วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 21:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2010, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 07:19
โพสต์: 89


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48:


แก้ไขล่าสุดโดย อานาปานา เมื่อ 24 เม.ย. 2011, 07:37, แก้ไขแล้ว 5 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2010, 06:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 07:19
โพสต์: 89


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48:


แก้ไขล่าสุดโดย อานาปานา เมื่อ 24 เม.ย. 2011, 07:36, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2010, 07:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: :b48: :b48:
เล่าสู่...กัลฯ...ฟัง
วันหยุด..สบาย..สบาย...ไม่ต้องเครียด...
เก็บตก..จากการเดินจงกรม..บนขุนเขาอภัยคีรี :b41:


บรรยากาศดีจริง ๆ :b1:
ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ...



หลังจากอัพโหลดภาพเข้าเครื่อง..ก็จำเรื่องราวของวันนั้นได้
เเล้วเสียงมาจากไหนหนอ???

เเล้วภาพที่เลื่อนได้ล่ะ...



:b1: เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ค่ะ...

ยากที่จะระบุแน่นอนว่าเป็นด้วยเหตุใด...
แต่ที่แน่ ๆ ในบริเวณพื้นที่ที่มีลักษณะเช่นนั้น...
มวลของอากาศ ความกดอากาศ และ ตำแหน่งตามธรรมชาติ...
ซึ่ง...ธรรมชาติคือสื่อ...เสียงเดินทางด้วยมีอากาศ(สภาพอากาศ)เป็นตัวกลาง
แสงก็เช่นเดียวกัน... นั่นคือ...มีความเป็นไปได้ที่สื่อกลางภายนอกก่อให้เกิด...

กับอีกสิ่งก็คือ ตัวรับ ก็คือ เรา...ผู้ที่เกิดผัสสะ...
ตรงนี้... เอกอนพอจะเข้าใจ แต่ยังไม่ชัดแจ้ง ตัดเรื่องหาคำตอบว่าเสียงนั้น
ภาพนั้นจะสื่อถึงอะไร เพราะสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการรับรู้ก็คืออายตนะ...
เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติ...ตั้งข้อสังเกตไว้...จะเป็นประโยชน์...
เพราะ...ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดได้ง่าย...
เอกอน...เรียกว่า... "ความเห็นที่แตกต่าง ผิดเพี้ยนไปจากปกติ"

นั่นคือ...เบื้องต้นที่เอกอนเริ่มเกิดข้อกังขา ... ว่า ปกตินั้น คือเช่นไรกันแน่...

เราจำ...การทำงานของอายตนะต่าง ๆ เข้าใจการทำงานของอายตนะต่าง ๆ
แต่...ไม่ว่าเราจะจำอย่างไร เข้าใจอย่างไร...อายตนะก็ทำงานตามความเป็นเช่นนั้นของมัน...
แม้ว่าเราจะให้คำจำกัดความมันว่าอย่างไร...ก็ตาม...

:b1: ขอให้โชคดีในการศึกษาทางธรรมค่ะ... :b1:

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2010, 09:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โมทนาบุญกับคุณอานาปานา..ด้วยครับ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2010, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 07:19
โพสต์: 89


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48:


แก้ไขล่าสุดโดย อานาปานา เมื่อ 24 เม.ย. 2011, 07:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2010, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2010, 17:16
โพสต์: 177

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุ คะ ท่านอานาปานา:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2010, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 07:19
โพสต์: 89


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48:


แก้ไขล่าสุดโดย อานาปานา เมื่อ 24 เม.ย. 2011, 07:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 01:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 07:19
โพสต์: 89


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
:b48: :b48: :b48:
เอกอน...เรียกว่า... "ความเห็นที่แตกต่าง ผิดเพี้ยนไปจาก ปกติ"

นั่นคือ...เบื้องต้นที่..เอกอนเริ่มเกิดข้อกังขา ... ว่า ปกตินั้น คือเช่นไรกันแน่...

:b1: ขอให้โชคดีในการศึกษาทางธรรม..มีกับคุณ eragon_joe เช่นกัน... :b1:
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย อานาปานา เมื่อ 01 พ.ย. 2010, 10:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2010, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2010, 07:19
โพสต์: 89


 ข้อมูลส่วนตัว


:b48:


แก้ไขล่าสุดโดย อานาปานา เมื่อ 06 พ.ย. 2010, 11:46, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 11:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มี.ค. 2012, 17:36
โพสต์: 210


 ข้อมูลส่วนตัว


วิสุทธิปาละ เขียน:
อ้างคำพูด:
ปุถุชน ที่เพียรปฏิบัติธรรม..สามารถเข้าใจปัญญาเบื้องต้น นามรูปปริเฉทญาน ได้อย่างไร?
เเละ สามารถมองเห็นปรมัตถธรรม(ยกเว้นนิพพาน)ได้หรือไม่ ด้วยวิธีอะไร?
ปุถุชน ผู้ปฏิบัติธรรม..มีความเพียรสั่งสมอินทรีย์พละ..เพื่อที่เจริญองค์ธรรมให้พร้อมในอนาคต มีความชำนาญในสมถกรรมฐาน จนสามารถเข้าถึงที่สุดของสมถฯ เเล้วที่สุดของวิปัสสนาญาณขั้นใด??..ที่ปุุถุชนสามารถทำได้ถึง
ปุถุชน ที่เพียรปฏิบัติธรรม สะสมอินทรีย์พละ ก็ไม่สามารถที่จะ ละสังโยชน์ข้อที่ ๑ สักกายะทิฐิ ได้เลย อย่างนั้นหรือ?...
หากปุถุชน ผู้นั้นเจริญวิปัสสนากรรมฐาน สามารถเห็นรูปนามเเยกจากกันได้จะเรียกว่าอะไรดี?...
หากไม่เป็นการรบกวน ท่านฯ พอจะทบทวนคำถาม เเล้วให้คำตอบในส่วนของปุถุชนจะได้มั้ย?

อย่าเรียกว่าเป็นการให้คำตอบเลยครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติแล้วกันนะครับ :b16: :b46: :b46: :b46:

ขอปูพื้นซักเล็กน้อยเผื่อผู้อ่านที่พึ่งจะศึกษาธรรมะแวะเข้ามานะครับ :b38: :b37: :b46:

คำว่า ปุถุชน ตามรากศัพท์ถึงแม้จะแปลว่า คนหนา คือ ผู้ที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส แต่ระดับความหนาของกิเลสก็ไม่เท่ากันในแต่ละคน หรือคนเดียวกันก็ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งต้องอาศัยการปฏิบัติธรรมเป็นเครื่องขูดลอกให้กิเลสค่อยๆบางลงจนเลื่อนชั้นจากปุถุชนเป็นอริยชน :b51: :b53:

การขูดเกลากิเลส พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ให้จำได้ง่ายๆ ๓ ขั้นตามที่เราทราบกันเป็นอย่างดีในโอวาทปาฏิโมกข์ :b46: :b46: :b41: :b42:

:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ๑ (ได้แก่ อกุสลกรรมบถ ๑๐)
กุสลสฺสูปสมฺปทา การทำกุศลให้ถึงพร้อม ๑ (ได้แก่ กุสลกรรมบถ ๑๐)
สจิตฺตปริโยทปนํ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ๑ (ได้แก่ เจริญสมถะและวิปัสสนา ด้วยปัญญาอันยิ่ง)
เอตํ พุทฺธานสาสนํฯ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย :b8: :b8: :b8:

ง่ายๆคือ ไม่ทำชั่ว ทำดี และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ :b46: :b46: :b46:

อย่างไรก็ตาม การไม่ทำชั่ว และการทำดี เป็นเพียงปัจจัยในการเกื้อหนุนให้พัฒนาจากปุถุชน ไปเป็นอริยชนเท่านั้น (แต่ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญและขาดไม่ได้ (necessary but not sufficient) ซึ่งหลายข้อ สะท้อนมาในรูปของทศบารมีนะครับ) ส่วนที่เป็นเหตุจริงๆ ได้แก่ การปฏิบัติภาวนาเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ขาวรอบ ด้วยการเจริญสมถะและวิปัสสนา ด้วยปัญญาอันยิ่ง โดยเทียบสมถะ และวิปัสสนาได้ด้วยตัวอย่างจากนิทานเซนที่มีชื่อเสียงบทหนึ่ง (อาจจะไม่ใกล้คียงนัก แต่พอล้อกันไปได้ครับ) :b40: :b44: :b46: :b46:

จิตใจเปรียบเหมือนกระจกใสบานหนึ่งที่มีฝุ่นเข้ามาจับเป็นคราวๆให้หมอง เปรียบฝุ่นได้กับกิเลสคือ นิวรณ์ต่างๆ, โลภ โกรธ หลง ที่จรเข้ามาจับเป็นบางครั้งและทำให้จิตใจขุ่นมัว ไม่ใสบริสุทธิ์ ซึ่งการทำจิตใจให้บริสุทธิ์นั้น ทำได้ใน ๒ ระดับคือ :b41: :b41:

๑) หมั่นเช็ดถูกระจกเนืองๆอย่าให้ฝุ่นจับ คือการดับกิเลสด้วยการใช้องค์ธรรมที่เป็นเครื่องสงบระงับจิต (สมถะ) กดข่มให้ใจเป็นสุข (วิขัมภนะ) เช่น โกรธ, เสียใจก็อย่าเก็บไปคิดให้ใจหมอง หรือการใช้องค์ธรรมตรงข้ามเพื่อให้จิตสงบระงับ (ตทังคะ) เช่น โกรธก็แผ่เมตตาให้อภัย เพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ แช่มชื่นเบิกบาน :b46: :b46: :b46:

๒) ทำให้ไม่เหลือกระจกให้ฝุ่นจับ คือการดับกิเลสอย่างตัดขาด (สมุจเฉทะ) ด้วยการเจริญสติที่พร้อมด้วยธรรมอื่นๆอย่างถูกต้อง (มรรค ๘) จนจิตเกิดปัญญาเห็นว่าไม่มี “เรา” ซึ่งเป็นผู้ทุกข์ (คือ ไม่มีกระจกให้ฝุ่นจับ) จนถึงการหลุดพ้นทางจิตอย่างสิ้นเชิงเพราะไม่ยึดกายใจ (ปฏิปัสสัทธิ + นิสรณะ) จิตใจจะเบา สะอาด สว่าง สงบ เป็นสุขเบิกบาน บริสุทธิ์อย่างแท้จริง :b46: :b46: :b46: :b41:

(แต่วิปัสสนาภาวนา เพื่อให้ไม่เหลือกระจกให้ฝุ่นจับนั้น จะต้องอาศัยกำลังของสมถภาวนา เป็นบาทฐานด้วยนะครับ) :b46: :b46: :b46:

.....................................................
กระบี่อยู่ที่ใจ : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 41 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร