ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สัตตมหาสถาน วัดสุทัศนเทพวราราม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=64070 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 25 ส.ค. 2023, 10:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | สัตตมหาสถาน วัดสุทัศนเทพวราราม |
สัตตมหาสถาน วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของวัดสุทัศนเทพวราราม คือ สัตตมหาสถาน เป็นสถานที่เสวยวิมุตติสุขที่ยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ๗ แห่ง ที่ได้ทรงประทับหลังจากตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ณ พุทธคยา ก่อนออกเสด็จไปเผยแผ่พระศาสนา โดยแต่ละแห่งเป็นสถานที่รอบๆ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นเวลาแห่งละ ๑ สัปดาห์ รวม ๗ สัปดาห์ หรือ ๔๙ วัน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างจำลองขึ้นแทนพระธาตุเจดีย์ ตั้งอยู่บริเวณกำแพงวัดด้านทิศตะวันออก ติดกับถนนอุณากรรณ เรียงเป็นแถวแนวทิศเหนือ ทิศใต้ ในสมัยรัชกาลที่ ๓, รัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ บริเวณสัตตมหาสถานนี้ใช้เป็นที่สำหรับเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา ในปัจจุบันพิธีเวียนเทียนในวันวิสาขบูชาใช้บริเวณพระวิหารหลวงแทน เนื่องจากบริเวณเดิมคับแคบเกินไป อนึ่ง วัดสุทัศนเทพวรารามแห่งนี้เป็นวัดหลวงที่ไม่มีหรือไม่ปรากฏ พระเจดีย์องค์ประธาน (พระธาตุเจดีย์) เช่นเดียวกับวัดอื่นๆ เนื่องจากมี “สัตตมหาสถาน” ซึ่งถือว่าเป็น “อุทเทสิกเจดีย์” ประดิษฐานแทน โดยตั้งอยู่ในเขตพุทธาวาสทางทิศตะวันออก นอกกำแพงของพระวิหารคด (พระระเบียงคด) หมายเหตุ : อุทเทสิกเจดีย์ (อ่านว่า อุท-เท-สิ-กะ-เจ-ดี) หมายถึง สิ่งที่สร้างขึ้นด้วยเจตนาอุทิศเจาะจงต่อพระพุทธเจ้า มิได้กำหนดว่าเป็นอะไร ถ้ามิใช่พระธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ และพระธรรมเจดีย์แล้ว ก็ถือว่าเป็นอุทเทสิกเจดีย์ทั้งสิ้น เช่น พระพุทธปฏิมากรหรือพระพุทธรูป, รอยพระพุทธบาทจำลอง, พุทธบัลลังก์, พระธรรมจักร, พระเครื่องหรือพระพิมพ์, ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และสัตตมหาสถาน ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อยังความปีติศรัทธาเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็นให้เกิดกุศลจิต จึงน้อมนำเอาเงิน ทอง ศิลา โลหะ และไม้แก่น มาสร้างเป็นอุทเทสิกเจดีย์ |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
ต้นโพธิ์ลังกา - พระรัตนบัลลังก์ รูปปั้นพญามาร-เสนามาร ด้านข้างพระรัตนบัลลังก์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานบนพระรัตนบัลลังก์ หรือโพธิบัลลังก์ ใต้ต้นโพธิ์ลังกา หรือ “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” รูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม ด้านหน้าพระรัตนบัลลังก์ สัตตมหาสถาน ประกอบไปด้วย (๑) ต้นโพธิ์ลังกา นำกิ่งพันธุ์ต้นโพธิ์มาจากประเทศศรีลังกาที่เมืองอนุราธปุระ มาปลูกไว้ สมมุติเป็น “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ที่ประทับตรัสรู้ ปลูกอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ใต้ต้นโพธิ์ลังกามีพระรัตนบัลลังก์ หรือโพธิบัลลังก์ (บัลลังก์แห่งต้นโพธิ์) ไว้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย (ปางชนะมาร, ปางสะดุ้งมาร, ภูมิสปรรศมุทรา - Bhumisparsa Mudra) พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ (เข่า) รวมทั้ง มีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม และรูปปั้นพญามาร รูปปั้นเสนามาร รูปร่างหน้าตาต่างๆ กัน ตั้งอยู่ด้านหน้าพระรัตนบัลลังก์ หรือโพธิบัลลังก์ ตามพุทธประวัติกล่าวว่า พระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุขภายใต้ร่มโพธิ์เป็นเวลา ๗ วันเป็นสัปดาห์ที่ ๑ |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
เก๋งจีน - พระอนิมิสเจดีย์ (๒) เก๋งจีน ศิลาจีนสลักเป็นรูปปราสาท ตั้งอยู่บนฐานสูงมีบันไดทางขึ้น รอบผนังฐานปั้นลายนูนต่ำรูปท้องฟ้า ก้อนเมฆ และเทวดารำล่องลอยอยู่บนฟ้า ด้านหน้าเก๋งจีนเป็นรูปปั้นช้าง รูปปั้นสิงโต และรูปจำลองพระอนิมิสเจดีย์ (ศาลาที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงนำมาจากประเทศจีน) เก๋งจีนนี้สมมุติเป็น “พระอนิมิสเจดีย์” ที่ประทับยืนทอดพระเนตรดูต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตามพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา ๗ วัน จึงเสด็จออกจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พระองค์ได้ไปประทับที่พระอนิมิสเจดีย์ แล้วหันกลับมาประทับยืน เพื่อเพ่งดูพระรัตนบัลลังก์ บัลลังก์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ประทับตรัสรู้ โดยมิได้กะพริบพระเนตรตลอด ๗ วัน เป็นสัปดาห์ที่ ๒ เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นควงไม้ที่พระองค์ประทับตรัสรู้ พระองค์ทรงประทับอยู่ที่พระอนิมิสเจดีย์เป็นเวลา ๑ สัปดาห์ ภายในเก๋งจีนนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางถวายเนตร พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับยืน ลืมพระเนตรทั้งสองเพ่งไปข้างหน้า พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงมาประสานกันอยู่ข้างหน้าระหว่างพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนเหลื่อมอยู่บนพระหัตถซ้าย อยู่ในพระอาการสังวรทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์ |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
แผ่นศิลาปูนบนฐานสี่เหลี่ยมสูง - พระรัตนจงกรมเจดีย์ (๓) แผ่นศิลาปูนบนฐานสี่เหลี่ยมสูง แผ่นศิลาปูนนี้สมมุติเป็น “พระรัตนจงกรมเจดีย์” ตามพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อประทับยืนเพื่อเพ่งดูต้นมหาโพธิ์ ๗ วัน แล้วจึงทรงเนรมิตที่จงกรมขึ้นระหว่างต้นมหาโพธิ์กับพระอนิมิสเจดีย์ แล้วเสด็จจงกรม ณ ที่ตรงนี่ตลอด ๗ วัน เป็นสัปดาห์ที่ ๓ บนแผ่นศิลาปูนประดิษฐานพระพุทธรูปปางเสด็จจงกรม หรือพระพุทธรูปปางจงกรมแก้ว พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับยืน พระบาทขวาก้าวเหยียบพื้น พระบาทซ้ายยกส้นขึ้น ปลายพระบาทจรดพื้น แสดงพระอาการก้าวเดินจงกรม |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
ศาลาศิลาทรงโรงแบบจีน - พระรัตนฆรเจดีย์ (๔) ศาลาศิลาทรงโรงแบบจีน ศิลาจีนสลักเป็นรูปอาคารหรือเรือน เป็นอาคารหรือเรือนอีกหลังหนึ่งที่มีฐานเตี้ยกว่าหลังแรก (เก๋งจีน) สมมุติเป็น “เรือนแก้ว” หรือ “พระรัตนฆรเจดีย์” ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันยกขึ้นประทับที่พระอุระ (อก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายเป็นกิริยารำพึง ตามพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากเสด็จจงกรม ๗ วัน แล้วทรงเนรมิตเรือนแก้วขึ้นทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของต้นมหาโพธิ์ แล้วพระองค์ประทับนั่งพิจารณาพระอภิธรรมตลอด ๗ วัน เป็นสัปดาห์ที่ ๔ |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
ต้นไทรบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน - ต้นอชปาลนิโครธ รูปกระบือสลักจากศิลาจีนบริเวณต้นไทร - ต้นอชปาลนิโครธ (๕) ต้นไทรบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ใต้ต้นไทรประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามมาร พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวายกขึ้นป้องเสมอพระอุระ (อก) แสดงอาการห้ามธิดาพญามารทั้ง ๓ คือ นางตัณหา นางราคา นางอรดี มีรูปกระบือสลักจากศิลาจีน ๔ ตัว และรูปปั้นธิดาพญามาร คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดี ตั้งอยู่บริเวณต้นไทร ต้นไทรนี้สมมุติเป็น “ต้นอชปาลนิโครธ” ตามพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากทรงพิจารณาพระอภิธรรม พระองค์ได้เสด็จไปทางทิศตะวันออกแห่งต้นมหาโพธิ์ ประทับนั่งใต้ควงไม้ไทร อันเป็นที่อาศัยของคนเลี้ยงแพะ เพื่อเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา ๗ วัน เป็นสัปดาห์ที่ ๕ ได้มีพญานาคมาอาราธนาให้เสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน แต่ทรงปฏิเสธ พระองค์ทรงให้รอจนกว่าพุทธบริษัทสี่จะสืบพระศาสนาก่อน |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
อ่างรูปสี่เหลี่ยมสลักด้วยศิลาจีนปลูกบัว ใต้ต้นจิก - ต้นมุจลินทพฤษ์ ต้นจิกบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน - ต้นมุจลินทพฤษ์ (๖) ต้นจิกบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ใต้ต้นจิกประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบบนขนดพญานาค มีพญานาคแผ่หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียรของพระพุทธรูป มีอ่างรูปสี่เหลี่ยมสลักด้วยศิลาจีนปลูกบัวใส่ปลาและเต่าในอ่าง ต้นจิกนี้สมมุติเป็น “ต้นมุจลินทพฤษ์” ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ ๖ พระพุทธองค์เสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นมหาโพธิ์ ประทับนั่งใต้ควงไม้จิก เพื่อเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา ๗ วัน ตลอดสัปดาห์มีฝนตกตลอด พญานาคมุจลินทร์จึงแผ่พังพาน ปกพระเกษกันฝนและลมมิให้ต้องพระวรกาย ครั้นฝนหายแล้ว ก็คลายขนาดจำแลงเพศเป็นมานพ ยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าเฉพาะพระพักตร์ |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 08 ก.พ. 2024, 18:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมเด็จวัดบวรฯ อัฐิพระอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ลป.ฝั้น |
ต้นเกดบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน - ต้นราชายตนพฤกษ์ (๗) ต้นเกดบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางฉันสมอ พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาถือผลสมอ หงายพระหัตถ์วางบนพระชานุ (เข่า) ด้านข้างมีศิลาจีนสลักรูปม้าเทียมเกวียน ต้นเกดนี้สมมุติเป็น “ต้นราชายตนพฤกษ์” ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ ๗ นี้ พระพุทธองค์เสด็จออกทางทิศใต้ของต้นมหาโพธิ์ ไปยังต้นราชายตนะ ประทับเสวยวิมุตติสุขเป็นสัปดาห์สุดท้าย ณ ที่นี้ พระองค์ทรงได้ปฐมอุบาสก ๒ คน ชื่อตปุสสะและภัลลิกะ ซึ่งเดินทางมาค้าขาย เห็นพระองค์เข้าเกิดความเลื่อมใส จึงนำข้าวสัตตุผงและข้าวสัตตุก้อนซึ่งเป็นเสบียงเดินทางถวาย พ่อค้าทั้งสองคนได้แสดงตนเป็นอุบาสก อ้างพระพุทธกับพระธรรมเป็นสรณะ นับเป็นอุบาสกคู่แรกในพระพุทธศาสนา แล้วเดินทางค้าขายต่อไป ศิลาจีนสลักรูปม้าเทียมเกวียน ด้านข้างต้นเกด - ต้นราชายตนพฤกษ์ >>> ที่มา : วัดประจำรัชกาลที่ ๘ : วัดสุทัศนเทพวราราม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19319 พระอารามหลวง และวัดประจำรัชกาล http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19072 สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร พระองค์ที่ ๔ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=20378 ประมวลพระรูป “สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=43469 สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) ทรงเป็น ๑ ใน “กรรมการมหาเถรสมาคม” ในสมัย ร. ๗ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=50206 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |