ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
วันลอยกระทง http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=25796 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 00:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 01:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 01:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() พระเจ้าอโศกมหาราชทรงมีพระศรัทธาอย่างแรงกล้าในพระพุทธศาสนา ทรงนำหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาเป็นนโยบายปกครองประเทศ โปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์ และพุทธวิหารทั่วทั้งชมพูทวีป ครั้นสร้างพระสถูปเจดีย์แล้ว จึงปรารภถึงพระบรมสาริกธาตุ ที่จะบรรจุในสถูปเจดีย์นั้น ต่อมาทรงทราบสถานที่ฝังพระบรมสารีริกธาตุ จึงได้เสด็จไปยังที่นั้น ซึ่งเป็นบริเวณต่ำอยู่ลึกจากพื้นถึง ๘๐ ศอก และทำขึ้นในสมัยพระเจ้าอชาตศัตรู เมื่อ ๒๐๐ ปีกว่าแล้ว พระเจ้าอโศกได้ทรงพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างยังคงสภาพเดิม ประทีปส่องสว่างดอกไม้ดูยังสดเหมือนเก็บมาใหม่ๆ กล่องและพระถูป ที่ใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จัดเป็น ๘ ชั้น พระเจ้าอโศกทรงปลาบปลื้มพระทัยยิ่งนัก ทรงอัญเชิญพระสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุใส่ในพานทองคำนำออกภายนอก ตรัสสั่งให้ปิดประตูเรือนแก้วจนถึงเรือนชั้นนอกสุด ให้กลบดินและทรายดังเดิม เชิญพระสถูปศิลาชลอมาประดิษฐานไว้ที่เดิม เมื่อทรงสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ได้ทรงแจกพระบรมสารีกธาตุไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ทั่วชมพูทวีป และทรงสั่งให้สร้างพระมหาสถูปองค์ใหญ่ขึ้นใหม่องค์หนึ่ง มีความสูงครึ่งโยชน์ ประดับด้วยแก้วมณีต่างๆ ส่องสว่างรุ่งเรืองประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาใกล้กรุงปาฏลีบุตร สร้างสร้างแล้วจึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่กันไว้ส่วนหนึ่งบรรจุในพระมหาสถูปองค์นั้น ต่อมาทรงมีพระราชดำริที่จะทำการฉลองพระบรมสารีริกธาตุทั่วทั้งชมพูทวีป รวมทั้งพระมหาสถูปเจดีย์ เป็นเวลา ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ทรงปริวิตกว่าจะมีวิธีใดที่จะป้องกันอันตรายอันจะเกิดขึ้นในระหว่างงานฉลองครั้งนี้ ได้เสด็จไปปรึกษากับพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระประธานสงฆ์ ในที่สุดได้เป็นที่ตกลงกันในหมู่สงฆ์เพื่อนิมนต์พระอุปคุตตเถระ ซึ่งมีฤทธิ์มากสามารถปราบการร้ายของมารได้ พระอุปคุตตเถระได้เนรมิตรปราสาทแก้วจำพรรษาอยู่ในท้องมหาสมุทร ท่านนั่งเข้าฌานสมาบัติไม่ได้ฉันอาหารเป็นเวลานาน พระอุปคุตตเถระกล่าวว่าถ้าได้ฉันอาหารแล้วก็อาจกำจัดภัยจากพระยามาร ไม่ให้ทำอันตรายต่องานฉลองพระธาตุครั้งนี้ ในวันแรก พระเจ้าอโศกทรงสงสัยว่า พระอุปคุตตจะมีกำลังพอปราบมารได้หรือไม่ เพราะร่างกายซูบผอมมาก ในวันที่สองพระอุปคุตตเถระเข้าไปบิณฑบาตรในพระราชวัง เมื่อกลับออกมาพระเจ้าอโศกตรัสสั่งให้ควาญช้างปล่อยช้างชับมันเพื่อลองกำลังฤทธิ์พระอุปคุต เมื่อพระเถระเดินออกจากพระราชวัง ช้างพระที่นั่งตกมันตรงรี่เข้าไปใกล้ท่าน ท่านทราบว่าพระราชาทรงทดลองฤทธิ์ จึงได้อธิฐานจิตให้ช้างนั้นเป็นช้างศิลายืนอยู่ที่นั่น แล้วท่านก็เดินจากไปส่วนพระเจ้าอโศกมหาราชทรงเป็นห่วงว่าช้างจะทำอันตรายแก่พระเถระ จึงเสด็จตามพระอุปคุตตเถระ ระหว่างทางได้ทรงพบช้างพระที่นั่งยืนแน่นิ่งไม่ไหวกาย จึงทรงทราบถึงอานุภาพของพระเถระ เมื่อเสด็จไปทันพระเถระพระราชาตรัสขอขมา และทรงทราบถึงอิทธิฤทธิ์ของพระเถระได้โดยไม่ต้องเชื่อคำบอกเล่าจากผู้อื่น พระอุปคุตตกราบทูลว่าไม่ได้ถือโทษและขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ ช้างทรงก็จงมีความสุขกลับไปสู่ถิ่นฐานของตน เมื่อกล่าวดังนั้นช้างก็เดินกลับไปยังที่ของตน เมื่อพระเจ้าอโศกทรงได้พระอุปคุตเถระมาช่วยป้องกันอันตรายจากพระยามารได้แล้ว จึงทรงปรารถนาที่จะจัดการบูชาอย่างยิ่งใหญ่ต่อพระมหาสถูปเจดีย์ที่ทรงสร้างไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคารวมทั้งพระเจดีย์ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วชมพูทวีป ครั้นถึงกำหนดวันฉลองพระเจ้าอโศกพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพารและประชาชนได้ไปร่วมประชุมอย่างคับคั่ง เพื่อสักการะบูชาพระมหาสถูปเจดีย์มีการจุดประทีปดูสว่างไสวไปทั่วดุจเวลากลางวัน พระยามารทราบว่าพระเจ้าอโศกทรงจัดการบูชาครั้งมโหฬาร จึงหวังทำลายพิธี และได้เหาะลงมาจากสวรรค์ในเทวโลก เพื่อจะทำลายพิธี พระอุปคุตตเถระก็ตอบโต้ได้โดยฉับพลันทุกครั้งไป ทำให้พระยามารแค้นใจมาก ภายหลังพระยามารได้เนรมิตคนให้เป็นสัตว์ที่มีกำลัง พระอุปคุตตเถระก็เนรมิตให้ใหญ่กว่า มีกำลังเข้มแข็งกว่า และมีฤทธิ์กว่า พระยามารเห็นว่าตนจะพ่ายแพ้แก่พระอุปคุตตเถระ จึงได้แสดงตนให้ปรากฏอยู่ตรงหน้า พระอุปคตตเถระได้คิดหาวิธีปราบพระยามารให้สิ้นฤทธิ์ โดยได้เนรมิตสุนัขเน่าเหม็นเต็มไปด้วยหมู่หนอนไปผูกคอพระยามาร และได้อธิษฐานจิตมิให้ผู้อื่นแก้ไขได้ แล้วไล่พระยามารให้ออกไปจากที่นั้น พระยามารได้รับความอับอายมากได้เหาะไปขอความช่วยเหลือจากท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ รวมทั้งพระอินทร์และพระพรหม แต่ก็ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือแก้ไขให้ได้ ท้าวสหัมบดีพรหมแจ้งแก่พระยามารให้กลับลงไปหาพระอุปคุตตเถระให้ท่านช่วยแก้ไขให้ จึงจะได้ ใครอื่นไม่สามารถช่วยได้ พระยามารจึงต้องจำใจกลับไปหาพระอุปคุตตเถระด้วยอาการนอบน้อมสุภาพตามคำแนะนำของเหล่าเทวราช และขอขมาที่ได้กระทำความชั่วทั้งหลายนั้น และยอมจำนนต่อท่านอุปคุตตเถระ พระอุปคุตตเถระเห็นว่างานฉลองครั้งยิ่งใหญ่นี้ ยังไม่เสร็จสิ้น จึงต้องควบคุมพระยามารไว้ก่อน โดยให้พระยามารไปที่ภูเขา แล้วแก้เอาสุนัขเน่าออก แต่ก็ยังเห็นว่าควรจะมัดพระยามารไว้ก่อน จึงได้รัดประคตออกจากเอวของท่านอธิษฐานจิตให้รัดประคตยาวพอที่จะมัดพระยามารติดกับภูเขาไว้อย่างมั่นคง ท่านอุปคุตตได้แจ้งให้พระยามารรออยู่ที่ภูเขานั้นจนกว่าพระเจ้าอโศกมหาราชจะทรงเสร็จสิ้นงานฉลอง งานฉลองจึงสามารถดำเนินไปได้ จนครบกำหนด ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน อย่างราบรื่น เป็นที่ยินดีแก่ชนทั้งหลาย พระยามารได้หวนระลึกถึงพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อตน แม้ตนจะทำไม่ดีต่อพระพุทธองค์ พระองค์ก็ไม่ได้กระทำโทษตอบ แต่ในบัดนี้พระสาวกของพระพุทธองค์ได้ทำโทษทุกข์แสนสาหัส เมื่อคิดได้เช่นนี้ พระยามารจึงอธิษฐานว่า หากมีบุญกุศลที่ได้สร้างสมไว้ ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งแก่สัตว์ทั้งหลาย และกระทำประโยชน์โปรดเวไนยสัตว์ทั้งปวง พระอุปคุตตเถระ ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณนั้นและได้ยินเข้า จึงปรากฏกายแล้วเดินเข้าไปแก้มัดออกให้ กล่าวแก่พระยามารว่า ท่านจะสมปรารถนาได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ตั้งแต่นี้ต่อไปตัวท่านจักเป็นปูชนียบุคคล คือพระโพธิสัตว์ที่ชาวโลกเคราพบูชาต่อไป ขอให้ตั้งใจละบาป อย่ากระทำกรรมอันหยาบช้าต่อไป ให้ เมื่อพระเถระเห็นว่าพระยามารตั้งใจกระทำความดี มีความปราถนาดี จึงเรียกร้องให้พระยามารเนรมิตพระรูปพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งอัครสาวกให้เห็นเป็นประจักษ์ เพราะพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานนานแล้ว ได้เห็นแต่พระธรรมวินัยของพระองค์เท่านั้น พระยามารมีข้อแม้ว่าถ้าหากตนเนรมิตกายเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านอุปคุตตจะต้องไม่ถวายความเคารพเป็นอันขาด เมื่อเป็นที่ตกลงกันแล้วพระยามารได้เข้าไปในป่า แล้วเนรมิตกายเป็นพระรูปพระพุทธเจ้าประกอบด้วยพระมหาปริสลักษณะสว่างรุ่งเรืองด้วยรัศมีแวดล้อมด้วยหมู่สงฆ์ พระมหาเถระเมื่อแลเห็นพระรูปของพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยเหล่าภิกษุสงฆ์ ก็ได้ถวายนมัสการด้วยความศรัทธาอย่างแน่นแฟ้น ลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับพระยามาร ภิกษุและบุคคลอื่นในที่นั้น รวมทั้งพระเจ้าอโศกมหาราช ต่างก็ได้ถวายนมัสการกันโดยทั่วหน้า พระยามารเห็นท่าไม่ดี จึงบันดาลให้พระรูปพระพุทธเจ้าและสาวกหายไป และต่อว่าท่านอุปคุตตว่าละเมิดคำสัญญา แต่ท่านอุปคุตตกล่าวว่าท่านตั้งใจถวายความเคราพนอบน้อมพระพุทธเจ้าต่างหาก เมื่อพระอุปคุตตเถระเห็นความตั้งใจดี และความปราถนาดีของพระยามาร ก็ได้กล่าวอวยพรให้พระยามารกลับไปโดยสุขสวัสดิ์ จากนั้นพระยามารได้ถวายนมัสการท่านอุปคุตตแล้วกลับคืนสู่วิมานในเทวโลกดังเดิม ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 01:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 01:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 01:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 24 ก.ย. 2009, 01:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 24 ก.ย. 2009, 09:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
![]() ![]() ![]() สาธุครับ เจ้านาง ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | bbb [ 02 พ.ย. 2009, 13:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วันลอยกระทง |
ลอยกระทง ลอยความทุกข์ให้ออกจากจิตกันครับ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |