หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
ตามไปคุ้มครองรัชกาลที่ ๑๐ ถึงอเมริกา
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่
“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร”
ทรงเข้ากราบนมัสการหลวงปู่โต๊ะ ณ วัดประดู่ฉิมพลี
ตามไปคุ้มครองรัชกาลที่ ๑๐ ถึงอเมริกา
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่
“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร”
ทรงเข้ากราบนมัสการหลวงปู่โต๊ะ ณ วัดประดู่ฉิมพลี
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ เดือนมีนาคม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” แต่ด้วยทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายจึงได้ทรงเสด็จกลับประเทศไทยก่อน ส่วนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องอยู่ศึกษาวิชาทหารอีก ๑ เดือน เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้เสด็จกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ทรงกังวลเป็นห่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างยิ่ง จึงได้นิมนต์ “หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ” วัดประดู่ฉิมพลี เข้าไปในพระราชวัง และได้ทรงมีพระราชเสาวนีย์กราบเรียนหลวงปู่โต๊ะให้ช่วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
หลวงปู่ทราบพระราชเสาวนีย์ เมื่อกลับถึงวัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ได้นั่งปฏิบัติกรรมฐานและบอกกับทุกคนว่า งดรับกิจนิมนต์ใดๆ ชั่วคราวเป็นระยะเวลา ๑ เดือน (ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๐ เมษายน ๒๕๒๓) เว้นไว้เฉพาะแต่กิจนิมนต์ของสำนักพระราชวังเท่านั้น ในเวลานั้นได้มีศิษย์ของหลวงปู่ได้มาอุปสมบทที่วัดประดู่ฉิมพลี ๒ รูป หลวงปู่ได้ถามว่า “เวลาที่ประเทศไทยกับประเทศอเมริกาเหมือนกันหรือไม่ ?” ศิษย์ทั้งสองซึ่งบวชและได้ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ตอบว่า “ไม่เหมือนกัน เวลานี้ที่ประเทศไทยจะเป็นเวลากลางวัน แต่ที่อเมริกาจะเป็นเวลากลางคืน” เมื่อทราบคำตอบดังนั้น ท่านก็ได้เริ่มนั่งปฏิบัติกรรมฐานโดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน หลวงปู่ท่านนั่งปฏิบัติกรรมฐานโดยส่งกายทิพย์ จิตทิพย์ ถึงด้วยสมาธิธรรมเพื่อไปช่วยคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อเมริกา เป็นเวลาถึง ๑ เดือน
ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๒๓ หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปเจริญพุทธมนต์ ณ พระราชวังไกลกังวล (หัวหิน) หลังจากกลับมาหลวงปู่ก็เริ่มอาพาธ และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ครั้นเมื่ออาการอาพาธทุเลาจนหาย หลวงปู่ท่านก็กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลีตามเดิม และแข็งแรงขึ้นตามลำดับ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เดือนมกราคม หลวงปู่ท่านได้นำงาช้าง ๑ คู่ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ณ พระราชวังสวนจิตรลดา ต่อมาเดือนกุมภาพันธ์หลวงปู่ก็อาพาธอีก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้ถวายพระบรมราชานุเคราะห์เรื่องแพทย์โดยตลอด
จนกระทั่งถึงเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๒๔ ตรงกับวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ หลวงปู่ได้ละสังขารของท่านไปอย่างสงบ เมื่อทางสำนักพระราชวังทราบข่าวเรื่องการละสังขารของหลวงปู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็รีบเสด็จมายังวัดประดู่ฉิมพลี โดยรับสั่งถึงเรื่องการดำเนินการต่างๆ และทรงประทับสนทนากับลูกศิษย์หลวงปู่ที่อยู่ด้วยในเวลานั้น โดยมีบทสนทนาว่า “เป็นไปได้ไหมระหว่างที่ฝึกอยู่ที่ประเทศอเมริกา ตอนที่ทำการฝึกบิน ตอนอยู่ในเรือรบ และตอนฝึกภาคสนาม เหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นหลวงปู่โต๊ะอยู่เสมอ เหมือนหลวงปู่ได้ตามเสด็จอยู่ทุกที่”
ทุกคนที่นั่งฟังพระดำรัสก็ได้มองที่พระพักตร์ของพระองค์ คล้ายกับพระองค์ยอมรับว่าเมื่อหลวงปู่โต๊ะท่านได้ทราบพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ให้ขอช่วยคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อตอนที่หลวงปู่ยังดำรงขันธ์อยู่ ก็ได้ช่วยส่งจิตคุ้มครองพระองค์ไปทุกหนทุกแห่งที่พระองค์จะมีอันตราย
--------------------------------------------
:: ที่มา :: 
ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=33413
ประมวลภาพ “หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ” วัดประดู่ฉิมพลี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=48940
:: ที่มา :: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=33413
ประมวลภาพ “หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ” วัดประดู่ฉิมพลี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=48940
