วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 170 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อวานนี้ ขณะนั่งกำหนดลมหายใจ "พองหนอ" "ยุบหนอ" ได้ประมาณ 10 กว่านาที รู้สึกเหมือนร่างกายด้านซ้ายขวาถูกบีบเข้าหากัน หลังจากนั้นตัวก็โยกไปมาซ้ายขวาอย่าง ๆ ช้า คอก็โยก (โยกจริง)เหมือนตัวอ่อนคออ่อนมากเลย จึงกำหนดว่า "โยกหนอ ๆ" เมื่อครบ 20 นาที จึงอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาก็ยังโยกอยู่ ตอนเลิกนั่งใหม่ ๆ ก็ยังรู้สึกว่าโยก และประมาณ 3-4 นาทีก่อนหมดเวลา จะไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ ๆ"

วันนี้ตอนที่เริ่มนั่งใหม่ ๆ กำหนดลมหายใจได้ประมาณ 6-7 นาที ก็ไม่รู้สึกว่าหายใจ จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ" ผ่านไปประมาณนาทีที่ 14-15 ตัวค่อย ๆ อ่อนค้อมลงไปช้า ๆ จนหัวแตะพื้น ไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงจึงดึงตัวกลับขึ้นมานั่งตามเดิม กำหนด "นั่งหนอ ๆ" ได้ 4-5 ครั้ง ตัวก็ค้อมลงไปอีก คราวนี้ไม่ได้ดึงตัวกลับขึ้นมา แต่กำหนดว่า "ตัวค้อมหนอ" จนครบ 20 นาที ระหว่างการแผ่อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตา มีตัวโยกคอโยกเล็กน้อย เลิกนั่งสักพักจึงหาย

:b10: การไม่รู้สึกว่าหายใจคืออะไรคะ
:b14: และควรทำอย่างไรกับอาการค้อมตัวลงคะ

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 04 ก.พ. 2010, 12:13, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณรินควรเพิ่มจุดกำหนดอีกจุดหนึ่งเป็น ๓ จุดควบไปด้วยกันนะครับ

ดูตัวอย่าง พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ, พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ ฯลฯ

(นั่งหนอ ...ดูกายที่นั่งอยู่ทั้งหมด แวบเห็นรูป)

พองหนอ+ ยุบหนอ+นั่งหนอ, พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ ฯลฯ

(ลบไฟล์รูปภาพ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 12 ธ.ค. 2011, 20:54, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เมื่อวานนี้ ขณะนั่งกำหนดลมหายใจ "พองหนอ" "ยุบหนอ" ได้ประมาณ 10 กว่านาที
รู้สึกเหมือนร่างกายด้านซ้ายขวาถูกบีบเข้าหากัน



จับหลักให้ได้ รู้สึกอย่างไร กำหนดรู้ตามนั้นอย่างนั้น :b1:

รู้สึกว่า ร่างกายบีบ “บีบหนอๆๆๆ” แค่นี้เอง กำหนดแล้วๆกันจบ
เอาสติมาเกาะจับที่พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ ต่อไปใหม่

เมื่อรู้สึกอย่างนั้นอีก “บีบหนอๆๆๆ” อีก กำหนดตามที่รู้สึกนั้นแล้ว ก็พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอต่อไป
ไม่รู้สึกบีบ ก็ไม่ต้องกำหนด


อ้างคำพูด:
หลังจากนั้น ตัวก็โยกไปมาซ้ายขวาอย่าง ๆ ช้า คอก็โยก (โยกจริง) เหมือนตัวอ่อนคออ่อนมากเลย จึงกำหนดว่า "โยกหนอ ๆ" เมื่อครบ 20 นาที จึงอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตา ก็ยังโยกอยู่ ตอนเลิกนั่งใหม่ ๆ ก็ยังรู้สึกว่าโยก และประมาณ 3-4 นาทีก่อนหมดเวลา จะไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ ๆ"



เดินจงกรมระยะที่ ๑ บ้างนะครับ
เดินสัก ๒๐ นาที หรือ มากกว่านั้นสักหน่อยก็ได้ช่วงนี้ (เพราะสมาธิมากล้ำองค์ธรรมอื่นด้วย)
แล้วค่อยนั่ง ๒๐ นาที
เดินเร็วนิดหนึ่งก็ได้ ซ้าย ย่าง หนอ ขวา ย่าง หนอ ฯลฯ ไปจนครบ ๒๐ นาที

ดังกล่าวก่อนหน้าว่า คุณเพิ่มจุดกำหนดรูปนั่งอีกจุดหนึ่งได้แล้ว เป็นสามจุด
พองหนอ + ยุบหนอ + นั่งหนอ , พองหนอ + ยุบหนอ + นั่งหนอ

ตัวอย่าง เมื่อกำลังพองหนอ +ยุบหนอ +นั่งหนอ...แล้วตัวโยก คอโยก ตัวเอียง เป็นต้นขึ้นมา

“โยกหนอๆๆๆ” ซักสาม-สี่ครั้ง ละวาง มาจับ พองหนอ + ยุบหนอ, นั่งหนอ
หากยังมีอาการโยกอยู่ ก็ พองหนอ + ยุบหนอ,โยกหนอ
(พลิกแพลงวิธีการกำหนดตามความรู้สึกในขณะนั้นๆได้ แนะวิธีกว้างๆไว้)

เมื่อตัวโยก คอโยก เป็นต้น มิใช่กำหนดตัวโยก...อย่างเดียวนะครับ
กำหนดพองหนอ + ยุบหนอ, นั่งหนอด้วย


อ้างคำพูด:
ประมาณ 3-4 นาทีก่อนหมดเวลา จะไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ ๆ"



ได้ครับ เมื่อพองยุบหายไปนะครับ ก็เกาะรูปนั่งภาวนา “นั่งหนอๆๆ” ได้
เมื่อกระทบอารมณ์อื่นใดอีกด้วย ก็ภาวนาควบไปด้วยกัน เช่น นั่งหนอ “เสียงหนอ” เมื่อได้ยินเสียงเป็นต้น เมื่อพองยุบปรากฏแล้ว พองหนอ + ยุบหนอ, นั่งหนอ ต่อใหม่


อ้างคำพูด:
วันนี้ตอนที่เริ่มนั่งใหม่ ๆ กำหนดลมหายใจได้ประมาณ 6-7 นาที ก็ไม่รู้สึกว่าหายใจ
จึงกำหนดว่า "นั่งหนอ" ผ่านไปประมาณนาทีที่ 14-15 ตัวค่อย ๆ อ่อนค้อมลงไปช้า ๆ
จนหัวแตะพื้น ไม่แน่ใจว่า ต้องทำยังไง จึงดึงตัวกลับขึ้นมานั่งตามเดิม
กำหนด "นั่งหนอ ๆ" ได้ 4-5 ครั้ง ตัวก็ค้อมลงไปอีก

คราวนี้ไม่ได้ดึงตัวกลับขึ้นมา แต่กำหนดว่า "ตัวค้อมหนอ" จนครบ 20 นาที
ระหว่างการ แผ่อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตา มีตัวโยกคอโยกเล็กน้อย เลิกนั่งสักพักจึงหาย



สภาวธรรมที่ปรากฏตามที่เล่ามาทั้งหมด ไม่มีอะไรผิดปกติ ธรรมดาของมัน

เมื่อปฏิบัติมาถึงตรงนี้สภาพก็ปรากฏเป็นอย่างนั้น

เมื่อธรรมชาติเป็นอย่างนั้น ก็เป็นอย่างนั้น เราก็กำหนดรู้ตามที่มันเป็น

เช่นว่า รู้สึกเหมือน ไม่หายใจ (ความจริงยังหายใจอยู่ แต่ลมเข้าออกละเอียดเบาบาง จนเราจับ
ไม่ได้) จนเกาะพองหนอ+ ยุบหนอ ไม่ได้

เมื่อมากำหนดรูปนั่ง (อย่างเดียวตามที่บอก) รูปก็เป็นอย่างนั้นเสียอีก จึงทำให้งง ไม่รู้จะเอาไงดี

ตัวอย่างเช่นว่า
ทีแรกจับพองยุบไม่ได้ มาจับรูปนั่ง รูปนั่งก็น้อมลงจนหัวถึงพื้น

อุบายในการปฏิบัติ พองยุบหาย มาเกาจับรูปนั่ง นั่งหนอ ๆๆ
ขณะที่กำหนดนั่งหนอๆๆ อยู่ ให้สังเกตดูพองยุบด้วย เมื่อพองยุบคืน ก็เกาะจับ
พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ ต่อไปใหม่

เมื่อร่างกายโน้มลง กำหนดพองหนอ+ยุบหนอ ก้มหนอ
พองหนอ+ยุบหนอ + ก้มหนอ - (กำหนดอาการที่ร่างกายก้มนั้นแวบหลังจากยุบหนอ...)

พองหนอ+ยุบหนอ + ก้มหนอ - (กำหนดรู้รูปที่ก้มสักสามสี่ครั้ง แล้วปล่อย คือ กำหนดแล้วกัน พองหนอ ยุบหนอ ไป เมื่อรูปที่โน้มนั้นก็คืน ก็พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ
หากยังโน้มอยู่ จิตไปสนใจก็กำหนดตามอาการ ไม่พึงฝืนขึ้นโดยไม่กำหนด กำหนดจิตตามอาการ
อย่างเดียว )

ประเด็นนี้ไม่ชัดเจนตรงไหนถามเพิ่มเดิมได้นะขอรับ


อ้างคำพูด:
การไม่รู้สึกว่าหายใจคืออะไรคะ


ตอบไปแล้ว ยังหายใจครับ แต่ลมเข้าออกบางเบาละเอียด


อ้างคำพูด:
และควรทำอย่างไรกับอาการค้อมตัวลงคะ


ตอบไปแล้ว คือกำหนดควบกับอารมณ์อื่นที่กระทบ หรือ ควบกับพองยุบที่ปรากฏแล้ว


ป ล. คุณปฏิบัติก้าวหน้าไปตามลำดับ ลืมถามว่า คุณรินเริ่มทำมาได้กี่วัน กี่เดือนแล้วครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 ส.ค. 2009, 20:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณค่ะ :b8:


[/quote]ป ล. คุณปฏิบัติก้าวหน้าไปตามลำดับ ลืมถามว่า คุณรินเริ่มทำมาได้กี่วัน กี่เดือนแล้วครับ[/quote]


ประมาณ 1 เดือนหรือมากกว่านี้ซักเล็กน้อยค่ะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจปฏิบัติกรรมฐานหรอกค่ะ ไปโหลดเสียงสวดมนต์ประกอบดนตรีจากเว็บฟังธรรม แล้วฟังก่อนนอนค่ะ ชอบฟังเพลงพุทธคุณ นโมตัสสะ นโมพาหุงมหากา และพระโพธิ์แก้ว (เพลงบรรเลง) ฟังแรกๆ ใจก็สงบดี ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ใจสงบขึ้นอีก และรู้สึกว่าตัวพองนิดๆ แต่คิดว่าคงไม่เป็นไร รู้สึกว่าตัวพองประมาณ 1 อาทิตย์ ก็เกิดความคิดจะปฏิบัติกรรมฐาน เพราะคิดว่าใจสงบกว่าตอนที่ไม่ฟังเสียงสวดมนต์บ้างแล้ว เลยไปค้นหนังสือและเปิดอ่านเว็บธรรมะ ถึงรู้ว่าอาการรู้สึกว่าตัวพองเป็นปีติ เลยเข้ามาเว็บนี้ เจอคุณกรัชกายนี่แหละค่ะ

เหมือนที่คุณกรัชกายบอกจริง ๆ ถ้าเกิดสภาวะใดขึ้นแล้วไม่กำหนดจิตตามสภาวะนั้นจะไม่ก้าวหน้า ตอนนั้นถ้าไม่คิดปฏิบัติกรรมฐานก็คงได้แค่รู้สึกตัวพองอยู่อย่างนั้น



กรัชกาย เขียน:
อุบายในการปฏิบัติ พองยุบหาย มาจับนั่งหนอ ๆๆ (หากมีอารมณ์อื่นกระทบก็กำหนดด้วย เช่นเสียง เป็นต้น) ขณะที่กำหนดนั่งหนอๆๆ อยู่ ให้สังเกตดูพองยุบด้วย เมื่อพองยุบคืน
ก็เกาะจับ พองหนอ+ยุบหนอ+นั่งหนอ ต่อไปใหม่


:b10: ถ้าพองยุบไม่คืนมาจะทำยังไงคะ? เป็นไปได้ไหมคะที่พองยุบจะไม่คืนมา

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 08 พ.ค. 2010, 21:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าพองยุบไม่คืนมาจะทำยังไงคะ? เป็นไปได้ไหมคะที่พองยุบจะไม่คืนมา



คืนครับ ล้าน % ไม่ว่าลมหายใจหรือรูปที่โน้มลง กำหนดตามนั้นก่อนระยะนี้ แล้วต่อไปจะนั่งตรงดิ่งเอง

อย่ากังวลไปเลย รูปนาม หรือ กายใจนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ สลายไป ฯลฯ ตามกฏของมัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นวิธีที่ไม่ค่อยคุ้น... เลยตอบไม่ได้ฮับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เหมือนที่คุณกรัชกายบอกจริง ๆ ถ้าเกิดสภาวะใดขึ้นแล้วไม่กำหนดจิตตามสภาวะนั้นจะไม่ก้าวหน้า
ตอนนั้นถ้าไม่คิดปฏิบัติกรรมฐานก็คงได้แค่รู้สึกตัวพองอยู่อย่างนั้น



หากยึดติดในสิ่งที่ดีก็พอได้ ดีกว่าไปยึดติดสิ่งที่เป็นภาระแก่กายใจ

มีบางคนยึดติดถือมั่นภาวะที่เป็นภาระแก่กายใจ แม้ใช้ชีวิตประจำวันก็รบกวนจนทำงานไม่ได้ ไม่สะดวก

ตัวอย่างมีครับ โทษของอุปาทานละเอียดครับ





คุณรินรสเริ่มต้นจากลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=24320

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


l

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 06 ส.ค. 2009, 22:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหมือนที่คุณกรัชกายบอกจริง ๆ ถ้าเกิดสภาวะใดขึ้นแล้วไม่กำหนดจิตตามสภาวะนั้นจะไม่ก้าวหน้า
ตอนนั้นถ้าไม่คิดปฏิบัติกรรมฐานก็คงได้แค่รู้สึกตัวพองอยู่อย่างนั้น



หากยึดติดในสิ่งที่ดีก็พอได้ ดีกว่าไปยึดติดสิ่งที่เป็นภาระแก่กายใจ

มีบางคนยึดติดถือมั่นภาวะที่เป็นภาระแก่กายใจ แม้ใช้ชีวิตประจำวันก็รบกวนจนทำงานไม่ได้ ไม่สะดวก

ตัวอย่างมีครับ โทษของอุปาทานละเอียดครับ





คุณรินรสเริ่มต้นจากลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=24320



หมายความว่าตัวข้าพเจ้าเอง :b34:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 22:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รินรส เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
เหมือนที่คุณกรัชกายบอกจริง ๆ ถ้าเกิดสภาวะใดขึ้นแล้วไม่กำหนดจิตตามสภาวะนั้นจะไม่ก้าวหน้า
ตอนนั้นถ้าไม่คิดปฏิบัติกรรมฐานก็คงได้แค่รู้สึกตัวพองอยู่อย่างนั้น



หากยึดติดในสิ่งที่ดีก็พอได้ ดีกว่าไปยึดติดสิ่งที่เป็นภาระแก่กายใจ

มีบางคนยึดติดถือมั่นภาวะที่เป็นภาระแก่กายใจ แม้ใช้ชีวิตประจำวันก็รบกวนจนทำงานไม่ได้ ไม่สะดวก

ตัวอย่างมีครับ โทษของอุปาทานละเอียดครับ

คุณรินรสเริ่มต้นจากลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=24320



หมายความว่าตัวข้าพเจ้าเอง :b34:



หมายความว่าตัวข้าพเจ้าเอง


ม่ายช่ายขอรับ ลิงค์นั้นเจตนาแนะนำให้ผู้อ่านติดตามการปฏิบัติของคุณริน เริ่มต้นจากลิงค์นั้น

นี่กระทู้ที่สองแล้ว

ที่คุณต้องการดู ไว้รวบรวมให้ใหม่ มีอยุ่แล้ว แต่ไม่เป็นระเบียบนัก


ดูแก้ขัดไปก่อนก็ที่

http://www.free-webboard.com/look.php?n ... chat&qid=5

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 07 ส.ค. 2009, 17:10, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



อยู่ไหนหนออออออ ..... cool

มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็น ... :b32:

คุณรินสู้ๆนะคะ สู้กับกิเลสตัวเองค่ะ :b4:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 22:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

อยู่ไหนหนออออออ ..... cool

มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็น ... :b32:

คุณรินสู้ๆนะคะ สู้กับกิเลสตัวเองค่ะ :b4:



ไม่ได้จุดธุปก็ยังมาหนอนี่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2009, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:


คุณรินสู้ๆนะคะ สู้กับกิเลสตัวเองค่ะ :b4:



ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ :b8: :b16:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 07:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณรินดูลักษณะของอุปาทานที่ค่อนข้างแรงของผู้ปฏิบัติท่านหนึ่ง


ดิฉันตอนนี้อยู่ที่ออสเตรเลีย ....อยากได้รับความช่วยเหลือจากผู้รู้ด้วยค่ะ

ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนา แนวทางท่านอาจารย์... คือ นั่งดูลมหายใจเข้าออก เฉยๆ
ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา
คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา 10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ
วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกาย ทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะ เหมือนมีเข็ม
เป็นร้อยๆเล่มอยู่ในหัว
บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์ แต่ไม่มีอะไร
ผิดปรกติ อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่ง
อยู่ตลอดเวลา เป็นที่ทรมานมาก
ระยะหลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน

บางอาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่า รู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอดเวลา24ชั่วโมง ทั้งหลับ
ทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้งไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา
อาการยังมีตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา
เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่า
ผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย
ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

viewtopic.php?f=2&t=20528

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2009, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การปฏิบัติจริง ไม่ควรคิดแยกแยะค้นหาชื่อธรรมะข้อนั้นข้อนี้ว่าใช่สติไหม เป็นสมถะกระมัง ไม่น่าใช่

วิปัสสนา เหมือนที่ท่านแยกออกอธิบายในหนังสือเรียนนะครับ

เรากำหนดรู้รูปกับนาม (กายกับใจ) ตามอาการที่ปรากฏแก่ตน ณ ขณะนั้นๆ แต่ละขณะๆ เกิดอะไรขึ้นก็รู้

แล้วกำหนดตามอาการที่เกิด คิดอะไรรู้ตัว กำหนดตามที่คิด ฯลฯ แค่นี้เอง แทบไม่ต้องรู้จักชื่อธรรมแต่ละ

ตัวๆเลย

ขณะปฏิบัติหากเราไปแจกแจงรายละเอียด แทนที่จะรู้เข้าใจธรรม กลับได้ความฟุ้งซ่านธรรมแทนไปฉิบ

:b1: ในบางภาวะจะเกิดโทษอีกต่างหาก :b7:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 21 เม.ย. 2010, 18:03, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 170 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร