ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ส่วนบุญกุศลที่เราแผ่ไปถึงผู้ที่ตายจะถึงเขาหรือไม่
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=30957
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 20 เม.ย. 2010, 13:25 ]
หัวข้อกระทู้:  ส่วนบุญกุศลที่เราแผ่ไปถึงผู้ที่ตายจะถึงเขาหรือไม่

รูปภาพ


:b8: ถาม

ส่วนบุญกุศลที่เราแผ่ไปถึงผู้ที่ตายจะถึงเขาหรือไม่


:b44: ตอบ

สิ่งนี้เป็นสิ่งละเอียดอ่อน ไม่แน่นอน
เราอาจจะมีความรู้สึกว่า เขากำลังลำบากจริงๆ
แต่เขาอาจจะมีความสุขกว่าเราก็เป็นได้
เช่น เขาอาจจะไปเกิดในตระกูลที่ดีกว่าหรือเป็นเทวดา
ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ค่อยจำเป็นที่เราจะทำบุญให้เขา
แต่เขาก็อาจจะเกิดในภูมิที่ต้องการส่วนกุศลจากเราก็เป็นได้
หรือถ้าเขาทำกรรมหนักไว้ เขาอาจจะเกิดเป็นผีในภูมิที่ต่ำที่สุด
ที่ไม่สามารถรับบุญกุศลที่คนอื่นอุทิศให้ก็ได้


แต่เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ตายไปเกิดอยู่ที่ภพภูมิไหน
เราจึงมีหน้าที่ต้องทำบุญไปให้อยู่เสมอ

เมื่ออาจารย์บวชใหม่ๆ อาจารย์ก็คิดว่า
ทำบุญกับคนล่วงลับไปแล้วไม่มีประโยชน์ เป็นสิ่งที่งมงาย
แต่เดี๋ยวนี้ มีความรู้สึกตรงกันข้าม เห็นว่าควรทำ
เพราะมีประโยชน์มากทีเดียว อย่างน้อยเราทำบุญเราก็ได้บุญแล้ว
และอาจจะถึงผู้ตายด้วยก็เป็นได้ ผู้ตายเขาจะต้องการหรือไม่
เขาจะรับส่วนบุญกุศลได้หรือไม่ เราก็ไม่รู้แต่เราก็ทำบุญไปเรื่อยๆ
เราทำบุญเราก็สบายใจ ได้บุญแล้ว และยังอาจจะได้ประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย



สมมติว่าคน 2 คนอยู่ด้วยกัน เช่น สามีภรรยาก็ได้
เมื่อมีชีวิตอยู่มักจะทะเลาะกันบ่อยๆ ความใกล้ชิดมากทำให้มีอารมณ์มาก
บางทีก็ไม่มีเรื่องอะไร แต่อาจจะเพราะ รัก หวง ห่วง หึง อิจฉา ฯลฯ ทำให้ทะเลาะได้
ภาษิตญี่ปุ่นสอนว่า “สามีภรรยาทะเลาะกัน หมาก็ยังไม่กิน”
หมายความว่า เมื่อสามีภรรยาทะเลาะกัน
คนที่อยู่รอบข้างไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ต้องห่วงเขา


ทีนี้ฝ่ายหนึ่งตายก่อน อารมณ์ความจำมันจะตกค้างอยู่ในสันดานจิตใจของคนที่มีชีวิตอยู่
เหมือนถูกอัดเทปไว้ในสัญญาขันธ์ เมื่อเขาล่วงลับไปแล้ว ถ้าเราคิดถึงเขา มีใจเป็นบุญ
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาบ่อยๆ นึกถึงความดีของเขาบ่อยๆ
นึกว่าเขาเป็นญาติของเรา เคยใช้ชีวิตร่วมกัน เคยทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน
เคยมีความสุขร่วมกัน เรานึกถึงเรื่องฝ่ายดีๆ แล้วก็ทำบุญอุทิศแผ่ส่วนกุศลให้เขาไปเรื่อยๆ
จิตใจของเราก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไป


ตอนมีชีวิตอยู่ด้วยกันก็อาจจะต่างคนต่างบ่น แต่พอฝ่ายหนึ่งตายไปแล้ว
ก็จะนึกถึงความดีของเขาง่ายขึ้น เพราะไม่ถูกกระทบอารมณ์
ความจำฝ่ายไม่ดีก็ให้อโหสิกรรมไปได้โดยอัตโนมัติ
ฉะนั้น หน้าที่ของเราก็คือ พยายามใส่บาตร ทำบุญให้เรื่อยๆ
ระลึกถึงแต่ความทรงจำฝ่ายดี อโหสิกรรม ให้อภัยเป็นอภัยทาน
ปล่อยวางความไม่พอใจความจำฝ่ายไม่ดีเสีย



ถ้าชาติไหนเราพบกันอีก ก็จะพบกันดีๆ มีความสุข
ถ้าเราไม่ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา ชาติต่อไปถ้าบังเอิญไปพบกันอีก
พบปุ๊บก็อาจจะทะเลาะกันได้โดยไม่ได้ตั้งหลักเลย ก็เป็นได้ ระวัง !!



คัดลอกบางส่วนจาก...ปัญหา 108 (1)
โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัดสุนันทวนาราม จ.กาญจนบุรี


:b48: :b8: :b48:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/