ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย “ศูนย์ปฏิบัติธรรม” ครบวงจร
ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย จัดสร้างอาคารปฏิบัติธรรม “อาคารอเนกประสงค์ครบวงจร” แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อรองรับชาวพุทธที่แสวงหาธรรม คาดงบประมาณก่อสร้าง ๒๐๐ ล้านบาท
นายอนุรุธ ว่องวานิช นายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ยุวพุทธิสมาคม ได้จัดอบรมปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นเวลาต่อเนื่องมานานกว่า ๒๒ ปี จนปัจจุบันศูนย์วิปัสสนาเพชรเกษม ๕๔ ไม่สามารถรองรับความต้องการได้พอเพียง จึงดำริสร้างอาคารอเนกประสงค์ในพื้นที่ที่ยังว่างอยู่ โดยได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ ๒๐๐ ล้านบาท
เมื่ออาคารสร้างเสร็จ จะถือว่าเป็นอาคารอเนกประสงค์ทันสมัยที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย มีสถานที่ปฏิบัติธรรมครบวงจร ที่จะอนุเคราะห์ผู้สนใจในการปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น และเป็นศูนย์อบรมผู้นำผลิตวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม เพื่อกระจายการฝึกอบรมไปยังศูนย์ฝึกอบรม และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศ เพื่อร่วมสร้างพลเมืองที่ดีในสังคม โดยมุ่งพัฒนาจิตใจมวลมนุษยชาติได้พบสันติสุข
“ยุวพุทธฯ มีกิจกรรมปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปี นั่นแสดงให้เห็นเลยว่า สังคมยังต้องการสิ่งนี้อย่างมาก เพราะสังคมเรายังมีความทุกข์กันมาก ทำให้สถานที่ไม่สามารถรองรับได้อย่างเพียงพอ จึงต้องมีการสร้างอาคารอเนกประสงค์หลังใหม่ขึ้นมาที่มี ความทันสมัยแบบครบวงจร ที่เราต้องสร้างให้อาคารแห่งนี้เป็นอาคารที่ทันสมัย ก็เพราะเราอยากให้เห็นว่า ภาพที่คนมองว่าการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องล้าสมัย วันนี้อยากแสดงให้เห็นว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมแบบทันสมัยนั้นเป็นอย่างไร” นายกยุวพุทธิกสมาคม กล่าวพร้อมกับบอกด้วยว่า
ปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีนักธุรกิจให้ความสำคัญหันมาปฏิบัติธรรมกันมาก ตรงนี้อยากบอกว่า วิปัสสนาทำให้คน เราได้พัฒนาสติ สมาธิก่อให้เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตลอดความทุกข์ทั้งมวลที่มีอยู่ในชีวิตของคน ดังนั้นมีชาวโลกทั้งหลายที่มีความทุกข์ได้หาทางออกผิดๆ เช่น พาตัวเองไปสู่อบายมุข หรือบางรายมีความทุกข์จนต้องฆ่าตัวตาย แต่วันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมาสู่การปฏิบัติธรรม เพราะการปฏิบัติธรรมถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะเข้าถึงธรรมะของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ เพียงแค่อ่านหนังสือหรือพูดคุยธรรมะเท่านั้น
นายกยุวพุทธิกสมาคม บอกด้วยว่า ยุวพุทธฯ คงเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดการสนับสนุนและความเมตตาจากผู้มีอุปการคุณ กรรมการ ครู อาจารย์ ฉะนั้นคงฝากความหวังและความสำเร็จของเราที่ท่านได้ช่วยกันคนละไม้ คนละมือจนเกิดผลสำเร็จ ตามที่เราได้ตั้งความปรารถนาไว้ การปฏิบัติธรรมจะทำให้คนเราได้เห็นถึงความยึดมั่นถือมั่นของตัวเอง วันนี้โลกต้องการสิ่งนี้ และโลกเราที่ขัดแย้งกันเพราะขาดปัญญา
ด้าน นายพงษ์พันธ์ เสาวพุทธสุเวช อุปนายกยุวพุทธิกสมาคม กล่าวเสริมว่า วันนี้เรามีความจำเป็นต้องสร้างอาคารอเนกประสงค์ขึ้นมา เนื่องจากที่ผ่านมายุวพุทธฯ ได้บริการคนทั่วไป แต่การสร้างครั้งนี้เราจะสร้างเป็นสถาบันแห่งปัญญา โดยเราหวังว่าสถาบันแห่งนี้จะได้ตอบสนองของผู้นำในสังคมไทย เช่น นักธุรกิจ ยิ่งวันนี้กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ก็ให้ความสำคัญแสวงหาการปฏิบัติธรรม จนทำให้สถานที่เรามีบริการไม่เพียงพอ
สิ่งที่ยุวพุทธฯ ต้องการคือ การได้เรียนรู้ตัวเอง มารู้จักตัวว่าเราเกิดกันมาเพื่ออะไร ความสำคัญของชีวิต พระพุทธเจ้าสอนอะไร ยุวพุทธฯ จึงอยากจะทำหน้าที่ในการดูแลจิตของชาวไทยทั้งประเทศ ส่วนหนึ่งเรายังได้ดูแลเยาวชนในต่างประเทศ เพราะเราตั้งสถาบันแห่งนี้ขึ้นมาเราก็หวังว่า สถาบันนี้จะพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้นำ และมีจิตวิญญาณที่เข้าใจชีวิต เพราะเชื่อว่าคนเรามีความสงบภายในปัญญาก็เกิดขึ้นได้ ตรงนี้ยุวพุทธฯ จึงอยากเปิดโอกาสเข้ามาแก้ไขหรือช่วยเหลือคนในสังคมที่มี ความทุกข์
“ผมอยากจะชี้แจงให้สังคมรับทราบว่า บางคนบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ยังไงตระกูลว่องวานิชก็คอยสนับสนุนอยู่แล้ว คงไม่ต้องให้เงินบริจาคอะไรหรอก แท้จริงมันไม่จริงอย่างนั้น เพราะว่าเราจะรบกวนว่องวานิชอยู่ตลอดเวลาคงไม่ได้ แล้วว่องวานิชสนับสนุนยุวพุทธฯ มาตั้งแต่ต้น ตรงนี้เราพยายามกระจายบุญตรงนี้ให้กับคนอื่น เรารับบริจาคตั้งแต่ บาทเดียว ห้าบาท ไปเป็นร้อยเราก็รับ แล้วที่ผ่านมาเกิดวิกฤติว่องวานิชก็เกิดปัญหาแบบทุกๆ คน ยุวพุทธฯ เดินได้ในวันนี้ด้วยตัวเองก็ เพราะมาจากการบริจาครุ่นพี่มาปฏิบัติแล้วเห็นผลเขาก็บริจาคกันไว้มาถึงรุ่นน้อง รุ่นน้องก็บริจาคต่อ” พงษ์พันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
อานิสงส์การสร้างอาคารปฏิบัติธรรม
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. กล่าวว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสรรเสริญว่า การถวายวิหารแด่พระสงฆ์ เป็นยอดทานการบริจาคทรัพย์ ร่วมสร้างอาคารอเนกประสงค์ของยุวพุทธฯ ครั้งนี้จึงเป็นวิหารทานที่พิเศษสุด เพราะสร้างถวายเป็นพุทธบูชาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม พระองค์ทรงยกย่องการปฏิบัติบูชา คือ การปฏิบัติธรรมเป็นการบูชาพระพุทธองค์ที่ยอดยิ่ง
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานถือเป็นยอดของการปฏิบัติธรรม เพราะผู้ที่ปฏิบัติจะได้พบประสบภัยของสันติสุข สมดังพระพุทธดำรัสที่ว่า นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ขอให้ท่านผู้เจริญด้วยปัญญาพิจารณาแล้วส่งเสริมสนับสนุน เพื่อสร้างสถานที่บรรเทาทุกข์ของคนทั่วโลก
คุณแม่สิริ กรินชัย กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ขออนุโมทนากับยุวพุทธฯ ที่ดำริสร้างอาคารอเนกประสงค์เพื่อรองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้เพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ทั้งต่อพระพุทธศาสนาและประชาชนชาวไทย
พันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน กล่าวอีกว่า ขออนุโมทนาในการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ของยุวพุทธิกสมาคม และขอเชิญชวนบรรดาเพื่อนยุวพุทธฯ ผู้ปฏิบัติธรรมทุกๆ คนได้ช่วยกันเสียสละเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ ขอให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีในทุกประการเทอญ
อย่างไรก็ตาม ญาติธรรมหรือผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้โดยตรงที่ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ ๕๘/๘ เพชรเกษม ๕๔ เขตภาษีเจริญ กทม. ๑๐๑๖๐ โทร. ๐-๒๘๐๕-๐๗๙๐-๔, ๐-๒๔๑๓-๑๗๐๖, ๐๘-๙๖๖๗-๐๗๔๙ (กาญจนา กรัณยประเสริฐ) โทรสาร ๐-๒๔๑๓-๓๑๓๑ อีเมล : ybatoffice@ybat.org
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก คอลัมน์พระเครื่อง คม ชัด ลึก
ฉบับวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง/ภาพ พีระรัตน์ ธรรมจง
