ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
หอพระแก้ว นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=47667 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 28 เม.ย. 2014, 20:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | หอพระแก้ว นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว |
![]() หอพระแก้ว นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว ในสภาพที่สมบูรณ์ ภาพถ่ายเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่เห็นในภาพนี้เป็นหลังที่ก่อสร้างขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จเมื่อ ๗๒ ปีที่แล้ว ในยุคอาณานิคมฝรั่งเศส และมีการซ่อมแซมในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ แต่ในปัจจุบันสภาพภายในผุกร่อนและทรุดโทรมหนัก ภาพจาก Commons.Wikimedia.Org/Alcyon ![]() ![]() หอพระแก้ว นครเวียงจันทร์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว “หอพระแก้ว” ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับวัดสีสะเกด ในนครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว ในอดีตพื้นที่ที่สร้างหอพระแก้วนี้อยู่ในเขตพระราชวังของกษัตริย์ ห่างจากฝั่งแม่น้ำโขงประมาณ ๑๕๐ เมตร เคยเป็นวัดที่สำคัญสำหรับประกอบพิธีต่างๆ ทางพระศาสนา เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกต ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช หลังจากที่พระองค์ได้ทรงย้ายเมืองหลวงของประเทศ จากเมืองหลวงพระบางมาเป็นเมืองเวียงจันทร์ และสถาปนาเมืองเวียงจันทร์ขึ้นเป็นราชธานีแห่งใหม่ ของอาณาจักรล้านช้างในปี พ.ศ. ๒๑๐๓ ก็ได้ดำริสร้างหอพระแก้วในปี พ.ศ. ๒๑๐๘ นั่นเอง หอพระแก้วจึงมีความสำคัญมาก เพราะเป็นสถานที่ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ การย้ายเมืองหลวงของประเทศลาว ปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นหอพิพิธภัณฑ์ และองค์พระแก้วมรกตก็ประดิษฐานที่วัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในกรุงเทพมหานคร ![]() องค์พระแก้วมรกตนั้นเดิมประดิษฐานที่นครเชียงใหม่ (ล้านนา) สมัยที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งมีเชื้อสายล้านนาด้วย ได้เคยไปปกครองนครเชียงใหม่ ก่อนที่จะทรงกลับมาปกครองล้านช้างภายหลังจากสิ้นพระราชบิดา พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงเลื่อมใสบูชาองค์พระแก้วมรกต อีกทั้งในเวลานั้นเชียงใหม่เป็นเป้าหมายในการรุกรานจากฝ่ายพม่า เพื่อความปลอดภัยขององค์พระแก้วมรกตด้วยประการหนึ่ง ทำให้พระองค์อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่เมืองเชียงทอง (หลวงพระบาง) ก่อน จนเมื่อย้ายเมืองหลวงมาอยู่นครเวียงจันทร์ จึงได้ย้ายองค์พระมาประดิษฐานไว้ที่เมืองหลวงแห่งใหม่ และพระแก้วมรกตก็ได้ประดิษฐาน ณ นครหลวงเวียงจันทร์ เป็นเวลา ๒๑๙ ปี (นับตั้งแต่ปีสถาปนา พ.ศ. ๒๑๐๓) จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๓๒๒ กองทัพสยามสมัยกรุงธนบุรี ก็นำองค์พระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๖๙-๒๓๗๒ สมัยศึกเจ้าอนุวงศ์ ครั้งนี้กองทัพสยามได้บุกไปตีและเผานครเวียงจันทร์จนสิ้น หอพระแก้วที่เป็นสถาปัตยกรรมดั้งเดิมก็ได้ถูกเผาด้วย สภาพหอพระในปัจจุบันจึงเป็นหอที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด ![]() สภาพหอพระแก้วที่พังและถูกทิ้งร้างหลังจากสงครามยุติลง ภาพจาก http://www.vtetoday.la/ |
เจ้าของ: | Hanako [ 29 เม.ย. 2014, 03:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: หอพระแก้ว นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว |
หอพระแก้วที่แม้ปัจจุบันเป็นหอพิพิธภัณฑ์แล้ว
แต่ก็ยังมีชาวพุทธในลาวเข้าไปสักการะ ด้วยความเคารพว่า สถานที่นี้เป็นวัด และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือ พระแก้วมรกต ฝ่ายดูแลพิพิธภัณฑ์ในนครหลวงเวียงจันทร์ ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้าชมหอพระแก้ว เฉลี่ยวันละประมาณ ๑,๐๐๐ คน เป็นผู้เข้ามาสักการะพระพุทธรูป และส่วนหนึ่งเป็นผู้เข้ามาศึกษางานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบชาติลาว ![]() ป้ายจารึกประวัติโดยย่อของหอพระแก้ว ![]() ![]() บันไดนาค ระยะที่นครเวียงจันทร์กลายเป็นเมืองร้างนั้นยาวนานมาก จากปี พ.ศ. ๒๓๗๒ ถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๓ จึงได้เริ่มมีการอพยพผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานสร้างเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งหอพระแก้วอยู่ในสภาพเพพังกินเวลานานถึง ๑๐๗ ปี และได้รับการบูรณะใหม่ในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ซากวัดที่พอหลงเหลือให้ได้เห็นรูปแบบดั้งเดิมนั้น ได้แก่ เสา ฐานหอพระ ประตูใหญ่ทางเข้าด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง การบูรณะนั้นได้รักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้ แต่โครงสร้างส่วนบนได้แก่ ส่วนหลังคาสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ![]() ![]() รอบอาคาร ![]() ![]() ![]() ![]() วัตถุโบราณบางส่วนที่จัดแสดงไว้ ภายในหอพระแก้วมีการจัดแสดงงานศิลปกรรม สถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวนมาก ได้แก่ พระพุทธรูปสำริด พระพุทธรูปแกะสลักด้วยไม้ พระพุทธรูปทองคำ เงิน วัตถุเครื่องใช้โบราณ เช่น ขวานหิน เครื่องปั้นดินเผา ศิลาจารึกเป็นตัวอักษรขอม บาลีสันสกฤต ในคริสตศตวรรษที่ ๖-๑๒ ศิลาจารึกภาษาลาวเดิมในคริสตศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ หอพระแก้วเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ช่วงเช้า ๐๘.๐๐-๑๒.๐๐ น. ช่วงบ่าย ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. ห้ามถ่ายรูปภายในหอพิพิธภัณฑ์ ให้ถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอกอาคาร ![]() ![]() ที่มาของข้อมูล http://www.vtetoday.la/ http://kpl.net.la/ http://lo.wikipedia.org/wiki |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |