พระธาตุจอมสี
ณ ยอดเขาภูสี เมืองหลวงพระบาง
ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
พระธาตุจอมสี ตั้งอยู่บนยอดเขาชื่อ ภูสี
ใจกลางเขตมรดกโลกเมืองหลวงพระบาง
"ภูสี" เป็นภูเขาขนาดย่อมๆ ความสูงประมาณ ๑๕๐ เมตร
ปัจจุบันมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมทิวทัศน์ที่สูงที่สุดในหลวงพระบาง
ใครมาเยือนหลวงพระบางก็จะต้องขึ้นมารอชมทัศนียภาพ
ยามอาทิตย์ตกดิน บนยอดเขาภูสีแห่งนี้กันสักครั้ง
สถานที่สำคัญ เช่น หอพระบาง, พระราชวังเจ้ามหาชีวิต
ซึ่งปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองหลวงพระบาง,
วัดเชียงทอง ก็ล้วนตั้งอยู่รายล้อมภูสี โดยมีถนนเส้นเล็กๆ คั่นกลาง
ถนนเส้นที่ว่านี้ในยามค่ำคืนก็ คือ ถนนคนเดิน (Night market)
แหล่งท่องเที่ยวและซื้อของที่ระลึกยอดนิยมของหลวงพระบางนั่นเอง
องค์พระธาตุจอมสี เป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยม
ที่พระธาตุ มีวิหารสำหรับเข้าไปสักการะพระพุทธรูป
ประวัติการสร้างพระธาตุ
พระธาตุจอมสี สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. ๑๘๐๔ หรือ พ.ศ ๒๓๔๗
ตรงกับสมัยของเจ้าอนุรุท อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง
ความกว้างของพระธาตุวัดได้ด้านละ ๑๐.๕๕ เมตร สูง ๒๑ เมตร
และได้รับการบูรณะด้วยการปิดแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๗
มีวิหารไหว้พระ ซึ่งได้รับการต่อเติมให้กว้างขึ้นในสมัยเดียวกัน
พระธาตุจอมสี เป็นเสมือนพระธาตุหลักเมือง
เพราะตั้งอยู่บนเขาภูสีซึ่งเป็นยอดเขาใจกลางเมืองหลวงพระบาง
ที่มีเรื่องเล่าสำคัญสืบต่อๆ กันมา
เล่ากันว่า ก่อนจะเรียกเขาลูกนี้ว่า ภูสี นั้น
มีฤาษีสองตนเป็นพี่น้อง ชื่อ อมรฤาษี และโยธิกะฤาษี
ทั้งสองตนได้มาพบและสังเกตเห็นว่า
ภูเขาลูกนี้สวยงาม และยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองพอดี
จึงคิดว่า น่าสร้างบ้านเมืองโดยเอาภูเขาลูกนี้เป็นศูนย์กลาง
การสร้างเมืองหลวงพระบางจึงเริ่มต้น โดยยึดเอาเขาลูกนี้เป็นสำคัญ
ยอดเขาภูสี มีเส้นทางขึ้นหลายด้าน
แต่เส้นทางที่นิยมก็คือ ด้านทิศตะวันตก
ด้านพระราชวังเก่า ซึ่งมีบันไดขึ้น ๓๒๘ ขั้น
บันไดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙-๒๔๘๐
สถานที่สำคัญที่อยู่บริเวณภูสีนี้ ได้แก่
วัดถ้ำภูสี รอยพระพุทธบาท วัดศรีพระพุทธบาท
วัดป่าแค วัดป่าฝาง และอารามวัดป่ารวก
กิจอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับภูสี คือ การตีกลองบอกโมงยาม
โดยจะตีกลองตามเวลาแบบโบราณ ชั่วยามหนึ่งห่าง ๓ ชั่วโมง
ตีเพื่อบอกให้ประชาชนชาวหลวงพระบางได้รู้เวลา
เพื่อจะได้ประกอบภารกิจของตน
ด้วยเหตุที่กล่าวมา เห็นได้ว่า เขาภูสี นี้
เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวนครหลวงพระบางมาแต่โบราณ
จึงมีคำกล่าวติดปากกันมาว่า
"ไปหลวงพระบางไมได้ขึ้นภูสี ก็เท่ากับมาไม่ถึงหลวงพระบาง"
พระธาตุจอมสี หรือขึ้นจุดชมวิวบนยอดเขาภูสี
ต้องขึ้นบันได ๓๒๘ ขั้น โดยแบ่งเป็นสองระยะ
ระยะแรก ๑๓๘ ขั้น จะเจอจุดพัก มีลานให้นั่งเล่นพักผ่อนได้
และเป็นจุดให้ตัดสินใจว่าจะขึ้นไปต่อหรือจะพักแค่นี้
หากไปต่อ จะขึ้นบันไดระยะที่สอง ต้องชำระค่าเข้าสถานที่ค่ะ
(ส่วนใหญ่ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ในลาวจะอยู่ระหว่าง ๑๐-๘๐ บาท)
เมื่อมีเทศกาลงานบุญ เช่น งานปีใหม่ลาว (ตรุษสงกรานต์)
ก็จะมีการประดับประดาทางขึ้นยอดเขาอย่างสวยงาม
ระยะแรก ๑๓๘ ขั้นนี่บันไดค่อนข้างชัน
มีการเขียนไว้ว่า ถ้าขึ้นก็ ๑๙๐ ขั้น ถ้าลงก็ ๑๓๘ ขั้น
แฝงนัยยะท้าทายให้เราขึ้นมากกว่า
ลานนั่งพักผ่อนที่ ๑๓๘ ขั้นแรกของการขึ้นภูสี
บันไดระยะที่สอง ไม่ชันแล้วค่ะ เดินสบาย
ดังนั้นนั่งพักหายเหนื่อยแล้วขึ้นไปต่อค่ะ
เพื่อนร่วมทางเยอะแน่นอนโดยเฉพาะช่วงบ่าย
เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปรอชมวิวและเก็บภาพ
พระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขาอย่างเนืองแน่น
ณ ยอดเขาภูสี เมืองหลวงพระบาง
ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
พระธาตุจอมสี ตั้งอยู่บนยอดเขาชื่อ ภูสี
ใจกลางเขตมรดกโลกเมืองหลวงพระบาง
"ภูสี" เป็นภูเขาขนาดย่อมๆ ความสูงประมาณ ๑๕๐ เมตร
ปัจจุบันมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมทิวทัศน์ที่สูงที่สุดในหลวงพระบาง
ใครมาเยือนหลวงพระบางก็จะต้องขึ้นมารอชมทัศนียภาพ
ยามอาทิตย์ตกดิน บนยอดเขาภูสีแห่งนี้กันสักครั้ง
สถานที่สำคัญ เช่น หอพระบาง, พระราชวังเจ้ามหาชีวิต
ซึ่งปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองหลวงพระบาง,
วัดเชียงทอง ก็ล้วนตั้งอยู่รายล้อมภูสี โดยมีถนนเส้นเล็กๆ คั่นกลาง
ถนนเส้นที่ว่านี้ในยามค่ำคืนก็ คือ ถนนคนเดิน (Night market)
แหล่งท่องเที่ยวและซื้อของที่ระลึกยอดนิยมของหลวงพระบางนั่นเอง
องค์พระธาตุจอมสี เป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยม
ที่พระธาตุ มีวิหารสำหรับเข้าไปสักการะพระพุทธรูป
ประวัติการสร้างพระธาตุ
พระธาตุจอมสี สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. ๑๘๐๔ หรือ พ.ศ ๒๓๔๗
ตรงกับสมัยของเจ้าอนุรุท อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง
ความกว้างของพระธาตุวัดได้ด้านละ ๑๐.๕๕ เมตร สูง ๒๑ เมตร
และได้รับการบูรณะด้วยการปิดแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๗
มีวิหารไหว้พระ ซึ่งได้รับการต่อเติมให้กว้างขึ้นในสมัยเดียวกัน
พระธาตุจอมสี เป็นเสมือนพระธาตุหลักเมือง
เพราะตั้งอยู่บนเขาภูสีซึ่งเป็นยอดเขาใจกลางเมืองหลวงพระบาง
ที่มีเรื่องเล่าสำคัญสืบต่อๆ กันมา
เล่ากันว่า ก่อนจะเรียกเขาลูกนี้ว่า ภูสี นั้น
มีฤาษีสองตนเป็นพี่น้อง ชื่อ อมรฤาษี และโยธิกะฤาษี
ทั้งสองตนได้มาพบและสังเกตเห็นว่า
ภูเขาลูกนี้สวยงาม และยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองพอดี
จึงคิดว่า น่าสร้างบ้านเมืองโดยเอาภูเขาลูกนี้เป็นศูนย์กลาง
การสร้างเมืองหลวงพระบางจึงเริ่มต้น โดยยึดเอาเขาลูกนี้เป็นสำคัญ
ยอดเขาภูสี มีเส้นทางขึ้นหลายด้าน
แต่เส้นทางที่นิยมก็คือ ด้านทิศตะวันตก
ด้านพระราชวังเก่า ซึ่งมีบันไดขึ้น ๓๒๘ ขั้น
บันไดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙-๒๔๘๐
สถานที่สำคัญที่อยู่บริเวณภูสีนี้ ได้แก่
วัดถ้ำภูสี รอยพระพุทธบาท วัดศรีพระพุทธบาท
วัดป่าแค วัดป่าฝาง และอารามวัดป่ารวก
กิจอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับภูสี คือ การตีกลองบอกโมงยาม
โดยจะตีกลองตามเวลาแบบโบราณ ชั่วยามหนึ่งห่าง ๓ ชั่วโมง
ตีเพื่อบอกให้ประชาชนชาวหลวงพระบางได้รู้เวลา
เพื่อจะได้ประกอบภารกิจของตน
ด้วยเหตุที่กล่าวมา เห็นได้ว่า เขาภูสี นี้
เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวนครหลวงพระบางมาแต่โบราณ
จึงมีคำกล่าวติดปากกันมาว่า
"ไปหลวงพระบางไมได้ขึ้นภูสี ก็เท่ากับมาไม่ถึงหลวงพระบาง"
พระธาตุจอมสี หรือขึ้นจุดชมวิวบนยอดเขาภูสี
ต้องขึ้นบันได ๓๒๘ ขั้น โดยแบ่งเป็นสองระยะ
ระยะแรก ๑๓๘ ขั้น จะเจอจุดพัก มีลานให้นั่งเล่นพักผ่อนได้
และเป็นจุดให้ตัดสินใจว่าจะขึ้นไปต่อหรือจะพักแค่นี้
หากไปต่อ จะขึ้นบันไดระยะที่สอง ต้องชำระค่าเข้าสถานที่ค่ะ
(ส่วนใหญ่ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ในลาวจะอยู่ระหว่าง ๑๐-๘๐ บาท)
เมื่อมีเทศกาลงานบุญ เช่น งานปีใหม่ลาว (ตรุษสงกรานต์)
ก็จะมีการประดับประดาทางขึ้นยอดเขาอย่างสวยงาม
ระยะแรก ๑๓๘ ขั้นนี่บันไดค่อนข้างชัน
มีการเขียนไว้ว่า ถ้าขึ้นก็ ๑๙๐ ขั้น ถ้าลงก็ ๑๓๘ ขั้น
แฝงนัยยะท้าทายให้เราขึ้นมากกว่า
ลานนั่งพักผ่อนที่ ๑๓๘ ขั้นแรกของการขึ้นภูสี
บันไดระยะที่สอง ไม่ชันแล้วค่ะ เดินสบาย
ดังนั้นนั่งพักหายเหนื่อยแล้วขึ้นไปต่อค่ะ
เพื่อนร่วมทางเยอะแน่นอนโดยเฉพาะช่วงบ่าย
เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปรอชมวิวและเก็บภาพ
พระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขาอย่างเนืองแน่น
