วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 09:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2011, 01:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


มาสังเกตุตัวเองหลังจากนั่งสมาธิเสร็จแล้วปรากฏว่ามีอาการหนาวเย็นตามร่างกาย ถ้าตอนกลางคืนหนาวจนต้องห่มผ้าทับกัน2ชั้น อาจจะเข้าหน้าหนาวด้วยเลยรูสึกว่าทำไมเราไม่ได้สังเกตุอาการแบบนี้มาก่อนนั่นเอง ก็เป็นการสังเกตุตัวเองอีกรูปแบบหนึ่งครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2011, 03:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


หรือว่าเรากำลังเป็นไข้ กินยาก่อนก็ดี

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2011, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยงค่ะ ทุกๆสภาวะที่เกิดขึ้น คือการเรียนรู้ จริงๆแล้วแค่รู้ แล้วทำต่อเนื่อง

คุณอยากจะกินยาก็กิน อยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะสุดท้ายคุณจะได้คำตอบด้วยตัวเองว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

แล้วเมื่อทำต่อไปเรื่อยๆ จะเจอแต่คำว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง สุดท้ายจิตเกิดการปล่อยวางลงไปเอง สภาวะใหม่ก็มีเกิดขึ้นให้เรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ละเอียดมากขึ้น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2011, 12:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
มาสังเกตุตัวเองหลังจากนั่งสมาธิเสร็จแล้วปรากฏว่ามีอาการหนาวเย็นตามร่างกาย ถ้าตอนกลางคืนหนาวจนต้องห่มผ้าทับกัน2ชั้น อาจจะเข้าหน้าหนาวด้วยเลยรูสึกว่าทำไมเราไม่ได้สังเกตุอาการแบบนี้มาก่อนนั่นเอง ก็เป็นการสังเกตุตัวเองอีกรูปแบบหนึ่งครับ

เข้าใจถูกแล้วครับ ช่วงนี้ฤดูหนาว ความเย็นของอากาศกำลังปกคลุม ดูแลกาย ใจ ให้ดีๆครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2011, 18:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


คลายสมาธิเร็วไปด้วยอ๊ะป่าว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2011, 01:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณเพื่อนๆที่เป็นห่วงสุขภาพ เช่นกันครับเข้าหน้าหนาวแล้วอากาศเปลี่ยนรักษาสุขภาพทุกท่าน ก็เหมือนกับที่เอกอนพูด บางวันก็กำลังดิ่งสู่สมาธิ นึกปวดขาก็ถอนจากสมาธิเลย แต่อาการอย่างอื่นก็ปรากฎเหมือนกัน เช่น เหมือนมดไต่ตามใบหน้า ช่วงนี้ก็ปรากฎว่าตัวหนาวเย็นข้างใน ก็ต้องนั่งสมาธิต่อไปเรียนรู้ต่อไป ไม่รู้ทำไมชอบตื่นประมาณตี4ตี5 นอนๆไปก็ไม่รู้ตัวเองจะฝืนใจนอนทำไมก็เลยลุกขึ้นมานั่งสมาธิ ก็รู้สึกดี รู้สึกไม่เสียเวลาดีไหนๆก็นอนไม่หลับแล้วอะไรแบบนั้น
ก็คิดว่าอาจเป็นไข้ตกลงก็ไม่ได้กินยาก็อาศัยวิตามินรวมและวิตามินซีแทน คอยดูตัวเองต่อไป

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2011, 01:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ไม่เที่ยงค่ะ ทุกๆสภาวะที่เกิดขึ้น คือการเรียนรู้ จริงๆแล้วแค่รู้ แล้วทำต่อเนื่อง

คุณอยากจะกินยาก็กิน อยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะสุดท้ายคุณจะได้คำตอบด้วยตัวเองว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

แล้วเมื่อทำต่อไปเรื่อยๆ จะเจอแต่คำว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง สุดท้ายจิตเกิดการปล่อยวางลงไปเอง สภาวะใหม่ก็มีเกิดขึ้นให้เรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ละเอียดมากขึ้น


ครับผม ก็สังเกตุใจตัวเองอยู่ นั่งแล้วสงบลงจริงแต่ หลังจากสงบลงแล้วผมคิดว่าเริ่มยากขึ้นเพราะมีสิ่งที่พิจารณาหลายอย่างทั้ง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พระไตรลักษณ์ที่ไม่ว่าเราจะสงบแคไหน อาการปวดขาก็ยังแสดงให้เห็น นั่นคือกลไกของธรรมนั่นเอง อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2011, 01:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ไม่เที่ยงค่ะ ทุกๆสภาวะที่เกิดขึ้น คือการเรียนรู้ จริงๆแล้วแค่รู้ แล้วทำต่อเนื่อง

คุณอยากจะกินยาก็กิน อยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะสุดท้ายคุณจะได้คำตอบด้วยตัวเองว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

แล้วเมื่อทำต่อไปเรื่อยๆ จะเจอแต่คำว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง สุดท้ายจิตเกิดการปล่อยวางลงไปเอง สภาวะใหม่ก็มีเกิดขึ้นให้เรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ละเอียดมากขึ้น


ครับผม ก็สังเกตุใจตัวเองอยู่ นั่งแล้วสงบลงจริงแต่ หลังจากสงบลงแล้วผมคิดว่าเริ่มยากขึ้นเพราะมีสิ่งที่พิจารณาหลายอย่างทั้ง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พระไตรลักษณ์ที่ไม่ว่าเราจะสงบแคไหน อาการปวดขาก็ยังแสดงให้เห็น นั่นคือกลไกของธรรมนั่นเอง อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2011, 21:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


สอบถามสภาพ หลัง ช่วงเอว กระเพาะปัสสาวะ ต่อม ไต

หัวใจ

:b1:

อิอิ คือ คุณใช้ อานาปานสติ อ๊ะป่าว

คือ อันนี้เดานะ
เพราะ ถ้าคนที่ใช้อานาปานสติ ส่วนหนึ่งคือจะมีโอกาสรับรู้ถึงกระแสลมปราณ
การแสดงสภาวะทางร่างกายออกมา
ส่วนใหญ่ คือ อิทธิพลกระแสลมปราณ น่ะ

:b12:

ซึ่งเป็นไปได้ ที่ช่วงนี้อากาศเย็น
เมื่อคุณทำสมาธิ ทำให้คุณมีการเกร็งตัว
ทำให้เกิดการกีดกั้นทางเดินลมในบางจุด
โดยไม่ตั้งใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2011, 03:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ครับผม ก็สังเกตุใจตัวเองอยู่ นั่งแล้วสงบลงจริงแต่ หลังจากสงบลงแล้วผมคิดว่าเริ่มยากขึ้นเพราะมีสิ่งที่พิจารณาหลายอย่างทั้ง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พระไตรลักษณ์ที่ไม่ว่าเราจะสงบแคไหน อาการปวดขาก็ยังแสดงให้เห็น นั่นคือกลไกของธรรมนั่นเอง อนุโมทนาครับ

คุณStudentครับ ความสำคัญของวิปัสนามันอยู่ตรงที่การเปลี่ยนแปลงนี่แหล่ะครับ
ช่วง ความสงบไปที่ปวดขามันมีสติปัฏฐานสี่อยู่ในนั้น มันอยู่ที่เราจะดูทันฐานไหน
ลองดูซิว่าธรรมเปลี่ยนแปลงอย่างไร จากความสงบมาที่ความไม่สงบ
ดูการทำงานของใจ(ธัมมารมณ์)ที่เปลี่ยนเป็นกาย(โผฏฐัพพะ)
ดูอารมณ์ที่สงบแล้วเปลี่ยนเป็นไม่ชอบ
และดูความไม่ต้องการอาการปวดที่เกิดขึ้น

ฐานทั้งสี่มันรวดเร็วมากพยายามดูให้ทัน ที่ฐานใดฐานหนึ่ง
พยายามอย่าให้ฐานใดฐานหนึ่งมาผสมปนเปกัน เพราะมันจะกลายเป็นความคิด
ที่สำคัญที่สุดต้องใช้สติอยู่ตลอดเวลา ให้ระลึกอยู่ในฐานที่พอระลึกได้ให้นานที่สุด
แล้วอาการไตรลักษณ์จะแสดงให้เห็น

อย่าลืมนะครับให้ดูเฉยๆ ไม่ต้องไปพิจารณาอะไรทั้งนั้น
ไม่ต้องไปเรียกชื่อสภาวะที่เกิดในใจ ไม่ต้องไปกำหนดรู้อะไร
ระลึกรู้อย่างเดียวคือสติ เอาไว้ตัดความคิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2011, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
โฮฮับ เขียน
อย่าลืมนะครับให้ดูเฉยๆ ไม่ต้องไปพิจารณาอะไรทั้งนั้น
ไม่ต้องไปเรียกชื่อสภาวะที่เกิดในใจ ไม่ต้องไปกำหนดรู้อะไร
ระลึกรู้อย่างเดียวคือสติ เอาไว้ตัดความคิด


ก็มีการปฏิบัติที่เป็นความเคยชินครับผม เริ่มขึ้นด้วยการเห็นด้วยสัญญาเป็นภาพกระโหลก เบ้าตา กระดูก ฟัน ซึ่งต้องเอาสติเข้าไปเห็น ทีนี้กำหนดรู้ตำแหน่งด้วยกาย(โผฏฐัพพะ) แล้วกำหนดลงมาที่การหายใจด้วยกายระลึกรู้ความสุดของลมหายใจเข้า ระลึกรู้ความสุดของหายใจออกพอสักพักจนเกิดเป็นสมาธิ ความชัดเจนของลมหายใจชัดขึ้น ก็เกิดความโล่งใจขึ้น ปกติกำหนดไหนจะชัดที่นั่นบางทีจับลมหายใจจนหายไปก็เหมือนสมาธิทบมาอีกชั้น ทีนี้ก็นั่งไปเรื่อยๆวนเวียนอยู่กับกาย บางทีก็เรือ่งเสียง ลองสังเกตุว่าถ้าไม่ส่งใจออกนอกจะได้ยินเสียงอะไร ก็ปรากฎถึงโสตผัสสะที่รับรู้ ความเห็นของผมเกี่ยวกับเรื่องลมหายใจเข้าออกว่าหากตั้งใจเห็นด้วยสติอย่างที่คุณโฮฮับว่า เห็นให้สุดทั้งหายใจเข้าหายใจออก ทำให้รู้ผัสสะที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน สติจึงมีความสำคัญมากจริงๆ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2011, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอรากอน เขียน
อิอิ คือ คุณใช้ อานาปานสติ อ๊ะป่าว

คือ อันนี้เดานะ
เพราะ ถ้าคนที่ใช้อานาปานสติ ส่วนหนึ่งคือจะมีโอกาสรับรู้ถึงกระแสลมปราณ
การแสดงสภาวะทางร่างกายออกมา
ส่วนใหญ่ คือ อิทธิพลกระแสลมปราณ น่ะ


ใช้ครับ ช่วงที่ผ่านมา2 ถึง 3 เดือนนี้ได้กำหนดรู้แบบลมหายใจเข้าสุด ลมหายใจออกสุดครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2011, 18:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าสุด ออกสุด
ที่เข้าสุดนั้น เข้าสุดจนถึงส่วนลึกสุดในกายรึเปล่า

คือ เดาน่ะ เพราะคนที่นั่งสมาธิแล้วเกิดอาการสะท้าน
เนื่องจาก หายใจยาว และเป็นการยาวแบบลากลมลงลึก
จนไปถึงโซนที่ธาตุน้ำแสดงอิทธิพล
หรืออาจจะหายใจปกติ แต่กำหนดจิตลากลมลงลึก

พอดี ชอบดูหนังจีนกำลังภายในน่ะ :b9: :b9:


แต่หากผู้ปฏิบัติ ค่อย ๆ สังเกต
และเรียนรู้ไป ค่อย ๆ ปรับไป
จะพบว่า

โดยธรรมชาติ
"กายหายใจได้ดีกว่าเรา" เพราะเมื่อเขามาประชุมกัน
เขามีกิจที่เขาจะดำเนินไปให้ถึงที่สุด อยู่แล้ว
คือ หมายความให้วางการเข้าไปควบคุมลม ปล่อยให้ลมนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ
เราเพียงแต่ทำความรู้สึกตัวไว้
และจะพบว่า การทำสมาธิโดยอานาปนสติ
ถ้าอากาศเย็น ตัวเราจะอุ่นขึ้น
ถ้าอากาศร้อน ตัวเราจะเย็นขึ้น :b1:

ธรรมชาติ พยายามจะบอกเรา
พยายามจะสื่อสารกับเราตลอดเวลานะ
พยายามจะ แสดงธรรม ให้เราได้เก็บเกี่ยวตลอดเวลา

ให้เราเข้าใจธรรมชาติ และคลายความยึดติดต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ความคิดฟุ้งไปในธรรมของเรา เป็นตัวปิดกั้นให้เรายิ่งไกลจากธรรม
ก็เป็นด้วยลักษณะเช่นนี้ล่ะ


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2011, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอรากอน เขียน
หรืออาจจะหายใจปกติ แต่กำหนดจิตลากลมลงลึก


ถูกแล้วครับ กำหนดจิตลงลึก

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร