พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญญมากโร
วัดป่าหมู่ใหม่
ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ก็อาศัยอุบายทีนี้ อาศัยการปฏิบัติตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้า คือเราอุบายเป็น “อุบายปัญญา” ไม่ใช่ “อุบายตามสัญญา” ที่เราฟังได้อย่างนี้ อย่างที่หลวงพ่ออธิบายนี้ก็ไม่ใช่ปัญญา เป็นสัญญาอยู่ แต่เราจำได้แล้วนำไปปฏิบัติในที่ของเรา เฉพาะตัวของเรา ในที่ความสงบ ในที่เหมาะสม
ท่านบอกว่านั่นคือเป็นการที่จะเปลี่ยนจากสัญญามาเป็นปัญญา คืออาศัยปฏิบัติทีนี้ ต้องเปลี่ยนจากความศึกษาความทรงจำพระสูตรมาเป็น “ป.ปลา” คือให้เกิด “ปัญญา” ขึ้น จะเกิดปัญญาได้เพราะเราเปลี่ยนจากร่างกายของเรานี่แหละคือให้เรากำหนดเปลี่ยน กำหนดรู้ที่เราว่าร่างกายของเรา แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ว่า “ร่างกายของเรา” ท่านเป็นว่าเป็น “รูปสัตว์, รูปบุคคล” หรือ “เวไนยสัตว์” ท่านให้ชื่ออย่างนี้ ทีนี้เราเปลี่ยนตาม เราแก้ไขให้จิตเราเห็นไปมันก็เกิดปัญญาขึ้นล่ะทีนี้ มันจะเห็นว่า “ตัวเรา” เคยจำ...ไม่ใช่ ถ้าเราจะใช้ปัญญาสอบถามก็ได้ เราก็ถามตัวของเรา ถามอวัยวะของเรา แขนขาหูตาว่า มันเป็น “ของเรา” ไหม มันจะตอบรับเราเป็นเสียงให้เราได้ยิน...ไม่มี อันนี้ก็คือว่า “ธรรมะตัดสินให้เรา คือ สงบ ไม่มีเสียงตอบ” ถามตา ตาก็ไม่ตอบ ถามหู หูก็ไม่ตอบ ถามทุกส่วนในอวัยวะนั่น นั่นคือเรามีอุบายที่จะแก้กิเลสทีนี้ ที่จะถามกิเลสให้กิเลสเขาคายเอาตัวเรา ให้เขาไม่มารบกวนเราเพราะจิตเราเกิดปัญญา เรากันไว้ว่า “มันไม่ใช่เรา”
ฉะนั้นถ้าเราปฏิบัติธรรม เราฟังธรรมตามแนวปฏิบัติ เราได้ความสงบ ได้สมาธิธรรมเป็นขั้นต้น คือเราจำอุบาย อุบายอาจารย์ท่านสอนบ่อยๆ ท่านพูดบ่อยๆ ค่อยจำค่อยปฏิบัติไป ไม่ใช่ว่าเราจำในเวลาที่เราฟังธรรมบรรยายมากๆ เวลาบรรยายมากๆ นี่มันจำยาก คือไม่ใช่หรอกเราจะจำทุกคำทุกบทได้ คือสำหรับหลักธรรมปฏิบัติท่านไม่ต้องการความยืดยาว ท่านต้องการความรัดกุมกะทัดรัดสั้น เพื่อจะได้จำไม่ยาก คือว่าเราย่นความจำ ย่นสัญญามาให้สั้นๆ คือให้จำเพียงคำเดียว ของอันเดียวกับของมีจำนวนร้อยจำนวนพันมันก็ต่างกัน มันก็จำง่าย ดูง่าย ไอ้ความจำของเราที่มากๆ มันก็ยุ่งยากล่ะทีนี้อย่างที่เราศึกษามามาก เราเห็นมามาก เราได้ยินมามากอย่างนี้ มันก็ไม่ใช่ว่าจะมาช่วยการปฏิบัติของเราให้ดีให้สงบได้
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“อุบายพัฒนาจิต”
รวมคำสอน “หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50287
ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21027
