วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 18:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2019, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 17:22
โพสต์: 350

สิ่งที่ชื่นชอบ: พุทธธรรม,คู่มือมนุษย์
อายุ: 0
ที่อยู่: สิริชยรณํคาราเม บ้านงอบ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน

 ข้อมูลส่วนตัว www


กาลถวายผ้าอาบน้ำฝน(วัสสิกสาฏก)และถวายเทียนพรรษา
ปุจฉา: ญาติโยมมีคำถามว่า กาลสมัยนี้ผ้าอาบน้ำฝนดูแล้วพระจะไม่ค่อยได้ใช้ เพราะเห็นว่ามีห้องสรงน้ำเป็นสัดส่วนแล้ว เอาผ้าอย่างอื่นถวายแทนได้ไหม
วิสัชนา : ใช้ผ้าอย่างอื่นถวายแทนไม่ได้ เนื่องด้วยเป็นพุทธบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้แก่พระภิกษุได้อธิษฐานใช้ผ้าอาบน้ำฝน แม้ขนาดผ้าไม่ถูกต้อง พระภิกษุใช้ก็อาบัติ
*************
ประเพณีสำคัญในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา อีกประการหนึ่งคือ การถวายผ้าอาบน้ำฝน

ผ้าอาบน้ำฝน หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า ผ้าอาบ (ผ้าวัสสิกสาฎก) คือ ผ้าสำหรับใช้นุ่งในเวลาอาบน้ำฝนหรืออาบน้ำทั่วไป

การทำผ้าอาบน้ำฝน ต้องทำให้ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ
โดยประมาณที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตไว้

คือ เป็นผ้าผืนยาว ๖ คืบ พระสุคตกว้าง ๒ คืบครึ่ง
คิดโดยประมาณของช่างไม้ปัจจุบัน ยาวรวม ๔ ศอก กับ ๓ กระเบียดกว้างราว ๑ ศอก ๑ คืบกับ ๔ นิ้ว ๑ กระเบียดเศษ

ถ้าทำให้ยาวหรือกว้างเกินประมาณนี้ไป พระภิกษุใช้สอยต้องอาบัติ
ต้องตัดส่วนที่กว้างหรือยาวเกินประมาณนั้นออกเสีย จึงแสดงอาบัติได้

อีกประการหนึ่งทรงบัญญัติเขตกาลที่จะแสวงหา
เขตกาลที่จะทำ เขตกาลที่จะนุ่งห่มและเขตกาลอธิษฐานใช้สอย ไว้ว่า

ก. ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๗ ถึงวันเพ็ญเดือน ๘

รวมเวลา ๒ ปักษ์ เป็นเวลา ๑ เดือน
ในปลายฤดูร้อน นี้เป็นเขตกาลแสวงหา

ข. ตั้งแต่ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงวันเพ็ญ

เป็นเวลากึ่งเดือน ท้ายฤดูร้อน นี้เป็นเขตกาลทำนุ่งห่ม

ค. ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ไปจนสิ้นฤดูฝน

คือ เพ็ญเดือน ๑๒ รวมเวลา
๔ เดือน นี้เป็นเขตกาลอธิษฐานใช้สอย

ถ้ายังไม่ถึงเขตกาลที่ทรงอนุญาตไว้นี้ พระภิกษุแสวงหา
ได้มาหรือทำนุ่งห่ม หรืออธิษฐานใช้สอยท่านปรับอาบัติ

โดย ความมุ่งหมายและเหตุผลดังกล่าวนี้
เมื่อถึงกาลที่พระภิกษุจะต้องแสวงหาผ้าอาบน้ำฝน
คือ ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๗ เป็นต้นไป
จนถึงวันเพ็ญเดือน ๘ ทายกจึงมักถือโอกาสบำเพ็ญกุศล
โดยจัดหาผ้าอาบน้ำฝนจนครบจำนวนพระ ภิกษุสามเณรในวัดนั้นๆ แล้วนำไปถวายในที่ประชุมสงฆ์

กำหนดถวาย ระหว่างข้างขึ้นเดือน ๘ ตั้งแต่วันขึ้น ๑ ค่ำไป
แต่ในปัจจุบันโดยมากกำหนดวันถวายเป็นหมู่
ณ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ คือ ก่อนวันเข้าพรรษา ๑ วัน

เมื่อพระสงฆ์รับแล้วใช้ได้ทันทีไม่ต้องรอ เพราะอยู่ในเขต กาลทำและใช้ จะกำหนดวันใดแล้วแต่ฝ่ายทายกนัดหมายและตกลงกับทางวัด ในการถวายมีระเบียบปฏิบัติ ดังนี้

๑. อุบาสก อุบาสิกา ประชุมพร้อมกันในโรงอุโบสถ์หรือในศาลาการเปรียญแห่งใดแห่งหนึ่งแล้วแต่เหมาะสม

๒. นำผ้าอาบน้ำฝนตั้งไว้ ณ เบื้องหน้าต่อหน้าพระสงฆ์
ทายกนำกราบพระและว่านะโมพร้อมกัน ๓ จบ

๓. ในระหว่างทายกกล่าวคำถวาย พระสงฆ์ทั้งหมดประนมมือ พอจบคำถวายแล้วพระสงฆ์รับ "สาธุ" พร้อมกัน

๔. ประเคนเสร็จแล้ว พระสงฆ์รับอนุโมทนา

๕. ระหว่างพระว่า "ยถา..."
ทายกทั้งหมดพึงกรวดน้ำ แล้วประนมมือรับพรไปจนจบเป็นอันเสร็จพิธี

(ที่มา : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ http://www.onab.go.th)

.....................................................
ตถาตา มันเป็นเช่นนั้นเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร