วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 12:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2015, 12:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ย. 2014, 09:02
โพสต์: 9

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
ชื่อเล่น: โอ๋
อายุ: 41
ที่อยู่: กาญจนบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


rachen
เมื่อ: 10 ธ.ค. 2014, 11:55
สมัยเมื่ออายุ 18 ผมเคยฝึกสมาธิแบบอานาปานสติ ฝึกวันละ 30 นาที เป็นระยะเวลา 1 เดือนเท่านั้น ในช่วงเวลาที่ฝึกได้ประมาณ 20 วัน ขณะที่เราฝันจะมีสติรู้ว่ากำลังฝันอยู่ สามารถบังคับให้ตนเองตื่นจากการนอนฝันได้ทันที หรือขณะหลับ มีใครเดินเข้ามาใกล้ๆตัวเราจะรู้สึกตัวได้ทันที่ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดู หลังจากนั้นได้ห่างเหินการฝึกไป จนปัจจุบันผมอายุ 40 แล้ว อาชีพข้าราชการครู หันกลับมาฝึกวิปัสสนา ดูอารมณ์ของตนเอง จากคนที่มีโทสะมาก ถ้าโกรธใคร อารมณ์นั้นจะคงอยู่แบบข้ามวันข้ามคืนกันเลยที่เดียว พอหลังจากการฝึกวิปัสนา เวลามีอารมณ์โกรธ จะโกรธเพียงชั่วครู่เท่านั้นก็ดับไป มีการฝึกรู้ลมหายใจเข้าออกระห่างวัน มีเวลาว่างเพียงนิดหน่อยก็กำหนดลมหายใจเข้าออกให้มีสติอยู่กับลมหายใจ แม้บางขณะที่กำลังทำงานอยู่ด้วย ฝึกมา 2 เดือนแล้ว แต่การฝึกสมาธินั้น รู้สึกว่ายากกว่าเดิมมากๆ บ้างครั้งทำสามาธิได้เร็ว บางครั้งไม่ได้เลยแม้จะใช้เวลาในการนั้งสมาธิ 1-2 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถเข้าสมาธิได้เลย พยายามห้อข้อบกพร่องอื่นๆ เพื่อแก้ไขครับ
รบกวนอาจารย์ทุกท่าน จะมีอุบาย หรือข้อแนะนำ อย่างไรได้บ้างเพื่อที่จะทำจิตให้เป็นสมาธิได้

rachen
เมื่อ: 23 ก.พ. 2015, 07:18
ผมฝึกสมาธิมาประมาณ4 เดือนแล้ว แต่เหมือนไม่ค่อยก้าวหน้า ขณะทำสมาธิโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออก จับสัมผัสลมกระทบกับโพรงจมูก จะรู้สึกถึงใบหน้าและกาย เวลามีอาการเกร็งที่ใบหน้า ก็เอาจิตมาจับไว้ ครู่เดียวก็หายไป ช่วงแรกๆไม่มีปัญหาอะไร
แต่มาช่วงหลังๆนี้ ผมฝึกสมาธิโดยเอาจิตมาวางไว้ที่ปลายจมูก ทำให้ใบหน้ารู้สึกว่าเกร็ง ใบหน้าตึง ก็เอาจิตมาจับไว้ในส่วนที่เกิดอาการเกร็งหรือตึง ก็ทำให้อาการเหล่านี้หายไป แต่พอเอาจิตไปวางไว้ปลายจมูกอีก ก็มีอาการเกร็งเกิดขึ้นมาอีก สลับกันไปมา ไม่สามารถคลายอาการเหล่านี้ได้ อาหารเหล่านี้เกิดจากการเพ่งมากเกินไปหรือเปล่าครับ
แต่ถ้าเอาจิตไปจับไว้กับร่างกายทั้งหมด อาการเกร็งที่ใบหน้าจะเกิดขึ้นเล็กน้อย และสามารถคลายอาการเกร็งเหล่านี้ได้ รบกวนอาจารย์ทุกท่านด้วยครับ ว่าผมควรจะปฏิบัติอย่างไร

rachen
เมื่อ: 27 ก.พ. 2015, 20:09
รบกวนอาจารย์ทุกๆท่านอีกครั้งครับ
หลังจากที่ผมกลับไปทำสมาธิโดยคำแนะนำของอาจารย์ ทุกๆท่าน ปรากกฎว่า แค่หลับตาไม่เกิน 1 นาที่ก็มีอาการเกร็งที่ใบหน้าอีก และยังมีอาการปวดหัว ทั้งๆที่ยังไม่ได้กำหนดอะไรทั้งสิ้น พอลืมตาขึ้นมาอาการเกร็งที่ใบหน้าก็ยังรู้สึกได้ อาการอย่างนี้ผมควรหยุดทำสมาธิไปสักพักหรือเปล่าครับ (มีอาการปวดหัวขณะที่คิดว่าจะทำสมาธิ กำลังจะนอน หรือขับรถ มีอาการปวดหัวแทบจะตลอดเวลา ทรมานมาก ไม่สามารถทำสมาธิได้เลย บางครั้งคลื่นไส้ อาเจียน )


อาจารย์suttiyan
เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 07:25
ใช่ครับ ควรหยุดทำสมาธิ สัก 2 ถึง 3 วัน แต่ถึงอย่างไรหากกลับมาทำใหม่ก็จะเป็นเหมือนเดิม การแก้ไขต้องเปลี่ยนวิธีการดังนี้
1. ให้ลืมตา เวลานั่งสมาธิ
2. ไม่ต้องดูลม
3. เวลาจะรู้เหมือนไม่ใส่ใจ ทำเล่นๆ ไม่ได้คิดว่าจะนั่งสมาธิหา พัดลมมาเปิดให้โดนตัว
4. การเริ่มต้นเมื่อเริ่มนั่ง มองสิ่งต่างๆ แบบที่เราใช้ชีวิตประจำวันคือมองสิ่งต่างๆ ผ่านไปสบายๆ จะเริ่มรู้สึกเกร็ง ชาและปวดหัวให้แตะรู้ที่อาการดังกล่าวเบาๆ เวลาเพียงชั่วขณะ ประมาณ2 ถึง 3 วินาที ในขณะรู้ให้สายตามองไปที่ภาพข้างหน้าแบบธรรมชาติไม่ต้องดูที่ศรีษะ ที่ทำเช่นนี้เพื่อไม่ให้เพ่งไปที่จุดเดียวเพราะจะทำให้เกร็งอีก เมื่อรู้ความเกร็งปวดในระยะสั้นๆ แล้ว ให้เปลี่ยนมารู้ลมที่พัดมาโดนตัว 2 ถึง 3 วินาทีแล้วเปลี่ยนไปรู้อาการปวดใหม่ ข้อควรระวังต้องทำเหมือนไม่ได้ทำคือทำเล่นๆสองอารมณ์ เพราะปัญหาเกิดจากทำจริงเกินไป และเพ่งอารมเดียว




rachen
จากคำแนะนำของอาจารย์ suttiyan ผมได้นำมาปฏิบัติ ใช้เวลาปฏิบัติวันละครั้งๆละ 20 นาที ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้อาการปวดหัวบรรเทาลง สามารถทำสมาธิโดยการหลับตาได้ แต่ต้องไม่ไปปฏิบัติในแบบเดิมเพราะจะทำให้อาการปวดเกิดขึ้นมาอีก ตอนนี้ผมฝึกสมาธิแบบกำหนดความรู้สึกตัว จากอาจารย์หลายๆท่านที่แนะนำมาครับ ท่านใดที่เกิดปัญหาเหมือนกับผม ลองนำวิธีนี้ไปปฏิบัตินะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2015, 12:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2011, 12:57
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว


การปฏิบัติที่เพ่งเกินไป คืออัตตกิลมถานุโยค จัดอยู่ในการทรมานตน ซึ่งนอกจากจะเกิดทุกข์ ในร่างกายแล้วยังไม่สามารถบรรลุมรรคผล การแก้ไขที่ได้แนะนำไป ช่วยลดการเพ่งลง แต่สิ่งที่สมองสร้างขึ้นจากการเพ่ง(อดีนารีน)ที่ทำให้เกิดการชา การปวดศรีษะ ยังไม่หมดไป เมื่อกลับมาดูลมจึงเป็นขึ้นมาอีก
ที่จริงกรรมฐานที่คนส่วนโหญ่ใช้คืออานาปานสติ ซึ่งคือฐานที่ทำให้เกิดสมาธิ เพื่อเอาสมาธิมารู้กายใจ(สติปัฏฐาน4) ซึ่งปัจจุบันแม้แต่ผมเองก็ไม่ได้ใช้อานาปานสติ เพราะถ้าใช้จะ?ทำให้สมาธิเกินพอดี ผมใช้การรู้กายในกายเมื่อพัฒนาก็จะได้เวทนา จิต และธรรมตามมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2015, 12:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2011, 12:57
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว


s006

เมื่อ: 27 ก.พ. 2015, 20:09
รบกวนอาจารย์ทุกๆท่านอีกครั้งครับ
หลังจากที่ผมกลับไปทำสมาธิโดยคำแนะนำของอาจารย์ ทุกๆท่าน ปรากกฎว่า แค่หลับตาไม่เกิน 1 นาที่ก็มีอาการเกร็งที่ใบหน้าอีก และยังมีอาการปวดหัว ทั้งๆที่ยังไม่ได้กำหนดอะไรทั้งสิ้น พอลืมตาขึ้นมาอาการเกร็งที่ใบหน้าก็ยังรู้สึกได้ อาการอย่างนี้ผมควรหยุดทำสมาธิไปสักพักหรือเปล่าครับ (มีอาการปวดหัวขณะที่คิดว่าจะทำสมาธิ กำลังจะนอน หรือขับรถ มีอาการปวดหัวแทบจะตลอดเวลา ทรมานมาก ไม่สามารถทำสมาธิได้เลย บางครั้งคลื่นไส้ อาเจียน )


อาจารย์suttiyan
เมื่อ: 28 ก.พ. 2015, 07:25
ใช่ครับ ควรหยุดทำสมาธิ สัก 2 ถึง 3 วัน แต่ถึงอย่างไรหากกลับมาทำใหม่ก็จะเป็นเหมือนเดิม การแก้ไขต้องเปลี่ยนวิธีการดังนี้
1. ให้ลืมตา เวลานั่งสมาธิ
2. ไม่ต้องดูลม
3. เวลาจะรู้เหมือนไม่ใส่ใจ ทำเล่นๆ ไม่ได้คิดว่าจะนั่งสมาธิหา พัดลมมาเปิดให้โดนตัว
4. การเริ่มต้นเมื่อเริ่มนั่ง มองสิ่งต่างๆ แบบที่เราใช้ชีวิตประจำวันคือมองสิ่งต่างๆ ผ่านไปสบายๆ จะเริ่มรู้สึกเกร็ง ชาและปวดหัวให้แตะรู้ที่อาการดังกล่าวเบาๆ เวลาเพียงชั่วขณะ ประมาณ2 ถึง 3 วินาที ในขณะรู้ให้สายตามองไปที่ภาพข้างหน้าแบบธรรมชาติไม่ต้องดูที่ศรีษะ ที่ทำเช่นนี้เพื่อไม่ให้เพ่งไปที่จุดเดียวเพราะจะทำให้เกร็งอีก เมื่อรู้ความเกร็งปวดในระยะสั้นๆ แล้ว ให้เปลี่ยนมารู้ลมที่พัดมาโดนตัว 2 ถึง 3 วินาทีแล้วเปลี่ยนไปรู้อาการปวดใหม่ ข้อควรระวังต้องทำเหมือนไม่ได้ทำคือทำเล่นๆสองอารมณ์ เพราะปัญหาเกิดจากทำจริงเกินไป และเพ่งอารมเดียว

ขอใช้ข้อมูลของคุณrachen ทำความเข้าใจเรื่องอัตตกิลมถานุโยค


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2016, 09:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ย. 2014, 09:02
โพสต์: 9

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
ชื่อเล่น: โอ๋
อายุ: 41
ที่อยู่: กาญจนบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัจจุบัน อาการปวดหัวลดลงมาก คงเหลือแต่อาการแน่นๆบริเวณเพดานปากในขณะทำสมาธิในบางครั้ง
ซึ่งก่อนหน้านี้แค่คิดถึงการทำสมาธิก็มีอาการตึงบริเวณท้ายทอยและปวดหัวขึ้นมาทันทีเลยครับ ทำสมาธิได้ไม่เกิน 10 นาที ก็ทนอาการปวดไม่ไหวแล้วครับ อาการปวด ตึงตรงท้ายทอย ยังปรากฏอยู่ตลอดทั้งวันทำให้ทรมานมากๆ

ในที่นี้ขอขอบคุณอาจารย์ suttiyan และอาจารย์ทุกๆท่านที่ให้คำแนะนำ คำสั่งสอนครับ ขออำนาจพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์ โปรดบันดาลให้กุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้สร้างสม อบรมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ณ วันนี้ เวลานี้ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และปฏิบัติภาวนา จงรวมเป็นพลปัจจัยให้อาจารย์ suttiyan และอาจารย์ทุกๆท่าน เข้าถึงพระนิพพานในชาตินี้ Kiss


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร