วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 09:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2019, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2019, 16:06
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส




กล่าวถึงขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ
ของวิปัสสนากรรมฐาน ที่ไม่ได้ปฏิบัติทางสมถภาวนา
แต่อาศัยสติสัมปชัญญะตามดูรูปนาม ที่เกิดมีอยู่ ในขณะปัจจุบัน



1. ขณิกสมาธิ
เมื่อเผลอสติสัมปชัญญะ ไม่รู้ทันรูปนามปัจจุบัน ความคิดฟุ้งจึงเกิด
หากพยายามตามดูรูปนามบ่อยๆ ความคิดฟุ้งจะค่อยๆ ห่างไป

เช่น เคยคิดฟุ้งจนจบ แล้วถึงระลึกได้ว่าฟุ้ง
ก็จะเป็น คิดไปครึ่งเรื่องแล้วระลึกได้
ต่อมา พอเริ่มคิด ก็ระลึกรู้ทันเสียก่อน

จนกระทั่ง ถึงวันหนึ่ง ที่ความคิดฟุ้งไม่เกิดขึ้นเลย ในวันนั้น
เป็นลักษณะของ ขณิกสมาธิ มีกำลังเต็ม
มีสติสัมปชัญญะในรูปนามปัจจุบัน
มีเอกัคคตา จิตสงบ (ไม่มีความคิดฟุ้ง)

และเมื่อ ได้นอนหลับ ได้พักกาย
ความสุขสงบ ของกายใจ สัมมาสมาธินั้นพร้อมเกิดขึ้น



2. อุปจารสมาธิ
วิปัสสนาญาณ 9 ของวิปัสสนากรรมฐาน ที่เริ่มด้วยขณิกสมาธิ

จากขณิกสมาธิที่เต็มกำลัง เข้าสู่สภาวะของสัมมาสมาธิ แต่ไม่ถึงอุปจารสมาธิ

เมื่อญาณที่ 4 หรือวิปัสสนาญาณที่ 1 คือ อุทยัพพยญาณเกิดขึ้น
รูปนามแสดงไตรลักษณ์ ในสภาวะสมาธิ ที่มีกำลังแรง

วิปัสสนูปกิเลส 10 เป็นลักษณะอุปจารสมาธิ
เกิดขึ้นเฉพาะในอุทยัพพยญาณ
เนื่องจาก ผู้ปฏิบัติยังรู้ไม่เท่าทันอารมณ์ที่มีกำลังแรงของสมาธิ
และคล้อยไปตามเข้าสู่อุปจารสมาธิ

วิปัสสนูปกิเลส 10 ทำให้เกิดความยินดี พอใจ เป็นผลสมถสมาธิ
เป็นกิเลสของวิปัสสนา

เพราะเมื่อวิปัสสนูปกิเลสเกิด รูปนามที่แสดงไตรลักษณ์จะหมดลง
ทำให้ไม่ก้าวหน้าไป ในวิปัสสนาญาณ

อุเบกขา ในวิปัสสนูปกิเลส ยังไม่ใช่ความดับทุกข์ (นิโรธ)

เมื่อผ่านพ้นวิปัสสนูปกิเลส ในอุทยัพพยญาณ ไปได้แล้ว
ไตรลักษณ์ของรูปนามคงเกิดดับอย่างต่อเนื่องด้วยความแรง
ชื่อของวิปัสสนาญาณโดยลำดับนั้น คืออารมณ์ความรู้สึก ที่เกิดอยู่ในจิตของผู้ปฏิบัติ

ถึงสังขารุเบกขาญาณ วิปัสสนาญาณที่ 8 นั้น
การละ วาง ปล่อย (อุเบกขา) ในเหตุคือ ตัณหา (สมุทัย เหตุแห่งทุกข์)
นั้นคือความดับลงของทุกข์ (นิโรธ)
ในพระอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

อุปจารสมาธิจะเกิดขึ้น
ในอนุโลมญาณ วิปัสสนาญาณที่ 9
เมื่อรูปนามที่มีไตรลักษณ์ดับลงและเข้าสู่อัปปนาสมาธิ



3. อัปปนาสมาธิ
ตั้งแต่อุทยัพพยญาณ จนถึงสังขารุเบกขาญาณ
รูปนามที่เกิดในขณะปัจจุบัน แสดงไตรลักษณ์ในสภาวะสัมมาสมาธิ
ที่มีความแรงไม่หยุดหย่อน มาตลอด

สังขารุเบกขาญาณ วิปัสสนาญาณที่ 8
ปัญญาที่ละ วาง ปล่อย ความอยากได้ ไม่อยากได้ (ตัณหา)
ในรูปนามที่มีไตรลักษณ์

รูปนาม ที่มีไตรลักษณ์นั้น ดับลงพร้อมกันฉับพลัน
ในอนุโลมญาณ วิปัสสนาญาณที่ 9
ทุกข์ยาวนานนั้น หาทางออกได้ และดับลงสนิท

ความสงัดจากรูปนามที่มีไตรลักษณ์ในขณะนั้น
เป็นความสงบ สุข ปีติ ยินดี เอกัคคตาในอารมณ์นั้น
คือ อัปปนาสมาธิในปฐมฌาน

ทุกข์ดับเพราะ ละ วางเหตุ คือตัณหาความอยากทั้ง 3
นิโรธ ปรากฏเพราะปฏิบัติไปตามอริยมรรคมีองค์ 8

ญาณ 16 คือ
1. นามรูปปริจเฉทญาณ
2. ปัจจยปริคหญาณ
3. สัมมสนญาณ

4. อุทยัพพยญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 1
5. ภังคญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 2
6. ภยญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 3
7. อาทีนวญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 4
8. นิพพิทาญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 5
9. มุญจิตุกัมยตาญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 6
10. ปฏิสังขาญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 7
11. สังขารุเบกขาญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 8
12. อนุโลมญาณ - วิปัสสนาญาณที่ 9

13.โคตรภูญาณ
14. มัคคญาณ
15. ผลญาณ
16. ปัจจเวกขณญาณ

-----
* เพิ่มเติม ครั้งที่ 3 วันที่ 16 ตค. 2562


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร