วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 01:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2008, 19:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2008, 19:02
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันพยายามทำใจทุกครั้งที่รู้ว่า จะต้องเจอหน้าแม่ตนเอง แม้กระทั่งรับโทรศัทพ์ เป็นอย่างนี้มานานเกือบปีแล้ว..ทำอย่างไรก็ไม่สามารถ ลบล้างอคติที่ตนเองมีต่อแม่ได้เลยแม้ รู้ว่า..แม่นั้น เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด

สาเหตุก็คือ เนื่องจาก แม่..นั้น ไปแย่งสามีคนอื่น โดยที่ตัวแม่เองนั้น ก็อ้างเสมอว่า ผู้ชายคนนั้นรักแม่ จะดูแลแม่ แต่เค้าก็ได้แต่อ้าง เค้าไม่เคยไปมาหาสู่กับญาติพี่น้องเราเลย ประกอบกับดิฉัน ก็รู้สึกอาย เมื่อต้องถูกชาวบ้านด่าว่า ..เรียนมาตั้งสูง ..สั่งสอน แม่ตัวเองด้วยนะว่า "อย่ามาแย่งผัวชาวบ้าน" เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยลืม ไม่กล้าแม้แต่จะกลับไปเหยียบบ้าน.

เห็นแม่ตัวเองทุกครั้งก็สงสารและอยากให้เขาเลิกเป็นอย่างนี้ ดิฉันพยายามโน้มน้าวให้เขาไปปฏิบัติธรรมเพื่อเตือนสติในสิ่งที่แม่ทำ..แต่แม่ก็กลับมานินทาพระ & แม่ชีให้ฟัง จนดิฉันเองเริ่มอับปัญญาไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เลย.....ทุกวันนี้ แม่เรียกร้อง อยากให้กลับไปมองหน้าแม่บ้าง..ไปดูในสิ่งที่เขาเป็น..เมื่อฉันกลับไปบ้าน..แม่ก็มานั่งพอให้เห็นหน้าแล้วเค้าก็ไปบ้านผู้ชายคนนั้น.." ฉันเองรู้สึกเหมือนถูกกระทำ ถูกทอดทิ้ง..ทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 01:18 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใจก็เป็นสิ่งที่เราทำขึ้นมาเราคิดว่าเรามีความรู้สึกไม่ชอบที่แม่ไปมีผู้ชายคนใหม่เราก็เลยมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อแม่แม่นั้นถึงแม้นว่าท่านจะเป็นอย่างไรเราก็ต้องเคารพเพราะท่านเป็นผู้ที่ให้กำเนิดเรามาให้กายเนื้อกับเราเราจะทำให้แม่เสียใจนั้นคิดว่าไม่ควรที่จะทำเมื่อท่านเป็นอย่างไรเราก็ไปคิดปรุงแต่ทำให้เราเกิดความทุกข์เกิดจิตที่มีโทสะเกิดสิ่งที่ทำให้เรามีความรู้สึกที่ไม่ดีกับแม่เราไปคิดว่าท่านไม่ควรทำอย่างนี้แต่แล้วเราเป็นลูกของท่านเราก็เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเพราะเห็นว่าท่านมีความรักในตัวผู้ชายคนนั้นเมื่อเราไปพบก็เกิดมีจิตที่เป็นโทสะ ต่อไปนี้ขอให้คุณจงอย่าไปคิดว่าแม่ไม่ดีเพราะเราเป็นลูกการที่ลูกไปว่าแม่นั้นมันทำให้ผู้อื่นที่ได้ยินเราพูดเขาก็รู้สึกที่ไม่ดีเช่นเดียวกันท่านเป็นคนที่มีราคะแต่เราก็ไปว่าท่านไม่ได้เพราะเรามีใจที่เป็นทุกข์เมื่อท่านเป็นอย่างไรเราก็เก็บมาคิดมาปรุงมาแต่งแล้วนำสิ่งที่ตัวเองมีความทุกข์นั้นมาเล่าให้ผู้อื่นฟังแล้วการที่เราไปพูดคนที่เราพูดด้วยก็มีใจที่ไม่เหมือนกันบางคนก็คิดว่าเราบางคนก็ว่าแม่ของเราแล้วลองคิดดูว่าเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเราจะไปพูดให้ผู้อื่นฟังนั้นจะสมควรหรือไม่คนที่ฟังเขาก็ไม่ได้มีส่วนที่ทำให้เราพ้นทุกข์ แต่ทุกข์นั้นอยู่ที่ใจที่เราไปคิดปรุงแต่งไปคิดว่าแม่ ไปคิดว่าแม่ทำไมต้องเป็นแบบนี้เมื่อเรารู้แล้วว่าเราเกิดความทุกข์เพราะอะไรแล้วเราก็ต้องแก้ที่เหตุที่เกิด ทุกข์เกิดเพราะเราคิดเพราะฉะนั้นต่อไปนี้ก็อย่าไปคิดให้มากยิ่งคิดยิ่งไม่มีอะไรดีขึ้นแล้วเราจะไปคิดทำไมแต่การที่แม่ทำในสิ่งที่มันผิดศีลก็เป็นสิ่งที่แม่เป็นผู้ที่สร้างกรรมขึ้นตัวของท่านเองก็ไม่ได้มีความสุข ความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับท่านนั้นมีมากกว่าเราเสียอีกท่านไม่ได้เป็นคนที่ได้รับรู้ในเรืองที่ทำให้พ้นทุกข์และท่านก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ความทุกข์ของท่านนั้นที่มีอยู่ในใจท่านหมดไปแต่ท่านก็ต้องทำใจที่จะต้องรับในสิ่งที่เป็นอยู่เราก็อย่าไปคิดหรือว่าท่านให้ท่านเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้นความสุขหรือความทุกข์เป็นของคู่กันถ้าเรามีความรู้ในเรื่องของธรรมะเราก็ไม่มีความทุกข์เราเองก็ต้องพาตัวเองให้พ้นจากทุกข์เสียก่อนถ้าเรายังพาตัวเราไม่ได้แล้วเราก็จะเกิดทุกข์ที่ใจได้ทุกครั้งที่มีสิ่งที่เราไม่พอใจมากระทบทางอายตนะ6เราเองก็ต้องรู้จักวิธีแก้แก้ที่เราไปคิดไปทำในสิ่งที่เราทำแล้วทำให้เราและแม่นั้นเป็นทุกข์คุณเคยคิดถึงใจของแม่บ้างใหมว่าท่านเป็นอย่างไรเมื่อเราเองยังไปคิดกับท่านในทางที่ไม่ดีเราต้องไปทำในทางที่เราและแม่เป็นทุกข์อีกขอให้ตั้งใจดูไปว่าสาเหตุจริงๆที่ทำให้เราเกิดความไม่สบายใจคืออะไรแล้วเราก็ปล่อยวางแล้วเอาธรรมะเป็นที่พึงแล้วไปขอขมาแม่ให้แม่ยกโทษให้กับเราด้วยเราก็จะมีใจที่ดีขึ้นแม่ก็เป็นแม่ที่เราต้องเคารพถ้าเราทำไปแล้วตัวเราไม่มีความสุขเราก็จะเป็นทุกข์อยู่อย่างนี้ทุกข์เพราะไปคิดไปหลงและไปคิดยึดมั่นในตัวตนของเราเราต้องปล่อยวางวางลงจากตัวเราของเราเพราะเราเองมีความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่จึงเกิดความรู้สึกที่อายๆที่มีแม่เป็นเบบนี้นี้เพราะเรารักตัวเราเรารักในตัวที่เรียกว่าตัวตนจนลืมความเป็นจริงและไปคิดในสิ่งที่ใจเราไม่ชอบเมื่อเรารู้เราก็ต้องหยุดๆคิดแล้วมาดูแล้วก็จะเห็นว่าจริงแล้วเรานี้แหละเป็นผู้ที่ทำให้เราเป็นทุกข์ไม่ใช่ใครที่ไหน ขอขมานะคะถ้าคำที่เขียนไปทำให้ท่านอาจเกิดความรู้สึกว่าทำไมเราผิดหรือไม่ผิดหรอกคะแต่ที่บอกก็คือหยุดที่เหตุๆที่ทำให้ทุกข์นั้นเองคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 23:07
โพสต์: 151

ที่อยู่: BKK.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกคนย่อมมีหนทางเป็นของตนเอง และนั่นคือสิ่งที่คุณแม่คุณเลือกแล้ว ผิดถูกเช่นไร ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วยตนเอง เรื่องนี้หมิ่นเหม่ไปหมดทั้งเรื่องไปแย่งของรัก ของหวงของผู้อื่น และเรื่องลูกที่มีอคติต่อแม่ตัวเอง ในโลกนี้เคยเห็นคนที่คิดแบบคุณอยู่เยอะ แต่อย่าลืมว่าเราเป็นลูก เรามาทีหลัง ผิดถูกเช่นไรปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้มาก่อนรับรู้ดวยตัวเอง เมื่อเราพยายามจะชี้แนะแล้วไม่เป็นผล ก็ปล่อยวาง และควรอยู่ห่างๆ แม่สักพักเพื่อไม่ต้อง มารับรู้ เห็นในสิ่งที่จะทำให้เราเอาอดคิดอคติกับแม่ไม่ได้อีก และจะได้อยู่ไกลๆ คำพูดของคนรอบข้างที่มากระทบหูด้วย
:b41: :b47:

.....................................................
จงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปทำร้ายใคร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 15:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ธ.ค. 2008, 22:07
โพสต์: 30


 ข้อมูลส่วนตัว


ลองทำแบบง่ายๆๆ ซิ
เช่น คิดถึงสิ่งดีๆๆ ที่ท่านเคยให้เรา ทำบุญเพื่อท่าน แล้วลองซื้อของไปฝากท่านบ้าง หรือไม่ถ้าไม่อยากเจอจริงๆๆ นะเราว่า ลองส่งแมสเส็จ เล็กๆ ไปคุยกับแม่เราก็ได้ ถามว่าท่านสบายดีไหม ทานข้าวหรือยัง
ลองดูซิ ไม่อยากเลยไช่ม้าาาา :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2008, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 23:07
โพสต์: 151

ที่อยู่: BKK.

 ข้อมูลส่วนตัว


Ummmm...วิธีของน้อง Popopo น่าสนใจค่ะ
:b48:

.....................................................
จงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปทำร้ายใคร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2008, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2008, 19:02
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุก ๆ ท่านมากนะค่ะ ดิฉันจะพยายามเตือนสติตนเองค่ะ
ขอบพระคุณคุณ poppo ค่ะ จะลองทำดู เพราะคิดว่า..เวลากับการรักษาระยะห่าง..อาจจะทำให้หนูเผลอตัวเผลอใจ ทำบาป พูดไม่ดีกับแม่ได้น้อยลง..ตอนนี้ก้อพยายามทำบุญแทนท่าน ให้ทั้งพ่อและแม่ เพราะคุณยายก็สอนค่ะ ว่าต้องทำบุญให้ผู้มีพระคุณทั้งตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม เรียกว่า ทำให้ทั้งสังขารและวิญญาณ จะได้ไม่มาเสียใจกันภายหลัง ว่าวันนี้เราก็ดูแลท่านแล้ว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร