วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2011, 09:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2011, 22:44
โพสต์: 26

อายุ: 12

 ข้อมูลส่วนตัว


พอรู้เท่าทันมันยังไงมันก็เกิดเกิดเสร็จมันอยากก็รูว่าอยากแต่ว่ามันไม่หายซะที
อย่างงี้ต้องใช้ขันติใช่ไหมครับๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2011, 14:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


กามราคะนี้ โดยทั่วไปก็จะเกิดขึ้นจากอายตนะทั้งหกไปรู้ทราบมา และส่วนที่สำคัญที่เป็นบ่อเกิดให้รู้คือ ตา ตาไปเห็นรูปมา ไม่ว่ารุปใหญ่ หรือรูปอาศัยล่ะ เกิดติดเป็นสัญญามา ตัวสัญญานี้แหละกำลังแผงฤทธิ์เดช อยู่ในความคิดจินตะ ถ้าคิดปรุงแต่งไปทางดีก็เป็นสัญญาดี แต่หากคิดปรุงแต่งไปในทางที่ไม่ดี คือคล้อยตามสัญญาที่เคยเห็นนั้น ก็จะเป็นสัญญาที่ไม่ดี ลองขัดใจเจ้าความคิดนี้ดูสิ ฝึกให้เขาน้อมนำคิดไปในทางดี ความคิดก็จะค่อยๆเป็นสัมมาสังกัปโปได้ หากปล่อยไปตามตัวสัญญาจนเกิดเป็นอารมณ์ครอบงำแล้วจะเป็นสัมมาสังกัปโป๊ๆนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2011, 15:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


สัญญาที่กำลังคิดปรุงแต่งนั้น เป็นของปลอมแล้วนะ โปะความไม่เที่ยง เป็นทุกข์เพราะคล้อยตามความไม่เที่ยง ความไม่เที่ยงนั้นไม่ใช่ตัวตน โปะ โบ๊ะๆเข้าไปไว้ในตัวสัญญานั้นก่อน จิตเขาไม่ได้ปรุงนะเรื่องแบบนี้ แต่ไปปรุงแต่งจิตเอง อย่าคล้อยตามซี่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2011, 17:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


สละทางโลก เขียน:
พอรู้เท่าทันมันยังไงมันก็เกิดเกิดเสร็จมันอยากก็รูว่าอยากแต่ว่ามันไม่หายซะที
อย่างงี้ต้องใช้ขันติใช่ไหมครับๆๆ

ไม่หายเพราะัยังยึดติดอารมณ์ที่ถูกรู้ และยังหลงกับตัวรู้ผู้รู้
ไม่ได้ภาวนาให้หาย ให้อารมณ์ดับ แต่เข้าใจว่ามันบังคับ
ไม่ได้ เพราะมันจะเกิดก็เกิดตามเหตุตามปัจจัย เช่นเิกิด
จากกามวิตก มันปรุงแต่งขึ้นมา ไปปรุงแต่งมันขึ้นมาฯลฯ

สติไม่ระลึก ปัญญาไม่รู้ชัด ในสภาพในลักษณะที่ ความตรึก
ตรองความคิดนึก ที่่เนื่องด้วยกาม พอมันปรากฏขึ้นมาเสร็จ
เป็นความคิด เป็นกามวิตกเรียบร้อยแล้ว ที่นี้เลือดลมมันก็เดิน
วูบๆ วาบๆ เพราะความที่มี กามวิตกเป็นเหตุเป็นปัจจัย

เหมือนๆ กับตอนที่สติไม่ได้ระลึก ปัญญาก็ไม่รู้ชัด ในสภาพธรรม
ในลักษณะที่ ปราศจากความตรึกตรอง คิดนึก ที่เนื่องด้วยกาม
ไม่มีอารมณ์ของกาม เป็น เนกขัมมะวิตก (ว่างจากกาม)
เลือดลมก็ไม่หวั่นไม่ไหว ไม่วูบๆ วาบๆ เพราะความที่ ไม่มีกามวิตก
เป็นเหตุเป็นปัจจัย

พอกำลังสติอ่อนอย่างนี้ตัวรู้ ผู้รู้ผู้ดูยังหลงอยู่อย่างนี้
เวลาจิตมีราคะ ก็จะไม่รู้ว่าจิตมีราคะ หรือจิตไม่มีราคะก็ไม่รู้
ว่าจิตไม่มีราคะ อารมณ์มันปรากฏชัดขึ้นมาที่กายบ้างแล้ว
ที่อารมณ์ที่เวทนาถูกต้องเข้าแล้ว เลยจิต หรือเลยกามวิตก
ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุเป็นปัจจัยบังคับไม่ได้อย่างนี้

ก็เลยไม่มีสติปัฏฐานพิจารณาสภาพธรรม มีแต่สติธรรมดาๆ
ระลึกได้รู้ได้ยึดได้ด้วย ว่าสภาพจิต สภาพอารมณ์ที่เนื่องด้วย
กามนี้เป็นตัวตน เป็นเราของเรา พอมีอาการยังหลงตัวรู้ผู้รู้
อย่างนี้แล้ว ก็แน่นอนที่จะยังยึดยังติดกับอารมณ์ไปด้วยอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้ พื้นฐานยังไม่ดีพอ ก็ต้องขันติ ไม่ล่วงศีล
ไม่ประพฤติอนาจาร ต่อคนอื่นๆ แสดงอาการออกมาจนน่า
เกลียดก็โอเคแล้วครับ อนาคามีภูมิ ครับ มันถึงจะไม่มี ขนาด
อริยบุคคลชั้นโสดาบันยัง มีกามราคะอยู่

ฝึกสติปัฏฐาน รู้ให้เท่าทันให้ชัดแจ้งครับ อันนี้ยังรู้ยังเห็นมีเรา
ไปเกี่ยวข้อง มันก็ยังเนื่องกันไป มีอารมณ์ผสมปนเปไป แยกไม่
ออกหรอกครับ ว่ารู้หรือคิด ถ้าสติปัฏฐาน รู้ัชัด ไม่จบตรงที่
รู้กาย รู้เวทนา หรือมารู้ที่จิต ไม่ใช่เรา มันสลัดดีดทันทีปล่อย
ทันที แต่ถ้าเป็นสติธรรมดาๆ ไม่มีสลัด ไม่มีดีดออก เพราะมันยัง
คิด ยังรู้ ยังพิจารณาในมุมเดิม มุมที่ยังหลงตัวรู้ผู้รู้ และยังยึดยัง
ติดกับอารมณ์ที่ถูกรู้ เจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้ามีราคะก็รู้ว่ามีราคะ ถ้าอยากให้ราคะดับก็อยากรู้ให้ราคะดับ พอกำหนดรู้แล้วก็วาง กำหนดรู้แล้วก็วาง
ไม่ต้องตามไปดูมันจนสิ้นสุดก็ได้ เพราะว่าถ้าจะดูจิตนั้น จิตมันไม่มีความคิดมีแต่รู้สึกแค่นั้น

ถ้าจะกำหนดรู้แล้ว ใช้ขันติในการละอาสวะก็ได้ การละอาสวะมีตั้งหลายประการ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2011, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สละทางโลก เขียน:
พอรู้เท่าทันมันยังไงมันก็เกิดเกิดเสร็จมันอยากก็รูว่าอยากแต่ว่ามันไม่หายซะที
อย่างงี้ต้องใช้ขันติใช่ไหมครับๆๆ


ครับ ปัญญิณทรีย์ ยังไม่แก่กล้าครับ พยายามต่อไป ครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 17:33
โพสต์: 85

โฮมเพจ: บล๊อก
แนวปฏิบัติ: กายปสาทรูป และวิสยรูป ๗ คือ สี เสียง กลิ่น รส เย็นร้อน อ่อนแข็ง ตึงไหว สังเกตุการเกิดดับที่ละขณะ
งานอดิเรก: ฟังธรรมะ อ่านหนังสือธรรมะ ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปรมัตถธรรม ๔ โดยสังเขป ของ อ.สุจินต์
อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วการพิจารณาดูอสุภะล่ะคะ ช่วยในเรื่องการลดกามราคะได้หรือเปล่าคะ

อนุโมทนาค่ะ

.....................................................
กายอ่อนน้อม ใจระลึกถึงพระคุณ
เปิดตาให้รับแสงแห่งพระธรรม เปิดหูให้ได้ยินเสียงสำเนียงธรรม เปิดปากพูดจาสนทนาธรรม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร