วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2010, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดี สมาชิกทุกท่าน ค่ะ
พอดีเรากำลังฝึกเพ่งกสิณ "โอทาตกสิณ" แต่มีข้อสงสัยอยู่นิดนึงว่า เวลาที่เราปฏิบัติกิจในประจำวัน เมื่อมีเวลาว่างจากกิจนั้น ๆ สามารถปฏิบัติได้หรือไม่ เพราะองค์กสิณนั้น ติดตา ติดใจ สามารถระลึกนึกถึงได้ตลอดเวลา หรือจะต้องปฏิบัติด้วยการนั่งเพ่งองค์กสิณที่อยู่ที่บ้านเท่านั้น

รบกวนท่านผู้มีประสบการณ์ตรง ชี้แนะด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม :b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2010, 14:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ต้องพิจารณาก่อนครับ ถ้ากิจในชีวิตประจำวัน ตาหูจมูกลิ้่นกายใจ ไ่ม่มีอะไรเข้ามากระทบสัมผัสมาก หรือกระทบกระทั้งก็เป็นโสมนัสเวทนาไป ก็พอจะทำได้ ที่จะทำให้อุปจารสมาธิถดถอยก็เพราะทวาร ๖ กระทบรับรู้อารมณ์อื่นๆ เว้นโอทาตํ เป็นอารมณ์ไปเสีย คือติดตาติดใจบ้าง ไม่ติดบ้าง ติดแต่ไม่นานก็ตกภวังค์ มีรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพารมณ์ ธรรมารมณ์อื่น ๆ เข้ามาขึ้นมาูสู่วิถีรับรู้ของใจแทน อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ ก็เกิดยาก

เว้นไว้แต่ผู้มีวาสนาบารมีเก่า มีของเก่า กำหนดไม่นาน นิมิตสามอย่างก็ปรากฏ ก็มีบริกรรมนิมิต(อาศัยคำบริกรรม โอทาตํๆ สีขาวๆ จนติดปากลืมตาหลับตาก็เห็นบ้างไม่เห็นบ้างในกสินที่ทำนิมิตเครืองหมายเอาไว้ แต่เกิดได้ไม่นาน) เป็นแต่เพียงสมาธิหยาบ ๆ ชั่วขณะ ๆ

อุคคหนมิต(ทิ้งคำบริกรรม จิตจดจ่อหลับตาลืมตา ก็ไม่มีอารมณ์บัญญัติภายนอกใด ๆ มารบกวน จิตแนบไปกับอารมณ์คือ สันฐานลักษณะ ดวงกสินที่พิจารณาอยู่ด้วยใจ (มโนทวาราวัชชนะจิต) หลับตาลืมตาก็เห็นชัดเจนขึ้นด้วยใจ ในดวงสีขาวของกสิน โดยสภาวะ นิวรณ์กิเลสก็คอย ๆ ถูกครอบงำข่มลงไปโดยลำดับ ) เป็นสมาธิระดับกลาง ๆ จวนจะถึงอุปจารสมาธิตั้งมั่นขึ้ัน

ปฏิภาคนิมิต(โดยสภาวะนิวรณ์กิเลสก็ค่อย ๆ ถูกข่มระงับด้วยอำนาจสมาธิ จนจิตรวมและมี นิมิตบัญญัติ สีขาวของโอทาตํกสิน นั้นบริสุทธิผุดผ่อง สว่างกว่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เป็นอารมณ์ ตั้งมั่นด้วยอุปจารสมาธิคือระงับนิวรณ์ลงไปโดยลำดับ สำเร็จด้วยอุปจารสมาธิที่ถึงแล้วตั้ังมั่นแล้ว) แต่ยังไม่ถึงอัปปนาสมาธิ ต่อเมื่อ ประคองจิต ประคองปฏิภาคนิมิตนี้ อยู่ในสถานที่เหมาะสมเช่นที่บ้าน ก็สามารถเข้าออก กำหนดนิมิตต่าง ๆ ด้วยความชำนาญ เมื่อบรรลุถึง อัปปนาสมาธิ

ทำโอทาตํ สีขาวให้เป็นอารมณ์นั่นเองเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ตัดภวังค์มีองค์ธรรมคือวิตกวิจารปิติสุขเอกัคคตา บรรลุปฐมฌานเป็นอาทิกัมมิกฌานวิถีเป็นผู้ได้ฌานนั้นครั้งแรก โอนโคตรปุถุชนสู่ พรหมบุคคล ที่จะแสดงวิถีต่อไปเป็นวิถีที่เิกิดทางมโนทวาราวัชชนะจิต เบื้องต้นที่พุทธฏีกาแสดงคือหาก ในชีวิตประจำวันเกิดกระทบรับรู้อารมณ์มาก

ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจต่อจาก (มโน) (ช)=ชวนะจิตก็จะเสพอารมณ์ทางทวารทั้ง ๖ โคจรในกามวิถี แล้วพอมีเวลา่ว่างจากกิจ จะมาภาวนาต่อ ก็ต้องอาศัยความเพียรความสัปปายะพอสมควร ถึงจะเกิดอุปจารสมาธิ จนถึงอัปปนาสมาธิได้ เมื่อบรรลุ ฌานจิต มหัคคตจิตแล้วโดยปฐมฌานก็สามารถเอาเป็นบาทฐานเจริญวิปัสสนกรรมฐาน พิจารณากามธาตุ รูปธาตุทั้งปวงนี้ ว่าเป็นสภาพที่ยังต้องปรุงแต่ง ยังต้องเสื่อม เป็นความไม่เที่ยง มีแล้วก็กลับไม่มี เป็นทุกข์บีบคั้นตั้งอยู่ไม่ได้ เป็นอนัตตาไม่ใช่สภาพสัตว์ตัวตนบุคคลเราเขา เพื่อรู้แจ้งอริยสัจธรรม กำหนดรู้ทุกข์ ละสมุทัย แจ้งนิโรธ(คือความดับตัณหาอุปาทาน) ทำมรรค ๘ ให้เจริญตรงสู่พระนิพพานเจริญพร.


ความหมายของอักษรย่อ น=ภวังคจลนะ(ภวังค์ไหว),ท=ภวังคุปัจเฉทะ(ตัดกระแสภวังค์),มโน=มโนทวาราวัชชนะ(ติดสินอารมณ์),บริ=บริกรรม,อุป=อุปจาระ,อนุ=อนุโลม,โค=โคตรภู,ฌ= ฌานจิต


(ม) (ท) (มโน) (ช) (ช) (ช) (ช) (ช) (ช) (ช) (ต) (ต) (ภ) = กามวิถี บริกรรม อุปจาร อนุโลม



(ม) (ท) (มโน) (บริ) (อุป) (อนุ) (โค) (ฌ) (ภ) = อัปปนาโลกียวิถีของมันทบุคคล

(ม) (ท) (มโน) (อุป) (อนุ) (โค) (ฌ) (ภ) = อัปปนาโลกียวิถีของติกขบุคคล




รูปภาพ




Credit image by :
http://gallery.palungjit.com/showphoto.php?photo=2224

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: กราบมนัสการ พระคุณเจ้า

ขอขอบพระคุณในความเมตตาของพระคุณเจ้า โยมจะน้อมนำไปปฏิบัติเจ้าค่ะ หากโยมมีความสงสัยหรือมีปัญหาจากการปฏิบัติ ขอ
อนุญาติสอบถามขอคำแนะนำอีกนะเจ้าคะ ตอนนี้โยมนั่งเพ่งทุกวัน ประมาณ 10 นาที เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร แต่ก็ก้าวหน้า
ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เริ่มเห็นนิมิตรเป็นรูปวงแหวนชัดเจนขึ้นแต่ยังไม่สว่างเหมือนดวงจันทร์เต็มดวง ....จะเพียรต่อไปเจ้าค่ะ
:b8: กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม :b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 45 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร