ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ข้ามทะเลหลง (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=52217 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 07 เม.ย. 2016, 18:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | ข้ามทะเลหลง (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต) |
ข้ามทะเลหลง วิสัชนาธรรมโดย...หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ![]() ![]() ![]() จะอย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่ากำหนดลมไม่อยู่ในพุทโธ ก็ให้กำหนดอย่างอื่น ให้พิจารณาอนิจจังความไม่เที่ยง พร้อมกับลมหายใจเข้าออก และให้รู้ว่าสิ่งไม่เที่ยงนี้ก็คือมีทุกข์สัมปยุตอยู่ด้วย มีสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนสัมปยุตอยู่ด้วย หรือจะบริกรรมว่า “ทุกข์ๆ ทุกข์ๆ” พร้อมกับลมหายใจเข้าออกก็ใช้ได้ เพราะเป็นปัญญาอบรมสมาธิอยู่ในตัว หรือจะบริกรรมว่า “ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา” พร้อมกับลมหายใจเข้าออกก็ได้ เพราะลมเป็นสักแต่ว่าลม เพราะผู้รู้ว่าลมๆ ก็เป็นสักแต่ว่ารู้ หรือจะว่าเป็นแต่สักว่ารู้ว่าเห็นพร้อมกับลมหายใจเข้าออกก็ได้ และขอให้เข้าใจชัดว่าลมออกเข้าก็ดี เป็นตัวอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อยู่ในตัวแล้ว เพราะเกิดเป็นดับเป็นติดต่อกันเป็นพรืดอยู่ แม้ผู้รู้ว่าลมๆ ก็เกิดดับเป็นอย่างเร็วนักจนเป็นพรืดติดกันอยู่ ส่อแสดงให้เห็นว่าลมเข้าลมออกก็ดี ผู้รู้ว่าลมเข้าลมออกก็ดี ผู้รู้ว่าสังขารและกองทุกข์ก็ดี เรียกว่ารู้ตามเป็นจริง ผู้รู้ตามเป็นจริงนั้นก็เกิดดับเป็นเหมือนกัน ไม่ควรยึดถือว่าเป็นเราเขาทั้งนั้น โลภ โกรธ หลง จึงจะเบาบางลง ที่โลภ โกรธ หลง ไม่เบาบางลงนั้นก็เพราะถือว่าเป็นตนและของตน จนไม่รู้จักปล่อยเพราะจะหอบเอาหมด เมื่อยึดถือว่าเป็นเรา ของเราโดยโจ่งแจ้ง แล้วก็ยึดถือว่าเป็นผู้อื่น ของผู้อื่นอีก ก็เลยเกิดทะเลาะกัน ที่แท้แล้วในไตรโลกธาตุ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายที่มีวิญญาณอยู่ก็ดี “มีแต่สังขารและกองทุกข์ทั้งนั้น” แต่ด้วยอำนาจความหลง จึงพากันมายึดถือว่าเป็นเรา เป็นเขา เป็นสัตว์ เป็นบุคคล และก็เท่ากับว่า เราทั้งหลายทั่วทั้งไตรโลกธาตุ มาแย่งเอาแดดเอาลมกัน แต่ก็ไม่ได้อะไร ได้แต่ความหลงที่ไม่รู้ตามเป็นจริง ไปก่อภพก่อชาติอีกไม่แล้วไม่รอด เมื่อความฉลาดของเราเหนือความหลงทั้งหลายเหล่านี้แล้ว เราจึงจะไม่มีชาติไม่มีภพต่อไปอีก จึงจะเข้าสู่พระนิพพานได้ ไม่มาลอยทะเลทุกข์อยู่อย่างนี้ ทะเลทุกข์คืออะไร คือทะเลราคะ ความกำหนัดยินดีในสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทะเลโทสะ คือมาโกรธให้สิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทะเลหลงคือไฟหลง มาหลงว่าสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ว่าเป็นของตัว ตน เรา เขา สัตว์ บุคคล โลกบ้าๆ อันนี้จึงมาสนองเวรสนองภัยกันอยู่ไม่แล้วไม่รอด ส่วนพระอรหันต์นั้น ท่านข้ามทะเลหลงอันนี้ไปแล้ว ไม่ได้มาหลงอีกเลย เพราะรู้ตามเป็นจริงชนะความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิงไปแล้ว เหมือนพระอาทิตย์สว่างจ้าไม่มีเมฆหมอก ขับมืดไปพลันทันเวลา แต่พระอาทิตย์จะขับมืดได้แต่ในที่ไม่มีกำบัง เช่นถ้ำลึกๆ อย่างนี้ พระอาทิตย์ขับมืดไม่ได้ ส่วนพระสติพระปัญญานั้นขับความมืด ความหลง ได้กระจ่างไม่มีสิ่งปิดบังและส่องทะลุภูเขาด้วย ยกอุทาหรณ์ เรารู้ว่าภูเขานี้ลูกระเบิดปรมาณูทำให้แตกกระเจิง โดยไม่มีที่ปิดบังนี้ เรียกว่าปัญญาของเราเห็นชัด และเรารู้ว่าในไตรโลกธาตุเต็มไปด้วยกองทุกข์ทั้งหลาย หาได้มีสุขมมาเจือปนได้ เมื่อเรารู้ชัดอย่างนี้ ก็เรียกว่าเราทำลายความหลงแตกกระเจิงไปได้ ความหลงจะขี่ช้างสูบบุหรี่มาจากประตูไหน ความทะเยอทะยานในโลกทั้งปวงของเราก็ต้องมีเบรกห้ามล้อใช่หรือไม่ มิหนำซ้ำ ก็ไม่หวังอะไรใดๆ ในโลกทั้งปวงเลย เพราะรู้จักลูกไม้ของมันแล้ว ความหลงก็ตั้งอยู่ในขันธสันดานเราไม่ได้ ทีนี้ความทุกข์ใจของเราจะมาจากประตูใดเล่า เราก็ไม่ได้ยึดถือใจเป็นเรา เราเป็นใจอีกด้วย เราจะไม่ดีใจไม่เสียใจหรืออุเบกขาใดๆ ก็เป็นความผิดของเรา เรียกว่าไม่รู้ตามเป็นจริงอีกด้วย เมื่อไม่ยืนยันว่าใจเป็นเรา เราเป็นใจ จะมีท่านผู้ใดมาทำให้ผิดใจเล่า เราก็ไม่ยืนยันผู้อื่นเป็นใจ ใจเป็นผู้อื่น เพราะมีแต่สังขารและกองทุกข์ เกิดเร็วดับเร็วด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นคำสอนสุดท้ายของพุทธศาสนา มีไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา ชั้นไม่เกิดไม่ดับรวมอยู่ด้วย จดหมายของลูกๆ ทำให้หลวงปู่ อธิบายยืดยาว เพราะคำพูดที่ถามมานั้นเป็นคำพูดสั้นๆ แต่กินความกว้าง ลึกนัก แต่หลวงปู่ไม่ได้ถือเป็นของหนักใจ ถ้าสงสัยอันใดก็ถามมาอีก จะถูกหรือผิดขอให้เจ้าตัวเป็นผู้ตัดสินเอาเองถึงจะเป็นธรรมแท้ แต่ขอให้อ่านบ่อยๆ พิจารณาบ่อยๆ ด้วยเดชพระพุทธศาสนา พวกเราทั้งหลายจงข้ามทะเลหลง อย่าได้มาเกิดแก่เจ็บตาย ในโลกทั้งปวงนี้อีกเลย ตอบจดหมายพิสดารมาด้วยความเมตตา และนับถือไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อพ้นทุกข์ในปัจจุบันชาติ ปัจจุบันจิตกับปัจจุบันธรรมก็มีความหมายอันเดียวกัน สิ่งไหนที่พ้นจากความสงสัยแล้ว สิ่งนั้นก็ไม่มาขบถอีกใช่หรือไม่ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ป.ล. โลกภายใน ก็คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้นกองสังขารก็ว่า กองทุกข์ก็ใช่ โลกภายนอก ก็คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์นั้นเอง ท่านผู้พ้นไปแล้ว ท่านเบื่อหน่ายความหลงของตนหมด ไม่ได้ขืนดื้อเอา ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นตนเลย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ก็เหมือนกัน แต่ปรารภและพูดไปตามชาวโลกเขาเฉยๆ แต่ไม่มีราคะ โทสะ โมหะ ยึดถือด้วย คัดมาจาก...หนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐, กันยายน ๒๕๕๓ ![]() ![]() ![]() ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44660 ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38521 ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=44375 |
เจ้าของ: | Duangtip [ 11 พ.ค. 2016, 12:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ข้ามทะเลหลง (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต) |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | AAAA [ 08 ส.ค. 2018, 08:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ข้ามทะเลหลง (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต) |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 28 ต.ค. 2019, 07:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ข้ามทะเลหลง (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต) |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 18 เม.ย. 2020, 10:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ข้ามทะเลหลง (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต) |
![]() ![]() ![]() สาธุ อนุโมทามิ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |