น ทาน ศิล ภาวนา
ดับเหตุทั้งหลายทั้งปวง ดับที่ใครล่ะ

says: ดับที่เราค่ะ

walai says: นั่นแหละ แต่เพราะความไม่รู้ คนส่วนมากจึงไปมองนอกตัว

says: ค่ะพี่ ใช่ค่ะ

walai says: กล่าวโทษนอกตัว เที่ยวกร่นด่าผู้อื่น ว่าทำไม่ถูก

says: และก็ขาดสติค่ะ ทนไม่ได้ต่อการกระทบค่ะ

walai says: ใช่ ทนไม่ได้เลย อุปทานนี่แหละทำให้ทนไม่ได้

says: ค่ะ มันต้องฝึกมากๆเลยค่ะ ฝึกเสียสละ ฝึกยอม

walai says: ใช่ค่ะ นี่แหละผลของการเจริญสติ มีแต่สละออก มีแต่ยอม

( มีต่อ )

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2010, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


walai says: ใช่ค่ะ นี่แหละผลของการเจริญสติ มีแต่สละออก มีแต่ยอม

says: ค่ะพี่ ใช่ค่ะ ไม่งั้นไม่เข้าใจค่ะ ไม่เข้าใจว่ายอมทำไม ได้อะไรจากการยอม

walai says: กี่วันแล้ว ที่หมูมาฝึกแบบนี้ จำได้มั๊ยคะ

says: เป็น ปีได้ยังคะ กำลังจะบอกพี่น้ำว่า น่าจะได้ปีแล้วที่หมูเรียน
แต่รู้สึกยังไงรู้ไหมคะ รู้สึกเหมือนมันเริ่มใหม่ ทุกวันค่ะ มันเร็วมากกก

walai says: ใช่ค่ะ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะสภาวะเขาให้เราเรียนรู้บทเรียนใหม่ๆตลอดเวลา

says: ค่ะพี่ มันยังใหม่

walai says: แม้แต่พี่เอง ตัวรู้ที่เกิดขึ้น แรกๆหยาบๆ ห้วนๆ แต่นับวันตัวรู้ที่เกิดใหม่ๆละเอียดมากขึ้น แต่ถ้อยคำกระชับมากขึ้น มันจะมีแต่เนื้อๆ อ่านแล้วไม่ต้องขยายใจความ เพียงทุกคนยอม
สภาวะเลยไปได้ไว แต่กว่าจะยอม ไม่ใช่เรื่องง่าย ขึ้นอยู่กับเหตุที่ทำมากันด้วย

says: ยากมากค่ะ ต้องโดนซ้ำๆ หมูนะคะ

walai says: ค่ะ คนที่นี่ ที่กำลังฝึกกับพี่อยู่ อาจจะถึงเวลาของเขา เขาเลยยอมกันง่าย
สภาวะเขาเลยไปไว เขาไม่รู้เรื่องปริยัติกันหรอกนะ แต่เขาดับที่เหตุเลย

says: อนุโมทนา กับพวกเขาค่ะ

walai says: ตรงไหนเป็นเหตุแบบที่พี่บอกไว้า เขาจะกำหนดรู้หนอกันตลอด
เขาบอกว่า เดี๋ยวนี้รู้หนอขึ้นเอง และบางทีไม่ขึ้น แต่เหตุตรงนั้นจบไว
เขาทำแบบง่ายๆนะ เดินรู้เท้า เขารู้แค่นั้นจริงๆ

says: สุดยอดเลยสาธุ สาธุ

walai says: นั่งเขาก็รู้กาย อธิบายสภาวะได้ชัด พี่เลยปรับอินทรียย์ให้เขาง่าย นี่แหละคนไม่รู้ปริยัติ

says: ง่ายนะคะ

walai says: เขาไม่มีความสงสัยว่าอะไรเรียกว่าอะไร เขาไม่รู้จัก

says: ถ้าทำตามหลักแล้วไม่สงสัย โลดเลย

walai says: มีแต่ถาม เวลาโดนกระทบ ถามว่า เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ปกติเป็นคนใจเย็น
ไม่เอาเรื่องราวกับใคร แต่พอมาทำ ทำไมมันคนละเรื่อง เขาเห็นว่า เขามีความโกรธที่รุนแรงมากๆ
แบบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบจะเข้าไปเอาเรื่องอีกฝ่ายได้ทันที พี่บอกว่า นั่นแหละกิเลส
ตัวหยาบจะออกมาก่อน

says: เข้าใจค่ะ

walai says: จริงๆแล้วมันมี แต่เขาไม่รู้ เพราะมองไม่เห้น แต่เพราะสติ สัมปชัญญะ
ทำให้เขาเห็นกิเลสชัดมากขึ้น พี่ถึงบอกไง ต้นทุนไม่เท่ากัน สติ สัมปชัญญะ สมาธิ เหตุที่ทำมา

says: เราสร้างงทุนใหม่ได้นี่คะ ตราบใดที่ยังหายใจ ยังมีโอกาส

walai says: ใช่ไง นี่แหละเหตุใหม่ ที่เราเลือกที่จะทำ ถึงบอกไง ต่อให้เขามาฆ่าเรา เราก็ยอม
แล้วจิตไม่อาฆาต มีแต่ให้อภัยเขา เพราะเขาไม่รู้ แต่เรารู้แล้ว นี่แหละความไม่กลัวตายแหละหมู

says: ค่ะ ยังกลัวอยู่เลยค่ะ แต่เป้าหมายคือไม่กลัวตาย

walai says: พี่ถึงบอกหมูไง ทำไป สงสัยให้รู้ว่าสงสัย แต่อย่าไปสนใจในบัญญัติ เอาตัวให้รอดก่อน
บัญญัติทีหลังได้ มาศึกษาต่อได้ และไปไวด้วย

says: ค่ะ พี่ ก็เห็นด้วยค่ะ สะสมสติ สัมปชัญญะดีกว่า ตั้งรับการกระทบ

walai says: เพราะไม่งั้นพอเจออะไรนะ เอาละ ไอ้นี่เรียกว่าอะไร แล้วใช่แบบนั้นๆหรือเปล่า
ไม่มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติเลย รู้หนอสิ สงสัยก็ให้รู้หนอ ทำไปเดี๋ยวได้คำตอบเอง

says: ใช่ค่ะ ถ้ารู้ก็รู้เอง พยายามคิดเท่าไรก็ไม่รู้ ถึงมีให้อ่านก็เข้าไม่ถึงค่ะ

walai says: อ่านแล้วเข้าใจแค่ที่รู้ ตีความได้แค่ที่รู้ เหมือนบางคนทิ้งครอบครัว มุ่งมั่นปฏิบัติมากๆ
ทำไม่ถูกนะ เพราะความไม่รู้แท้ๆ ถึงทำแบบนั้น คนที่รู้จะไม่ทำ เราต้องอยู่กับกิเลสได้
ต่างคนต่างอยู่

says: เราต้องอยู่กับกิเลสได้ มันยากไงคะ

walai says: ใช่ค่ะ เพียงแต่กิเลสส่วนกิเลส มันแยกออกเป้นส่วนๆ เราจะเหลือแค่รู้ แล้วแค่ดู
แล้วชีวิตที่เหลือจะเป็นยังไงล่ะ

says: ก็สบายค่ะ หมดเหตุไปเรื่อยๆ ใช้หนี้ไป

walai says: นี่แหละ การทำตามความเป็นจริง มันจะไม่มาผูกมัดตัวเอง ไม่ต้องไปติดตามใครๆ
ไปกวักมือเรียกใครๆ โน้มน้าวใครๆให้มาเชื่อตัวเอง ทำตามความเป็นจริง ทำกันตรงๆที่เหตุเลย
ไม่ว่าจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธา เชื่อกันหรือไม่เชื่อกัน ทุกอย่างล้วนมีเหตุ

says: แต่ละคำของพี่สภาวะทั้งนั้นเลย หมูทำไปเรื่อยๆ คงชัดขึ้นบางคำพูดพี่น้ำน่ะ
หลังๆถึงเข้าใจนะคะ สมัยพูดแรกๆๆๆๆเลยน่ะค่ะ เพิ่งเก็ท

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2010, 20:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


says: รู้ไหมคะ มีครั้งหนึ่ง หมูเริ่มทำมาแค่สัก 2 เดือนมั้ง

พี่น้ำบอกว่า หมู ตอนนี้พี่คงพอพูดเรื่องกิเลสให้หมูฟังได้แล้ว หมูก็ค่ะ

พี่ก็บอกทุกคนที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะกิเลสไงหมู หมูก็ อ่า...ค่ะ

เนี่ยเพิ่งเข้าใจหลังๆเอง กิเลสเผาใจเราก่อน แล้วก็ล้นไปเผาคนอื่น
เวลาที่กิเลสเขาออกมา เรายอมเขา กิเลสเขาก็จบ
ก็หมดกันไปเขาก็สบายใจเขาก็กลับเป็นปกติอีกครั้ง ไม่บาดหมางต่อ

walai says: ค่ะ หมดเชื้อ

says: ค่ะพี่

walai says: โมทนาค่ะ คุ้มมั๊ยคะ หนึ่งปี กับหลักสูตรนี้

says: คุ้มค่ะ สาธุค่ะพี่

walai says: พี่ถึงบอกไง ใครเข้าว่าก็ช่างเขา เขาจะว่าเจริญนิวรณ์หรือว่าอะไรก็ช่างเขา
ให้อภัยกับเขา ที่เขาว่ามานั้นเพราะความไม่รู้ ถ้าเขารู้เขาจะไม่าาใครๆเลย

says: ค่ะพี่ ดีอย่าง หมูฟังเขาว่าไม่รู้เรื่อง สบายไป

walai says: นั่นสินะ ไม่งั้นต้องไปเปิดหาในอรหันต์กูเกิ้ลว่า เจริญนิวรณ์แปลว่าอะไรหว่า
เสร็จเลยพอเจอคำแปล ความสงสัยมาแล้ว

says: เข้าใจค่ะ ไอ้เจริญนิวรณ์ แต่เวลาเขาว่าเขากระทบๆ ไม่ออกชื่อตรงๆ หมูน่ะถนัดด่าตรงๆ
ที่ทำงานเวลาว่าเขาด่าต่อหน้าไงคะ น้องๆที่ทำงานชอบล้อเล่นเรงๆ
แรงๆๆ ค่ะ เขาถามหมูว่าพี่ถามจริงๆเถอพี่เคยโกดผมไหม เพราะเขาแรงมากไงคะ

walai says: เข้าใจค่ะ พี่เจอสารพัดรูปบบ แต่ผ่านมาได้ตลอด เพราะให้อภัยเขา แผ่เมตตาให้
เพราะเขาไม่รู้ ถ้าเขารู้นะ เขาจะไม่ว่าใครๆเลย

การแบ่งแยกการปฏิบัติก็จะไม่มี ไม่มีว่าแบ่งแยกว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ก่อน ทำแบบนี้ถึงจะถูก
ทำแบบนั้นมันผิด ถูกหรือผิดเป็นเพียงแค่ความคิดของแต่ละคนที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
แต่ไม่ใช่การเห็นตามความเป็นจริง ถ้าเห็นตามความเป็นจริงได้แล้ว คำว่าถูกหรือผิดจะไม่มี
เพราะความไม่รู้ ถึงก่อภพก่อชาติกันเรียกว่าแทบจะทุกลมหายใจเข้าออกก็ว่าได้

says: ใช่ค่ะ จิตมันปรุงตลอดเลย แล้วก็มีแต่ทุกข์

walai says: สุขก็มี แต่ก็คือยังปรุง พอมาเจอสุขทางธรรม จะเข้าใจเลย สุขสะอาดๆแบบนี้มีจริง
แม้แต่สุขทางธรรม สุดท้ายก็แค่รู้ เพราะมันก็ยังคือกิเลส สิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือ ไม่มีทั้งสุขและทุกข์

says: ค่ะพี่ ถึงตอนนั้น เราก็ไม่ต้องการความสุข

walai says: ไม่ใช่เราไม่ต้องการ แต่เพราะมันไม่มี สติไงหมู
ทำไปค่ะ เจอกับตัวเองเมื่อไหร่จะเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ

says: ค่ะพี่ ทำต่อไป

walai says: เมื่อเจอสิ่งที่ชอบใจก็จงยอมรับว่ายังชอบใจ ยังมีตรงนี้อยู่ แล้วอย่าหลบสภาวะ
แต่ให้อยู่กับสิ่งๆนั้น ฝึกเรียนรู้กับสิ่งๆนั้น สุดท้าย ความชอบหรือความรักที่มี มันจะแค่รู้
แต่ไม่ไปยึดติดหรืออุปทาน ความชังละง่าย ความชอบละยาก

says:
การหลบสภาวะ แบบไหนหรือคะ

walai says: หลบสภาวะ เช่น หมูเจอคนๆหนึ่ง หมูรักเขามาก แต่เขาไม่ได้รักหมูเลย
หมูต้องอยู่กับความรักที่มีต่อเขา ให้รู้ลงไป ว่าที่รักน่ะรักเพราะอะไร ขอเพียงให้รู้เหตุ
จะรู้เลว่า รักเพราะมีเหตุ เพราะเคยสร้างเหตุมากับเขา พอรุ้ว่าเขาไม่รักก็พยายามหลบเขา
แต่เขาไม่ได้รังเกียจหรือปฏิเสธอะไร เขายังพูดคุยกับเราปกติ แต่จิตเรามันไปหวั่นไหวเอง
ตรงนี้ต้องหมั่นกำหนดรู้หนอ เพื่อให้ทันปัจจุบัน ไม่ใช่หลบหน้าเขา คิดว่าเดี๋ยวคงลืมได้
ถ้าลืมได้จริงๆ เวลาเจอเขา จิตต้องไม่กระเพื่อม

นี่คือการไปแก้ไขสภาวะ เพราะใครทุกข์ ตัวเองแหละทุกข์ยามที่เห็นเขาไปคบคนอื่นๆที่ไม่ใช่ตัวเอง
ยิ่งถ้าไปพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา นั่นก็คือการแก้ไขสภาวะเหมือนกัน
การฝึก เราฝึกเพื่อละ ไม่ใช่ฝึกเพื่อสร้างเอาเข้าตัว

says: เข้าใจชัดขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ ปลดปล่อยความรู้สึกที่ยึดติดกับสิ่งนั้นๆ
ไม่ว่าทางดีหรือทางร้าย

walai says: ดูจิตตัวเอง อย่าโกหก หากยังโกหกอยู่ นั่นคือการยังไม่ยอมรับ ภพชาติก็เกิดต่อไปได้

says: ค่ะพี่ น้ำตาไหลแน่เลยค่ะแรกๆ

walai says: เข้าใจค่ะ พี่ผ่านสภาวะตรงนั้นมาแล้ว เคยแก้ไขแต่ไม่รู้ว่าแก้ไข ถึงได้เวียนวนไม่รู้จบ
คนที่ทุกข์คือเราเอง คนที่สุขคือเราเอง เกิดอุปทานที่ยึดติดและไปให้ค่าต่อสิ่งที่มากระทบ
ซึ่งให้ค่าเป็นได้ ทั้งสุขหรือทุกข์ เห็นตามความเป็นจริงได้เราสบาย
เห็นได้ชัดมากแค่ไหน สบายตามความชัด

says: ทั้งหมดเกิดจาก สติ สัมปัญชัญญะ ที่เราฝึกฝนสะสม

walai says: สมาธิคือผลพลอยได้นะคะ ในการฝึกแบบนี้ พี่ถึงบอกไง ไม่ต้องสนใจเรื่องสมาธิ
สติ สัมปชัญญะดี ศิลสะอาด สมาธิตั้งมั่นได้ง่าย รู้อยู่ในกายและจิตได้ง่าย
นี่แหละผลของการเจริญสติ

จริงๆแล้วต้องตั้งสัมมาสติเป็นข้อแรกของมรรค ๘ แต่ทีนี้เขาแบ่งเป็นหมวดๆแยกออกไปตามสภาวะ
ที่ทำงานร่วมกันแต่ละสภาวะ คนเลยไปมองที่สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูก วางไว้เป็นอันดับแรก

เมื่อยังไม่เห็นตามความเป็นจริง จะมีความเห็นถูกได้ยังไง ต้องมี สัมมาสติก่อน
พอสัมมาสติเกิด หิริ โอตัปปะะมีกำลังมากขึ้น นี่ของแถมนะ ตัวต่อมา สัมมาทิฏฐิย่อมเกิด
แล้วศิล สมาธิ ปัญญา จะไปไหนเสีย เห็นตามความเป็นจริงได้ สภาวะไปไวมากขึ้น

says: ค่ะพี่ สติมาก่อน

walai says: ส่วนสมาธิ พี่ถึงบอกไง เหมือนกำลังหนุน เชื้อเพลิงยิ่งสะอาดเท่าไหร่
ยิ่งมีกำลังมากขึ้น สมาธิเองก็เช่นกัน

says: ขอบคุณค่ะ ตอนแรกนึกว่ามีแต่สติกะสัมปัญ แต่จริงแล้วมีองค์ประกอบอื่นๆมากมาย
ที่ตามมา เนื่องจาก เรามีสติสัมปชัญญะ

walai says: ค่ะ แม้แต่ตัว สติ สัมปชัญญะ เขาก็มีสภาวะของเขา
เพราะคนไม่รู้เรื่องสภาวะ เลยเหมารวมไปว่า สติคือความรู้ตัวหรือรู้สึกตัว

ถ้าเข้าใจโดยสภาวะ มันจะแยกสภาวะของสติ และสัมปชัญญะได้ชัด
สติคือ รู้ก่อนลงมือกระทำ สัมปชัญญะ คือ รู้สึกตัวขณะที่กำลังทำ
เขาถึงกำหนดต้นจิตไงหมู ของแนวพองหนอยุบหนอ เขากำหนดต้นจิตเพื่อสร้างสติให้มั่นคง

says: ค่ะ พองอยู่ ก็คือสัมปชัญญะ หมายถึงความรู้สึกที่ท้องกำลังพองขึ้น
หรือว่า ตอนที่กำลังก้าวเท้า เท้าค่อยยๆก้าว

walai says: ใช่ค่ะ เข้าใจถูกแล้ว ขณะที่กำลังเกิดขึ้น

says: ค่ะพี่เข้าใจแบบนั้นน่ะค่ะ เวลาที่คิดเคลิ้มๆแล้วรู้ว่าเฮ้ยกำลังเคลิ้มนะ นี่คือ สติ
แล้วมารู้ชัดที่ตัว นี่สัมปชัญญะ

walai says: ใช่ค่ะ เห็นไหม ถ้าเข้าใจโดยสภาวะ จะอธิบายตามหลักของสภาวะได้ชัด
พี่เคยคิดนะ หมูนี่สารพัดเลยนะที่โดนพี่ทำ เรียกว่ารับรู้ทุกๆสภาวะของพี่เลย
แต่หมูอาจจะไม่สนใจ เลยไม่รู้สึกอะไร เรียกว่าอดทนมากๆ ยกความดีให้ค่ะ ถึงถามไงว่าคุ้มมั๊ย

says: คุ้มค่ะ แต่หมูไม่ได้อดทนอะไรขนาดนั้นเลยค่ะ

walai says: แต่พี่มองคนที่หายๆจากพี่ไปนะ หายหน้าไปเลย พี่เลยคาดเดาเอาเองว่า
เขาอดทนกับพี่ไม่ไหว ช่วงนั้นพี่ปริ๊ดบ่อย เพราะยังติดอีกสภาวะหนึ่งอยู่

says: แปลกเหมือนกันคะ เขาตั้งภาพมั้งคะ เหมือนกิเลสตัวปลอมของพี่น้ำ

walai says: นั่นแหละค่ะ พี่มองแบบนั้น พระกับมาร


says: ค่ะพี่ ใช่ค่ะ แรกๆก็เป็นค่ะ ที่เคยเล่าไงคะ แต่ว่าไม่รู้สิคะหมูปฎิบัติแล้ว มันก็เห็นค่ะ
แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าเราเรียนไปพร้อมกัน หมูก็เห็นกิเลสตัวเองค่ะ แล้วก็ขัดเกลาไปเรื่อยๆ
ก็เห็นความเป็นจริงค่ะ มันต้องแบบพี่น้ำนี่แหละ ไม่ได้อยู่ๆ ทิ้งกิเลสได้ซะเมื่อไร

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2010, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


walai says: ถ้าทุกๆคนเข้าใจแบบนี้ได้คงจะดีนะ มีแต่การกล่าวโทษกันมากกว่า
ที่จะมองตามความเป็นจริงกัน

says: คงแบบพี่บอกค่ะ เขาไม่ได้สร้างเหตุมั้งคะ

walai says: นี่แหละเหตุ เกิดจากเพราะความไม่รู้ตัวเดียว
เหตุระหว่างเขากับเราคงสร้างร่วมกันมาแค่นั้น หรือไม่เคยสร้างร่วมกัน
ก็เลยไม่มาเชื่อกัน บางคนก็เลยไม่ต่อเนื่อง ไปหาทางอื่นๆต่อ

says: ค่ะพี่ ดิ้นรนกันไป

walai says: หนังสือที่พี่แยกออกทั้งเรื่องรู้หนอ ทั้งเรื่องการปฏิบัติ ทั้งเรื่องสภาวะ ชุดนี้
คงทำให้คนเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเหตุที่เขาทำมาด้วยนะ
หากมีเหตุกับเรา ย่อมมาเชื่อกัน พี่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย
ทำตามความเป็นจริงอย่างเดียว

แล้วเดี๋ยว จะทำอีกเล่ม คือ สภาวะของหมู แต่จะทำแบบสรุปสภาวะ ไม่ลงคำพูดยืดยาวแบบนั้น
ทั้งๆที่จริงแล้ว อยากลงแบบเต็มๆ แต่กลัวคนไม่เข้าใจ เดี๋ยวมาหาว่าเจริญนิวรณ์หรือมาว่ากัน
ในแบบอื่นๆอีก ผลมันไปตกกับที่คนว่า เราควรป้องกันตรงนี้ไว้ เพื่อไม่ให้ใครๆมาสร้างเหตุใหม่
กับเรา เมื่อก่อนพี่ไม่ทันคิดน่ะ เลยลงหมด ไม่คิดว่าจะมีคนที่มีอุปทานเยอะ ยึดมั่นถือมั่นขนาดนี้

says: ค่ะพี่ หมูก็ไม่ได้คิดขนาดนั้นนะคะกลับมองว่าดี เขาจะได้รู้เพราะนี่คือสิ่งที่เขาต้องเจอ
ปกติไม่มีใครเปิดหมดเปลือกให้เห็น

walai says: ใช่นั่นแหละ พี่เองก็มองแบบนั้น

says: ค่ะ ก็คิดว่าถ้าเป็นอย่างหมูมาเอ่านจะได้รู้ว่าเออไม่ได้ผิดปกติ ถูกแล้วต้องเจอไม่เอาอ่าว
แบบนั้นแหละ นั่นแหละต้นเหตุ แล้วปล่อยมันทิ้งไป ความคยึดถือว่ามันไม่เอาอ่าว นั่นอะทาง
มันกลับหัวกลับหางกับความเชื่อที่เคยเข้าใจกันมากๆ

walai says: เรียกว่าแทบจะคนละเรื่อง ทั้งนี้ทั้งนั้น ล้วนเกิดจากอุปทานทั้งสิ้น ไปยึดติดเอาว่า
ทุกคนที่รู้ เวลารู้ สภาวะต้องเหมือนๆกัน จริงๆแล้วไม่ใช่เลย มันขึ้นอยู่กับเหตุต่างหาก
เพียงแต่รู้หรือตัวรู้เวลารู้จริงๆน่ะ มันจะแจ้งออกมาจากจิตเอง เหมือนกันหมด คือละกิเลส

says: ค่ะพี่ ละกิเลส ก็คือการที่เรายอมนั่นเอง หมูสรุปของหมูนะคะ นั่นอะการละ

walai says: การยอม นั่นคือเบื้องต้นของการละ ละจริงๆคือดับ ไม่มีคำว่ายอม

says: อืมๆๆ ค่ะ ยังต้องยอมอยู่ค่ะ ทำต่อไป

walai says: ไม่รู้วันนี้จะเขียนเพิ่มได้หรือเปล่า สภาวะมันเป็นแบบนี้แหละ
ขยันบ้าง ขี้เกียจบ้าง เบื่อบ้าง ไม่เที่ยงเล๊ยย เพราะรู้แล้วว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง
ก็เลยทำให้ไม่ไปทุกข์กับสภาวะ ทำตามอย่างเดียว ตามน้ำ ไม่ฝืน
ใหม่ๆต้องฝืนนะ ไม่ทำไม่ได้เลยกรรมฐาน มุมานะน่าดู ขยันน่าดู ต้องเอาให้ได้

says: ค่ะขยันมาก 4 ชั่วโมงเดิน ทำได้ไง

walai says: มันทุกข์อ่ะนะ ไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว

says: ค่ะพี่ พวกเขา สบายขึ้นไหมคะ ทางใจ คนแถวบ้านพี่

walai says: สบายขึ้นค่ะ ตู้เย็น วันนี้พาเขาไปซื้อมาแล้วนะ

says: ดีค่ะ ดีจัง

walai says: พี่บอกว่า แค่เขาเลี้ยงแม่น่ะ ปกติพี่จะไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ แต่นี่เห็นว่า
เขาทำกรรมฐานด้วย ถือว่าศิลเขาสะอาดขึ้น แถมเลี้ยงแม่ด้วย เลยช่วยเขา ราคา 5000 ค่ะ

says: ค่ะพี่ เดี๋ยวหมูร่วมด้วย แล้วที่ทำงานพี่น้ำ เขาร่วมไหมคะ

walai says: มีไม่กี่คนหรอกที่ทำงาน แต่ก็อยากให้ทุกคนทำไว้ แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่เป็นไร
ทำกับคนมีศิล ทำกับคนที่เขาทำทางเพื่อพ้นทุกข์ และเขาเลี้ยงแม่ด้วย แถมแม่พิการเดินไม่ได้
อีกต่างหาก ยังดีนะ ที่ตอนนี้แม่เขาเริ่มช่วยตัวเองได้ใช้วิธีถัดๆเอา อานิสงส์แรงนะ

says: ค่ะ หมูบอกคนรู้จักแล้ว แต่เหมือนเขาไม่ค่อยสนใจ เลยเงียบคงทำเองน่ะค่ะ

walai says: เหตุมี ผลย่อมมี ไม่เป้นไรหรอกค่ะ ถือว่า บอกแล้ว จบแล้ว

says: ใช่ค่ะ

walai says: ถ้าจิตเขามีตรงนี้ เขาไม่หาข้อมูลอะไรมากมาย
ให้ไม่ต้องหวังผล มันยากหน่อยน่ะหมู พี่เข้าใจ

says: ค่ะ คือถ้าเกิด บอกว่าเป็นพวกสังฆทาน ส่วนใหญ่จะร่วม

walai says: พี่ทำแบบนี้จนชินเลยไม่ไปรู้สึกอะไรว่าจะได้หรือไม่ได้ ไม่เคยสนใจ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2010, 01:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


6 กค.

says: เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบแรก 60/15 ค่ะ
รู้เท้า มีมานะชัดอวดดี กำหนดรู้หนอมาช่วงแรกๆ 2- 3ครั้งค่ะ
แล้วก็หลงไปฟุ้งเรื่องที่บ้านแล้วมารู้กายเดินชัดต่อ ชัดบ้าง ฟุ้งบ้างค่ะ
มีมดกัดค่ะ มีแสบๆเย็นๆผิวมาแล้วหายไว

พอมานั่งจิตมันมันขุด จริงๆเริ่มขุดตั้งแต่ตอนเดินท้ายๆค่ะ
อดีตที่เรากะผู้มีพระคุณเคยร้ายต่อกัน ก็มีสภาวะความโกรธค่ะ ใจมันร้อนขึ้นมา
ก็กำหนดรู้หนอๆๆหลายครั้งคลายลง

แล้วก็เริ่มถึงเวลานั่งก็รู้ท้องขยับ แล้วจิตก็ไปขุดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาต่อ
แต่ไม่ได้ถึงกะมีความโกดแต่เหมือนมันฉายหนังให้ดู

แล้วก็หลังๆก็เปลี่ยน มารู้ท้อง มีหลงไปคิดแล้วรู้ว่าลอยไปไร้สาระนะ
ก็มารู้กายที่ท้องขยับต่อ ลอยไปอีกก็รู้อีก ลอยไปอีกระหว่างนั้นก็ยังรู้ว่าไปอยู่

walai says: กิเลส ความรู้สึกผิด ความผิดพลาดในอดีต มันจะเหมือนหนังน่ะหมู
ฉายซ้ำๆให้เราดู ให้รู้สึกถึงเรื่องราวที่เคยทำผิดพลาด

says: ค่ะพี่น้ำ มันเหมือนเรื่องที่ยังติดค้างอยู่ค่ะ

walai says: ใช่ค่ะ

says: มันเป็นจิตใต้สำนึก

walai says: จริงๆแล้ว มันมีมานานแล้ว แต่ไม่เคยสนใจมัน พอมาเจริญสติ เหมือนมันถูกขุดคุ้ยขึ้นมา
ใหม่ๆพี่ทุกข์นะ ไปเก็บเอามาทุกข์ แบบประมาณว่า ถ้าเลือกทางเดินได้ จะไม่ไปทำแบบนั้นเลย

แต่อดีตก็คืออดีต เราไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เดี่ยวนี้ก็ยังมีค่ะ บางเรื่อง ลึกๆเก่าๆที่มีอยู่ในใจ
แต่แค่รู้มันไป ไม่ทุกข์เหมือนก่อนๆ สภาวะเขาสอนเรา ให้เห็นถึงความผิดพลาด
แล้วเอาความผิดพลาดของตัวเราเอง ไปสอนคนอื่นๆ ที่เขาผิดพลาดแล้วท้อใจ

says: แล้วก็สอนให้เราให้อภัยในเราที่เรายังแค้นโดยไม่รุ้ตัวใช่ไหมคะ

walai says: ใช่ค่ะ ให้อภัยหมดกับทุกๆคน ที่เขาทำกับเรา เพราะเขาไม่รู้
ภพชาติเขายืดยาวออกไปเพราะความไม่รู้ เมื่อเรารู้แล้ว เราเข้าใจทุกๆคน เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ
เราจึงให้อภัยแบบใสสะอาดจริงๆ

says: ค่ะพี่ หมูจะขัดเกลาตัวเองต่อไป ตอนนี้ใจมันยังร้ายอยู่ ยังมีความพยาบาท อย่างไม่น่าเชื่อ

walai says: เข้าใจค่ะ พี่ผ่านตรงนั้นมาแล้ว เมื่อก่อนน่ะ เกลียดมากๆกับคนที่คอยว่าเรา
คอยให้ร้ายเรา คอยจ้องเบียดเบียนด้วยคำพูด อยากจะสาปแช่ง เป็นแบบนั้นจริงๆเลยนะ เมื่อก่อนน่ะ

เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว ใจมั่นนิ่งลง และให้อภัยกับเขา นั่นคือเหตุของเขา ภพชาติเขาสร้างขึ้นมาใหม่
ด้วยความไม่รู้ของตัวเขาเอง

ถ้าเขายังมีจิตคิดว่าเราอยู่ นั่นคือ เขาสร้างเหตุแห่งมหาทุกข์ให้กับตัวเขาเอง
การเกิดแต่ละครั้งว่าเรียกว่า มหาทุกข์ ทุกข์เพราะความไม่รู้

says: ค่ะพี่ มหาทุกข์

walai says: ใครทำยังไง เขาได้รับผลอย่างนั้น เรมีหน้าที่คือ ทำงานประจำของเราไป
เจริญสติ คืองานประจำของเรา

says: ค่ะพี่ งานนี้ทำสำเร็จแล้วเกษียนไปตลอดกาล

walai says: ใช่ค่ะ นึกถึงอนาคตแล้วมีความสุขใจ นึกถึงสิ่งที่จะได้รับ

says: อนุโมทนานะคะ

walai says: สาธุค่ะ

says: ผลแห่งความอดทน ขอบคุณค่ะ หมูไปขึ้นรอบสองค่ะพี่

says: เสร็จแล้วค่ะ รอบสอง 60/15 ค่ะพี่
ก็รอบนี้ก็ฟุ้งค่ะ แต่ยังรู้เท้าได้สั้นๆ ช่วงละสั้นๆ ตอนก้าว มันฉายหนังเหมือนเดิมค่ะ เปลี่ยนเรื่อง

ก็เป็นความไม่ดีที่เคยทำผิดตอนเด็กค่ะ ถึงเวลาที่ต้องใช้คืนเขาแล้ว
แล้วก็มีเวทนาค่ะ มันแปลบที่ผิว และแสบเหมือนโดนบาดด้วย แล้วก็เจ็บโน่นนี่ที่เท้าค่ะ

พอมานั่งก็คิด + รู้ท้องขยับค่ะ มีเวทนาเจ็บเสียดที่ซี่ดครงเป็นจังหวะ ห่างบ้าง ติดบ้าง
กำหนดค่ะ เจ็บหนอ สักพักก็หายไปค่ะก็รู้กายนั่งกะคิด ๆ ค่ะ
อ้อมีเท้าเจ็บๆเมือนโดนทิ่มด้วยค่ะก็กำหนดรู้ไป

walai says: สภาวะจะเปลี่ยนไปตลอดค่ะ

says: ค่ะ อดีตมาชุดใหญ่เลย

walai says: มันจะถูกขุดๆขึ้นมาตลอดแหละค่ะ พี่น่ะ เที่ยวหาใช้หนี้เขา คือ มันลืมไปหมดน่ะว่า
ไปเอาของใครเขามาสมัยก่อน มันโชว์หราเลย ทำนองว่า นี่ที่เราค้างไว้นะ ยังไม่ได้ใช้

says: ค่ะพี่ แล้วคนที่ตายแล้วเราจะคืนไงอะคะ คนตายเล้วเราเอาจำนวนเงินเท่าที่เอาของเขามานั้น
ไปซื้อของถวายสังฆทานอุทิศให้เขาก็น่าจะได้นะคะ

walai says: น่าจะเป็นทางออกที่ดีค่ะ

says: ค่ะ หมูก็ว่ามันทำได้แค่นี้แหละ แล้วก็อุทิศส่วนกุศลตอนทำกรรมฐานไป

walai says: เฮ้อ .. ถูกขุดขึ้นมาแล้ว เสียใจนะคะ

says: ค่ะ พี่ แต่ก็ยังได้ใช้คืน ตอนเด็กๆนี่เลวมากเลย

walai says: แล้วลองนึกถึงการเกิดแต่ละครั้งสิ
ขนาดแค่ชาตินี้ นี่เท่าที่จำได้นะ แล้วไอ้ที่จำไม่ได้ล่ะ

says: ใจแป้วเลยอะค่ะ ต้องน่ากลัวมากๆ

walai says: พี่รู้สึกนะ การเกิดน่ากลัว เพราะเกิดทุกๆครั้งมันจะเริ่มจากความไม่รู้มาก่อน ก่อนที่จะรู้

says: ค่ะพี่ ถ้าเกิดปุ๊ปจำได้แล้วทำต่อปัปได้เลยก็ประเสริฐสุดๆ

walai says: เหนือการคาดเดา ฉะนั้นต้องพยายามทำให้พ้น ใช้เขาไปให้หมด

says: อืมม ทำต่อไป ทำให้เต็มที่อะค่ะ เท่าไรก็เอาให้เต็มที่เท่านั้น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2010, 23:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


8 กค. 53

says: 60/27 เอ่อนาฬิกาไม่มีเสียงเลยนั่งเกินค่ะ
ก็เดินรู้เท้าค่ะ บางทีก็มีความอยาก แล้วก็กำหนดรู้หนอตลอดค่ะ
เวลาคิดก็กำหนดรู้หนอเมื่อเกิดอารมณ์ตามมา แล้วมาอยู่กับการเดินต่อ

ก็แวบค่ะ เดี๋ยวหลงจากกายแวบ ก็รู้ว่ามัวไปแล้วออกไปแล้ว ก็มารู้กายต่อ
มีเวทนา มดกัดเจ็บเข้าไปถึงกระดูกเลยแล้วก็หายเร็ว
มีเย็นแปลบๆบางทีก็เจ็บ บางทีก็ไม่เจ็บ ก็อยู่ไม่นานค่ะ

พอมานั่งก็รู้ท้องขยับนิดหน่อยไม่จับท้องมาก กับมีเวทามดกัดบ้าง
เหมือนมีอะไรจ่อในรูหูเดินบ้าง ทนไม่ไหวลืมตาเอามือเขี่ยครั้งหนึ่งไม่มีอะไรค่ะ
แล้วหลับตาใหม่มารู้กายบภาพรวมนั่ง ปนง่วงๆ
ก็รู้สึกนานเกินเลยดูเวลาปรากฎเกินมา 12 นาทีเลยอุทิศส่วนกุศค่ะ

walai says:
เห็นก็ว่าจะถาม สติยังไม่ทัน จะไปนั่งเพิ่มเวลาทำไม

says: ค่ะพี่ ปกติก็นั่ง 15 นาทีสูงสุดค่ะ วันนี้มันเหนื่อยหน่อยแต่พอทำแล้วดีขึ้นแล้วค่ะ
ตอนแรกเหนื่อยง่วง หลังๆค่อยหายไป

walai says: ค่ะ ถ้าสติ สัมปชัญญะดีขึ้นเมื่อไหร่ สมาธิยิ่งมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น นั่ง 15 นาทีไปก่อน
หานาฬิกามาตั้งสำรองอีกตัว

says: ได้ค่ะพี่ ไว้ตั้งหน้าคอมอีกตัว

walai says: ปรับตรงนี้ให้มั่นคงก่อน พอมั่นคงแล้ว สภาวะเขาจะดำเนินต่อไปเอง
สมาธิต้องให้พอดี สมาธิมากเกินไปก็ปัญญายากที่จะเกิดได้ เพราะตัวสัมปชัญญะไม่เกิด
มีแต่สติ รู้ว่าเกิดสมาธิแล้วบื้อเลย ขาดการกลับมารู้ที่กาย

says: ค่ะ มันจะรู้ว่านั่งอยู่แต่จะไม่รู้สึกที่กาย แล้วจะง่วงๆหน่อยใช่ไหมคะแบบที่พี่บอก

walai says: นั่นแหละ รู้แบบนั้น รู้ได้ แต่มันรู้ลอยๆ มันไม่เหมือนรู้ชัดที่กาย

says: ค่ะ มันลอยแล้วไม่มีแรงเข้ามารู้กาย

walai says: ถ้ารู้ชัดที่กายได้ นั่นคือ สติ สัมปชัญญะ เขาทำงานร่วมกันกับสมาธิ
ถึงรู้พร้อมทั้งตัวแบบนั้นได้ แล้วถ้าปัญญาเขาจะเกิด เขาเกิดเอง ไม่ต้องไปคิดพิจรณาอะไร
ฉะนั้นกำลังของสมาธิจึงสำคัญ แต่ต้องอยู่ในความพอเหมาะ

says: ค่ะพี่จะได้คอยสังเกตุ อาการไว้

walai says: มันจะรู้พร้อมทั้งตัวน่ะหมู รู้อยู่อย่างนั้น

says: รู้เฉพาะท้องหรือกายส่วนใดส่วนหนึ่งชัดได้ไหมคะ แบบจับเลยอะค่ะ

walai says: ต้องรู้เองค่ะ ถึงจะเข้าใจ บอกไปยากที่จะเข้าใจ กับคำว่ารู้พร้อมทั้งตัว
ส่วนการรู้ที่จุดใดจุดหนึ่งนั้น นั่นคือฐาน ที่จะไปสู่การรู้ตัวทั่วพร้อมแบบที่พูดๆกัน
แต่สภาวะน่ะ อธิบายยาก

says: อ่อออ ไม่เป็นไรค่ะ เอาแค่หมูจับหลักว่า ถ้ารู้กายบางส่วนชัดได้แบบคงที่นานๆอยู่ตัวแล้ว
ก็ค่อยปรับเวลาเพิ่มทีละจิ๊ดแล้วดูต่อ

walai says: ใช่ค่ะ ตรงนั้นต้องมั่นคงก่อน แล้วค่อยเพิ่มเวลาทีละนิด
ถ้าเจอรู้แบบลอยๆอีก ให้ลดเวลานั่งลง

says: ขอบคุณค่ะพี่ ค่อยดูง่ายขึ้น

walai says: รู้ต้องให้รู้ชัด พี่ถึงบอกไง ไม่ต้องไปกังวลเร่องการนั่งหรือเรื่องสมาธิ

says: ค่ะพี่ ถ้าสมาธิมีแต่ไม่สมดุลกะสติ สัมปัญชัญยะก็ไม่ดอเค

walai says: ถ้ามีแต่สมาธิ ไม่สมดุลกับสติ สัมปชัญญะจะเกิดไม่ได้
เมื่อสัมปชัญญะเกิดไม่ได้ ก็จะกลายเป็นมิจฉาสมาธิหรือสมาธิหัวตอ เพราะขาดความรู้สึกตัว
เมื่อกลับมารู้ที่กายไม่ได้ ปัญญาย่อมไม่เกิด

says: เข้าใจแล้วค่ะ เอาสติ สัมปัญชัญญะเป็นหลักเลย ขอบคุณค่ะ จะทบทวนบ่อยๆเรื่องนี้
มารู้จักเรื่องปรับอินทรีย์จากพี่น้ำเลย แต่ก่อนไม่รู้เลยว่ามันสำคัญยังไง

walai says: จ้ะ การปรับอินทรีย์มีความสำคัญตรงนี้แหละ พี่ไม่สนใจหรอกเรื่องศรัทธา
ดูที่เหตุเลย ดูที่เหตุทำให้เราตัดวงจรได้ง่ายขึ้น เราไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องมาคอยตาม
พี่ไม่ชอบแบบนั้นอยู่แล้ว ทำตามความเป็นจริงนี่แหละ

says: เราไม่สร้างเหตุใหม่เพิ่ม ให้มากที่สุด โดยมีสิตสัมปัญชัญญะช่วยเสริมไม่ให้ก่อเวรใหม่
แล้วก็เจริญ ปัญญาไปด้วย

walai says: ใช่ค่ะ ตัวสัมปชัญญะนี่แหละ เจ้าความรู้สึกตัวนี่แหละ
nuchree says:
ค่ะ สูตรแห่งความสำเร็จแท้ๆ

walai says: ยิ่งสภาวะละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ จะทำให้หมูเห็นรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ
บทเรียนที่เรียนมา จะเริ่มสรุปได้ชัดมากขึ้น อย่างน้อย ตอนนี้ บทสรุปของสติ

สภาวะของสติ คือ รู้ตัวก่อนที่จะทำ
ส่วนสภาวะของสัมปชัญญะ คือ รู้สึกตัวขณะที่กำลังทำหรือรู้ชัดลงไปในการกระทำ

ถ้าไม่ได้มาเจริญสติ แยกแบบนี้ไม่ได้หรอกนะหมู จะรู้แค่บัญญัติว่า สติคือ ตัวระลึก
ก็คิดละ ระลึกนี่คืออะไร

says: ค่ะก็ไม่รู้ ว่าแบบไหน

walai says: พอรู้ว่าระลึกคือความรู้ตัว ก็สงสัยอีก ความรู้ตัวคืออะไร
แล้วแบบไหนจึงจะเรียกว่า รู้ตัว และ รู้ตัวกับรู้สึกตัวนี่แตกต่างกันยังไง

เห็นไหม รายละเอียดสภาวะของสติและสัมปชัญญะ ในสติปัฏฐานสูตร ถึงมีแยกหมวดไว้
เรื่องกายานุสติ กับ สัมปชัญญะบัพ ถ้ามันตัวเดียวกัน คงไม่แยกออกไว้แบบนั้น
แต่ที่เราถูกฝึกมา มองดูเหมือนว่า เมื่อมี สติ ก้ต้องมีสัมปชัญญะคู่กันอยู่แล้ว ของตาย

says: ไม่ใช่เลย บางทีก็รู้เท้าลอยๆแล้วคิดไปเรื่อยๆ สัมปัญชัญญะนี่เกิดยากเหมือนกันนะคะนี่

walai says: แนวพองหนอ ยุบหนอ เขาจึงเน้นเรื่องการกำหนดต้นจิตเพราะเหตุนี้
เพื่อสร้างกำลังของสติให้มีกำลังมากขึ้น และสร้างตัวสัมปชัญญะให้เกิดมีกำลังมากขึ้น
ไม่ใช่รู้บ้างไม่รู้บ้างหรือรู้แบบลอยๆ

ถ้าสัมปชัญญะเกิด จะรู้เท้าชัด
ถ้าเกิดทั้งสติ สัมปชัญญะและสมาธิ จะรู้ตัวทั่วพร้อมหรือรู้ชัดทั้งตัว คือ กายทั้งหมด

says: ค่ะพี่ พอนึกออกค่ะเคยบ้าง แต่น้อย แบบแวบหนึ่งค่ะ

walai says: ถ้ารู้ด้วยตัวเองโดยสภาวะเมื่อไหร่ จึงจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ

says

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2010, 03:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


สวดมนต์กับนั่งสมาธิ ทำแบบไหนได้บุญมากกว่ากัน

says: รอบสอง เสร็จแล้วค่ะ 40/10 ค่ะ
ก็รู้เท้า มีความอยากค่ะ มีตัวจ้องมองสภาวะ มีความไม่พอใจสภาวะกำหนดรู้หนอไปค่ะ
มีมดกัดค่ะ มีเจ็บๆ เย็นแปลบๆแสบๆ

พอมานั่งก็ ลอยบ้างรู้ท้องบ้างค่ะ หมดแล้วค่ะพี่

walai says: 10 นาที ยังลอยเลยนะเนี่ย

says: ใช่ค่ะ ยังรู้ท้องแผ่วๆด้วยค่ะไม่ชัด

walai says: ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยๆทำไป ปรับเปลี่ยนไป
ถ้าคราวหน้าเดิน 40 นั่ง 10 นาที ยังมีลอยอีก ให้ลดนั่งเหลือ 5 นาที ค่ะ

says: ค่ะพี่ เตรียมลดเลย

walai says: มันไม่เที่ยง ดูไปเรื่อยๆ จนกว่าสภาวะเขาจะคงที่

says: เวลานั่งหมูไม่ค่อยจะชัดค่ะ

walai says: ปรับขึ้น ปรับลงไปแบบนี้แหละ เอาสติเป็นหลัก

says: อืมม ค่ะ ฝึกไปเรื่อยๆ

walai says: นั่ง ชัดไม่ชัดไม่เป็นไร อย่าลอย แค่รู้กายได้ก็ยังดี
ถ้าลอยคือหลงไปแล้ว

ไม่ต้องไปกังวล ขนาดพี่ยังต้องเดินตั้ง 4 ชม. ยังนั่งได้แค่ 5 นาทีเอง
ตอนที่สมาธิหายไปหมดจำได้ป่ะ แต่ผิดกับของหมู สมาธิมากเกิน

says: ค่ะพี่ แหม แต่เดิน 4 ชั่วโมงนี่ สุดยอดจิงๆเลย

walai says: โห นั่งได้สมาธิสั้นๆ 5 นาที ก็บุญหัวแล้วในตอนนั้นน่ะ
ไม่มีสมาธิเลยนี่ สุดจะบรรยาย เจออะไรก็ล้วนแต่สติๆๆๆ โดยตรง จะตายให้ได้ วิ๊ดขึ้น วิ๊ดลง
รู้เลยนะว่าสภาวะฟุ้งซ่าน ที่ไม่ใช่ฟุ้งอย่างเดียวนี่เป็นยังไง
ก็ดีนะ ได้เรียนรู้สภาวะของคนที่ไม่มีสมาธิเลย ควรทำอย่างไร

says: ค่ะ มันนึกไม่ถึงเลย นะคะแบบเดาไม่ออก แต่ต้องรุนแรงมาก
ขนาดเดิน 4 ชม. เนี่ย นั่งได้ 5 นาทีอะ

walai says: ทุกข์หลายด้านเลยช่วงนั้น โดนกิเลสรุมสกรัมรอบด้านเลย

says: ค่ะ ผ่านมาแล้วค่อยยังชั่วนะคะ

walai says: ระหว่างสวดมนต์ กับนั่งสมาธิ อันไหนได้บุญมากกว่ากัน หมูว่าอะไรได้บุญมากกว่าล่ะ

says: ค่ะ ก็ถ้าสวดมนต์แล้วจิตเป็นสมาธิก็เหมือนกัน

walai says:
แล้วอันไหนได้บุญมากกว่ากันล่ะ

says: ก็นั่งสมาธิ ค่ะ แหม คือมันแนบแน่นกว่า เฉลยหน่อยสิคะ
แต่หมู ขอเอาจากใจจริงนะคะ หมูว่ามันขึ้นอยู่กะสภาวะค่ะ

คือถ้าสมมติว่าเขาสวดมนต์แล้วเขามีสติอยู่กะการสวดมนต์แล้วมีสมาธิด้วย
ก็ได้บุญเยอะกว่านั่งแบบขาดสติหรือหลับค่ะ

walai says: ทุกอย่างอยู่ที่ใจค่ะ ไม่ได้อยู่ที่วิธีการ
หากนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ แต่จิตมีผูกอาฆาตพยาบาท กุศลก็หดหายไปเกือบหมดแล้วค่ะ

says: ใช่ค่ะ เห็นด้วยแต่คิดเองไม่ได้

walai says: เห็นคนใส่บาตร เรามีใจนึกอนุดมทนายินดี สาธุกับเขา แม้จะแค่เพียงในใจ
กุศลตรงนั้นได้ไปแบบเต็มๆแล้วค่ะ

says: ค่ะ จ้องสาธุเลย กลายเป็นโลภอีก

walai says: น่านนน ชักจะเริ่มจับสภาวะได้ละเอียดมากขึ้นแล้วนะคะ

says: สาธุๆๆ

walai says: อนุโมทนาด้วยความอยาก ก็ได้กิเลสเป็นของแถม
หมั่นดูจิตบ่อยๆ ดูให้ทันปัจจุบัน ดูไม่ทันก็รู้หนอไว้ก่อน

says: ค่ะรู้หนอเป็นหลักเลยค่ะ ยังงี้นี้เองค่ะ ที่เขาเรียกอินทรีย์สังวร ...

walai says: สาธุค่ะ

says: ค่ะ

walai says: รู้ด้วยสภาวะมันจะเข้าไปถึงใจ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2010, 03:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


walai says: รู้ด้วยสภาวะมันจะเข้าไปถึงใจ

says: จะยึดหลักสติสัมปัญชัญญะ ไว้ก่อน ค่ะ บางทีเวลาไม่แม่นก็มีลืมๆบ้าง
หมูก็รู้สึกเพิ่มนะคะวันนี้เรื่องที่พี่น้ำเคยบอกว่า เวลาเจออะไรไม่ดี ที่เราคิดว่าไม่ดีแล้วกำหนดรู้หนอ
แล้วมารู้กายเลย แล้วครั้งต่อไปุ้าเกิดอีกสติจะไวขึ้น หรือเกิดอีกก็จะไม่ทุกข์มาก

วันนี้เข้าใจแวบหนึ่งค่ะว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้นเข้าใจตอนปฎิบัตค่ะ
ทำแบบนั้นเป็นการที่เราละมัน แล้วมันจะทิ้งง่ายขึ้นในครั้งต่อๆไป
แต่ยังไม่แม่นค่ะต้องสะสมไปเรื่อยๆคิดว่าเดี๋ยวคงลืมอีก

walai says: จะแม่นก็ต่อเมื่อ สภาวะนั้นผ่านการทดสอบเดิมๆซ้ำๆจนมันแจ้งออกมาจากจิตเองจริง
ที่นี้มันจะรู้เอง โดยไม่ต้องจำ เห็นปุ๊บ รู้ทันที

เหมือนสภาวะสังขารุ ทำไมพี่ถึงแยกรายละเอียดได้หมด
ก็เรียกว่า หลับตาเดินยังได้เลย

says: เหมือนนักวิทยาศาสตร์เลย ทดลองๆๆๆๆ จนสรุปผล

walai says: แล้วทำไมพี่ถึงกล้าพูดเรื่องญาณ 16 ว่า มีไว้เพื่อตอบคำถามว่า สภาวะเหล่านั้นมีจริง
แต่แค่ให้รู้ ไม่ใช่ไปยึด ยึดเมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นอุปกิเลส คือเป็นตัวขวางปัญญาไม่ให้เกิดทันที
เหมือนสภาวะมดกัดของหมู กัดทั้งปี ทั้งชาติ มันมีได้ยังไง

says: นั่นสิคะ กัดถึงกระดูกแล้วตอนนี้

walai says: ทุกอย่างมีคำตอบหมด มันคือสภาวะ
ตราบใดที่กำลังของสติ สัมปชัญญะและสมาธิยังไม่มากพอ สภาวะนี้ก็จะเกิดต่อไป

says: แหม กัดทั้งปี กัดทั้งชาติ .. มันกัดจิงๆด้วยค่ะ

says: พี่เจอมาหมดแล้ว ถึงได้เข้าใจ หมูจะได้จำสภาวะมดกัดได้แม่นที่สุด

says: น่านสิคะ

walai says: เหมือนเรื่องสมาธิที่หมูถามพี่ อีกหน่อย พอหมูผ่านสภาวะมดกัดไปได้
สภาวะจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หมูจะรู้ชัดในเรื่องของสมาธิมากขึ้น

says: ค่ะพี่ คงมีอะไรอีกมากมาย

walai says: มีให้เรียนไปจนกว่าจะเห็นตามความเป็นจริงของทุกๆสรรพสิ่ง
ที่ปราศจากกิเลสจริงๆในใจของเราเอง

says: ค่ะพี่คะ คำถามที่เป็นปริศนาน่ะค่ะ อันนี้ไม่ได้ขอเฉลยนะคะ
แต่ รู้ว่าถ้าเราเจริญสติถึงจุดหนึ่งแล้วจะรู้คำตอบใช่ไหมคะ
ที่บอก เรียนรู้ถามหญิง ทอหูก นั่นน่ะค่ะ

walai says: ทำเดิมๆซ้ำๆไง

says: โถ ไปอ่านเฉลยมา

walai says: อยากทำถูกทำเด็กเลี้ยงควาย คือโง่เข้าไว้

says: ไม่เห็นเขาตอบเชะๆอย่างพี่เลย อะไรเนี่ย

walai says: ก็รู้จากการเจริญสตินี่แหละ เมื่อก่อนพี่เองก็ไม่รู้
เหมือนสภาวะไง เพิ่งพูดไปเมื่อกี้ จำสภาวะแม่นเพราะอะไร
ทำเดิมๆซ้ำๆ เจอบททดสอบตลอดเวลา กิเลสตัวเดิม แต่เปลี่ยนเครื่องทรงใหม่ เนียนมากขึ้น
เหมือนสภาวะมดกัดเนี่ย

says: ก็แค่รู้ไป

walai says: ค่ะ พี่ถึงบอกไงว่า ใครมาคุยเรื่องสภาวะหรือประตูทางผ่านไปอีกมิติหนึ่งของการรู้
ด่านแรกน่ะ พี่ถามไม่ยากหรอก จะถามง่ายๆว่า สภาวะสังขารุที่แท้จริงน่ะ ดูยังไง
และสภาวะที่เกิดขึ้นเป็นยังไงบ้าง เมื่อก่อนจะดูเรื่องการแบ่งเขาแบ่งเรา ก็ไม่เอาละ
เพราะเรื่องนั้นพี่พูดบ่อย คนอาจจะไปท่องจำได้ เอาสภาวะสังขารุนี่แหละ
ต้องคนเข้าออกจนชำนาญจริงๆ เหมือนเข้าออกฌานน่ะ เขาถึงจะอธิบายได้

says: แค่คำว่าสภาวะก็งงแล้ว ตำราเขาบอกว่าเป็นกลาง ไม่ยินดียินร้าย

walai says: มันมีลึกกว่านั้น ไม่มีแค่นั้นหรอก แค่ไม่ยินดียินร้าย
มันจะไปเหมือนสภาวะของจตุตถฌานที่เป็นสัมมาสมาธิ
ส่วนพวกโคตรภูที่เอามาพูดๆกันน่ะ แค่เครื่องแต่งทรงเท่านั้นเอง
คือสภาวะที่เขียนเลยสังขารุไปแล้วน่ะ แค่เขาใส่เครื่องลงไปเพิ่ม

says: ครูบานี่แม่นสภาวะมากเลยสิคะ ขนาดเขียนมาเป็นชั้นๆแบบนี้
เอานามธรรมมาสรุปเป็นรูปธรรม

walai says:
เอาไว้จะสอนวิธีดูให้ ไม่ยากหรอก เพราะสภาวะทั้ง 16 ญาณ ตัวที่สำคัญที่เป็นประตูผ่านทางจริงๆ
ที่ทุกๆคนต้องเจอเหมือนกันหมด คือ ยอดของสภาวะสังขารุ ใครมาพูดบรยยายว่าเห็นโน่นเห็นนี่
ไม่ใช่หรอก เคยดูหนังที่ผ่านกาลเวลาไหม

says: เคยค่ะ

walai says: มันจะต้องโดนดูดเข้าไป แต่เราเอามาเปรียบเทียบในรูปของสมาธิ
คือกำลังของสมาธิจะมีมาก มันจะทั้งหนักแน่น แนบแน่น หน่วงๆ เรียกว่ามีกำลังมากกว่าสมาธิปกติ
แล้วมันจะต้องมีสภาวะของนกทิสากากะเกิดร่วมด้วย เขาเรียกว่ายอดสังขารุ
คือจากสังขารุ ขึ้นไปอีกระดับ มันจะมีสภาวะดับเป็นระยะๆเกิดขึ้น
ที่พี่เคยบอกกับหมูไง จิตสัปปะหงก เนื่องจากกำลังของอัปปนาสมาธิ

says: อ่อ สัปปะหงกที่พอรู้ นี่พอเห็น

walai says: ยิ่งการดับเกิดมาก กำลังของสมาธิยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามตัว ฉะนั้น สติ สัมปชัญญะ
จึงสำคัญมากๆ เขาถึงให้มีการปรับอินทรีย์ตั้งแต่แรก

says: สมมติไม่พอละคะ

walai says: สติยิ่งมากยิ่งดี

says: สติ สัมปัญไม่พอแล้วเกิดสภาวะนี้จะเป็นไงคะ

walai says: ถ้าไม่พอ มันก็ไปไม่ถึงหรอก เพราะสภาวะสังขารุ จะเป็นสภาวะที่
กำลังของสติ สัมปชัญญะมีมาก และสมาธิมีมาก จตุตถฌานไง ทุกคนจะได้ตรงนี้เหมือนๆกันหมด
ถ้ามาถึงจุดๆนี้แล้ว ไม่มีความแตกต่างถ้ามาถึงตรงนี้ ฉะนั้นเวลาใครมาพูดเรื่องการผ่านนี่ ดูง่าย

ตัวต่อมาคือ การแบ่งเขาแบ่งเรา ยึดติดในรูปแบบ นี่แสดงว่า ผ่านไม่จริง คือ
เจอสภาวะสังขารุจริง แต่ไม่ผ่าน ไม่ผ่านไปถึงอีกขั้น และไม่ผ่านไปอีกขั้น

ถ้าไม่ผ่าน มันจะตกลงมาก่อนที่สภาวะสังขารุอันแรก
ย่ำๆตรงนั้นแหละ จนกว่า อินทรีย์พร้อม พอพร้อมแล้ว สภาวะนกทิสากากะจะเกิด
ทีนี้ก็อยู่ที่กำลังของพละ 5 อีกครั้งว่าพร้อมไหม กำลังของสมาธิจะสำคัญมากๆตรงนี้
ถ้ากำลังสมาธิไม่พอก็ผ่านไม่ได้ เมื่อผ่านไม่ได้ ก็จะค่อยๆถ่ายถอนอุปทานไปเรื่อยๆ
เห็นไหม ไม่ว่าจะวิปัสสนานำหน้าสมถะ หรือสมถะนำหน้าวิปัสสนา ล้วนจบที่สภาวะเดียวกัน
ตรงนี้แหละคือประตูที่จะต้องผ่านทุกคน

says: พอถ่ายถอนมากๆก็ผ่านเองปะคะ

walai says: เปล่าค่ะ มันจะถ่ายถอนไปเรื่อยๆ
การที่จะผ่านจริงๆนี่ มันผ่านครั้งเดียวแล้วจบเลย แล้วจะไปสู่สภาวะต่อไป
พอสภาวะต่อไปที่จะต้องผ่านครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 แม้กระทั่งครั้งที่ 4
ก็ต้องผ่านที่ยอดสังขารุเหมือนๆกันหมด

says: อืมมม ค่ะ โห เวลาที่เราถ่ายถอนอุปทานไปเรื่อยๆนี่กำลังของสติ สัมปปัญกะสมาธิ
ก็สะสมเพิ่มพุนขึ้น จนถึงสังขาอีกแล้วดูว่าผ่านได้หรือเปล่าอีกสิคะ

walai says: ไม่ต้องดู มันจะรู้เองเวลาผ่าน เพราะมันย่ำจนชำนาญสภาวะก่อนที่จะผ่านไปได้จริงๆ
จิตจะบันทึกไว้หมด พอเกิดสภาวะนี้ปั๊บ เขาจะรู้เอง มีกิเลสแทรกปั๊บ สภาวะหล่นทันตา

ต้องมีแต่ตัวสติ สัมปชัญญะ สมาธิ เขาทำงานร่วมกับจิต เกิดในจิตล้วนๆ
มีกิเลสแทรกนิดเดียวก็ไม่ได้ แค่แว่บเดียวคือ ประตูปิดทันที เจอมาหมดแล้ว ย่ำจนพรุน

says: เสียดายแย่เลย

walai says: ใหม่ๆเสียดาย ตอนนี้ไม่เลย นี่วันนี้ก็เจอ กิเลสไม่มีแทรก
แต่กำลังของสมาธิไม่พอ เฉยๆนะ คือชินแล้ว เพราะรู้แล้วว่าถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่ จะเกิดเขาเกิดเอง
ไม่เห็นจะต้องไปยินดี ยินร้ายอะไร

says: ค่ะพี่ แหม แบบนี้ปรุงไม่ขึ้นนะคะ ถึงพี่จะเล่าให้หมูฟัง

walai says: ปรุงไม่ได้หรอกค่ะ จินตนาการก็ไม่ออก

says: ก็ปรุงไม่ขึ้น ใช่ค่ะ

walai says: เดาไม่ถูกหรอกว่า สภาวะนี้เป็นยังไง
แต่คนที่เดินจนชำนาญแบบหลับตาเดินได้เลยน่ะ อธิบายสภาวะได้เป๊ะๆเลย
ฉะนั้นใครที่ผ่านครั้งแรกน่ะ ถามเรื่องสภาวะตรงนี้เลย เพราะทุกคนต้องเจอเหมือนกันหมด
ไม่มีใครไม่เจอ แล้วสภาวะทิสากาน อันนี้ทางพม่าเขาใช้เรียกอนุมานเอา
แต่พี่จะใช้คำว่า จิตสัปปะหงก มันดูง่ายกว่า

ครูบาฯท่านใช้ถ้อยคำได้ไพเราะมากๆ สภาวะทิสากากะน่ะ
เหมือนนกกาที่คอยดูทิศทาง เมื่อเห็นพายุสงบ ก็บินออกไปหาฝั่ง แต่ไปเจอพายุอีก
ต้องบินกลับมาเกาะที่เสากระโดงใหม่ เพื่อรอให้กำลังแข็งแกร่งกว่านี้

พายุน่ะคืออะไรรู้ไหม กิเลสไง แล้วที่ว่าให้แข็งแกร่งคือ กำลังของสมาธิ
คำเปรียบเทียบนี่สุดยอดจริงๆ มันต้องทำน่ะหมู ถึงจะเข้าใจสภาวะที่มีบันทึกไว้ว่าหมายถึงอะไร

says: ค่ะพี่ เอ่อพี่คะ อ่านยังงี้แล้วจิตหมูจะบันทึกไว้ถึงชาติหน้าไหม ลองคิดแล้ว

walai says: ตอบไม่ได้นะ แล้วแต่เหตุ

says: กิเลสนี่เพิ่งเข้าใจ ตอนไม่นานนี้เอง

walai says: ทำปัจจุบัน อย่าไปหวังที่จะเกิดอีกเลยค่ะ

says: ค่ะพี่ ก็ทำไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ เกิดอีกละค่ะ แต่ก็ไม่คิดจะคาดคั้นกับตัวเอง
เหมือนแต่ก่อน มันทุกข์

walai says: นั่นแหละ ทำต่อเนื่องไป ทำตามสภาวะระวังความอยาก มันเนียน
อย่าตอบโต้ อย่าเล่นกับกิเลส

says: จะพยายามค่ะ ต้องระวัง

walai says: สำรวม สังวร ระวัง ทำบ่อยๆจะชินไปเอง

says: ค่ะพี่ ช่วงนี้หมู นึกถึงก่อนเจอพี่น้ำบ่อยๆ หมายถึงสิ่งที่เคยอ่านเคยฝึกมา ฟังมากน่ะค่ะ
ตอนนี้มันจะมีคำตอบว่าอันนี้คืออะไร ตรงไหนที่ไม่ใช่

walai says: ดูไปค่ะ อย่าไปให้ค่า เพราะสภาวะจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ละเอียดมากขึ้น
แล้วคำว่าไม่ใช่หรือใช่ มันจะค่อยๆหายไปเอง แล้วจะมีแต่คำว่าเหตุกับผลขึ้นมาแทนที่
ยกเว้น สภาวะสังขารุที่พี่เล่าให้ฟังเมื่อกี้ นั่นคือของแท้ สภาวะจริงๆไม่มีเปลี่ยนค่ะ
นั่นคือประตูจริงๆ

says: ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่

walai says: เข้าใจพระพุทธเจ้าเลยนะ ที่ทรงตัดใจทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างหมด
ว่าทำไมทรงตัดใจ แล้วที่ใต้ต้นโพธิ์อีก การตัดใจครั้งที่ 2 ตายเป็นตาย

says: อันนั้นสุดยอด จะไม่ยอมลุกเลย

walai says: สุดท้ายพระองค์ก็ทรงได้คำตอบทั้งหมดด้วยตัวพระองค์เอง
อีกหน่อย หมูจะเข้าใจในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงอุทานตอนที่ อัญญาสิเห็นแล้วหนอๆ
ว่าที่ว่าเห็นนั้น เห็นอะไร

says: ขอบคุณค่ะ ถือเป็นกำลังใจละกันค่ะ

walai says: จ้ะ ผ่านไอ้มดกัดนี่ไปก่อนเถอะ

says กัดอยู่ดร้ายยยย แหม

walai says: เห็นไหมว่า ปฏิบัติ พอเข้าใจสภาวะแล้ว ทำตามสภาวะได้แล้ว
มันจะไม่ไปทุกข์กับสภาวะเหมือนเมื่อก่อน บางครั้งอาจจะมีทุกข์บ้าง แต่วางได้ไวขึ้น
ดับได้ไวมากขึ้น

says: ใช่ค่ะพี่ ยกเว้นตัวที่เรายึดติดมันมาก

walai says: เราเท่านั้นที่จะตอบตัวเองได้ว่า ติดอะไรอยู่ ติดตรงไหน กิเลสเบาบางลงไปแค่ไหน
ไม่ยอมรับความจริง เห็นแบบนี้ไม่ได้หรอก

says: ค่ะ ต้องยอมรับ ไม่งั้นก็กลบเกลื่อนไป นึกว่าตัวเองเลิศ

walai says: นั่นแหละ กิเลสมันหลอกเรา

says: แต่ก่อนก็คิดชั้นออกจะเป็นคนดีทำไมทุกข์จัง ตอนนั้นเชื่อจริงๆว่าตัวเองดีมากกกกกกกกกก

walai says: โดนกิเลสมันหลอกเอา

says: กิเลสตัวปลอม

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2010, 01:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


10 กค. 53


says: 60/15 ค่ะ
มีฟุ้งซ่านค่ะ ก็กำหนดรู้ค่ะ พยายามมีสติค่ะ แบบพอคิดแล้วออกจากกาย
ก็กำหนดรู้หนอ คือกำหนดตามอาการค่ะ ก็รู้เท้าก้าวเดินช่วงที่ชัดหรือต่อเนื่อง
เวทนาจะเยอะมากค่ะ พวกแสบๆเย็นๆผิว บางจุดก็แสบเย็น แปลบๆ บางจุดก็ร้อนผ่าว
บางจุดก็เจ็บเหมือนเข็มตำ แต่แสบเย็นจะเยอะสุด มายิบๆๆเลยค่ะ
แล้วก็หลังๆก็ไม่ค่อยมีแล้วตอนท้ายๆ ตอนที่เรามีสติรู้กายค่ะ เห็นจิตปรุงไวมาก ทั้งที่รู้กายอยู่
กำหนดรู้หนอทับไปค่ะทุกครั้ง

พอมานั่งค่ะ
รู้กายนั่งพยายามรู้กายไป แรกๆก็รู้อยู่หลังๆมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อกี้หลงไปนานแล้ว
ก็มาตั้งใจรู้กายต่อก็มีหลงไปอีก แล้วก็มารู้อีกค่ะว่าหลงไป

walai says: นั่ง 10 นาทีไปก่อนค่ะ ถ้าเดินน้อยกว่า 50 นาที ให้นั่ง 5 นาที
รู้กายได้ชัดเมื่อไหร่ ค่อยเพิ่มนั่งค่ะ

says: ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2010, 01:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


12 กค. 53

says: เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/10 ค่ะ
ก็วันนี้ฟุ้งนะคะ รู้เท้าแล้วมันแวบๆ ตลอด เป็นพวกแวบกระทบมาแล้วจิตมันก็เกิดกิเลส
อารมณ์ต่างๆ ก็กำหนดรู้หนอค่ะ แล้วหลังๆก็มีหลงไปตอนเดิน ก็มารู้กายใหม่ค่ะ
มีเหมือนเข็มตำจี๊ดแหลมๆ คัน แล้วหายไป ประปรายค่ะ แล้วก็ผ่าวร้อน สั่นๆ

พอมานั่งก็ รู้ท้องขยับในภาพกว้าง จากนั้นก็ไม่ค่อยมีกำลัง แต่ยังรู้ว่านั่ง กึ่งๆลอย
แล้วก็มารู้ได้ชัดขึ้นใหม่ แล้วก็เป็นอีก แล้วก็มารู้ชัดขึ้นใหม่ว่ากำลังนั่งยังไม่จับท้อง
มีง่วงลึกๆแต่ไม่มากค่ะ หมดแล้วค่ะ

walai says: เหนื่อยหรือเปล่าคะ

says: ค่ะวันนี้เหนื่อยค่ะ สอนเยอะ

walai says: ค่ะ รอบต่อไป จะเดินเท่าไหร่คะ

says: คงเหลือแค่ 20 ค่ะ ซอยสั้นๆ

walai says: นั่ง 5 พอนะคะ

says: เสร็จแล้วค่ะพี่ 20/5 ค่ะ ก็ฟุ้งค่ะ รู้เท้าได้ มีความกังวลในเรื่องที่ยังมาไม่ถึงก็กำหนดรู้หนอ
แล้วก็ มารู้กายต่อ

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่ง รู้ว่ากำลังนั่ง แล้วก็มีหลงไปคิดแบบรู้ว่าเฉออกไป แวบหนึ่งก็หายจากเฉ
แล้วอีกสักพักก็ไปอีกแวบ แล้วก็มารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ต่อ มันคลอๆค่ะ ไม่ได้หลงแบบเต็มที่
มีแรงขึ้นค่ะ ดีขึ้นแล้วละค่ะ

walai says: คิดว่าอยากจะไปพักน่ะค่ะ เลยบอกว่าไปพักได้ เพราะพี่เอง
เวลาเหนื่อยมากๆ อยากจะพัก

says: รอบแรกเหนื่อยน่ะค่ะ รอบสองแรงเริ่มมา การลงบันทึกมีประโยชน์จริงๆ
เป็นกำลังใจให้ตัวเองนะคะ

walai says: มันเอาไว้ตรวจสอบตัวเองได้น่ะหมูว่าสภาวะเปลี่ยนไปแค่ไหน

says: ค่ะนานๆทีก็ย้อนไปดู

walai says: พอย้อนกลับไปดูนะ บางทีคิดนะ ไม่น่าเล๊ย เพราะไม่รู้แท้ๆ เลยต้องทุกข์

says: ค่ะพี่ ก็จะเห็นรายละเอียดของหมูนะคะ แต่ไม่ค่อยกลับไปอ่านเท่าไร ยกเว้นนานๆที
ตอนนี้หมูเจริญสติ เพราะกลัวไม่ทัน คือกลัวขาดสติแล้วสร้างเหตุด้วยความไม่รู้น่ะค่ะ
เรื่องนิพพานมันไกลเกินไป แต่ตอนนี้พยายามเร่งสร้างสติ ให้ทันระงับเหตบางทีก็โง่เห็นๆเลยค่ะ

walai says: เอาใกล้ตัว เห็นๆนี่แหละ

says: ผ่านมาแล้วอ้าวตายเลย ค่ะพี่ผ่านมาแล้วคิดในใจว่าตายเลย
พลาดแล้วโหยไม่รู้ตัวเลย มันระลึกได้ว่าพลาด ตอนนั้นมันไม่รู้ผ่านแล้ว เฮ้ยก่อเหตุใหม่อีกแล้ว

walai says: เพราะในเมื่อนิพพานเป็นเรื่องที่เที่ยงแท้ มีแน่นอน แล้วจะไปหวังทำไม จะต้องไปอยากทำไม

says: อืมมสภาวะหมูยังไม่รู้สึกขนาดนั้นอะค่ะ สารภาพ แต่ว่าจะรู้สึกเอาไฟที่มันไหม้เนี่ย
กำลังเกิดเนี่ย เห็นๆเอาให้ทันก่อนค่ะ ทั้งกิเลสที่กำลังทำให้ใจมันรน กะเหตุใหม่ที่เป็นกรรมดำ
ส่วนกรรมดีนั้นเพื่อให้สติหนุนให้ปลอดโปร่งทางนี้

walai says: ไม่ทันก็รู้หนอไว้ก่อน อย่าปล่อยให้ผ่านไปแบบไม่ใส่ใจ ขึ้นชื่อว่าอกุศลกรรม
เล็กๆน้อยๆ เจตนาหรือไม่เจตนา ส่งผลหมด จิตบันทึกไว้หมด บางคนก็ทำจนกลายเป็นอาจิณกรรม
ทำแต่ไม่รู้ว่าทำ ชอบนำมาตอกย้ำลงไป จนกลายเป็นอาจิณกรรม

says: ค่ะพี่ น่ากลัวมากเลย
walai says:
นี่แหละอาจิณกรรม เวลาพูด เราต้องพูดแค่ตัวเรา เอาตามความเป็นจริง
ใครจะอะไรยังไงเรื่องของเขา

says: ช่วงนี้กลับมา ห ย าบ อีกละ อายตัวเองจิงๆ

walai says: กิเลสจะแบบนี้แหละ ถูกทดสอบตลอดเวลา พี่เองก็ยังมีนะ

says: ค่ะ พี่ พอเห็นเป็นแบบนี้ก็จะพยายามเจริญสติเพราะกิเลสมันเอาเราซึ่งๆหน้าเลย แบบยำกันเห็นๆ

walai says: ค่ะ ทำต่อไปค่ะ มันยังมีอะไรที่ให้เรียนรู้ตลอดเวลา คนที่หยุดทำ คือคนที่ตายแล้ว
ตายจากการเดินในเส้นทางนี้ อยู่ในวัฏฏะต่อไป

says: ยิ่งทำยิ่งเห็นว่ากิเลสมันน่ากลัวขนาดไหน ไวขนาดไหน

walai says: ใช่ค่ะ มันไว

says: ตอนนั้นที่ยกมาเล่าให้ฟังว่าเคยได้ยินคำเปรียบเทียบน่ะค่ะ เล่าให้พี่ฟัง
ที่บอกว่าเหมือนบุรุษเลี้ยงน้ำมันที่เต็มจอกไว้บนมือเดินอยู่
ท่ามกลางสิ่งกีดขวางที่ขวักไขว่แล้วมีนายเพชรฆาตตามหลัง
หากบุรุษนั้นทำหยดน้ำมันหกลงแม้นิดเดียวก็ถูกตัดหัว

ตอนนั้นก็เล่าให้พี่ฟังแล้วพี่บอกอ่านแล้วตื้อๆนะ กิเลสมันจะงาบเราตลอด
หมูก็ไม่เข้าใจนะคะ งาบไงหว่า

ตอนนี้ก็ไม่ได้เข้าใจร้อยแต่เริ่มลางๆ เมือเวลากำหนดเต็มที่ให้มีสติแล้วมันแวบไวมาก
ไปปรุงเผลอไม่ได้เลย แวบขนาดที่ยังไม่เป็นรูปร่างความคิดอะไรชัดเจนด้วยซ้ำแต่จิตไปแล้ว

walai says: จำไม่ได้นะ หมูเคยเล่าให้ฟังเหรอ

says: ใช่ค่ะ หมูจำได้เพราะพี่น้ำบอกอ่านแล้วมันตื้อๆ
หมูก็ค่ะแล้วคิดต่อในใจ ว่าจ้องงาบไงหว่า ไม่เห็นรู้เรื่องเลย

walai says: ก็เสร็จกิเลสมันไง ภพชาติเกิดทันที
แล้ว ที่หมูเอาถามเรื่องหญิงทอหูกน่ะ เขาอธิบายว่ายังไงเหรอ

says: ค่ะหมูเลยบอกว่าโห พี่น้ำตอบสั้นจัง
" เรียนรู้ให้ถามหญิงคันหูก" ในการทอผ้าจะต้องมีแบบแผนในการทอและทำลวดลายต้องมีครูคอยแนะนำและมีความอดทนในการทอจึงจะได้เป็นผืนยาวตามที่ต้องการ เหมือนกับการฝึกกรรมฐานจะต้องมีแบบแผนมีครูบาอาจารย์ต้องทำเป็นลำดับขั้นตอนและอดทนขยันในการฝึกไม่ละทิ้งกลางคันจึงจะสำเร็จลุล่วง

ทำถูกให้ถามเด็กเลี้ยงควาย" การเลี้ยงควายผู้เลี้ยงจะต้องต้อนควายไปหากินตอนเช้าและต้อนกลับตอนค่ำ รู้แหล่งทำเลอาหาร ต้องหมั่นสอดส่องดูแลระวังไม่ให้ควายหนีหายหรือไปหากินข้าวกินพืชผักของคนอื่น ต้องคอยหมั่นนับจำนวนไม่ให้หาย เหมือนกับการฝึกกรรมฐานจะต้องทำเป็นเวลา รู้จักเลือกในการเสพอารมณ์ไม่ให้ซัดส่ายไม่สมาคมกับอารมณ์ที่ชั่ว(นิวรณ์และอุปกิเลส) ต้องคอยระวังเรื่องของศีลและคำภาวนาไม่ให้หล่นหาย

"คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียวเดินทางเดียวไม่เหยียบรอยกัน" พระธรรมคำสอนเปรียบเหมือนบ่อน้ำที่ทุกคนที่ฝึกรรมฐานจะต้องดื่มกินแต่ทุกคนจะได้ผลไม่เท่ากัน และจะต้องผ่านลำดับขั้นตอนของสมาธิตั้งแต่ขณิกสมาธิไปจนถึงอุปจารสมาธิเหมือนกันแต่จะไม่เหมือนกันในเรื่องของการรวมของจิตบางคนจะเกิดวูบวาบตัวลอยเห็นแสง บางคนนั่งปุ๊บจิตรวมปั๊ปบางคนเกิดเวทนาฯลฯพอผ่านแล้วจิตจึงรวมก็มี บางคนนั่งสมาธิจิตนิ่งดี บางคนต้องเดินจงกรมจิตจึง


จึงนิ่ง บางคนต้องพิจารณาไตรลักษณ์ก่อนจิตจึงจะรวม บางคนใช้พุทโธจิตสงบบางคนต้องสัมมาอะระหังจิตจึงนิ่งเป็นต้นแม้แต่มรรคผลก็ได้ต่างกัน(โสดาผล สกิทาคาผล อนาคาผล อรหันตผล, สุขวิปัสสิโก วิชชาสาม วิชชาแปด ปฏิสัมภิทา)ไม่เท่ากัน แต่สุดท้ายคือหมดกิเลสเหมือนกัน

"นะอยู่หัวสามตัวอย่าละ นะอยู่ไหน ตามไปเอามาให้ได้" เปรียบเหมือนคุณพระรัตนตรัยคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ต้องเคารพบูชาอย่าละทิ้ง เปรียบเหมือนพระไตรปิฎกคือพระวินัย พระสูตร พระอภิธรรมที่ต้องศึกษาเป็นแนวทางกันหลง เปรียบเหมือนไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา(ภาวนา)จะต้องทำให้ได้ไปตามเอามาให้ได้จึงจะประสบผลสำเร็จ

walai says: นะ อยู่หัว 3 ตัวอย่าละ นะอยู่ไหน ตามเอามาให้ได้
แค่รู้จักยอมนะจ๊ะ ไม่ต้องไปตามหาเลย นโมไง นอบน้อม อันนี้หลวงพ่อสอนเอง
นโม ข้าจะไหว้ วรไตร รัตนา ใส่ไว้ในเกศา วรบาทมุนี
คุณะวรไตร ข้าใส่ไว้ในเกศี วรทมุนี ขออย่ามีที่โทสา

จำได้แค่นี้แหละ บทอาขยานตอนเด็กๆ

says: แค่นี้ก็เก่ง คล้องกัน คำยากด้วย

walai says: นโมค่ะ 3 ตัว

says: ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ

walai says: สมัยเด็กๆพี่เคยท่องนะ เดี๋ยวนี้อาจจะไม่มีแล้วมั๊ง

says: ค่ะไม่มี ตอนเรียนหมูไม่ได้เรียนแล้ว เพราะออก น่าเสียดาย

walai says: ตอนเด็กๆโดนท่องอขยานเยอะ เพราะต้องจำอักขระให้ได้
คนบรรยาย เขาก็ช่างบรรยายอ่ะนะ

says: หลายมุมมองเลยค่ะพี่
http://board.palungjit.com/f4/%E0%B8%9B ... 25591.html

walai says: อะไรๆก็ต้องจิตนิ่ง มันถึงได้หลงกันเพราะนิ่งนี่แหละ จิตซึมกระทือ

says ค่ะ เนี่ยในกระทู้มีคนมาแปล มากกว่า 1 คน

walai says: ค่ะ เดินทางเดียว ไม่เหยียบรอยกัน คือ ไปทางเดียวกัน แต่ไม่ซ้ำกัน
ล้วนเป็นไปตามเหตุที่แต่ละคนกระทำมา มันมีแค่นี้เอง เดินทางเดียวคือ นับตั้งแต่โสดาน่ะ
ไม่ต้องนิพพานหรอก

says: แล้วคน 3 บ้านละคะ

walai says: คน 3 บ้าน กินน้ำบ่เดียว เขาพูดถูกเรื่องสมาธิ คือที่จิตตัวเดียว
เกิดที่จิต สมาธิต่างระดับ พี่ไม่ค่อยสนใจเรื่องตรงนี้นะ เพราะเป็นการตีความเอาเอง
อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนก็ได้ เหมือนหญิงทอหูกน่ะ พี่พูดสั้นๆแค่นั้นแหละ ทำเดิมๆซ้ำๆ

says: ค่ะ ทอซ้ำๆไป

walai says: อยากทำถูก ต้องอย่าให้ปัญญามากเกิน ปัญญามากไป มีแต่ตัวกูรู้โผล่ตลอด
โง่เข้าไว้ คือไม่ต้องไปตอบโต้ใดๆ ทำแบบนี้เวลาคนเขามองเขาก็อาจจะว่าเราได้ว่าเรานั้นโง่

says: ใช่ค่ะ ใช่เลยยยย

walai says: โง่ที่ยอมเขาไม่ตอบโต้

says: ใช่ๆๆ หาว่าเราอ่อนแอ

walai says ค่ะ โง่เข้าไว้นี่แหละตัวตัดภพตัดชาติ ยิ่งฉลาดมากเท่าไหร่ ภพชาติยิ่งเกิดตลอด

says: แล้วคนเขาก็จะชอบข่มเราเพราะเราข่มได้ ก็ฝึกต่อไป

walai says:
เหตุมี ผลย่อมมี เหตุไม่มี ผลย่อมไม่มี อย่าโทษเขา แต่จงโทษตัวเองเนืองๆ

says: ก็เคยทำเขาไว้แหละค่ะ มีนิสัยนั้นติดมา

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2010, 03:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


13 กค. 53


รอบแรก 60/10 ค่ะพี่

วันนี้จิตใจไม่ดีโดนกระทบ เลยหงุดหงิด ร้อนใจ
พอมาเดินก็ยังมีความหงุดหงิด ทุรนทุรายใจ ร้อนๆ ติดมาค่ะ
ก็รู้เท้าไปสักพักใหญ่ ใจก็ค่อยเปลี่ยน เป็นเบาบางลง ยังรู้เท้าได้ และกำหนดรู้หนอช่วยเป็นระยะ
มีเจ็บๆกระดูก แปลบๆ ผิวกาย สั้นๆ

มานั่งก็รู้กายนั่งในภาพรวม และรู้ว่ากายเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ใจมีไปไร้สาระปรุงแต่ง แต่ยังไม่ทิ้งกายค่ะ แล้วก็หยุดไร้สาระ แล้วก็ไปไร้สาระใหม่ แล้วก็รู้อีก

รอบสอง 60/10 ค่ะ
เดินก็รู้เท้า มีฟุ้งซ่านค่ะ กำหนดรู้หนอช่วยเวลาฟุ้งมากเข้า
มีเหมือนมดกัดแต่ไม่ชัด มีแปลบๆแสบผิว บางช่วงก็กายชัด ความคิดเงียบๆ แล้วก็มาฟุ้งใหม่ค่ะ

พอมานั่งก็รู้อกเคลื่อนไหว มีหลงไปคิดไร้สาระ ลอยไป
แล้วก็มารู้อกเคลื่อนไหวต่อ มีนิมิตสีม่วง มาบ้างหายบ้ายังรุ้อกออยู่

อืมม พอมารอบสองนี้หวนไปคิดถึงความทุกข์ที่เกิดก่อนจะเจริญสติในรอบแรก
ก็รู้สึกว่ามันไม่เห็นจะมีอะไรเลย ใจมันเปลี่ยนเป็นคนละแบบเลย
โอ้โห วันนี้ดึกแล้วพี่น้ำยังไม่มา

walai said หมู

says: ค่ะพี่ เป็นห่วงน่ะค่ะเลยโทรไป แบบดึกผิดปกติ

walai says: ที่นี่เขามีเรื่องกันน่ะ จะเลิกปฏิบัติกันเป็นแถบๆ

says: อ้าว ทำไมละคะเกิดอะไรขึ้น

walai says: เป็นพี่เลี้ยงเหนื่อยนะหมู พี่ถึงบอกไงว่า เวลาของพี่กำลังถูกชดใช้ ถูกทดสอบ
นี่เองการถูกชดใช้อีกหนึ่งรูปแบบ พี่กำลังใช้หนี้ให้กับคนเหล่านี้ ต้องมาเป็นพี่เลี้ยงที่ยิ่งกว่าพี่เลี้ยง
เหนื่อยเป็นบ้า แทนที่จะได้ทำอะไรที่เป็นอิสระเหมือนก่อน นี่เปล่าเลย ทุกวันตอนเย็น โดนดักรอละ

says: ค่ะพี่ ก็เข้าใจว่าเหนื่อยแน่ๆ 5 ทุ่มกว่า ....

walai says: วันๆมีแต่เรื่องชาวบ้าน ทั้งๆที่พยายามอธิบาย ถ้าปากมันฉีกถึงหูได้นะ
มันคงฉีกไปนานแล้ว ไม่เคยเลยจะมาปรึกษาว่าทำแล้วเป็นยังไงบ้าง มีแต่เรื่องทะเลาะกัน

says: ค่ะ ได้อ่านในประสพการของเจ้าของร้านเกม ที่ว่าพูดเรื่องชาวบ้าน แล้วเคลียร์ลงตัวหรือยังคะ

walai says: สอนทางเน็ตนี่ดีกว่าเยอะเลย เบื่อคนมากๆ ไม่เคยดูตัวเองกันบ้างเลย
ทั้งๆที่พูดๆไปแล้วนะว่าใครล่ะคนสร้างเหตุ ไม่ไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเขา แล้วเขาจะมาด่าเราได้ไหม

says: เป็นพี่เลี้ยง นี่เหนื่อยจิงๆ มันจี๊ดนะคะ บางทีเจอบางคำถาม

walai says: พี่เบื่อนะ ไม่ได้จิ๊ด คือมีความรู้สึกว่า แทนที่เราจะมีเวลาไปทำอะไรของเราได้บ้าง
กลับต้องมานั่งฟังเรื่องชาวบ้าน ทั้งๆที่พูดแล้ว พูดอีก ว่าเหตุทั้งหมดเกิดจากอะไร
ใครเขามางัดปากตัวเองให้ไปพูดเรื่องชาวบ้านล่ะ ตัวเองทั้งนั้น

says: อืมเลยมีเรื่องกัน ขนาดจะเลิกปฎิบัติ
พี่น้ำคงเหนื่อยมากวันนี้ดึกจริงๆเลย ก็กลับถึงบ้านแล้วค่อยยังชั่ว
ถ้าพี่น้ำจะพักก็ตามสบายเลยนะคะ พี่ทำงานหนักแล้ววันนี้น่ะค่ะ

walai says: พี่นะ ถ้าไม่เมตตตานะ อยากจะพูดไปเลยว่า ถ้าคิดว่าทำแล้วชีวิตไม่ดี
จะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของเขา ถ้าคิดว่าไม่ทำแล้วชีวิตมีความสุขดี ก็จงทำตามที่ตัวเองต้องการ
พี่ไม่สนใจอยู่แล้วนะหมู เพราะอะไร ใครทำหรือไม่ทำ นั่นเหตุของเขา
ก็เขาดันไปอธิษฐานเองว่า ขอให้ได้ใช้หนี้จนหมดสิ้น

says: ค่ะพี่ กรี้ดดด โห

walai says: เขาไม่รู้ไง เรื่องการอธิษฐาน เลยโดนเต็มๆ

says: สยองงงงงงง

walai says: ใช่ สยองงง แล้วก็โดนจริงๆ สติเขายังไม่ทันก็เสร็จเลย เอาที่ไหนล่ะไปสู้น่ะ

says: ถอนคำอธิษฐานได้นี่คะ

walai says: บอกเขาแล้วค่ะ อย่าไปอธิษฐานแบบนั้น เท่ากับไปท้าทายเขา
ขอให้เรามีลูกค้า ให้ขอทีละอย่าง ขอให้มีปัญญา ขอแบบนี้ แต่อย่าไปขอใช้หนี้

says: ค่ะพี่ มาแบบรับไม่ไหว กี่ภพชาติละ

walai says: อย่าไปขอให้รวย เพราะรวยหรือจนอยู่ที่เราทำ
โดนหนักนะเขาน่ะ ทั้งโดนประจานด้วย ลั่นซอยเลยยย

says: ค่ะ ยิ่งขอยิ่ง โอโห แล้วพี่น้ำไปห้ามทัพเหรอคะ

walai says: เปล่าค่ะ พี่กลับมาตอนเย็น เขารอกันอยู่ สุดท้ายเลยรู้เหตุ
เนื่องจากว่า ร้านของเขานั้น อุปกรณ์ที่ใช้ในร้านน่ะ เพื่อนเขาปล่อยเงินกู้ ทีนี้คนที่ส่งไม่มีเงิน
จะขนของหนี เพื่อนเขารู้ว่าช่างจะเปิดร้าน ก็เลยพาคนนี้ไปยึดของจากคนที่จะหนีมาน่ะ
เอามาเปิดเป็นร้านของตัวเอง นี่แหละเหตุ

says: คือก็เหมือนไปเอาของเขามา ทำให้เขาเดือดร้อย

walai says: ใช่ ความทุกข์ของคนอื่น ไวนะ มาเจริญสตินี่ไวเป็นบ้า แสดงว่าเริ่มรวยย

says: เลยโดนทวง

walai says: เขาบอกว่า เขาก็เคยอธิษฐานแบบนี้ เมื่อก่อนนี้ไม่เห็นมีอะไร
พี่บอกว่ามันอาจจะมี แต่เขาไม่รู้ ตอนนี้บอกตามตรงนะ คนที่อยู่กับพี่ได้ คือคนที่ทำจริงๆ

says: ค่ะพี่ เข้าใจค่ะ

walai says: พี่ไม่อยากเหนื่อย เจอมาสองอาทิตย์นี่เบื่อจะแย่อยู่แล้ว คนมันวุ่นวายแบบนี้นี่เอง
ขออยู่ในรูดีกว่า พอเหนื่อยนะ รู้เลย บล็อกอะไรนี่ไม่อยากเขียน มันเบื่อ

says: ก็เวลาที่จะอยู่กะตัวเองมันน้อยนี่คะ

walai says: ใช่ค่ะ พรุ่งนี้ก่อน พี่กะจะพูดกับเขาแบบนี้แหละ ถ้ายังไม่จบนะ
ตราบใดที่ยังยุ่งเรื่องชาวบ้านนะ พี่คงช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนเขาจะทำหรือไม่ทำ
เรื่องของเขา พี่อยากได้ชีวิตปกติของพี่กลับคืนมา ไม่ใช่มีแต่เรื่องชาวบ้าน

says: คงมีคนที่แน่วแน่ คนที่ไม่ก็หลุดไป

walai says: ใช่หมู ปล่อยไปเลย
ก็ในเมื่อเขามีเหตุ ยังไงเขาต้องกลับมา ถ้าหมดเหตุ ยังไงเขาก็ต้องไป

says: ค่ะ การเจริญสติ ก็เมือนการแกว่งแขน ในเซนที่พี่เคยให้อ่าน ใครๆก็ทำได้ แต่ใครจะทำต่อเนื่อง

walai says: ใช่ค่ะ ใครล่ะมีความอดทนมากกว่ากัน แรกๆก็ต้องใช้ความอดทน
เพราะยังไม่คุ้นเคย พอคุ้นเคยแล้วสบาย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2010, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


18 กค. 53

ระหว่างวัน 30/5 และ 30/5 กลางคืน 30/5 และ 30/5
ระหว่างวัน 30/5 และ 30/5

รอบแรกมีฟุ้งบ้างชัดบ้าง หลงไปไปคิดเรื่องหนังที่ชอบบ้าง มดกัดบ้าง ตอนนั่งรู้ท้องขยับ หลงไปบ้าง แล้วก็กลับมารู้ แล้วก็มีนิมิตรสีม่วง รู้สึกนานมาก พบว่าเลยเวลามา 9 นาทีแล้ว

รอบสองนี่ทุกข์ตลอด เรื่องเพื่อนตีขึ้นมาอยากติดต่อเพื่อนมาก มีแต่ความทุกข์ ก็กำหนดรู้หนอ
ต้องกำหนดตลอดเพราะมาตลอดจนจบการเดิน ตอนนั่งรู้กายบ้างลอยบ้าง

30/5 ค่ะ
เดินแล้วรู้เท้าค่ะ มีภาพหนังผุดขึ้นมาเหมือนเราได้ดูค่ะ รู้เท้าด้วยค่ะ ก็เอาจิตรู้เท้าไป
มันก็ไม่ขึ้นแล้วค่ะภาพ สับกัน่ะค่ะที่มาอยู่กะกายได้ดี

แล้วก็ เกิดเวทนา เจ็บเนื้อกะตุกที่ท้องข้างใน หลายครั้งค่ะ เป็นจังหวะ ก็กำหนดรู้
สักพักนานพอควรก็หายไป แล้วเดินต่อค่ะ หลังๆก็เริ่มมีภาพ หรือแวบเรื่องโน้นเรื่องนี้ค่ะ แต่ยังรู้เท้าได้ค่ะ

พอมานั่งก็รู้ท้องขยับค่ะ ก็จับท้องได้ค่ะแบบไปจ่อใกล้ๆค่ะ
ลอยไปแปปหนึ่งก็กลับมารู้ท้องใหม่ค่ะ อันนี้รอบ 2 นะคะ


รอบแรกเดิน 30/5 เดินแล้วภาพหนังมันเข้ามาเป็นระยะ เดินรู้เท้าได้ บางทีก็เพลินไปกับภาพ
ที่เห็นมีความไม่พอใจ ที่หลงไปแบบนั้น กำหนดรู้หนอ มีมดกัด 2- 3 จุด

นั่งรู้กาย + หลงลอยไปแล้วมารู้กายอีก ลอยอีกมีง่วงๆ นิดหน่อย

เด๋วนี้ลืมง่ายมากเลยค่ะพี่ เนี่ยคัดมารายงานแล้วก็รู้สึกว่าเมื่อกี้เป็นแบบนี้เหรอ จำไม่ได้เลย

walai พูดว่า: สภาวะไหนชัด มันจะจำได้น่ะหมู จำได้โดยไม่ต้องจำ
ความแตกต่างของคำว่าเจริญสติกับเจริญสติปัฏฐาน

คำว่า เจริญสติ กับ คำว่า เจริญสติปัฏฐาน มีความแตกต่างกันคือ

เจริญ แปลว่า ทำให้มากขึ้น ทำให้เพิ่มขึ้น

ปัฏฐาน มาจากคำว่า ป + ฐาน
ป ในที่นี้ แปลว่า ประการต่างๆ
ฐาน หมายถึง ปัจจัยอันเป็นเหตุ
ดังนั้น ปัฏฐาน จึงหมายถึงปัจจัยมีประการต่างๆ อันเป็นเหตุ

http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/praapitham/7.html


การที่จิตไปรู้อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น(แล้วรู้)แสดงว่าเรากำลังเจริญสติใช้หรือเปล่าครับ


ถ้าว่าในแง่ของการฝึกเจริญสติ ถ้าเจ้าของกระทู้กำลังฝึกอยู่
การที่จิตไปรู้อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น นี่เรียกว่ามีสติ
แล้วรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น นี่เรียกว่า มีสัมปชัญญะ คือ รู้ชัดในสิ่งที่เกิดขึ้น
เราจึงต้องมาฝึกเจริญสติเพราะเหตุนี้ เพื่อจะได้มีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่ใน กาย เวทนา จิต ธรรม
แต่ในกรณีที่คนไม่ได้มาฝึกเจริญสติ อาจจะรู้ได้ แต่รู้ได้แค่เป็นระยะ ตามกำลังของสติ สัมปชัญญะที่มีอยู่


says: ค่ะใช่ หมูคิดว่ามันเหมือนกัน เจริญสติกะเจริญสติปัฎฐาน

walai says: ค่ะ มีเยอะค่ะที่เข้าใจกันแบบนั้น

says: อืมค่ะ แล้วเจริญสติ มันต่างตรงไหนอะคะ

walai says: ถามจริงๆนะ หมูได้อ่านที่พี่โพสใหม่หมดแล้วหรือยัง

says: เอ๋อ ขอดูอีกทีนะคะ
คำว่า เจริญสติ กับ คำว่า เจริญสติปัฏฐาน มีความแตกต่างกันคือ

เจริญ แปลว่า ทำให้มากขึ้น ทำให้เพิ่มขึ้น
ปัฏฐาน มาจากคำว่า ป + ฐาน
ป ในที่นี้ แปลว่า ประการต่างๆ
ฐาน หมายถึง ปัจจัยอันเป็นเหตุ
ดังนั้น ปัฏฐาน จึงหมายถึงปัจจัยมีประการต่างๆ อันเป็นเหตุ
ตรงนี้สิคะอ่านแล้วอะค่ะ

walai says: แล้วในลิงค์ ไม่ได้เข้าไปอ่านหรือคะ มันมีลิงค์อยู่น่ะ

says: กดแล้วค่ะ แต่ว่า มันยาก

walai says: เข้าใจละ สภาวะของหมูยังไม่ถึง

says: ค่ะงง

walai says: คำว่าเจริญสติน่ะ คือที่เราฝึกๆนี่แหละ ฝึกให้มีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่ในกาย เวทนา จิต ธรรม

says: ค่ะพี่

walai say:ส่วนเจริญสติปัฏฐานน่ะ นั่นคือ มีกำลังของสติ สัมปชัญญะในระดับหนึ่งแล้ว
จึงทำให้มีกำลังของสติ สัมปชัญญะ รู้อยู่ในกาย เวทนา จิต ธรรม ได้ตลอด

says: อ่าค่ะ แล้วก็จะเข้าใจปัจจัยต่างๆนั้น ใช่ไหมคะ

walai says: ใช่ค่ะ

says: อ่อค่ะ พึ่งรู้นะคะ นึกว่ามาเจริญสตินี่ก็คือเจริญสติปัฎฐานอยู่แล้ว
ที่แท้คือเริ่มจากการฝึกเจริญสติ แล้วพอมีกำลังแล้วค่อยไปเจริญสติปัฎฐาน

walai says: มันเป็นของมันเอง มันเกิดเอง ไม่ต้องแล้วค่อยไปทำแบบนั้นหรอกจ้ะ

says: ค่ะพี่ ขอบคุณค่ะไม่งั้นก็เข้าใจผิดนะนี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2010, 02:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


says: เสร็จรอบแรกค่ะพี่ 30/5
วันนี้มันรู้แบบลอยๆไม่ชัดหนักแน่นค่ะแล้วก็มีง่วงๆค่ะ มีมดกัดจิ๊ดหนึ่งค่ะ
มีนิยายที่ชอบผุดมาค่ะ พอเรารู้ว่าผุด เราก็รู้เท้าด้วยค่ะ ก็กำหนดรู้หนอเพื่อให้มันมารู้กายชัดขึ้น
มันก็ยังลอยๆอยู่ ก็กำหนดรู้หนออีก ก็รู้เท้าไปปนง่วงๆข้างในค่ะ
พอมานั่ง ก็รู้กายนั่งตอนต้นแป๊ปเดียวค่ะภาพรวม แล้วก็ลอยไปไม่ค่อยรู้สึกตัวค่ะ

รอบสอง เสร็จแล้วค่ะ 30/5ค่ะ
รอบนี้ก็ชัดขึ้นค่ะ ยังมีง่วงๆนิดหน่อย หลังๆก็ไม่แล้ว
มีมดกัดค่ะมีร้อนผ่าวนิดหน่อย
แล้วพอมานั่ง ก็รู้ท้องค่ะ คลอๆคิด แต่จะรู้ท้องได้ด้วย

walai says: วันนี้โดนสอบอารมณ์ พี่โดนสอบจ้ะ พระน่ะ
ท่านมาถามพี่ว่า โสดาบันรักษาศิลกี่ข้อ หมูตอบมาสิ

says: ทุกข้ออะค่ะ มีกี่ศีลรวมอยู่ใน พระโสดาบันหมด

walai says: คือ ท่านไปฟังมาน่ะ เลยอยากรู้ว่าพี่จะตอบว่ายังไง พี่บอกว่า ไม่ต้องรักษา

says: นั่นแหละค่ะ มันเลยแล้วนี่ค่ะ แค่รักษาจิต

walai says: เพราะศิลจะรักษาเอง

says: อันนี้ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าท่านรักษาจิต ก็จบแล้ว

walai says: หมู พี่เคยบอกแล้วไงว่า ถ้าสติ สัมปชัญญะดี หิริและโอตตัปปะจะมีกำลังมากขึ้น
ศิลย่อมสะอาดเอง ไม่ต้องมาเจาะจงรักษาใดๆ

says: ค่ะพี่ ความหมายแบบนี้นี่เอง ยังไงก็ไม่มีทางละเมิดศีลอยุ่แล้ว

walai says: ก็หิริโอตตัปปะมีกำลังตามสติ สัมปชัญญะ คือ สัมมาทิฏฐิไงหมู ความเห็นชอบ
การเห็นตามความเป็นจริงไง เมื่อหมูเห็นตามความเป็นจริง หมูต้องมาคอยระวังเรื่องศิลไหมล่ะ

says: ไม่แล้วค่ะเพราะเรารู้แล้วค่ะ ถ้าเราไม่รู้ ยังต้องใช้ศีลคุมอยู่ แบบ ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ

walai says: จ้ะ ไม่ต้องโสดาหรอกค่ะ ผู้ที่เจริญสตินี่แหละ ถ้าทำจริงๆ
ศิลจะรักษาตัวผู้กระทำเอง เอาแค่หมูตอนนี้แหละ เห็นไหม

says: อืมมม ก็ยังเลวอยู่มากค่ะ แต่ว่าจะคิดเยอะค่ะ เล็กๆน้อยๆก็จะระวังค่ะ

walai says: ความกลัวไง เพราะรู้แล้วจึงกลัว

says: ค่ะก็จะมีความคิดแย้งตลอดเวลาจะทำอะไรค่ะ

walai says: พี่เข้าใจนะบางครั้งทำให้เครียด พี่ถึงบอกไง แค่รู้ แค่ดู เอาไว้ก่อนดีที่สุด
ให้ค่า คือ มีเหตุแน่ๆ

says: ต้องฝึกอีกเรื่อยๆค่ะ ยังให้ค่าอัตโนมัติอยู่ค่ะ

walai says: ดีแล้วที่ยังกล้าพูดได้ว่าตัวเองยังเลวอยู่ เพราะตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส เรานั้นยังเลว

says: ค่ะ มันเป็นแบบนั้นค่ะ

walai says: เลวมาก เลวน้อย ตามกิเลสที่มีอยู่

says: กิเลสนี่ขูดยากมาก

walai says: มีคนชมว่าพี่เป็นคนดี พี่จะตอบเลยว่า เปล่าหรอก ที่ว่าดี เพราะถูกใจเขา
ตราบใดที่ยังมีกิเลส เรียกว่าดียังไม่ได้หรอก

says: ค่ะพี่ มันไม่ดีจริงๆ ก็รู้ว่ามีอะไรที่ไม่ดีบ้างค่ะต้องตั้งหน้าตั้งตาเจริญสติไป อย่างน้อยก็มีโอกาส
ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนอนจมกิเลส จริงๆก็ยังเสียใจเพราะยังมีเผลอปรามาสพระ แบบกดไม่อยู่
แต่ทำไงได้ ต้องสู้ต่อไป

walai says: ค่ะ ทุกอย่างมีเหตุ มีแต่สติ สัมปชัญญะเท่านั้นที่จะดับเหตุต่างๆลงไปได้
สติ สัมปชัญญะดี ได้สมาธิเพิ่ม มีกำลังหนุน

says: ค่ะพี่ กิเลสมันก็งัดเราตลอดนะคะ มันนำเราเสมอเลย

walai says: มันจ้องเราเลยแหละ ว่าตัวเองดีเมื่อไหร่ นั่นคือหลงแล้ว
แต่พอดีพี่ไม่เคยคิดว่าตัวเองดี เลยอยู่รอดมาได้

says: หมูมีเยอะเลย ตัวนี้ โดยไม่รูตัวน่ะค่ะ มาอีกที โอยโดนแรงๆ แล้วค่อยมารู้ว่าหลง ติดดีอีกแล้ว
ที่หมูร้องไห้วันนั้นน่ะติดดีค่ะ รับตัวเองไม่ได้ค่ะ เหมือนโดนฉีกหน้ากากน่ะค่ะ

walai says: คนชมว่าดี นั่นก็กิเลสเขา เขาว่าเราไม่ดี นั่นก็กิเลสเขา พอสติเราไม่ทัน ไปแล้ว
เอากิเลสเขามาเป็นกิเลสของตัวเอง ความยินดี ยินร้าย เกิดทันที เหตุใหม่เกิดแล้ว
กว่าจะแค่รู้ได้นี่ โอ๊ยยยย กินกิเลสจนตัวนี้จะกลิ้งได้

says:อืมมม นั่นสิคะ จนกว่าสติ สัมปัญ จะอยู่ตัวสิคะ

walai says:จนกว่าจะมั่นคง อย่าถามนะว่า มั่นคงนั้นแค่ไหน คำว่ามั่นคงของแต่ละคน มันไม่เท่ากัน

says: ไม่ถามหรอกค่ะ มันวัดไม่ได้

walai says: ชีวิตนี่นะ คิดแล้วอนาจใจจังเลย พี่ไม่อยากเกิดอีกแล้ว เหนื่อย

says: ค่ะพี่ ภาระน่ะค่ะ

walai says: ใช่ค่ะสภาวะมันสอนตลอดเลยนะ การที่ไปคลุกคลีเห็นชีวิตคนอื่นๆแล้ว
โห มันน่ากลัวนะ ความไม่รู้

says: ตอนเดินความกังวล เรื่องโน่นเรื่องนี่มันมีตลอดเลย รู้สึกว่ามีแต่ภ่ระไม่เป็นอิสระเลยค่ะ

walai says: ใช่หมู แต่ยังดีกว่าคนที่บวชพระ แต่ไม่ได้ปฏิบัติเลยนะ มีเยอะมากๆ
คิดแค่นี้ จะได้มีกำลังใจ

says: ค่ะพี่ ก็ยังดีที่ได้ทำ

walai says: ต้องเอาแง่ลบของคนอื่นๆมาเป็นแง่บวกสำหรับเราเอง

says: จะจำไว้ค่ะ เรายังมีโอกาส

walai says: ใช่ค่ะ มีความสุขเวลาปฏิบัติ สำหรับพี่นะ ตอนนี้มันเป็นแบบนั้น
พอมาเจอชีวิตชาวบ้าน โอ๊ยมีแต่ทุกข์นะ

says: ค่ะ ใช่ แหม คนมีทุกข์ทั้งนั้นค่ะที่ปฎิบัติส่วนใหญ่เลย

walai says: ค่ะ พี่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ทำเพราะทุกข์เหมือนกัน
เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าทุกข์

says: สอง สามวันนี้ เจอความอาลัยในตัวเพื่อนนี่ ทรมานมากเลยค่ะ แต่มันคือสิ่งที่ต้องเจออยู่แล้ว ทุกอย่างที่เรารักเลยใช่ไหมคะพี่

walai says: เจอตลอด สิ่งที่คิดว่าชอบมากที่สุด ยังมีอีก นี่ดีนะแค่เพื่อน ถ้ามีแฟนมันจะยิ่งกว่านี้

says: รอดไป

walai says: ดูพี่สิ ขนาดแค่ผูกพันนะ ข้ามภพข้ามชาติ

says: ค่ะพี่ อะไรที่เราต้องการมัน ติดมันมากที่สุดก็จะต้องปล่อยมัน

walai says: ทุกๆอย่างค่ะ

says: เพราะถูกบีบคั้น จนปล่อยสิคะ

walai says: เปล่าค่ะ เพราะเข้าใจค่ะ การถูกบีบคั้นคือการเรียนรู้

says: หมูรู้สึกเหมือนโดนบีบคั้น

walai says: ยึดมาก บีบคั้นมาก จริงๆแล้ว มันไม่เที่ยง

says: ค่ะ หมูรู้สึกเหมือนโดนบีบคั้น ให้เห็นทุกข์ของมัน

walai says: เพราะยังไม่เห็นตามความเป็นจริงไงคะ พี่ถึงบอกไง ดูตามความเป็นจริงไป

says: ขอบคุณค่ะ ตอนนี้หมูรู้แต่วิธีเจริญสติไปก่อนนะคะ

walai says: นั่นแหละ ดีที่สุด มีแค่นั้นเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 113 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 52 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร