ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
“สมเด็จพระญาณสังวร” ๒ รูปแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=20&t=55469 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 20 ธ.ค. 2015, 22:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | “สมเด็จพระญาณสังวร” ๒ รูปแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ |
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะที่ “สมเด็จพระญาณสังวร” นั้น นับว่าเป็นตำแหน่งพิเศษในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นตำแหน่งที่ พระราชทานสถาปนาแก่พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสสนาธุระโดยเฉพาะ ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงตั้งพระอาจารย์สุก วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ซึ่งเป็นพระเถระผู้ทรงคุณพิเศษในทางวิปัสสนาธุระ เป็นที่พระราชาคณะนั้น ก็ทรงตั้งในราชทินนามว่า พระญาณสังวรเถร อันเป็นราชทินนามที่แสดงถึงความเป็นผู้ทรงคุณในทางวิปัสสนาธุระ ครั้นมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระญาณสังวรเถร (สุก) ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ก็โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาในราชทินนามว่า สมเด็จพระญาณสังวร เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๙ ตามราชทินนามเดิม ที่ได้รับพระราชทานแต่ครั้งรัชกาลที่ ๑ สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นับเป็น “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ฉะนั้น พระองค์ท่านจึงเป็นที่รู้จักและจดจำกันได้ติดใจของคนทั่วไป พระอาจารย์สุก วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) เป็นพระเถระที่เลื่องลือด้านวิปัสนาธุระ และเปี่ยมด้วยเมตตายิ่ง ถึงขนาดมีตำนานเล่าว่าสามารถแผ่เมตตาให้ไก่ป่า ที่ได้ชื่อว่าปราดเปรียวและระแวงภัยยิ่ง ให้เชื่องเหมือนไก่บ้านได้ และเมื่อสมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ชาวประชาทั้งหลายจึงมักพากันขนานพระนามท่านว่า “สมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน” ครั้นสมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๓ ราชทินนามตำแหน่งที่ สมเด็จพระญาณสังวร ก็ไม่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาพระเถระรูปใดอีกเลยนับแต่รัชกาลที่ ๒ เป็นต้นมา กระทั่งถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ จึงได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระสาสนโสภณ (สุวฑฺฒโน เจริญ คชวัตร) วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร) ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ในราชทินนามว่า สมเด็จพระญาณสังวร ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นับเป็น “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในคราวที่ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระญาณสังวร ทรงปรารภว่า “ถ้าไม่มีสมเด็จญาณสังวรฯ (สุก ไก่เถื่อน) รูปที่ ๑ ก็คงไม่มีสมเด็จญาณสังวรฯ รูปที่ ๒ พระองค์นับว่าเป็นผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง” ฉะนั้น เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงเสด็จไปถวายสักการะพระรูปและพระอัฐิของสมเด็จพระสังฆราช (สุก) ที่วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) และที่วัดมหาธาตุ ตลอดมาทุกปี นับแต่ปีที่สมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๓ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ มาจนถึงปีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระสาสนโสภณ (สุวฑฺฒโน เจริญ คชวัตร) ขึ้นเป็นสมเด็จพระญาณสังวร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ นั้น นับเป็นเวลา ๑๕๒ ปี ซึ่งเป็นเวลายาวนานถึง ๖ รัชกาลที่ว่างเว้นไม่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาพระเถระรูปใดในราชทินนามตำแหน่งนี้ ราชทินนามตำแหน่งที่ สมเด็จพระญาณสังวร ตามพระนาม หมายถึง ผู้สำรวมในญาณคือความรู้ หรือผู้มีความสำรวมในความรู้อย่างยิ่ง (“ญาณ” หมายถึง ความรู้ และ “สังวร” หมายถึง สำรวม) หรือหากอ้างถึงพระอรรถกถา ความหมายของ “ญาณสังวร” จะเป็นหัวข้อหนึ่งใน สังวรวินัย ๕ คือ สีลสังวร สติสังวร ญาณสังวร ขันติสังวร และวิริยสังวร และดังได้มีอรรถาธิบายความหมายของ “ญาณสังวร” ว่า สังวรที่ตรัสไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนอชิตะ กระแส (ตัณหา) เหล่าใดในโลกมีอยู่ สติย่อมเป็นเครื่องห้ามกระแสเหล่านั้น เราตถาคตกล่าวสติว่าเป็นเครื่องระวังกระแสทั้งหลาย กระแสเหล่านั้นอันบุคคลย่อมละด้วยปัญญานี้เรียกว่า ญาณสังวร” ขุ.สุ. ๒๕/๔๒๕/๕๓๐ เพราะฉะนั้นราชทินนามตำแหน่งที่ “สมเด็จพระญาณสังวร” นี้ จึงกล่าวได้ว่า เป็นตำแหน่งที่มีความหมายสำคัญในประวัติการณ์ ของคณะสงฆ์ไทยแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตำแหน่งหนึ่ง รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหามาจาก :: • พระประวัติสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=44309 • พระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=19822 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เสด็จไปทรงถวายสักการะพระรูป สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) [ทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระญาณสังวร เมื่อครั้งยังครองวัดราชสิทธาราม (วัดพลับ)] สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ ธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์อย่างหนึ่งในเทศกาลเข้าพรรษา คือพระสงฆ์จะไปกราบขอขมาคารวะต่อพระเถระ ที่อาจจะพลั้งเผลอล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกเวลาหากมีความประมาท ก่อนอธิษฐานเข้าพรรษา จึงมีธรรมเนียมปฏิบัติคือการกราบขอขมาคารวะต่อพระรัตนตรัย จากนั้นก็จะมากราบขอขมาคารวะต่อพระเถระ ในอารามที่พระสงฆ์จะอยู่จำพรรษา หลังเข้าพรรษาก็จะนิยมเดินทางไปกราบขอขมาคารวะ ต่อพระเถระทั้งหลายตามวัดต่างๆ ขอให้ท่านอดโทษ ยกโทษให้ ดังนั้น หลังวันเข้าพรรษาตามอารามต่างๆ ที่มีพระเถระผู้มีตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์อยู่ จึงมีพระภิกษุสามเณรจากวัดต่างๆ เดินทางมากราบขอขมาคารวะต่อพระเถระ ณ อารามทั้งหลาย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา ก็มักเสด็จไปทรงถวายสักการะ อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารทุกพระองค์ในวันเข้าพรรษา หลังจากนั้นก็จะเสด็จไปทรงถวายสักการะพระอัฐิ ของสมเด็จพระสังฆราชในอดีตทุกพระองค์ และอัฐิของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) แห่งวัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร ตลอดจนเสด็จไปทรงถวายสักการะ “พระเทพมงคลรังษี (หลวงพ่อดี พุทฺธโชติ)” พระอุปัชฌาย์ในคราวอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกาย ณ วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อยู่เป็นประจำทุกปีมิได้ขาด ในขณะเมื่อพระอนามัยยังอำนวย ทั้งยังโปรดให้มีการสร้างสาธารณูปโภคอุทิศถวาย เป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราชในอดีตทุกพระองค์ด้วย นับเป็นความกตัญญุตาของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ |
เจ้าของ: | Duangtip [ 03 มี.ค. 2018, 07:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “สมเด็จพระญาณสังวร” ๒ พระองค์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ |
สาวิกาน้อย เขียน: เพราะฉะนั้นราชทินนามตำแหน่งที่ “สมเด็จพระญาณสังวร” นี้ จึงกล่าวได้ว่า เป็นตำแหน่งที่มีความหมายสำคัญในประวัติการณ์ ของคณะสงฆ์ไทยแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตำแหน่งหนึ่ง ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |