ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูคติพระอรหันต์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=47965
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 16 มิ.ย. 2014, 11:07 ]
หัวข้อกระทู้:  ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูคติพระอรหันต์

ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูจากคติพระอรหันต์



คติพระอรหันต์ เป็นอย่างไร คติพระอรหันต์บอกแล้วว่า พระอรหันต์ คือ ผู้บรรลุประโยชน์ตนแล้ว มีประโยชน์ตนสมบูรณ์แล้ว ไม่มีอะไรต้องทำเพื่อตนเองอีก


ตรงที่ว่า ไม่มีอะไรต้องทำเพื่อตนเองอีก นี่แหละสำคัญนัก เพราะฉะนั้น ต่อจากนี้ ชีวิตของพระอรหันต์ ซึ่งมีความสมบูรณ์ มีอิสรภาพสมบูรณ์ภายใน มีความสุขเต็มอิ่มภายใน มีความสุขอยู่ กับ ตัวตลอดเวลา ไม่ต้องหาความสุขแล้ว


ด้วยความสมบูรณ์เต็มร้อย ไม่มีอะไรต้องทำเพื่อตัวเองนี้ จึงอุทิศพลังชีวิตให้แก่มนุษยชาติได้หมด มีแต่จะทำการเพื่อผู้อื่นทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย จึงเหนือกว่าพระโพธิสัตว์


พระ โพธิสัตว์ แสนจะเก่งแล้ว คือยอมสละชีวิตของตน เพื่อประโยชน์แก่ผู้ได้ แต่พระโพธิสัตว์นั้น ต้องทำความดีด้วยปณิธาน คือ ต้องตั้งใจ ต้องมุ่งมั่น อธิษฐานจิตไว้ว่าจะทำความดีนั้นๆ


แต่พระอรหันต์ และพระพุทธเจ้า ท่านทำความดีโดยอัตโนมัติ เพราะเป็นธรรมดาของท่านเองที่จะทำอย่างนั้น พระอรหันต์ และพระพุทธเจ้าเก่งกว่าพระโพธิสัตว์ตรงนี้ คือ ไม่ต้องตั้งจุดหมาย ไม่ต้องระดมพลังจิตใจที่จะทำ แต่ท่านทำความดีโดยเป็นธรรมดาของท่านเอง เป็นอัตโนมัติ เพราะไม่มีอะไรต้องทำเพื่อตัวเองอีก


ในเมื่อพระอรหันต์ไม่มีอะไร ต้องทำเพื่อตัวเองอีก ท่านจะเอาธรรมแห่งความไม่ยึดมั่นอันสูง มาอ้างทับวินัย เพียงที่จะให้คนนั้นคนนี้มานวดให้ทำไม ท่านจะคำนึงถึงผู้อื่นเท่านั้น ความสุขก็เต็มในตัว ไม่ต้องหาความสุขให้แก่ตัวแล้ว หลักการอะไรที่มีไว้ตั้งไว้เพื่อความดีงาม และประโยชน์สุขของหมู่มนุษย์หรือสังคม ท่านจะถือปฏิบัติอย่างมั่นคงจริงจัง


นี่คือคติพระอรหันต์ อันเป็นสุดยอดของการบำเพ็ญความดีอย่างบริสุทธิ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสอยู่เสมอ ไมว่าจะในการส่งพระสาวกไปประกาศพระศาสนา การดำรงรักษาพระศาสนา และการประกาศปรารภในการสังคายนา คือวัตถุประสงค์ที่ว่า พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย

(วินย.๒/๓๒ ที.ปา.๑๑/๒๒๕)

ไฟล์แนป:
1cbaba340c7c96e68cff5a48d576c1df.jpg
1cbaba340c7c96e68cff5a48d576c1df.jpg [ 21.29 KiB | เปิดดู 2333 ครั้ง ]

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 16 มิ.ย. 2014, 11:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูคติพระอรหันต์

คติชีวิตพระอรหันต์ ก็คือ ดำรงอยู่ ดำเนินชีวิต จาริกไป และทำกิจทั้งหลาย เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ชนจำนวนมาก ด้วยเห็นแก่ประโยชน์สุขของชาวโลก

พระอรหันต์มีชีวิตอยู่เพื่อวัตถุ ประสงค์นี้ และอีกคติหนึ่งที่พ่วงมาด้วยกันก็คือ ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺฐานุคตึ อาปชฺชติ (เช่น องฺ. จตุกฺก. ๒๓/๑๖๐...) แปลว่า เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ชนรุ่นหลัง หรือชนผู้จะเกิดตามมาภายหลังคืออนุชน จะได้ถือเป็นแบบอย่าง


รวมความว่า พระอรหันต์มีคติสำคัญ ๒ อย่าง คือ

๑. ทำเพื่อประโยชน์สุขแก่คนจำนวนมาก ด้วยเห็นแก่ชาวโลก

๒. ประพฤติทุกอย่างเป็นหลักไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่คนที่จะเกิดภายหลัง


มีตัวอย่างน่าจำไว้เรื่องหนึ่ง คือ พระมหากัสสปะมีอายุมาก แก่กว่าพระพุทธเจ้าอีก และท่านถือธุดงค์ตลอดชีวิต

ธุดงค์ไม่ใช่หมายความว่าเที่ยวจาริกไปนะ คนมักจะเข้าใจผิด


ธุดงค์คือข้อปฏิบัติขัดเกลากิเลส มีตั้ง ๑๓ ข้อ ฯลฯ


เคย มีคนมาชมพระพุทธเจ้าว่า พระองค์เป็นผู้มีชีวิตที่ขัดเกลาอยู่เรียบง่าย อยู่ปลีกหลีกเร้น พระพุทธเจ้าตอบว่า เธอชมเรานี้ไม่ถูก การที่สาวกเคารพยกย่องเรา ไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ถ้าจะเคารพนับถือเพราะฉันอาหารน้อย ใช้จีวรน้อย อยู่ขัดเกลา สาวกของเราหลายองค์ถือปฏิบัติเคร่งครัด เข้มงวดกว่าเราเยอะ

แต่เรา นี้ สาวกเคารพบูชา ก็เพราะว่าเป็นผู้ค้นพบทาง และเป็นผู้ที่ชี้ทางให้แก่ผู้อื่น ช่วยให้สาวกทั้งหลายสามารถบรรลุธรรมสูงสุดได้ พระองค์ตรัสว่า ในเรื่องฉันอาหาร พระองค์ก็รับนิมนต์ไป เดี๋ยวที่โน่น เดี๋ยวที่นี่ พระองค์เกี่ยวข้องมากทีเดียวกับทั้งพระสงฆ์และชาวบ้าน ตั้งแต่พระมหากษัตริย์ไปทีเดียว ในเรื่องจีวร มีผู้ศรัทธาถวายจีวรดีๆ พระองค์ก็รับมาใช้เป็นต้น

(ม.ม.๑๓/๓๑๙-๓๕๕)

พระ มหากัสสปะถือถือธุดงค์หลายข้อ ต่อมาตอนท่านแก่แล้ว ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า กัสสปะ เธอก็แก่แล้ว ผ้าบังสุกุลเนื้อหยาบ ใช้ลำบาก น้ำหนักมาก เธอเปลี่ยนมารับผ้าที่คฤหบดีถวายเถอะ เนื้อผ้าละเอียด จะได้เบาหน่อย

แต่ พระมหากัสสปะกราบทูลขอโอกาสว่า จะขอปฏิบัติไปตามเดิม พระพุทธเจ้าก็ตรัสถามว่า เธอมีเหตุผลอะไรถึงจะปฏิบัติไปตามเดิม ท่านก็บอกว่า ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺฐานุคตึ อาปชฺเชยฺย (สํ.นิ.๑๖/๔๘๑) เพื่อเป็นหลักให้คนที่เกิดมาภายหลังยึดถือเป็นแบบอย่าง นี่แหละพระอรหันต์ท่านไม่ทำเพื่อตัวเองเลย


เป็นอันว่า ในการรักษาวินัย และปฏิบัติกิจต่างๆ พระอรหันต์จะประพฤติเป็นหลัก เพราะท่านต้องทำตัวเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น ใครจะมาอ้างว่า ไม่ผิดวินัยเพราะเป็นพระอรหันต์ หมดกิเลสแล้วนี่ ฟังไม่ขึ้น


ครั้งหนึ่ง มีผู้หญิงศรัทธาในพระมหากัสสปะมาก ก็มาช่วยกวาดในกุฎีให้ พระมหากัสสปะท่านมาเจอเข้า ท่านบอกว่าขอเชิญไป อย่ามาทำให้ เขาบอกว่า เขามาช่วยท่านเพราะเลื่อมใสศรัทธา ท่านบอกว่า จะเป็นที่ติฉินนินทา ไม่ดี จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี


นี่คือ คติพระอรหันต์ในอดีตที่ท่านทำมา โดยยกตัวอย่างพระมหากัสสปะ ธุดงค์เป็นข้อปฏิบัติขัดเกลากิเลส พระมหากัสสปะหมดกิเลสแล้ว จะไปขัดเกลากิเลสอะไรอีก ท่านไม่จำเป็นต้องไปถือธุดงค์ แต่ที่ท่านถือ เพราะว่า ท่านรักษาหลักไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่อนุชนคนรุ่นหลัง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 มิ.ย. 2014, 07:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูคติพระอรหันต์

ต่อเนื่องที่ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47972

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 14 ธ.ค. 2019, 07:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูคติพระอรหันต์

นำความคิดคุณโรสมามาวางเทียบไว้ที่ กท.นี้


อ้างคำพูด:
Rosarin

ไม่มีเรา
จำถูกตัวตน
ว่าเราชื่ออะไร
บ้านตั้งอยู่ที่ไหนคะ
พ่อแม่ชื่ออะไรมีพี่น้องกี่คน
ไม่มีบ้านให้เห็นตรงหน้าจำว่ามีบ้าน
นึกถึงรูปร่างบ้านลืมระลึกตามคำสอนว่าไม่มีเรา
ถ้าเราไม่มีจะมีอย่างอื่นที่นอกเหนือจากตัวตนของเราไหมคะ


viewtopic.php?f=1&t=57621&p=454305#p454305

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/