พระธาตุเจดีย์ขององค์ “หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล”
มีนามว่า “พระธาตุไตรรัตนกมโลเจติยานุสรณ์”
ประดิษฐาน ณ วัดป่าสันติกาวาส ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
ซึ่งออกแบบคล้ายๆ พระธาตุพนม แห่งวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
ด้วยเพราะหลวงปู่ได้เอาพระธาตุพนมเป็นที่ตั้งจิตอธิษฐาน
เพื่อความมั่นใจในการประพฤติพรหมจรรย์ ตั้งแต่ครั้งยังเป็นสามเณร
ในคราวนั้นหลวงปู่ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานต่อองค์พระธาตุพนม
เวลากลางวันของวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปี พ.ศ.๒๔๗๗ ว่า
“ถ้าหากจะได้ดำรงอยู่ในเพศพรหมจรรย์จนตลอดอายุขัยนั้น
ขอให้ขึ้นพระธาตุพนมได้ถึงยอด”
เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้ว
หลวงปู่ก็ขึ้นไปได้ถึงยอดโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ เลย
ต่อมาคำอธิษฐานของหลวงปู่ก็ได้กลายเป็นความจริง
กล่าวคือ หลวงปู่ได้อยู่ในเพศพรหมจรรย์จนตลอดอายุขัย
และครั้งในงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
หลวงปู่ได้พักอยู่กุฏิที่มุงด้วยไม้ที่วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร
โดยมี “พระอาจารย์สุวัจน์ สุวโจ” และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ มาร่วมงานด้วย
พระอาจารย์สุวัจน์ท่านเคยจำพรรษาอยู่ร่วมกันกับหลวงปู่
ในคราวที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด พอมาพบกัน ท่านก็ไต่ถามสนทนาธรรมกัน
สุดท้ายพระอาจารย์สุวัจน์จึงเรียนถามหลวงปู่ว่า
“เป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ครูบาอาจารย์ยังมีความสงสัยในธรรมอยู่หรือไม่”
หลวงปู่ตอบอย่างอาจหาญว่า
“ไม่มีความสงสัยในธรรม”
สำหรับชื่อวัดป่าสันติกาวาสของหลวงปู่บุญจันทร์ กมโลนั้น
พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พนฺธุโล) แห่งวัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี
เป็นผู้ตั้งชื่อ “วัดป่าสันติกาวาส” ถวายให้
สันติ แปลว่า สงบ, กาวาส แปลว่า วาทะ
เมื่อแปลรวมกันจึงมีความหมายว่า “ที่สงบจากวาทะ”
หลวงปู่บุญจันทร์ท่านละสังขารเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๓๘
ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีกุน เวลา ๑๐.๕๒ น.
ณ วิหารกลางน้ำ วัดป่าสันติกาวาส จ.อุดรธานี
สิริอายุรวมได้ ๗๘ ปี ๙ เดือน ๓ วัน พรรษา ๕๙
บรรพชาเป็นสามเณร ๒ พรรษา
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ๕๙ พรรษา
“พระธาตุไตรรัตนกมโลเจติยานุสรณ์”
วัดป่าสันติกาวาส ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
ด้านหน้าทางเข้า “พระธาตุไตรรัตนกมโลเจติยานุสรณ์”
อาณาบริเวณโดยรอบ “พระธาตุไตรรัตนกมโลเจติยานุสรณ์”
:: ที่มา :: 