วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 07:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 19:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 18:56
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ ผม ก็เหมือนชื่อนั่นแหละครับและวกวนอยู่กับการเริ่มต้นอย่างนี้มา 4 รอบใหญ่ๆแล้วครับ เพราะเวลาที่ผมเริ่มปฎิบัติทีไรก็จะเริ่มต้นดีมากๆและการปฎิบัติของผมต้องหยุดลงทุกครั้งด้วยอาการปวดหัว หรือไม่ก็มีเหมือนก้อนแข็งๆที่เคลื่อนตามหัว หรือใบหน้า มันกดแรงมาก เหมือนจะทะลุออกมาอะครับ มันทำให้ผม ต้องหยุดทุกครั้ง และเลิกไปหลายเดือน พอกลับมา เริ่มใหม่ก็จะเป็น อย่างนี้อีกซ้ำๆ อะครับ ช่วยหาทางแก้ปัญหาให้หน่อยนะครับ ผมเสียดายเวลาเพราะทุกครั้งจะทำได้ ประมาณ7 วันอย่างต่อเนื่อง วันละ 1-2-3 ชมประมาณนี้อะครับ

โปรดช่วยผมด้วยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้เริ่มต้น มีเวลาคลิกๆ อ่านสภาวธรรม ซึ่งปรากฏแก่ผู้ภาวนาที่นี่ดูก่อนดิครับ

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?board=3.0

คุณใช้คำภาวนาพุทโธ ใช่ไหมครับเนี่ย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 14 ต.ค. 2010, 19:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2010, 14:19
โพสต์: 55

แนวปฏิบัติ: พุทโธ,ดูจิต
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: แอน
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ เราก็เป็นผู้หนึ่งที่เป็นผู้เพิ่งเริ่ม เพิ่มเริ่มเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ นั่งแบบสมถะจะปวดหัว จิตก็ไม่นิ่งเลย ตอนหลัง ๆ เปลี่ยนมานั่งเเบบวิปัสนา แต่ก็ยังไม่ทราบแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเท่าไร รู้สึกสับสน รู้สึกเสียเวลา คิดว่าที่เราทำอยู่ทุกวันถูกหรือป่าว
ยังไงขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนธรรมด้วยกันนะคะ สู้ ๆ ต่อไปเผื่อหนทางไปสู่พระนิพพานนะคะ อิอิ
tongue tongue tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจตนาคุณจะทำเพื่ออะไรครับ หรือไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆเหมือนชาวพุทธส่วนใหญ่ :b1: :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าแต่นั่งท่าไหนหรือครับ แล้วภาวนาแบบไหน เวลาหลับจิตคิดถึงเรื่องไรบ้างครับ
:b48: ....

นั่งสักวันละครึ่งชม. ก้พอ หรือไม่ก้เดินจงกรมบ้าง ก่อนที่จะมานั่งหลับตา cool การวางจิตควรวางไว้
บริเวณกลางตัวคือลิ้นปี่ หรือไม่ก้ตรงหัวใจเรานี่แหละ ถ้ากำหนดคำบริกรรมให้บริกรรมให้ช้าที่สุดเท่าที่จะ
ช้าได้เพื่อให้สติเด่นชัดขึ้นมาก่อน อย่าเพิ่งอยากรีบให้จิตสงบเร็วๆ :b23:

ถึงตอนที่จิตสงบแล้วอาการปวดหัวโผล่มาให้ดูความร้สึกปวดไปด้วยตรงหัวนี่แหละ เพ่งเบาๆพออย่าแรง
ไม่ใช้กล้ามเนื้อตาในการเพ่งมากจนเกินไป ขณะปวดเมื้อรู้ว่าปวดให้รู้เท่าทันความจริงที่ปวดมากโดยกำหนดปวดหนอ ๆ ๆ สักห้าครั้งช้าๆ เท่าที่จะช้าได้ แต่เมื่อกำหนดแล้วไม่หายปวดยิ่งปวด ก้ให้เลิกทำ
อย่าฝืนทำต่อ จากนั้นเมื่อดีขึ้นแล้ว วันหลังก้หัดมาทำสมาธิแบบเดิมอีก หายใจช้า แล้วเมื่อปวดให้กำหนดปวดหนอแบบเดิมสักห้าครั้งหรือสิบครั้งก้ได้ เมื่อไม่หายปวดก้หยุดทำ แล้ววันหลังดีขึ้นก้ให้มาทำแบบนี้ซ้ำๆ จนรู้สึกเคยชินกับความปวด รู้สึกเหมือนว่าความปวดไม่ได้ทำให้จิตที่เปนสมาธิปวดตามไปด้วยจะถือว่าดีมากเลย แต่ให้ทำเท่าที่ทำได้นะครับ เมื่อปวดจนกำหนดไม่ไหวก้หยุดครับ แต่เมื่อกลับมาทำก้กำหนดปวดหนอในช่วงที่ปวดหัวที่สุดให้ได้สักอย่างน้อยห้าครั้ง ห้าปวดหนอ แล้วไม่ไหวก้ค่อยเลิก
แต่ถ้ากำหนดทนต่อความปวดได้ก้ให้ท่องปวดหนอติดต่อกันไปเรื่อยจนถึงสิบครั้งหรือตามที่ตนพอใจได้
ทันที เรียกว่าฝืนได้ก้ฝืน แต่ถ้าไม่ไหวจริงก้ห้ามฝืนครับจะทำให้ปวดจนเกร้งและทำให้ไม่สบายได้ มีฝืนบ้าง ผ่อนบ้าง หาความพอดีในการทำให้ได้ก้แล้วกัน...... :b44:

และอีกอย่างก่อนทำสมาธิอย่าเพิ่งรีบไปนั่งสวดมนต์สักบทก่อน เช่นสวดพาหุงก่อน สวดแล้วค่อยนั่ง
สวดให้มีกำลังใจก่อน สติสัมปช้ญญะเมื่อนั่งสมาธิแล้วจะได้เกิดตามมาได้ง่ายและเมือ่ปวดก้สามารถควม
ความปวดทั้งที่กายและที่ใจได้นานขึ้นเองครับ :b40:

อีกอย่างทำสักไม่เกินครึ่งชม.ก้พอ หรือแบ่งเวลาทำสัก สองครั้งต่อวัน ครั้งละ 1/2 ชม อย่างนี้ก้ทำได้นะ หรือทำครั้งละ20 นาทีก้ได้ แต่หลายๆเวลา ไม่ต้องนั่งรวดเดียว1-2 ชมหรอกครับ เพราะการตั้งใจให้นั่งเอาปริมาณเปนชม.ๆ บางครั้งก้ทำให้เราเครียดตั้งแต่เริ่มนั่งนาทีแรกแล้ว :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2010, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
...นั่งสักวันละครึ่งชม. ก้พอ...


นั่ง 10 นาทีก็ได้ ตอนเราเริ่มใหม่ๆ ใช้ฟังเพลงชินบัญชร ฟังจบเพลงก็ได้ 10 นาที... หลังๆ ฟังทั้งอัลบั้มก็ซักครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวนี้ก็ยังฟังอยู่ :b32: :b32: :b32:
แต่เพิ่มเพลงกวนอิมด้วย ประมาณ 20 นาที เพลงธิเบตถ้าฟังใหม่ๆ ตัวจะร้อนๆ แต่ถ้าจะเอาสงบจริงๆ ก็อานาปานสตินี่แหล่ะ

ฝึกสมาธิไม่ใช่ฝึกทุกขเวทนา ปวดหัวก็เลิก เดี๋ยวค่อยมาฝึกใหม่ พอชินๆ ไปก็หายเอง ฝืนมากๆ ระวังจะบ้า ฮิฮิ :b32: :b32: :b32:
เพียรแบบสบายๆ เข้าใจปะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2010, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นั่งทำสมาธิไม่ได้ ก็เดินทำสมาธิเอาก็ได้ เดินไม่ได้ก็นอนทำก็ได้ หลังจากทำสมาธิเสร็จแล้วก็แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรด้วย แนะนำควรถือศีลอย่างน้อยศีล5 ให้เคร่งคัด ไปทำบุญด้วย (ทำให้ถูกต้องด้วย)อ้อแล้วนึกกับไปดูว่าเราไปทำใครไว้เกี่ยวกับศรีษะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2010, 06:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 14:54
โพสต์: 126

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool ผมเป็นผู้กำลังหาทางที่จะหมดจากภพภูมิเหมือนกัน ก็พอจะแนะนำตามกำลังความสามารถของตัวเองได้บ้าง คือการนั่งสมาธิตามแนวการฝึกของสมถะนั้นเป็นการฝึกแบบระงับนิวรณ์หรือเป็นการกดข่มนิวรณ์ ๕ ให้สงบ โดยเอาสติไปจับอยู่ที่ ลมหายใจบ้าง รูปนิมิตบ้าง คำภาวนาบ้าง ในการปฏิบัตินั้นก่อนอื่นเราต้องทำตัวและร่างกายให้สบายก่อน วางภาระต่างๆให้หมด นั่งลงขัดบันลังสมาธิหลับตาสำรวจดูนิวรณ์ทั้ง ๕ ว่ามีสิ่งใดค้างอยู่ ใช้อุบายแยบคายวางทิ้งนิวรณ์ไป ถ้านั้งโดยกำหนดลมหายใจผสมกับคำภาวนาก็ให้ดูที่ลมหายใจก่อนคือการกระทบของลมเข้าและลมออกจากฐาน ๓ ฐาน ๓ คือ ปลายจมูก หรือ โพงจมูก ลำคอ และ ปลายที่ลมเข้าไปถึง ( ผมเรียกไม่ถูก ) เมื่อเข้ากระทบก็รู้ จากการกระทบ เมื่อออกก็รู้จากการกระทบไล่ออกมา เมื่อค้นหาเจอดีแล้วให้รวมเป็นหนึ่งเดียวคือที่ปลายจมูกหรือในโพลงจมูก ใส่คำภาวนาเข้าไป ปล่อยจิตใจให้สบายตามดูลมหายใจที่กระทบเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา ถ้าจิตมันฟุ้งออกไปก็ปล่อยเขาไปก่อนแล้วค่อยๆดึงกลับมา อย่าข่มไว้จะทำให้ปวดหัว ถ้ามีอาการปวดหัวมากก็แก้ด้วยการนั่งสมาธิโดยฟังธรรมบรรยายที่เห็นมีประโยชน์ปลอยอารมณ์ตามธรรมนั้นอาจหายปวดได้ แต่ให้จำไว้อย่างหนึ่งว่านั่งสมาธิวันนี้ พรุ่งนี้ย่อมต่างกันไม่มีเหมือนกันเลย เพราะทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไปได้ การฝึกสมาธิโดยทั่วไปบุคคลย่อมหาอุบายที่แยบคายของตัวเองได้เองตามนิสัยและจริตของตนเอง ขออนุโมทนาผลบุญ และเป็นกำลังใจให้นะครับ
ตัวตนเราไม่มีเขาไม่มี รูปกระทบทวารทั้ง ๖ จิตรับรู้ เจตสิกปรุงแต่ง หักมันตรงจิตว่าสิ่งต่างๆที่กระทบมันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เจตสิกก็จะหยุดการปรุงแต่ง จิตก็หยุดการยึดมั่นปล่อยวาง ความสุขที่แท้จริงจะเกิดแก่จิตเอง :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2010, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปวดหัวอาจเกิดได้จาก
1. ภาวนาแบบกดมากๆ หรือเพ่งมาก
2. วิริยะเกิน (100 คน อาจจะมีซักคน)
3. ปวดโดยตัวสภาวะของมันเอง

ลองภาวนาเบาๆ ไม่ต้องกลัวว่าจิตจะหลุดออกไปจากองค์บริกรรม หลุดก็ดึงกลับมา
ถ้ายังปวดก็ดูไปในจุดที่ปวดในหัว อาจจะใช้คำบริกรรมปวดหนอหรือไม่ใช้ก็ได้แล้วแต่ถนัด
ดูไปซักพักก็จะเจอจุดเล็กๆ ที่เป็นต้นตอแห่งความปวด เพียรกำหนดไปเรื่อยๆ ความทรมานจะหายไป
เหลือเฉพาะความรู้สึกปวด คือปวดแต่ไม่ทรมาน เหมือนดูคนอื่นปวด กำหนดไปเรื่อยๆ มันจะหายหรือไม่หายก็ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องหยุดปฏิบัติแล้ว มันปวดได้มันก็หายได้ครับ

ผมไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาแนว ปฏิบัติให้น้อยลงทั้งที่ปฏิบัติน้อยอยู่แล้ว เจอเวทนาแล้วหนี ปวดก็เลิกแล้วเข้าข้างตัวเองว่าเป็นการทรมานตนให้ลำบาก เวทนาบังคับบัญชาบ่ได้นะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย อายะ เมื่อ 19 ต.ค. 2010, 09:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มี.ค. 2012, 17:36
โพสต์: 210


 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
ปวดหัวอาจเกิดได้จาก
1. ภาวนาแบบกดมากๆ หรือเพ่งมาก
2. วิริยะเกิน (100 คน อาจจะมีซักคน)
3. ปวดโดยตัวสภาวะของมันเอง

ลองภาวนาเบาๆ ไม่ต้องกลัวว่าจิตจะหลุดออกไปจากองค์บริกรรม หลุดก็ดึงกลับมา
ถ้ายังปวดก็ดูไปในจุดที่ปวดในหัว อาจจะใช้คำบริกรรมปวดหนอหรือไม่ใช้ก็ได้แล้วแต่ถนัด
ดูไปซักพักก็จะเจอจุดเล็กๆ ที่เป็นต้นตอแห่งความปวด เพียรกำหนดไปเรื่อยๆ ความทรมานจะหายไป
เหลือเฉพาะความรู้สึกปวด คือปวดแต่ไม่ทรมาน เหมือนดูคนอื่นปวด กำหนดไปเรื่อยๆ มันจะหายหรือไม่หายก็ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องหยุดปฏิบัติแล้ว มันปวดได้มันก็หายได้ครับ

ผมไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาแนว ปฏิบัติให้น้อยลงทั้งที่ปฏิบัติน้อยอยู่แล้ว เจอเวทนาแล้วหนี ปวดก็เลิกแล้วเข้าข้างตัวเองว่าเป็นการทรมานตนให้ลำบาก เวทนาบังคับบัญชาบ่ได้นะครับ

:b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
กระบี่อยู่ที่ใจ : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร